แค่ทำงานกลางคืน [ THE END ] ตอนพิเศษ (ุ12/11/2558) P.18
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: แค่ทำงานกลางคืน [ THE END ] ตอนพิเศษ (ุ12/11/2558) P.18  (อ่าน 199937 ครั้ง)

ออฟไลน์ iiam

  • อัยแอม Bulan
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-2
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


/////////////////////////////////////////////



สวัสดีค่ะ ^_^
นิยายเรื่องที่ 3 แล้ว~~~ >< ~~~
ลองเปลี่ยนแนวนิยายนิดๆ(?) ..
ฝากด้วยนะคะ   :-[

 :mew1:


ยามค่ำคืนอาจเป็นเวลาพักผ่อนของใครหลายคน…

แต่ไม่ใช่สำหรับพวกเขา…

…เมื่อแสงทองของดวงตะวันลับขอบฟ้าไปช้าๆ…

นั่นคือสัญญาณของ...การเริ่มงาน….






Chapter 10 คำสั่ง [50%แรก]       Chapter 10 คำสั่ง [50%หลัง]

Chapter 11 ปฏิเสธ [50%แรก]     Chapter 11 ปฏิเสธ [50%หลัง]      

Chapter 12 คำตอบ      
 
Chapter 13 หลังเลิกงาน  

Chapter 14 รับรู้

Chapter 15 เกลี้ยกล่อม

Chapter 16  ความจริง

Chapter 17  กลัว

Chapter 18  ปัญหา

Chapter 19   ทรมาน

Chapter 20   ขายตัว

Chapter 21   งานประมูล

Chapter 22   ไม่ชิน

Chapter 23   สารภาพ

Chapter 24    ดูแล

Chapter 25    ละมุน

Chapter 26    ร้อนแรง

Chapter 27      กันและกัน [ THE END ]

ตอนพิเศษ








Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-11-2015 11:46:10 โดย iiam »

ออฟไลน์ iiam

  • อัยแอม Bulan
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-2
Chapter 1


แสงแดดยามเย็นกระทบพื้นดิน  สายลมอ่อนๆหยอกล้อใบไม้บนต้นไม้ใหญ่  จากตัวอาคารชั้นสาม…มองลงไปข้างล่าง …เด็กนักเรียนหลายคนกำลังเดินไปยังประตูทางออกของโรงเรียน

ร่างเล็กนั่งมองบรรยากาศด้านนอกผ่านหน้าต่างบานใสของห้องเรียน เสียงหวานใสของหญิงวัยกลางคนดังมาจากหน้ากระดานเป็นระยะ บางส่วนเข้าหูบ้าง บางส่วนก็ลอยหายไปในอากาศ เหลือบไปมองเพื่อนร่วมห้องที่นั่งเท้าคางอยู่…คงรู้สึกเบื่อไม่ต่างไปจากเขา

วันนี้เป็นวันแรกของการเปิดภาคเรียน

ครูคงเก็บกดถึงได้พูดอะไรเยอะแยะ ทั้งที่ห้องอื่นครูทยอยให้กลับบ้านได้แล้ว

ทันใดนั้น เสียงออดเลิกเรียนดังขึ้น

ครูผู้หญิงที่พูดอะไรอยู่คนเดียวมาพักใหญ่เงียบเสียงลงทันที เธอเอ่ยอะไรอีกนิดหน่อยก็ปล่อยให้นักเรียนกลับบ้าน

ร่างเล็กเก็บสมุดหนังสือลงกระเป๋า ตรวจเช็คอีกครั้ง เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว ยกกระเป๋าเป้วาดขึ้นเตรียมสะพาย แต่ทว่าคงออกแรงเหวี่ยงมากไปนิดหน่อย…

“อั่ก!” เสียงร้องดังมาจากด้านหลัง เขาหันไปมองด้วยความตกใจ

“เฮ้ย! เป็นอะไรมากหรือเปล่า? โทษๆ” คนตัวเล็กปรี่เข้าไปใกล้คนเจ็บที่ยืนกุมหน้าอกอยู่… คงโดนเข้าที่หน้าอกเต็มๆ

คนเจ็บซี้ดปากน้อยๆ ยกยิ้มแหยๆ “ไม่…เป็นไร”

“โชกุน มายืนทำอะไรตรงนี้วะ?” ร่างเล็กของใครอีกคนเดินตรงเข้ามา  เขามองคนแปลกหน้าสองคนตรงหน้าด้วยแววตาสงสัย ไม่ต่างจากสองคนนั้นที่ส่งแววตาสงสัยกลับมาเหมือนกัน

“ขอโทษนะ… เราไม่ได้ตั้งใจ” เจ้าของกระเป๋าที่เป็นตัวต้นเหตุเอ่ยออกมา  สองคนที่เพิ่งมาใหม่มองมานิ่งๆคล้ายพิจารณา

“เราไม่เคยเห็นนายมาก่อนเลย นายเพิ่งย้ายโรงเรียนมาหรือ?” คนตัวเล็กกว่าเป็นคนถามออกมา ข้างๆกันมีคนที่ถูกเรียกว่า”โชกุน”ยืนมองอยู่

“เราเพิ่งย้ายมา…” ใช่..เขาเพิ่งย้ายมา ในฐานะนักเรียนทุน..

“ยินดีที่ได้รู้จักนะ เราชื่อมิน ส่วนไอ้นี่ชื่อโชกุน เราสองคนอยู่โรงเรียนนี้มาตั้งแต่ เกรด 7 ละ”

ร่างเล็กที่เพิ่งย้ายมาใหม่ ส่งยิ้มน้อยๆให้เพื่อนใหม่ทั้งสองคน

“นายชื่ออะไร?” คนตัวเล็กๆที่ชื่อมินเอ่ยถาม ทำเอาคนถูกถามถึงกับสะดุ้งน้อยๆ.. ลืมไปเลยว่ายังไม่ได้แนะนำตัว

“เราชื่อสปาย” ยิ้มน้อยๆให้กับเพื่อนร่วมห้อง “เมื่อกี๊เราขอโทษนะ ที่ฟาดกระเป๋าไปโดน…เอ่อ…”

“เฮ้ย ไม่เป็นไร  เราเดินไม่ดูทางเอง” ร่างสูงใหญ่ของโชกุนรีบบอกปฏิเสธทันควัน  สปายได้แต่ยิ้มน้อยๆไปให้

“นี่..เลิกเรียนแล้ว เราไปหาอะไรกินกันไหม? ถือซะว่าเลี้ยงต้อนรับสปายด้วย” มินเอ่ยชวน …สปายปฏิเสธแทบไม่ทัน

“ขอโทษนะ..เราคงไปไม่ได้ เราต้องรีบไปแล้ว”  ยิ้มน้อยๆให้เพื่อนใหม่ทั้งสองคน เท้าเล็กก้าวเดินออกไปจากห้องเรียนโดยไม่หันหลังกลับไปมอง

คนตัวเล็กเดินผ่านห้องเรียนแต่ละห้องที่มีป้ายบอกระดับชั้นเรียนว่า “Grade 10”

สปายเดินก้มหน้าไม่มองเด็กนักเรียนคนอื่นๆที่ยืนออกันอยู่ระหว่างทางเดิน

ถึงสปายจะเพิ่งย้ายมาใหม่ แต่สปายไม่ได้มีความกระตือรือร้นที่จะทำความรู้จักเพื่อนใหม่ที่โรงเรียนใหม่แห่งนี้เลย

เพราะเรามันคนละชั้นกันน่ะสิ….

ที่นี่มันโรงเรียนคนรวย ผู้ดีมีอันจะกินส่วนใหญ่ก็ส่งลูกหลานเข้าโรงเรียนนี้

เหตุผลที่เขามาอยู่ที่นี่ได้…เพราะแม่อุ๊บอกว่าที่นี่เปิดโอกาสให้นักเรียนสอบเข้าได้พร้อมมีทุนการศึกษาให้ด้วย

เขาได้ยินแม่อุ๊บอกเรื่องนี้กับเด็กทุกคนในบ้าน…

“บ้าน” ที่เขาเรียกว่าบ้าน แต่สำหรับคนนอกคงมองบ้านของเขาเป็นแค่”สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า”

ตั้งแต่จำความได้เขาก็โตมากับแม่อุ๊แล้วก็พี่น้องคนอื่นๆในบ้านเกือบ 100 คน  … เป็นครอบครัวใหญ่ที่หาได้ยากในสังคมจริงๆ

สปายไม่รู้ว่าพ่อแม่แท้ๆเป็นใคร ไม่รู้ว่าตัวเองมีญาติพี่น้องที่ไหนอีกหรือไม่ … แต่เขาก็ยินดีที่จะไม่รับรู้และตามหาอีกต่อไปแล้ว แค่มีแม่อุ๊กับทุกคนในบ้าน เขาก็พอใจ

แม่อุ๊แบ่งเวลาดูแลเด็กๆทุกคนได้ไม่ขาดตกบกพร่อง ถึงในบ้านจะมีพี่เลี้ยงคอยช่วยดูแลอีกประมาณ 4-5 คน แต่อย่างไรเสีย อำนาจการตัดสินใจเด็ดขาดอยู่ที่แม่อุ๊คนเดียว

แม่อุ๊ส่งเด็กทุกคนในบ้านให้ได้รับการศึกษา ออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างด้วยทุนของตัวเอง เป็นผู้ปกครองให้เด็กทุกคน หากใครไม่อยากเรียนแต่อยากทำอย่างอื่นแทน แม่อุ๊ก็ยินดีสนับสนุน แน่นอนว่าสิ่งเหล่านั้นมีข้อแม้อยู่ว่าต้องเป็นไปในทางที่ดีและต้องไม่เหนือบ่ากว่าแรงด้วย

ตั้งแต่เรียนจบม.3 … เขาก็พาตัวเองออกมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ล่ำลาแม่อุ๊และทุกคนที่อยู่ด้วยกันมา ตั้งใจไว้ว่าจะสอบให้ได้ทุนเรียนต่ออย่างที่แม่อุ๊คอยพร่ำบอกทุกคน

15 ปีเพียงพอแล้วกับการที่แม่อุ๊ต้องดูแลเขา …

เขาออกมาจาก”บ้าน”หลังนั้นกับเพื่อนรุ่นเดียวกันอีกหนึ่งคน เช่าห้องที่คิดว่าถูกที่สุดอยู่ด้วยกัน… ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ก็ 3 เดือนแล้ว

ชีวิตในโลกภายนอกไม่ได้โหดร้ายเกินไปสำหรับเขาเท่าไรนัก

บางเรื่องอาจเป็นเรื่องร้ายแรงสำหรับใครหลายคน แต่สำหรับเขามันกลับเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ชินชาไปเสียแล้ว

สปายก้าวเท้าไปตามทางเท้าของโรงเรียน มองเด็กนักเรียนคนอื่นๆที่มีรถยนต์ส่วนตัวมารอรับกลับบ้าน บางคนมีคนคอยเปิดประตูพร้อมค้อมศีรษะให้ บางคนมีรถยนต์ขับเป็นของตัวเอง

สปายเดินผ่านภาพเหล่านั้นไปอย่างไร้ความรู้สึก

ไม่รู้จะอิจฉาหรือน้อยใจไปเพื่ออะไร เขาอยู่อย่างทุกวันนี้ก็มีความสุขดีแล้ว

เขามาเรียน… ก็แค่เรียน เรื่องอื่นไม่จำเป็นต้องสนใจ

เขาเดินออกจากโรงเรียนโดยไม่สนใจสายตาของนักเรียนคนอื่นที่มองมา… ไม่เคยมีใครใช้ลำแข้งตัวเองกลับบ้านกันหรือไงนะ..มองกันอยู่ได้

คนตัวเล็กเดินลัดเลาะไปซอยต่างๆในละแวกชุมชน

ผ่านหมู่บ้านจัดสรร ข้ามสะพานผ่านคลองเล็กๆ ผ่านร้านค้า ผ่านบ้านเรือนต่างๆมากมาย… ระยะทางเกือบหนึ่งกิโลเมตรที่เดิน ไม่ได้ทำให้เหนื่อยสักเท่าใด… ดีกว่าต้องเสียเงินค่ารถสองแถวหรือค่าวินมอเตอร์ไซค์ตั้งหลายเท่า… ถ้าต้องเสียค่ารถทุกวัน ไม่ไหวแน่ๆ

สปายเดินมาถึงตึกแถวในซอยเล็กๆ ตึกที่เขาเลือกห้องหนึ่งห้องในตึกนั้นไว้อาศัยอยู่

ที่ผนังด้านนอกของตัวตึกเต็มไปด้วยสีเขียวคล้ำของตะไคร่น้ำ แผ่นสีที่ทาไว้หลุดลอกเป็นรอยร้าวเต็มฝาผนัง เหล็กที่กั้นระเบียงเต็มไปด้วยคราบสีน้ำตาลของสนิมที่เกาะกิน เห็นแค่นี้ก็พอจะเดาอายุของอาคารได้ลางๆ ยิ่งสภาพตึกเป็นแบบนี้ ยิ่งไม่ต้องหวังพึ่งลิฟต์เลย … ของแบบนั้นไม่เหมาะกับที่แบบนี้หรอก

สปายเดินขึ้นบันไดมาจนถึงชั้นสามของอาคาร เป้าหมายคือห้องพักเล็กๆของตัวเอง

มือบางจับลูกบิดประตูหมุนโดยไม่ต้องเคาะเตือนคนในห้อง

…ประตูไม่ได้ล็อค แสดงว่ามีคนอยู่

สปายเดินเข้าไปในห้องของตัวเอง ปิดประตูลงกลอนให้สนิท สายตาใสเห็นใครอีกคนกำลังนั่งกินข้าวอยู่กลางห้อง

“กินข้าวกัน ฉันซื้อหมูแดดเดียวมาด้วย” เสียงใสของคนที่นั่งกินข้าวอยู่เอ่ยชักชวน

สปายเอากระเป๋านักเรียนวางไว้มุมหนึ่งของห้อง เดินมานั่งตรงข้ามคนที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว

ดวงตาใสพิจารณาคนที่นั่งกินข้าวอยู่

เสื้อสีดำแขนยาวแบบซีทรู ถึงจะมีเสื้อกล้ามด้านในใส่อยู่แต่มันก็ดูวาบหวิวไม่น้อย เสื้อที่มันยาวเลยสะโพกลงไปอย่างหมิ่นเหม่ เผยกางเกงขาสั้นสีดำวับๆแวมๆ ยิ่งพอนั่งกับพื้นแบบนี้ ยิ่งทำให้ดูเหมือนไม่ได้ใส่กางเกงเลย

“นี่คือชุดไปทำงาน?” สปายถามออกไป คนที่นั่งกินข้าวอยู่เงยหน้ามองน้อยๆ กลืนข้าวลงคอไปคำใหญ่ก่อนเผยยิ้มออกมา

“พี่ที่ทำงานเขาให้มา บอกว่าถ้าใส่ชุดนี้ แขกจะได้ให้ทิปเยอะๆ”

“แกก็เลยยอมใส่?” สปายถามเสียงเครียด ขมวดคิ้วน้อยๆ

“เอาน่า… ดีกว่าไม่ได้เงินนะ ชุดนี้น่ะพี่เขาก็ให้มาเฉยๆ เพราะพี่เขาซื้อมาแล้วใส่ไม่ได้”

“โซดา แกระวังนะ…”

“รู้แล้วล่ะน่า ฉันเสิร์ฟเครื่องดื่มอย่างเดียว ไม่ทำอย่างอื่นหรอก” ถึงโซดาจะบอกแบบนั้น แต่สปายก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี

“แล้วเป็นไง? ไปโรงเรียนวันแรก” โซดาลุกเอาจานข้าวไปล้าง พลางคุยกับเพื่อนไปด้วย เงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ… ได้ยินสปายถอนหายใจน้อยๆ  “มันไม่โอเคหรือวะ?”

“มันก็โอเค… แต่ไม่รู้สิ… บอกไม่ถูกเหมือนกัน คงเพราะเป็นวันแรกเลยยังไม่คุ้นที่” สปายพูดไปก็รู้สึกเหมือนกำลังปลอบใจตัวเอง สายตามองคนที่นั่งล้างจานอยู่ไม่ไกล

“แกไม่คิดจะเรียนต่อจริงๆหรือวะ?” สปายถามออกไปเรียบๆ  โซดารีบส่ายหัวให้โดยไม่ต้องคิดนาน

“ไม่เอาว่ะ ฉันเรียนไม่เก่งเหมือนแก ขืนไปเรียนมีแต่เปลืองเงินเปล่าๆ แล้วฉันก็ไม่ได้หัวดีถึงกับขนาดสอบชิงทุนได้ ทำงานแบบนี้น่ะดีแล้ว” โซดาสะบัดน้ำในจานเบาๆ เอาจานไปเก็บเข้าที่ ก่อนเดินมานั่งหน้ากระจก มองซ้ายมองขวาในกระจกอยู่พักใหญ่

“งานที่แกทำมันอันตรายมากเลยนะ” สปายอดพูดไม่ได้จริงๆ แม้จะเตือนตั้งแต่ก่อนเจ้าตัวไปสมัครงาน แต่โซดาก็ยังยืนยันที่จะทำงานนี้

ด้วยอายุแค่นี้ ไปสมัครงานที่ไหนเขาก็ไม่ค่อยรับ อย่าว่าแต่งานประจำเลย…งานพาร์ทไทม์ยังหายาก

บางที่…รับคนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป … บางที่รับ 21 ปีขึ้นไป…

แล้วพวกเขาที่เพิ่งอายุ 16  ปี จะหางานทำได้อย่างไร

งานอะไรล่ะที่เหมาะกับพวกเขา?

งานที่ไม่ต้องจำกัดอายุ…

งานที่ไม่ว่าใครก็ทำได้…

งานที่เลี่ยงข้อบังคับของกฏหมายสักหน่อยก็ได้ทำแล้ว…

“ถ้าทำงานนี้ แกก็มีเงินไปโรงเรียน พวกเราก็จะมีเงินจ่ายค่าห้อง เผลอๆมีเงินเก็บเผื่อไว้ใช้ด้วย” เสียงของคนที่นั่งหน้ากระจกดังเข้ามา

สปายถอนหายใจแรงๆ “เราบอกแล้วไง ว่าเรื่องโรงเรียนเราไม่อยากรบกวนแก”

โซดาหันมามองเพื่อนที่นั่งอยู่บนพื้น เอ่ยเสียงเครียด

“ฉันอยากให้แกมีอนาคตที่ดีกว่าฉันนะ… ฉันจะเป็นอย่างไรน่ะ…ช่างเถอะ… แค่ให้แกได้เรียน ฉันก็มีความสุขแล้ว ฉันไม่คิดว่านั่นคือการรบกวนด้วยซ้ำ” โซดายู่หน้าน้อยๆ เบือนหน้าหนีเพื่อนตัวเองอย่างน้อยใจ

สปายขบริมฝีปากล่างน้อยๆ เดินเข้าไปโอบเพื่อนจากด้านหลัง

“แต่ฉันเป็นห่วงแกนะ… แกทำงานอื่นก็ได้ ที่มันไม่เสี่ยงแบบนี้”มือน้อยโอบเพื่อนตัวเองแน่น

“ฉันไม่เป็นอะไรหรอก ลืมแล้วหรือว่าฉันคือใคร ฉันน่ะ..โซดาเลยนะเว้ย” โซดาหัวเราะน้อยๆ หันมายิ้มยิงฟันใส่เพื่อนที่กอดตัวเองไว้ สปายเห็นอย่างนั้นก็ยู่หน้าน้อยๆอย่างหมั่นไส้ ปล่อยมือออกช้าๆ

“แกน่ะ… ชอบเป็นแบบนี้ทุกทีเลย” สปายว่าอย่างงอนๆ โซดาชอบแกล้งหาเรื่องดราม่า แล้วก็จะพาลจบเรื่องเป็นเชิงว่าหยอกเล่นแบบนี้เรื่อยเลย

“น่า…เดี๋ยวแกเครียด แล้ววันนี้แกจะไปทำงานที่ภัตตาคารหรือเปล่า?” โซดาบีบมือเพื่อนเล่นอย่างเพลินมือ เงยหน้ามองเพื่อนตัวเอง เห็นสายตาปลงๆส่งออกมา

“ไม่ทำแล้วล่ะ เจ้าของร้านจับได้แล้วว่าฉันยังไม่ถึง 18 เขาเลยไล่ฉันออก แต่คุยกับป้าแม่ค้าร้านก๋วยเตี๋ยวรถเข็นหน้าปากซอยไว้แล้ว ฉันว่าจะไปล้างจานที่นั่น”

“ยังไงก็อย่ากลับดึกนะเว้ย มันอันตราย” โซดาเอ็ดเบาๆ

“บอกตัวเองก่อนโซดา” สปายย้อนเข้าให้ โซดาเลยยิ้มแหยๆตอบ

โซดาเหลือบไปมองนาฬิกาที่แขวนไว้ที่ฝาผนัง

“ฉันไปทำงานก่อนนะ เดี๋ยวสาย” โซดาลุกขึ้นเดินไปคว้ากระเป๋าสะพายใบเล็กๆไว้ใส่สิ่งของที่จำเป็น บอกลาเพื่อนอีกเล็กน้อยก็ออกจากห้องไป

สปายมองตามอย่างอดเป็นห่วงไม่ได้ 

…ไม่มีวันไหนที่ไม่ห่วงโซดาเลยจริงๆ



หลังจากโซดาออกไปทำงานแล้ว… สปายอาบน้ำ กินข้าวเย็น เตรียมพร้อมออกไปทำงานบ้าง

ร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ของเจ๊เป็ดหน้าปากซอยเป็นที่ทำงานที่ใหม่ของคืนนี้..

…หวังว่าจะได้เงินไว้ใช้ถึงวันพรุ่งนี้นะ

เจ๊เป็ดแกใจดีอยู่บ้าง ถึงแกจะเสียงดังไปหน่อย คุยเก่งไปนิด แต่แกก็เป็นเจ้านายที่พอคุยกันรู้เรื่อง

“สปาย เก็บโต๊ะด้วย” เสียงเจ๊เป็ดดังเข้ามาเป็นระยะ สปายวิ่งทำความสะอาดโต๊ะเป็นว่าเล่น พอเอาชามมากองได้ เจ๊เป็ดก็เรียกไปเก็บโต๊ะอีก … เท่าที่สังเกตดู เหมือนว่าเจ๊เป็ดแกไม่มีพนักงานเลย แล้วแกต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองอย่างนั้นหรือ?

“ไอ้ต้อง นั่นเอ็งจะไปไหนวะ?!” เสียงเจ๊เป็ดดังเข้ามา สปายหันไปมองคนที่เจ๊เป็ดคุยด้วย…

ชายหนุ่ม…น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับเขากำลังขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านหน้าร้านไป เจ๊เป็ดตะโกนตามอย่างไม่อายเสียง

“นัดเพื่อนไว้น่ะแม่ เดี๋ยวดึกๆจะมาช่วย” เสียงหายไปพร้อมๆกับควันมอเตอร์ไซค์… เท่านี้สปายก็พอจะเดาได้ว่าใครที่คอยช่วยเจ๊เป็ด

“ไอ้ลูกคนนี้ ใช้อะไรไม่ได้สักอย่าง” ได้ยินเจ๊เป็ดบ่นออกมา มือก็ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว ปากก็บ่นอวยพรลูกชายไม่หยุด

สปายเลิกสนใจเรื่องของครอบครัวคนอื่น กลับมาจดจ่อกับกองชามก๋วยเตี๋ยวที่สูงขึ้นเรื่อยๆ

ลูกค้าเข้าออกร้านเป็นพักๆ สปายมีหน้าที่เก็บชามมาล้างอย่างเดียว ส่วนเจ๊เป็ดทั้งทำ ทั้งเสิร์ฟ ได้ยินแกบ่นเบาๆว่ากลัวเขาเสิร์ฟผิดโต๊ะ

เวลายังคงเดินไปเรื่อยๆ…

จนถึงตอนนี้ก็ไม่เห็นวี่แววว่าลูกชายของเจ๊เป็ดจะมาช่วยงานอย่างที่บอกไว้

สปายล้างชามเสร็จหมดแล้ว ทุกโต๊ะไม่มีจานชามหลงเหลืออยู่

มองไปที่รถเข็นหน้าร้าน… เจ๊เป็ดกำลังเก็บของเข้าที่ หยิบอุปกรณ์ที่ใช้เสร็จแล้วมาวางไว้ให้เขาล้างต่อ ส่วนเจ๊เป็ดเดินไปพับโต๊ะเก้าอี้ให้เรียบร้อย

นี่คงเป็นสัญญาณว่างานคืนแรกกำลังจะสิ้นสุดลงแล้วสินะ…

“เอ้า นี่” เจ๊เป็ดเช็ดมือกับผ้ากันเปื้อนก่อนควักแบงค์สีแดงสามใบยื่นให้เขา สปายยกมือไหว้รับ

“ขอบคุณครับ” … เงินวันแรกของการทำงาน

คงพออยู่ไปถึงวันพรุ่งนี้… ไว้ถึงพรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที

สปายช่วยเจ๊เป็ดเก็บร้านจนเสร็จเรียบร้อย

คนตัวเล็กเหนื่อยเกินกว่าที่จะลากขาเดินเข้าซอยเพื่อไปขึ้นบันไดสามชั้น

จากร้านเจ๊เป็ดไม่ไกล มีป้ายรถเมล์อยู่

สปายตั้งใจเดินไปที่ป้ายรถเมล์หวังหาที่นั่งพัก แต่ทว่าไม่มีที่นั่งว่างเลย สปายถอนหายใจออกมาแรงๆ..  มองซ้ายมองขวา หาที่ที่คิดว่าพอจะนั่งได้ … เยื้องป้ายรถเมล์ไม่ไกล…มีหญิงสาวสามคนนั่งอยู่ สปายเดินไปทางหญิงสาวกลุ่มนั้น หวังว่าจะพอมีที่ให้นั่งบ้าง

สปายเดินไปไม่ไกล เจอเก้าอี้ม้าหินอ่อนวางอยู่

จากตรงนี้เรียกว่าเป็นมุมอับก็ว่าได้ แสงสว่างที่อยู่ป้ายรถเมล์ ส่องมาถึงตรงนี้เพียงแค่เงา ถึงจะมืดไปหน่อย แต่ก็ยังพอมีที่ให้นั่งพัก

คนตัวเล็กนั่งมองรถเมล์ที่ขับผ่านไปทีละคัน มองผู้คนที่เดินกันขวักไขว่บนทางเท้า  ..ทำไมคนที่เดินผ่านไปผ่านมาถึงมองเขาแปลกๆ?

มีเศษถั่วงอกติดหัวเขามาหรือ? หรือน้ำก๋วยเตี๋ยวหกรดเสื้อ?

สปายก้มมองสำรวจตัวเอง

…ก็ไม่มีอะไรนี่หว่า

สายตาใสเหลือบไปทางผู้หญิงสามคนที่นั่งอยู่ไม่ไกลนัก…

ตอนแรกมีสามคน… แต่ตอนนี้เหลือเพียงคนเดียว

หายไปไหนเร็วจังแฮะ… ไม่ทันสังเกตเลย

“น้อง”

ใคร? เสียงใคร? ใครเรียกใคร?

สปายมัวแต่นั่งมองหญิงสาวที่นั่งอยู่คนเดียวเสียเพลิน ไม่ได้สนใจว่ามีรถเบนซ์สีดำขับมาจอดด้านหน้าตัวเองสักพักแล้ว

“น้อง ได้ยินไหม?” เสียงที่ดังมาจากด้านหน้า ทำให้สปายหันขวับ มองชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนรถ เมื่อแน่ใจว่าคนบนรถคุยกับเขา จึงค่อยๆเดินเข้าไปหา…. บางทีเขาอาจจะมาถามทาง

“เท่าไร?”

“ฮะ?!”

เดี๋ยว นี่ไม่ใช่ประโยคถามทาง

แต่อะไรคือ ‘เท่าไร?’

“ท่าทางน่าจะแพง…” คนถามพึมพำเบาๆ  สปายเพิ่งสังเกตว่าในรถไม่ได้มีอยู่คนเดียว ดูเหมือนว่าจะมีกันอยู่อย่างน้อยก็สองคน

“พูดถึงอะไรกัน?” สปายถามออกไป ขมวดคิ้วน้อยๆ เขายอมรับว่าเขาเหนื่อยจากงานมาก แล้วยิ่งมาเจอการสนทนาที่หาประเด็นไม่ได้แบบนี้ มันชวนหงุดหงิดไม่น้อย

“เบียร์ มึงจะคุยอะไรนักหนาวะ ถ้าเขาจะไป เขาไปกับมึงแล้ว” เสียงทุ้มของคนขับดังเข้ามา สปายเหลือบมองทั้งคนขับและคนที่นั่งข้างคนขับ… หน้าตาก็ดี ทำไมถึงคุยไม่รู้เรื่องวะ?

“พวกคุณหลงทาง? หรืออะไร?” สปายทำใจกล้าถามออกไป ไม่ได้สนใจหน้าตาเหมือนไก่ตาแตกของคนสองคนที่อยู่บนรถ

“นั่นไง กูว่าแล้ว…” คนขับพึมพำเบาๆ คนข้างคนขับที่สปายจับใจความได้ว่าชื่อ ‘เบียร์’อ้าปากค้างไปเรียบร้อย

“พอได้แล้ว ไอ้เบียร์” คนขับรถทำท่าจะออกตัวรถ แต่คนข้างๆดึงมืออีกคนที่จับเกียร์ไว้ก่อน

“โห่ น้ำแข็ง… ใจเย็นสิวะ” เบียร์หันมามองเด็กตัวเล็กตาใสที่ยืนมองอยู่นอกรถ

“แล้วมึงจะทำยังไง  เด็กมันยังไม่รู้เลยว่ามึงจะซื้อมัน”

ประโยคจากคนขับ ทำเอาสปายอ้าปากค้าง ตาใสเบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

“คุณว่าอะไรนะ!” สปายตะโกนลั่น มือบางกำแน่นเข้าหาตัว

“กูว่าไปกันเหอะ” คนขับจะออกรถอีกครั้ง กดเลื่อนกระจกรถปิดขึ้น แต่เด็กตัวเล็กที่ยืนอยู่ด้านข้างของตัวรถ เดินมาชิดกระจกรถ มือบางตีประตูรถเป็นเชิงบอกให้หยุด

“สงสัยน้องเขาเปลี่ยนใจ” เบียร์ว่าพลางยกยิ้มน้อยๆ มือหนากดเลื่อนกระจกรถลง แต่ยังไม่ทันได้ยื่นหน้าออกไป มือน้อยๆที่กำแน่นก็ออกแรงเหวี่ยงเข้ามาปะทะปลายคางเข้าพอดี

“ทุเรศ สถุล ต่ำช้า เห็นคนทุกคนเขาเป็นที่ระบายหรือไง ไอ้พวกคนรวยเอ๊ย!!” เสียงหวานดังตามเข้ามาไม่หยุด

น้ำแข็งมองคนข้างๆที่กุมคางร้องซี้ดปากอยู่เบาๆ

สายตาคมสบตากับคนตัวเล็กที่ยืนกัดริมฝีปากอยู่ด้านนอก

“พวกเราขอโทษ เราไม่รู้ คิดว่าเธอขาย…” น้ำแข็งเว้นจังหวะไว้ ก่อนเหลือบไปมองหญิงสาวคนเดียวที่นั่งอยู่ไม่ไกลจากเด็กคนนี้เท่าไรนัก

สปายเหลือบมองไปตามสายตาคม หญิงสาวที่นั่งอยู่คนเดียวมาพักใหญ่กำลังยืนคุยกับคนที่อยู่ในรถเปิดประทุนคันงาม ไม่นานเธอก็เดินขึ้นรถคันนั้นไป

“เธอไม่รู้หรือว่าที่นั่งตรงนี้เขาไว้ทำอะไร” น้ำแข็งอดไม่ได้ที่จะเอ็ดไปน้อยๆ … ก็ถ้ามีคนอื่นที่ไม่ใช่พวกเขามาคุยด้วย ป่านนี้เด็กคนนี้จะเป็นอย่างไร … คงไม่มีโอกาสปล่อยหมัดใส่ใครแบบนี้แน่

“กลับบ้านไปซะ อย่ามานั่งตรงนี้อีก” น้ำแข็งเอ่ยทิ้งไว้แค่นั้นก่อนขับรถออกไป ทิ้งเด็กหนุ่มตัวเล็กไว้เบื้องหลัง

สปายมองตามรถคันนั้นด้วยสายตาอ่านไม่ออก

ทั้งโมโห ทั้งขอบคุณ

คนตัวเล็กหันไปมองที่ที่เคยมีหญิงสาวสามคนนั่งอยู่

ตอนนี้เหลือเพียงที่นั่งว่าง

สปายเหลือบมองที่นั่งที่ตัวเองเพิ่งลุกออกมา

...คนที่ไม่รู้… อย่ามานั่งตรงนี้เหมือนเขานะ





 
MOONLIGHT
[/font]







เปิดตัวละครแทบทุกตัวในตอนเดียว …พระนางเจอกันเร็วมาก!


ฝากนิยายเรื่องนี้ด้วยนะคะ ^ ^


เจอกันตอนต่อไปค่ะ ^^


 :กอด1:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-12-2014 17:11:50 โดย iiam »

ออฟไลน์ mtd

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
เกือบไปแล้วนะสปาย :เฮ้อ:

ติดตามค่าาาา น่าสนุก  :katai2-1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
แนวปวดจิตอีกแล้ว แต่จะติดตามอ่านนะ

meili run

  • บุคคลทั่วไป
ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ช่างน่าเศร้า มาต่อเร็วๆนะคะ :เฮ้อ:  :katai1:

ออฟไลน์ owo llยมuมข้u

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 459
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4

ออฟไลน์ threetanz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
ติดตามค่ะ

น่าสนใจมากๆ

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
น้องๆ น่าสงสาร
สปายไม่เท่าไหร่ สิ่งแวดล้อมยังไม่แย่มาก
แต่โซดานี่สิ

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
ชีวิตต้องดิ้นรน สงสารเด็กๆจัง

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
เหอะสมโดนซะหน้าหงายเลย



น่าติดตามจะดราม่าน้ำตาท้วมไหมนี่



รออ่านคอนต่อไปค้าบ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iiam

  • อัยแอม Bulan
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-2
Chapter2



รถเบนซ์สีดำคันหรูทะยานสู่การจราจรยามค่ำคืน แสงไฟสีส้มสาดส่องบนท้องถนน แสงจากหลอดไฟทุกดวง…บดบังแสงอ่อนๆจากดวงจันทร์จนหมดสิ้น …สองข้างทางที่รถวิ่งผ่านเต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารต่างๆมากมาย

สายตาคมของคนขับมองถนนเบื้องหน้า มือหักหมุนพวงมาลัยรถตามความเคยชิน …ได้ยินเสียงคนที่นั่งข้างๆร้องซี้ดเป็นพักๆ

มันไม่ได้ร้องซี๊ดเพราะเขาขับรถเร็วจนน่าหวาดกลัว แต่เพราะหมัดน้อยๆที่พุ่งเข้าใส่หน้ามันไม่นานมานี้ ทำเอามันร้องไม่หยุด

“เด็กอะไรหมัดหนักเป็นบ้า” เบียร์พึมพำเบาๆ แต่ทั้งรถที่มีกันอยู่แค่สองคน แม้จะพึมพำเบาแค่ไหนก็ได้ยิน

“มึงไม่ทันตั้งตัวไง เลยเจ็บแบบนี้” น้ำแข็งเอ่ยนิ่งๆ เหลือบสายตามองคนข้างๆที่เอาแต่ลูบคางตัวเองไม่หยุด

“ใครจะคิดวะว่าอยู่ๆจะโดนต่อย”

“ช่วยไม่ได้ มึงอยากเอง” น้ำแข็งหัวเราะน้อยๆในลำคอ

“ก็ใครจะไปรู้ว่าเด็กมันไม่ได้ขาย..” เบียร์ยังบ่นต่อไปไม่หยุด แถมเพ้อต่อให้อีก …”แต่มือโคตรนิ่มเลย”

น้ำแข็งส่ายหัวน้อยๆอย่างหน่ายๆ

น้ำแข็งหักพวงมาลัยรถเลี้ยวเข้าร้านค้าที่คุ้นเคย

ร้านที่เขากับพี่ชายเป็นเจ้าของ…

ทันทีที่รถจอดสนิท คนสองคนที่นั่งอยู่ในรถพากันลงจากรถเดินเข้าร้านตรงหน้า

‘สตูดิโอผับ’ …คือชื่อที่ติดอยู่บนป้ายหน้าร้าน

น้ำแข็งเดินนำเข้าร้านไปก่อน มีเบียร์เดินตามไปติดๆ

พนักงานหน้าร้านยกมือไหว้ทักทายชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของร้านทั้งสองคน …

ภายในร้านที่ถูกเรียกว่าผับ…เต็มไปด้วยลูกค้าหญิงชายวัยรุ่นจนถึงวัยกลางคน …แสงไฟหลากสีส่องแสงระยิบระยับชวนมอง …เสียงเพลงจังหวะแรงดังกระหึ่มไปทั้งร้าน

ด้านในของผับมีเวทีที่ยกสูง…บนนั้นมีดีเจสาวสุดเซ็กซี่กำลังเปิดเพลงมอบความสุขให้ลูกค้า

ข้างเวทีทั้งสองข้างมีเคาน์เตอร์บาร์ยาวเรียงจนเกือบถึงประตูร้าน

ตรงกลางร้านมีเก้าอี้ทรงสูงและโต๊ะเล็กๆถูกจัดวางอยู่เป็นกลุ่ม ถัดออกมามีชุดโซฟาบุนวมหนานิ่มสีแดงและสีดำอีกหลายชุดตั้งอยู่

น้ำแข็งเดินเลี่ยงผู้คนที่เกาะกลุ่มกันอยู่กลางร้าน อ้อมไปทางบันไดส่วนตัวที่พาไปยังชั้นสอง…

บนชั้นสอง บรรยากาศสงบกว่าชั้นแรกเล็กน้อย…

ระเบียงกระจกใสที่กั้นส่วนลูกค้ามีชุดโซฟาจัดเรียงไว้หลายชุด …มองจากชั้นสองจะเห็นบรรยากาศด้านล่างได้ทุกมุม

เสียงเพลงดังกระหึ่มไม่ต่างจากชั้นแรก แต่ผู้คนที่นั่งใช้บริการที่ชั้นสองมีน้อยกว่า…ทำให้รู้สึกเป็นส่วนตัวขึ้นมาเล็กน้อย

น้ำแข็งเดินฝ่าแสงระยิบระยับของแสงไฟหลากสีเข้าสู่ทางเดินที่มีแสงสีส้มสลัวประดับอยู่สองข้างทาง..สุดทางเดินมีบันไดส่วนตัวอีกไม่กี่ขึ้น

น้ำแข็งพาตัวก้าวขึ้นบันได ก่อนเดินไปตามระเบียงทางเดิน จนมาหยุดที่หน้าห้องที่มีคำว่า ‘ผู้จัดการ’

น้ำแข็งเปิดประตูเข้าไป..ไม่ได้สนใจหันมาปิดเพราะรู้ว่ามีใครอีกคนตามมาด้วย

“จะเดินเร็วไปไหนวะ” เบียร์ที่เดินตามมาทีหลังบ่นออกมา หันไปปิดประตูก่อนเดินไปทิ้งตัวนั่งที่โซฟา…สายตาเบนไปมองภาพด้านล่างของร้าน

จากในห้องนี้ มีกระจกใสที่มองได้ด้านเดียว พวกเขาที่อยู่ในห้องนี้จะมองเห็นบรรยากาศในร้านทั้งหมด แต่จะไม่มีใครสามารถมองเห็นความเป็นไปภายในห้องนี้ได้

“มึงแก่แล้วอ่ะดิ เดินแค่นี้ทำเป็นบ่น” น้ำแข็งย้อนเข้าให้ ส่งกระป๋องเบียร์ให้คนที่นั่งเอกเขนกบนโซฟา ได้รับสายตาค้อนวงใหญ่กลับมา

น้ำแข็งทิ้งตัวลงฝั่งตรงข้ามของคนที่นั่งอยู่ก่อน สายตามองไปยังบรรยากาศด้านล่าง ในมือมีกระป๋องเบียร์ที่หยิบมาเผื่อตัวเองด้วย มือหนาเปิดฝากระป๋องช้าๆ.. ยกดื่มอย่างกระหาย

“กูเกิดก่อนมึงไม่กี่ปี ถ้ากูแก่ มึงก็แก่วะ” เบียร์ย้อนกลับ กระดกน้ำสีทองที่อยู่ในมือไปอึกใหญ่

เขาเกิดก่อนไอ้น้ำแข็ง 3 ปี ..

ไอ้น้ำแข็งเป็นน้องในไส้ที่บางครั้งเขาก็ลืมไปว่าเขาเป็นพี่มัน หลายครั้งที่คำพูดที่เขากับน้ำแข็งใช้เรียกกัน ทำเอาคนภายนอกเข้าใจผิดคิดว่าเขากับมันเป็นเพื่อนกัน.. เขาเองนั่นล่ะที่ไม่ค่อยแทนตัวเรียกตัวเองว่า “พี่” … พอเป็นอย่างนั้นไอ้น้ำแข็งมันเลยไม่ค่อยเรียกเขาว่าพี่ไปด้วย แต่เขาก็ไม่ได้จริงจังกับคำแทนตัวขนาดนั้น เรียกกันแบบนี้ดูใกล้ชิดกันดี ไม่มีช่องว่างระหว่างวัย…

เบียร์มองนิ่งไปยังบรรยากาศด้านล่างร้าน ..เผลอคิดไปถึงเด็กหน้าใสที่ประเคนหมัดน้อยๆใส่หน้าเขา มือหนายกลูบปลายคางตัวเองโดยไม่รู้ตัว.. ท่าทางที่อยู่ในสายตาของน้องชายที่นั่งมองอยู่

“ยัง’อยาก’อยู่ไหมล่ะทีนี้?”  เอ่ยถามพี่ชายไปนิ่งๆ ….เบียร์ถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ

“สักหน่อยก็ดีเหมือนกัน ตอนนี้แม่งโคตรค้าง” เบียร์เอ่ยพลางยกกระป๋องน้ำสีทองในมือดื่มจนหมดกระป๋อง …โยนกระป๋องเปล่าลงทั้งขยะได้ก็เดินกดโทรศัพท์ไปหยุดอยู่ที่มุมห้อง…

น้ำแข็งนิ่งมองไปยังบรรยากาศด้านล่าง…ได้ยินพี่ชายคุยโทรศัพท์ว่าให้ส่งคนไปที่ห้องให้หน่อย…

…ท่าทางมันคงจะค้างจริงๆ…

“เป็นน้อง ต้องเชื่อฟังพี่ใช่ไหม? เพราะฉะนั้น…พี่ขอสั่งให้มึงดูร้าน พี่ชายคนนี้จะไปพักผ่อนสักหน่อยนะครับ” เบียร์หันมาพูดทิ้งไว้แค่นั้นก็เปิดประตูออกจากห้องทำงานไป

น้ำแข็งส่ายหัวน้อยๆอย่างขำๆ…

พอจะได้ ‘พักผ่อน’นี่แทนตัวซะดีเลยนะพี่ชาย…

เบียร์เดินผ่านแสงสลัวสีส้มของโคมไฟที่ประดับอยู่สองข้างทางของทางเดิน…

จนกระทั่งมาหยุดหน้าห้องนอน..

…ก็มีไว้เผื่อ”ฉุกเฉิน”เท่านั้นล่ะ…

จริงๆถ้า”ฉุกเฉิน”ขึ้นมา จะใช้ห้องทำงานก็ได้…แต่ไหนๆก็มีที่ว่างแล้ว..ทำห้องนอนเพิ่มขึ้นมาสักสองห้องจะเป็นอะไรไป

ใช่…สองห้อง ของเขากับของน้องชาย

แต่เขารู้สึกว่าไอ้น้ำแข็งใช้ห้องนอนไม่ค่อยคุ้มเท่าไร… มันแค่ใช้ค้างคืนบ้างถ้าคืนไหนมันไม่ได้กลับบ้าน…ไม่เหมือนเขา …

…เล่นเอาซะคุ้มเลย

เบียร์โยนโทรศัพท์มือถือไว้บนเตียงที่ปูผ้าเรียบตึง มือหนาไล่ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตแขนยาวก่อนสลัดออกจากตัว…คว้าผ้าขนหนูที่พาดอยู่บนเก้าอี้แถวนั้นได้ก็เดินเข้าห้องน้ำไป

…ชำระร่างกายให้พร้อมกับการ’พักผ่อน’



ท่ามกลางแสงไฟหลากสีที่สาดส่องระยิบระยับ ผู้คนเบียดเสียดโยกย้ายส่ายสะโพกกันอย่างไม่มีใครยอมใคร

โซดาเดินแทรกผู้คนที่ออขวางทางกันอยู่ ดวงตากลมโตสอดส่องหาทางออกจากกลุ่มผู้คน มือบางคอยปัดมือใครต่อใครไม่รู้ที่พยายามดึงเขาไว้ ทั้งที่แขน ที่ข้อมือ ที่เอว …หนักหน่อยก็ลูบหน้า…ไล้แก้ม

โซดาต้องคอยป้องมือเหล่านั้นออกจากตัว…กว่าจะมาถึงเคาน์เตอร์บาร์ได้เล่นเอาเหงื่อตก

“ไหวหรือเปล่า?” เสียงใสดังมาจากด้านหลังเคาน์เตอร์ โซดาไม่รอช้ารีบเข้าไปยืนเคียงข้างคนพูดที่ด้านหลังเคาน์เตอร์ทันที

“พี่เอ…เมื่อไรผมจะได้ทำงานแบบพี่สักที” โซดาอดไม่ได้ที่จะบ่นออกมาน้อยๆ..

พี่เอเป็นรุ่นพี่ที่คอยสอนงานให้ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงาน…

พี่เอเป็นบาร์เทนเดอร์ คอยชงเครื่องดื่มให้ลูกค้า

…อยู่ที่เคาน์เตอร์อย่างเดียว…ไม่ต้องออกไปเสิร์ฟเครื่องดื่มอย่างที่เขาทำ

“เดี๋ยวถ้าเราคุ้นเคยกับเครื่องดื่มพวกนี้มากกว่านี้ เราก็จะได้ทำเองล่ะน่า…อะไรกัน ตัวแค่นี้ ทำไมรีบบ่นจัง ฮึ?” พี่เอเย้ารุ่นน้องเข้าให้ โซดายู่หน้าน้อยๆ…

ท่าทางของสองคนที่หยอกเย้ากันตรงเคาน์เตอร์ ทำเอาชายหนุ่มหลายคนแถวนั้นต้องหยุดมองกิริยาน่ารักๆเป็นตาเดียว

“โซดา ว่างหรือเปล่า?” เสียงหญิงสาวดังเข้ามา โซดาหันไปมองคนเรียก

“ครับพี่พิมพ์” โซดาปล่อยให้พี่เอทำงานของตัวเอง ก่อนจะเดินเข้าไปหาหญิงสาวที่เพิ่งเดินเข้ามา

“พี่วานอะไรนิดหน่อยนะ โซดาช่วยเอาของพวกนี้ไปที่ห้องของคุณเบียร์ที” พิมพ์ชี้ไปยังขวดแก้วสีน้ำตาลหลายขวดที่อยู่บนถาดเสิร์ฟ ข้างๆกันมีถังน้ำแข็งใบใหญ่วางอยู่ โซดาเผลอกลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่อได้ยินชื่อคนที่ต้องเอาไปเสิร์ฟ

….นะ…นั่น เจ้าของร้านเลยนะ!!

“แต่..เอ่อ…จะดีหรือครับ คือ…” โซดาอดไม่ได้ที่จะขอปฏิเสธ

เขาได้ยินพี่ๆในร้านพูดถึงเจ้าของร้านทั้งสองคนอยู่หลายครั้ง แต่เขาก็ไม่เคยเจอตัวทั้งสองคนเลยสักที… ตอนรับเข้าทำงานก็มีพี่พิมพ์ที่เป็นคนรับเข้าทำงาน… เจ้าของร้านน่ะ…เขาไม่กล้าเจอ…

…คงดุอย่างที่ใครหลายคนเคยพูดไว้

…ถ้าเขาต้องไปเจอ แล้วถ้าเผลอทำอะไรไม่เข้าท่าขึ้นมา …จะถูกไล่ออกไหม?!

“พี่วานหน่อยนะโซดา ตอนนี้ไม่มีใครว่างจริงๆ…”

โซดาเผลอมองไปยังห้องที่ใครๆบอกว่าเป็นห้องทำงานของคุณเบียร์และน้องชาย…

…ไม่ใช่ทุกคนที่จะขึ้นไปบนนั้นได้…หากจะขึ้นไป ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของห้อง…หรือไม่เช่นนั้นก็…ต้องผ่านพี่พิมพ์ก่อน

…นี่ไง…พี่พิมพ์กำลังผลักไสไล่ส่งเขาให้ขึ้นไปบนนั้นไง!

พิมพ์เห็นสายตาของรุ่นน้องที่มองไปชั้นบนแล้วก็ต้องร้องขึ้นมาเบาๆ

“ไปเสิร์ฟห้องนอนนะ ไม่ใช่ห้องทำงาน ขึ้นไปแล้วถามทางจากคนที่เฝ้าหน้าห้องทำงานได้” พี่พิมพ์ยิ้มน้อยๆให้โซดาก่อนหมุนตัวกลับเดินออกไป … โซดาได้แต่มองตามอย่างปลงๆ

สุดท้ายก็ต้องตัดสินใจเดินไปยกถาดนั้นมาถือไว้ในมือ หอบของทั้งหมดเดินขึ้นบันไดไป…

…เดินไล่ไปตามทางเดินจนมาเจอห้องที่มีคำว่า “ผู้จัดการ” …มองซ้ายมองขวาอย่างไม่รู้จะไปไหนต่อ…เห็นชายตัวใหญ่ใส่แว่นตาดำเดินมาจาไหนไม่รู้ … ชายคนนั้นมาหยุดยืนนิ่งหน้าห้องที่โซดายืนอยู่

มองซ้ายมองขวาอีกครั้ง …หวังว่าจะมีใครสักคนเดินผ่านมาอีก

แต่ทว่า..ไร้วี่แวว

โซดาคงลุกลี้ลุกลนมากไป ชายหนุ่มตัวใหญ่ที่ยืนนิ่งอยู่เลยส่งเสียงออกมา

“มาหาใครไอ้หนู?” เสียงที่ถามออกมาดูน่ากลัวไม่น้อย โซดาสะดุ้งสุดตัว แต่ดีที่ประคองขวดสีน้ำตาลราคาแพงทั้งหลายไว้ได้

“หะ…หา..คุณเบียร์ครับ” เสียงหวานตอบออกไปอย่างกล้าๆกลัวๆ  ชายคนนั้นก้มมองโซดาตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนชี้นิ้วไปตามทางเดินที่ชายคนนั้นเพิ่งเดินมา

“ตรงไป เดี๋ยวก็เจอ”

โซดาเอ่ยขอบคุณเสียงเบา ประคองถาดในมือให้นิ่ง เท้าเล็กพยายามก้าวเดินไปให้ถึงที่หมาย

เมื่อมาถึงห้องที่มีป้ายหน้าห้องว่า “เบียร์” โซดาเผลอกลั้นหายใจเล็กน้อยเมื่อคิดถึงคนที่อยู่ในห้อง มือบางยกขึ้นเคาะประตูเบาๆ

กลืนน้ำลายไปอีกอึกใหญ่…รู้สึกถึงเรี่ยวแรงที่ประคองถาดไว้เริ่มลดลง มือน้อยๆสั่นเทาโดยไม่รู้ตัว..

คุณเบียร์จะชอบให้เคาะประตูไหม? หรือชอบแบบให้เปิดเข้าไปเลยโดยไม่ต้องรอคำอนุญาต? .. ถ้ามัวแต่ยืนรอแบบนี้คุณเบียร์จะหงุดหงิดไหม? จะเข้าไปเลยหรือ? เจ้าของห้องยังไม่อนุญาตเลยนะ!

โซดากลั้นหายใจ หลับตาปี๋ มือบางเสี่ยงเปิดประตูเข้าไป ช่องว่างระหว่างประตูทำเอาโซดาใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม

ไม่ได้ล็อค!... อย่างนี้จะเรียกว่าเขาเสียมารยาทหรือเปล่าวะ!

ร่างเล็กค่อยๆแง้มประตูเข้าไป ใบหน้าใสยื่นเข้าไปหวังทักทายคนที่อยู่ในห้อง.. แต่ทว่า เสียงน้ำกระทบพื้นที่ดังมาจากประตูที่ปิดอยู่ ทำเอาโซดาลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก

..อาบน้ำอยู่สินะ..ค่อยยังชั่ว

อย่างนี้ก็ดีสิ รีบวางของพวกนี้ไว้แล้วรีบชิ่งลงไปเลย!

ร่างเล็กพาตัวเองเข้าไปหยุดอยู่กลางห้อง ดวงตากลมโตกวาดมองไปรอบๆหวังหาพื้นที่ที่เหมาะกับการวางของพวกนี้ไว้

…โต๊ะนี่คงไม่เป็นอะไรมั้ง

คนตัวเล็กเดินไปหยุดที่โต๊ะกระจกหน้าโซฟา บนโต๊ะเกลื่อนไปด้วยกองกระดาษ มีแฟ้มเอกสารวางอยู่หลายอัน ข้างๆแฟ้มมีที่เขี่ยบุหรี่วางอยู่

โซดาวางถาดที่ถือมาไว้ข้างแฟ้มเอกสารเหล่านั้น ด้วยความที่ของบนโต๊ะดูรกเกินไปกว่าจะทนมองได้ โซดาเลยถือวิสาสะจัดแฟ้มเอกสารเหล่านั้นให้เรียบร้อย จับกองกระดาษที่วางซ้อนกันอยู่มาเคาะให้เป็นระเบียบ

…ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าเสียงน้ำในห้องน้ำเงียบไปพักใหญ่แล้ว

ขณะที่โซดากำลังก้มจัดเอกสารบนโต๊ะอยู่ จู่ๆก็มีมือลึกลับโผล่มาโอบรัดราวเอวแน่น คนตัวเล็กตาโตด้วยความตกใจ เผลอปล่อยกระดาษในมือกระจายเต็มโต๊ะ.. ความเป็นระเบียบของกองกระดาษหายไปอีกครั้ง

“อ้าว..จัดอยู่ไม่ใช่หรือ ทำไมรกกว่าเดิมล่ะ” เสียงทุ้มดังอยู่ริมหู โซดาเบือนหน้าหนีลมหายใจอุ่นๆที่รินรดข้างแก้ม ดิ้นสุดแรงให้หลุดจากอ้อมแขนหนานี้

“ปละ..ปล่อยครับ” เสียงหวานพยายามแค่นเสียงออกไป หางเสียงเบาหวิว…แต่เสียงจะดังหรือเบาแค่ไหนก็คงไม่เข้าหูของร่างสูงแน่

เบียร์โอบรัดร่างเล็กไว้ในอ้อมแขนให้แน่นขึ้น ออกแรงรั้งคนตัวเล็กให้หันหน้าเข้าหากัน มือหนาปัดปอยผมที่ปรกใบหน้าใสออก

สายตาคมก้มมองร่างเล็กตรงหน้า…ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าว่าร่างตรงหน้าดูสั่นเทากว่าที่ควรจะเป็น… คนตัวสูงสะบัดศีรษะน้อยๆขับไล่ความคิดแปลกๆที่วิ่งเข้ามา

…น้องเขาเต็มใจขึ้นมานี่...ไม่มีเหตุผลที่จะต้องสั่นกลัว

…หรือนี่เป็นครั้งแรก?

ร่างสูงยกยิ้มน้อยๆเมื่อคิดว่านี่คงเป็นครั้งแรกของคนตรงหน้า

“กลัวหรือ?...ครั้งแรกสินะ” จมูกโด่งซุกไซร้ต้นคอขาวเนียน ริมฝีปากหนาขบเม้มผิวเนื้อทุกที่ที่ใบหน้าลากผ่าน ยิ่งคนตัวเล็กเอียงหน้าหลบ ยิ่งเปิดโอกาสให้ร่างสูงดื่มกินได้มากขึ้น

“ปละ..ปล่อย ..อื้อ~!” เสียงหวานใสพยายามเอื้อนเอ่ย แต่เบียร์ไม่อยากได้ยินคำพูดใดๆทั้งนั้น…ริมฝีปากหนาเข้าครอบครองริมฝีปากเล็กๆนั่นทันที ดูดกลืนถ้อยคำที่คนตัวเล็กตั้งใจเอ่ยออกมา … ถ้าจะมีเสียงใดออกมาจากริมฝีปากเล็กนี้ ขอแค่เสียงครางหวานๆเท่านั้น

มือหนาไล้ผิวขาวเนียนผ่านเนื้อผ้าซีทรูที่เจ้าตัวใส่อยู่

…แต่งตัวยั่วขนาดนี้..ยังจะทำดีดดิ้นเล่นตัว

เบียร์หัวเราะเบาๆในลำคอ..

ริมฝีปากหนาดูดกลืนริมฝีปากบางอย่างนึกมันเขี้ยว ร่างสูงขมวดคิ้วน้อยๆเมื่อคนตัวเล็กเอาแต่กัดฟันแน่นไม่ยอมเปิดปากให้เขาเข้าไป เบียร์ผละออกมาช้าๆ…น้ำใสๆไหลออกมาจากริมฝีปากบาง คนตัวเล็กหอบหายใจหนัก ใบหน้าใสแดงก่ำ มือบางเกาะแขนล่ำของคนตรงหน้าไว้แน่น

ร่างสูงประทับริมฝีปากลงไปบนหน้าผากเนียน ไล่ลงมาริมจมูก สูดดมกลิ่นหอมละมุนจากแก้มใสทั้งสองข้าง ประทับริมฝีปากไปใต้คาง ก่อนเข้าแนบริมฝีปากบางอีกที

เบียร์ไม่ปล่อยให้คนตัวเล็กกัดฟันตัวเองไว้เหมือนครั้งแรก ร่างสูงสอดเรียวลิ้นเข้าไปดูดกลืนความหวานของคนตรงหน้า แต่ทว่าเรียวลิ้นเล็กเอาแต่พยายามถดหนี ซ้ำยังไร้การตอบสนองจากริมฝีปากบาง

…หรือนี่จะเป็นครั้งแรกจริงๆ?

แค่จูบยังทำไม่เป็นเลย

มือหนาไล้ลงผ่านสะโพก ไล้สัมผัสต้นขาเนียนอย่างเคลิบเคลิ้ม ไม่สนใจแรงดิ้นน้อยๆของคนตรงหน้า

..คงจะดิ้นสุดแรงเลยสิท่า …เก็บแรงไว้ร้องดังๆดีกว่า

มือหนาอีกข้างลากผ่านสะโพกกลมกลึงขึ้นมา สอดมือเข้าใต้เสื้อกล้ามตัวบางที่ซ้อนอยู่ใต้ผ้าซีทรู …สัมผัสแผ่นหลังเนียนอย่างหลงใหล

…หลงใหลเกินไปจนลืมรู้สึกถึงความผิดปกติ

มืออีกข้างที่ลูบต้นขาเนียนจนพอใจแล้ว ค่อยๆสอดมือเข้าใต้เสื้อของคนตัวเล็ก ลากมือผ่านหน้าท้องเรียบเนียน ไล้สัมผัสขึ้นไปจนถึงหน้าอก…

เบียร์ขมวดคิ้วน้อยๆเมื่อเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ

จนกระทั่งเสียงผู้หญิงดังมาจากประตูที่ถูกเปิดทิ้งไว้

“คุณเบียร์!!”

เบียร์ผละออกจากกลิ่นหอมละมุนของคนในอ้อมแขน สายตาคมตวัดมองคนมาใหม่ที่มาส่งเสียงไม่ดูเวล่ำเวลา

สายตาคมกลับมามองคนในอ้อมแขนที่ถูกถลกเสื้อขึ้นมาเกือบถึงหน้าอก ทันใดนั้นดวงตาคมถึงกับเบิกกว้าง

“เฮ้ย! เธอ…ผู้ชาย?!” เบียร์มองคนตัวเล็กในอ้อมแขน สลับกับหญิงสาวในชุดเดรสเกาะอกที่ชมพูที่ยืนนิ่งอยู่ที่ประตู
โซดาผลักร่างสูงตรงหน้าออกห่างจากตัว ไม่กล้าเงยหน้ามองใคร…

“พิมพ์ส่งใครมา?” เบียร์ถามอย่างหงุดหงิดเล็กๆ

“หนูไงคะ” หญิงสาวในชุดเกาะอกเป็นคนตอบออกมา

เท่านั้นเบียร์ยิ่งเบิกตากว้างเข้าไปอีก มองร่างเล็กตรงหน้าที่พยายามจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ด้วยมืออันสั่นเทา

“ขะ…ขอโทษครับ” โซดายกมือไหว้คนทั้งสองที่อยู่ในห้อง เท้าเล็กออกแรงวิ่งออกไปจากห้องทันที

เบียร์ในสภาพผ้าขนหนูพันครึ่งท่อนมองตามเด็กตัวเล็กๆที่วิ่งออกจากห้องไป

เกิดความรู้สึกตึงๆขึ้นที่ไหนสักแห่งบนร่างกาย สายตาก้มมองสิ่งที่แสดงความเป็นชายของตัวเองที่เริ่มลุกฮือเรียกร้องขอการปลดปล่อย

เสียงปิดประตูดังเข้ามาพร้อมร่างของหญิงสาวในชุดวาบหวิวก้าวมาหยุดอยู่ตรงหน้า

“จะต่อไหมคะ?” เสียงหวานใสดังยั่วยวน เบียร์มองหญิงสาวตรงหน้า …เนินอกที่เจ้าหล่อนโกยขึ้นมาจนแทบทะลักไม่ได้ทำให้เบียร์อยากกระโจนเข้าใส่เหมือนทุกครั้ง

…กลิ่นหอมละมุนของเด็กคนนั้นยังติดอยู่ที่ปลายจมูก สัมผัสเรียบเนียนยังติดอยู่ที่ปลายนิ้ว

…เขาอยากโจนเข้าใส่เด็กคนนั้นมากกว่า

“ขอโทษนะ เธอออกไปก่อน” เบียร์หันหลังหนีเนินอกที่เจ้าหล่อนจงใจเอามาจ่อที่ใบหน้า

ร่างสูงตรงเข้าห้องน้ำอีกครั้ง กระแทกประตูห้องน้ำแรงๆอย่างหงุดหงิด

หงุดหงิดเรื่องอะไรวะ! ทำไมเขาต้องหงุดหงิดขนาดนี้!

ถ้าอยากนักก็ไปลงกับผู้หญิงที่รออยู่ก็สิ้นเรื่อง จะมาพาลโมโหแบบนี้ทำไม!

ร่างสูงเปิดฝักบัวทิ้งไว้ ปล่อยให้สายน้ำรินไหลไปตามร่างกาย

…จำไม่ได้ว่านานแค่ไหนแล้ว…ที่เขาไม่ได้…ช่วยตัวเอง


MOONLIGHT





ตอนที่ 2 แล้ว >< ฮึ้บๆ!!!!!!!


ฝากด้วยนะคะ   :กอด1:


เจอกันตอนต่อไปค่ะ ^_^



 :pig4:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-11-2014 00:34:17 โดย iiam »

ออฟไลน์ mtd

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
เบียร์นี่ค้างตลอดเลยนะตั้งแต่เปิดเรื่องมา  :laugh:

ออฟไลน์ blur

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
มาต่อทุกวันได้ไหมครับ สนุกดี :D

ออฟไลน์ actionmarks

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-44
สนุกดีอ่ะ ชอบๆ

ออฟไลน์ owo llยมuมข้u

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 459
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
คู่ใครกันละนี่

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
สองคู่ชู้ชื่น

ออฟไลน์ Pnomsod

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
อืออออออ จะคู่ใครกันเหนออออออ

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
โอ๋ๆน้องโซดา เกือบไปแล้ว :ling3:

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
รอดไปนะโซดา
นึกว่าจะโดนตั้งแต่ตอนสอง

ออฟไลน์ iiam

  • อัยแอม Bulan
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-2
Chapter 3




โซดาวิ่งออกจากห้องนอนห้องนั้นโดยไม่หันหลังกลับไปมอง แสงสลัวสีส้มที่ประดับอยู่บนทางเดินให้ความสว่างเหมือนตอนที่โซดาเดินเข้ามา แต่โซดากลับรู้สึกว่าแสงเหล่านั้นไม่ต่างจากความมืดมิด

คนตัวเล็กวิ่งไปเรื่อยๆจนมาหยุดตรงบันไดลง มืออันสั่นเทาเกาะราวบันไดไว้แน่น ร่างเล็กๆหอบหายใจจนตัวโยน …

…เมื่อกี๊นี้มันอะไร

ร่างสูงใหญ่หยาบโลนเมื่อครู่คือเจ้าของห้องนั้นงั้นหรือ

ทำไมเขาต้องทำกับโซดาแบบนั้น…

ทำไมเขาไม่ถามอะไรกันก่อนเลย!

โซดากัดฟันแน่น…ความรู้สึกอุ่นๆที่ถูกไล้สัมผัสยังติดอยู่บนร่างกาย  มือน้อยๆยกขึ้นขยี้ปากอย่างรุนแรง เริ่มมีก้อนสะอื้นจุกอยู่ที่ลำคอ

…น้ำตาเจ้ากรรมไหลลงมาทำไม!

ขาเล็กก้าวลงบันไดแต่ละขั้นด้วยแรงอันสั่นเทา

ก้าวแล้วก้าวเล่า จนร่างน้อยๆเดินมาหยุดที่พื้นเบื้องล่าง

โซดากระพริบตาปริบๆ กลั้นน้ำใสๆที่คลอหน่วยตาไม่ให้รินไหล

“พี่เอ ผมกลับก่อนนะครับ” เสียงหวานดังแผ่วๆ เข้าไปหยิบกระเป๋าสะพายใบเล็กของตัวเอง เอขมวดคิ้วทันทีที่เห็นท่าทางของรุ่นน้อง ยังไม่ทันได้เอ่ยถามอะไร โซดายกมือไหว้น้อยๆก่อนหันหลังเดินออกไป

โซดาเดินตรงแน่วออกจากที่ทำงาน ออกเดินสู่ซอยเล็กๆที่พาเขามาทำงานทุกวัน เดินไปไม่นานซอยเล็กๆก็พามาสู่ถนนใหญ่

ร่างเล็กเดินตรงไปป้ายรถเมล์ ผับที่เขาทำงานอยู่ไม่มีรถเมล์ผ่าน แท็กซี่ก็ไม่ได้หาง่ายๆ ถึงการมาทำงานจะลำบากไปนิด แต่ค่าจ้างตอบแทนที่ได้ก็คุ้มค่าเหนื่อย …

โซดายอมทำงานที่นี่ …หวังจะมีเงินเก็บเหมือนคนอื่นเขาบ้าง

…วันนี้เขาออกมาก่อนเวลาเลิกงาน รถเมล์เลยยังวิ่งตามปกติ แต่ถึงกระนั้นร่างเล็กไม่อาจทนรอรถเมล์มาจอดที่ป้ายได้

..เขาอยากกลับเร็วๆ อยากทิ้งตัวลงนอนแล้วลืมเรื่องที่เกิดขึ้นให้หมด

ร่างเล็กตัดสินใจเรียกแท็กซี่ไปส่งที่”บ้าน”…อย่างน้อยที่นั่นก็เป็นบ้านใหม่ของเขา…


ดวงจันทร์คล้อยต่ำลงตามเวลาที่เดินไป เมฆสีเทาเคลื่อนคล้อยบดบังแสงจันทร์จนมืดมิด…

สปายมองท้องฟ้ายามค่ำคืนผ่านระเบียงห้องที่มีเหล็กสีสนิมกั้น …เหลือบไปมองนาฬิกาที่ฝาผนัง

… เข็มสั้นชี้เลข 12 เข็มยาวเลยเลข 3 ไปนิดหน่อย

ป่านนี้โซดาคงกำลังวิ่งวุ่นอยู่กับงาน

สปายกลับมาถึงห้องตั้งแต่ห้าทุ่มครึ่ง…

เขาทำงานที่ร้านเจ๊เป็ดจนลืมดูเวลา… คาดว่าเจ๊เป็ดคงเก็บร้านตั้งแต่สี่ทุ่มครึ่ง…

…แล้วเขายังต้องเสียเวลาไปทะเลาะกับใครก็ไม่รู้ที่ข้างทางนั่นอีก

คิดมาถึงตรงนี้ คนตัวเล็กอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาแรงๆ

ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่สองคนนั้น…ป่านนี้เขาจะเป็นอย่างไรนะ

กำลังคิดอะไรอยู่เพลินๆ ทันใดนั้นเสียงกุกกักที่ประตูดังขึ้นเบาๆ สปายสะดุ้งสุดตัว หันไปมองนาฬิกาอีกครั้ง

…เข็มสั้นอยู่ระหว่างเลข 12 กับเลข 1 เข็มยาวเข้าสู่เลข 6

เวลาแบบนี้ไม่ใช่เวลาเลิกงานของโซดา

แล้วใครมาทำอะไรกับประตู?

สปายเดินเข้าไปหาประตูที่ลงกลอนไว้อย่างกล้าๆกลัวๆ

เพราะเขาต้องอยู่คนเดียวในช่วงที่โซดาไปทำงาน สปายล็อคห้องทุกครั้ง โซดาจะพกกุญแจไว้ไขเข้าห้องตอนกลับมาเอง

…อีกไม่กี่ก้าว เท้าเล็กจะไปถึงประตู ตอนนั้นเอง ประตูที่ปิดไว้ถูกเปิดออก.. ใบหน้าใสของคนคุ้นเคยโผล่เข้ามา

สปายชะงักไปนิดด้วยความตกใจ ก่อนถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

โซดาหันไปปิดประตูล็อคไว้ตามเดิม หันมายิ้มน้อยๆให้เพื่อนตัวเล็กที่ยืนอยู่ตรงหน้า

“ทำไมวันนี้กลับเร็วจัง” สปายเดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนฟูก มองเพื่อนตัวเล็กที่เดินไปรินน้ำใส่แก้วก่อนยกขึ้นดื่ม

“ฉัน…ไม่สบายนิดหน่อย เลยขอพี่เขากลับมาก่อน” โซดาตอบอุบอิบ หลบสายตาเพื่อนจนสปายขมวดคิ้วน้อยๆอย่างผิดสังเกต

โซดารู้สึกถึงสายตาที่ถูกจับจ้อง พยายามเดินเลี่ยงสายตาจับผิดของเพื่อนตัวเอง

…แต่จะหนีสายตาสปายพ้นได้อย่างไร

“โซดา! นี่รอยอะไร?!” สปายตรงเข้าไปจับแขนเพื่อนตัวเองไว้ มือข้างหนึ่งยกขึ้นลูบต้นคอเนียนของเพื่อนที่มีรอยช้ำแดงหลายรอย บางรอยเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วงแล้ว

“ไปโดนอะไรมา?” สปายถามอีกครั้ง สายตาจับจ้องไปยังใบหน้าใสของเพื่อนตัวเล็ก จ้องตาเค้นความจริง

เพราะเอาแต่จ้องตาเพื่อน สปายเลยได้เห็นน้ำใสๆที่เริ่มคลอหน่วยตาของคนตรงหน้า… ทำเอาสปายใจหล่นวูบ

สปายไม่ได้ไร้เดียงสาถึงกับขนาดที่เดาไม่ได้ว่ารอยพวกนี้คือรอยอะไร สปายหวังว่าโซดาจะมีคำพูดเอ่ยออกมาให้สปายสบายใจบ้าง…แต่ท่าทีของโซดาที่แสดงออกมาไม่ได้ทำให้สปายรู้สึกดีขึ้นเลย

“ใครทำโซดา บอกฉันมานะ” สปายออกแรงเขย่าแขนเพื่อนโดยไม่รู้ตัว…

โซดาไม่ตอบอะไรทั้งนั้น คว้าเพื่อนตัวเองมากอดไว้แน่น ใบหน้าซบลงบนลาดไหล่เล็กของสปาย มือทั้งสองข้างโอบกอดสปายไว้อย่างกลัวว่าสปายจะหนีไปไหน …ปล่อยน้ำใสๆไหลออกทางตา

สปายชะงักไปเมื่อเจอแรงโถมเข้ากอดของเพื่อน รู้สึกถึงแรงกอดรัดที่มากขึ้น..สปายนิ่วหน้าน้อยๆ แต่ไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป ยอมยืนนิ่งให้เพื่อนกอดไว้ มือน้อยๆของสปายยกขึ้นลูบหลังลูบไหล่ของเพื่อนตัวเล็กที่กอดเขาไว้อยู่

ไม่มีคำพูดใดเอื้อนเอ่ยระหว่างเพื่อนรักทั้งสองคน

ต่างคนต่างปล่อยให้เวลาทำหน้าที่ปลอบโยน

เมฆสีเทาเคลื่อนคล้อยจากดวงจันทร์…เผยแสงสว่างของดวงจันทร์อีกครั้ง

โซดาผละออกจากสปายช้าๆ… ดวงตาแดงก่ำ..น่ากลัวว่าพรุ่งนี้คงตาบวมแหงๆ

สปายจูงมือเพื่อนมานั่งลงบนฟูกที่มีอยู่อันเดียวในห้อง เสียงใสเอยเบาๆ..

“โซดา…บอกฉันได้ไหม ว่าโซดาไปเจออะไรมา”

โซดาก้มหน้าน้อยๆ ก่อนเงยขึ้นสบตากับสปาย

โซดาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ…ก่อนถ่ายทอดเรื่องราวที่เจอมาให้คนตรงหน้าฟัง

…สปายมีท่าทีตกใจอย่างที่โซดาคาดไว้ แต่จะให้ทำอย่างไร ในเมื่อเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับโซดาจริงๆ

“มันเป็นเจ้าของร้านใช่ไหม?”สปายถามออกไป…เผลอกัดฟันแน่น

โซดาพยักหน้าตอบน้อยๆ..สปายเอยต่ออย่างไม่รีรอ

“เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะไปเคลียร์เอง”

“แต่เขาเป็นเจ้าของร้านนะ เดี๋ยวฉันก็ถูกไล่ออกหรอก” โซดาแย้งเบาๆ

“แล้วแกจะปล่อยให้เขาทำกับแกเฉยๆแบบนี้น่ะหรือ?!แค่เพราะเขามีเงินมากกว่าเลยต้องยอมให้เขาทำอะไรกับเราก็ได้อย่างนั้นหรือ?!”

สปายหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก ขมวดคิ้วแน่นเมื่อได้เห็นท่าทางหวาดเกรงของเพื่อนตัวเล็ก

“มันคงเป็นเรื่องเข้าใจผิดด้วย…ฉัน…”โซดายังเอ่ยไม่ทันจบ สปายก็ขัดขึ้นมาอีก

“เข้าใจถูกหรือผิด ฉันไม่รู้ แต่ฉันไม่ยอมให้เขานิ่งเฉยกับสิ่งที่เขาทำกับแกหรอกเว้ย”

โซดาเผลอกลืนน้ำลายไปอึกใหญ่เมื่อเห็นท่าทางของสปาย

“สปาย…ฉันเข้าใจนะว่าแกรู้สึกอย่างไร แต่ถ้าฉันถูกไล่ออก ฉันไม่รู้จะทำงานที่ไหนแล้วนะ… แกก็รู้ว่างานน่ะหายากแค่ไหน” โซดาเอ่ยอย่างกล้ากลัวๆ

สปายมองเพื่อนตัวเองนิ่งๆ ขมวดคิ้วแน่น ขบกัดริมฝีปากล่างน้อยๆ

…ทำไมอะไรๆก็ดูจะขัดขวางเขาไปเสียทุกอย่างเลยวะ!

อดน้อยใจในโชคชะตาของตัวเองไม่ได้

ถ้าพวกเขาทั้งสองคนมีครอบครัวเป็นที่พึ่ง ถ้าเพียงมีคนดูแลเอาใจใส่อย่างที่เด็กวัยเดียวกันมี… พวกเขาคงไม่ต้องมาขวนขวายทำอะไรแบบนี้!

“ฉันจะไปทำงานกับแก” สปายเอ่ยออกไปนิ่งๆ ..คำพูดที่ทำเอาโซดาเบิกตากว้าง

“แกจะบ้าหรือไง! แกพูดอะไรออกมา รู้ตัวหรือเปล่า?” โซดาบีบแขนเพื่อนแน่น ใช้สายตาที่สปายเพิ่งใช้กับเขาเมื่อครู่จ้องสปายกลับ

“แล้วแกจะให้ฉันทำยังไง! แกจะให้ฉันอยู่เฉยๆรอดูแกกลับมาร้องไห้โดยที่ฉันทำอะไรไม่ได้ แบบนี้น่ะหรือ!!”

“คิดก่อนสิสปาย! งานที่แกบอกว่าจะไปทำมันอันตรายมากนะ! โลกที่นั่นไม่ได้สวยงามเหมือนโลกในโรงเรียนนะ! แกจะเอาอนาคตตัวเองไปเสี่ยงในที่แบบนั้นทำไม!”

“ฉันเป็นห่วงแก! แกเข้าใจไหมว่าฉันเป็นห่วงแก อนาคตอะไรน่ะช่างมัน!  แกเป็นคนในครอบครัวคนเดียวของฉันที่มีอยู่ ถ้าแกเป็นอะไรขึ้นมาแล้วฉันจะอยู่ยังไง..” สปายรู้สึกว่าขอบตาเริ่มมีไอร้อนผ่าว ดวงตาใสคลอวับไปด้วยหยาดน้ำใส…ไม่ต่างจากคนตัวเล็กอีกคน

“แกอย่าพูดเหมือนอนาคตมันไม่สำคัญสิ!”

“ฉันเป็นห่วงแก..ฮือ…ฉันแค่เป็นห่วงแก… ฉันยอมให้แกโดนรังแกแบบนี้ไม่ได้…”

“สปาย…ฉันก็เป็นห่วงแกเหมือนกันนะเว้ย! แกอย่าพูดแบบนี้สิ!”

สปายกอดคอโซดาแน่น ไม่ต่างจากโซดาที่โอบแขนรัดสปายแน่นเหมือนกัน

สองคนกอดกันเคล้าไปกับเสียงสะอื้นพร้อมน้ำใสๆที่ไหลออกจากตา…

“แกบอกว่างานที่นั่นเงินดีไม่ใช่หรือ…ถ้าเราไปทำทั้งสองคน เราก็จะมีเงินเก็บเยอะขึ้นด้วย…” สปายอู้อี้ผ่านไหล่เล็กๆของโซดา

“มันคุ้มที่จะเสี่ยงหรือไง!” โซดาเอ็ดเข้าให้ ใบหน้าซุกซบลาดไหล่ของเพื่อนตัวเล็ก

“ถ้ามันทำให้ฉันสบายใจที่ได้อยู่กับแก แล้วเราสองคนมีเงินเยอะขึ้น…มันก็ดีไม่ใช่หรือ..”

“สปาย…ที่ฉันพูดไปทั้งหมด แกฟังบ้างไหมเนี่ย?!”

สปายผละออกจากอ้อมกอดช้าๆ มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาให้หมดไปจากใบหน้า ดวงตาใสจ้องมองโซดานิ่งงัน …เสียงใสเอื้อนเอ่ย..

“แล้วที่ฉันพูดไปทั้งหมด…แกเข้าใจไหม..?”

ไร้การสนทนาจากคนสองคนหลังจบประโยคนั้น

ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ แต่ยังมีเสียงเข็มวินาทีที่เดินอยู่บนนาฬิกาให้พอได้ยิน

“ฉันต้องทำยังไง…ฉันควรทำยังไงดี” โซดาเอ่ยคล้ายพึมพำกับตัวเอง ใบหน้าใสส่ายไปมาอย่างคนหาทางออกไม่ได้

“แค่แกให้ฉันไปทำงานกับแก…ให้ฉันได้เห็นแกอยู่ในสายตา”

“สปาย…ทำไมแกถึงดื้อได้ขนาดนี้เนี่ย!”

สีหน้าจริงจังของสปายทำเอาโซดาถอนหายใจแรงๆไปหลายครั้ง น่ากลัวว่าปอดจะทำงานไม่ทัน..

“จะเอาให้ได้เลยใช่ไหม?” โซดาเอ่ยอย่างหน่ายๆ..  สปายพยักหน้าตอบโดยไม่ต้องคิด

“บอกไว้ก่อนเลยนะว่าฉันไม่เต็มใจให้แกไปด้วย แล้วถ้ามีอะไรเกิดขึ้นขึ้นมา แกต้องรีบบอกฉันทันที เข้าใจไหม?” สปายอมยิ้มน้อยๆเมื่อได้ยินประโยคคล้ายอนุญาตนั่น

“แกทำได้ ฉันก็ต้องทำได้ … แกไม่เป็นอะไร ฉันก็ต้องไม่เป็นอะไร”

สปายบีบมือเพื่อนแน่นคล้ายขอให้เชื่อใจ

โซดาถอนหายใจหนักๆอีกครั้ง

มาถึงขนาดนี้…คงห้ามสปายไม่ได้แล้ว


แสงสีทองของดวงอาทิตย์เริ่มจับขอบฟ้า…เป็นสัญญาณว่าเช้าวันใหม่กำลังจะเริ่มต้นอีกครั้ง.. ลมอ่อนๆโชยทักทายยอดไม้ใหญ่…ฝูงนักพากันกินออกจากรัง…

น้ำแข็งชันตัวลุกนั่งบนเตียงกว้าง ยืดแขนสองข้างขึ้นไปในอากาศ บิดเอี้ยวตัวซ้ายขวาจนพอใจก่อนเดินเข้าห้องน้ำไปชำระร่างกาย

...พร้อมรับมือกับวันใหม่

ร่างสูงในชุดพร้อมไปเรียนเดินลงจากชั้นสองของตัวบ้าน…มือหนาไล่ติดกระดุมเสื้อที่ข้อมือ พลันสายตาปะทะเข้ากับร่างสูงใหญ่ของคนเป็นพี่ชายที่นั่งหัวโด่อยู่ที่โซฟาในห้องนั่งเล่น

“มึงไม่ได้ค้างที่ร้านหรือวะ?” น้ำแข็งเดินไปทิ้งตัวตรงข้ามกับเบียร์ที่นั่งขมวดคิ้วอยู่  ..เบียร์ถอนหายใจน้อยๆกับคำถามนั้น

“มึงเห็นกูอยู่บ้าน แสดงว่ากูค้างที่บ้านว่ะ” ประโยคที่ตอบออกไปทำเอาน้ำแข็งได้แต่มองอย่างหน่ายๆ

“ใครจะไปรู้… ปกติเห็นมึงเอาใคร มึงก็อยู่จนเช้า…” น้ำแข็งตอกเข้าให้ ทำเอาเบียร์ถึงกับถอนหายใจออกมาแรงๆ

…มันยังไม่ทันได้ทำอะไรอย่างที่ไอ้น้ำแข็งว่าน่ะสิ!

เขาไม่มีอารมณ์จะไปทำอะไรกับใครทั้งนั้น

แค่หลับตาก็ได้กลิ่นหอมๆของคนตัวเล็กนั่น…จะทำอะไรก็คิดถึงผิวขาวเรียบเนียนที่ได้สัมผัส… ไหนจะใบหน้าเนียนใสสีเรื่อที่ชวนติดตา

แค่เด็กคนเดียว…

ไอ้เด็กคนนั้นมันเป็นใครมาจากไหนวะ! ทำไมทำเขางุ่นง่านได้ขนาดนี้!

มีอย่างที่ไหนมาทำค้างแล้วก็วิ่งหนีไปดื้อๆ! …อย่าให้เจอนะ

…จะไม่ปล่อยให้ไปไหนเลย!

“ตกลงมีเรื่องอะไร?”  เสียงของน้ำแข็งที่ลอยเข้าหูทำเอาเบียร์คืนสติ

“ไม่มีอะไรว่ะ …แล้วมึงไม่ไปเรียนหรือไง?” เบียร์ปัดคำถามด้วยการถามคำถามกลับ …น้ำแข็งมองพี่ชายอย่างผิดสังเกต

 แต่ก็ไม่คั้นเอาความต่อ…

…ถ้ามันอยากเล่าเดี๋ยวมันก็เล่าเอง

“ไปเรียนน่ะไปแน่…มึงมากินข้าวเช้ากับกูมา”

น้ำแข็งเดินนำพี่ชายไปยังห้องรับประทานอาหาร

บ้านหลังนี้มีเจ้าบ้านคือน้ำแข็งกับเบียร์สองคน..แต่ภายในบ้านมีผู้อยู่อาศัยมากกว่า 20 คน…ทั้งพี่เลี้ยง ป้าแม่บ้าน ลุงคนสวน พี่คนขับรถ และพี่พนักงานรักษาความปลอดภัยทั้งประจำอยู่ที่บ้าน ทั้งที่ตามอารักขาส่วนตัว …ยังไม่นับพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ผับอีก 10 กว่าชีวิต…

 พ่อกับแม่ของเบียร์และน้ำแข็งทำธุรกิจอยู่ต่างประเทศ..นานๆจะกลับบ้านที เห็นบ่นว่าที่ต่างประเทศราคาหุ้นดีกว่า เลยย้ายสำมะโนครัวไปตั้งหลักปักฐานกันอยู่ที่นั่น ส่วนหุ้นที่เคยถือไว้ในบริษัทที่ไทยก็ทิ้งไว้ให้พวกเขาสองพี่น้องช่วยกันดูแล… น้ำแข็งกับเบียร์ไม่ได้เดือดร้อนที่ถูกปล่อยให้อยู่กันสองคนเท่าไรนัก.. ราคาหุ้นที่ไทยก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น…อีกทั้งธุรกิจที่สองพี่น้องลงทุนลงแรงทำอยู่ก็ไปได้สวยดี

เนื่องจากน้ำแข็งโตมากับการทำธุรกิจ พ่อกับแม่มีธุรกิจใหญ่เป็นของตัวเอง  พี่ชายก็ศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์มาช่วยธุรกิจที่บ้าน …น้ำแข็งจึงเลือกศึกษาอะไรที่สามารถนำมาปรับใช้ได้…ปัจจุบัน น้ำแข็งกำลังศึกษาคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี สาขาวิชาการบริหาร ชั้นปีที่ 3

ความรู้ที่เรียนมา…ได้ใช้จริงตอนมีผับเป็นของตัวเองนั่นเอง

“คืนนี้เข้าร้านดึกหน่อยนะ…มีนัดคุยโปรเจคกับอาจารย์” น้ำแข็งเอ่ยขึ้นพลางหยิบผ้ากันเปื้อนบนตักขึ้นเช็ดปาก พอได้มองไปทางพี่ชายแล้วก็ต้องชะงัก

…ไอ้เบียร์เคี้ยวข้าวช้าในระดับเหมือนอมข้าวไว้ในปาก สายตามันเหม่อลอย หาจุดโฟกัสไม่เจอ

“มึงเป็นอะไรวะ?” เสียงของน้ำแข็งไม่ได้เบานัก ทำเอาพี่ชายที่นั่งเหม่ออยู่ถึงกับสะดุ้งสุดตัว 

เบียร์กลืนข้าวในปากลงคอ หยิบน้ำมาดื่มตามอีกหลายอึก กระแอมเบาๆ

“มึงว่าอะไรนะ?” เสียงทุ้มเอ่ยถามน้องชาย ปรับสีหน้าให้เหมือนว่าเมื่อครู่เขากำลังตั้งใจฟังมันอยู่

น้ำแข็งจ้องเขม็งไปที่คนเป็นพี่ “มึงมีความลับอะไรอยู่ใช่ไหม?”

คำถามของน้องทำเอาเบียร์ถึงกับสำลักอากาศ

“กะ..กูจะมีอะไร๊ ไม่มี๊” เสียงสูงได้อีก น้ำแข็งฟังยังอยากยกมืออุดหู

“ถ้ามันเกี่ยวกับมึงหรือร้านก็บอกกูมา แต่ถ้าไม่ใช่ก็ไม่ต้องเล่า”

น้ำแข็งเอ่ยแค่นั้น รอดูปฏิกิริยาจากคนเป็นพี่

เบียร์มองน้ำแข็งด้วยแววตาลังเล…

ไม่ใช่ไม่อยากเล่า แต่มันไม่รู้จะเริ่มเล่าอย่างไร

ขนาดเขาเองยังรู้สึกว่ามันแปลก…

มีอย่างที่ไหนเอาแต่คิดถึงเด็กที่ไหนก็ไม่รู้ที่มาทำให้ค้างแล้วจากไป

มันไม่ใช่ปกติวิสัยของไอ้เบียร์คนนี้เลย!

แค่ผ่านมา One Night Stand ..จบก็จบไปสิ!

…คืนเดียว ไม่มีการสานสัมพันธ์ต่อ

แต่นี่ยังไม่ได้ทำอะไรเด็กคนนั้นมากไปกว่าจูบเลยด้วยซ้ำ!

…แล้วมันเรื่องอะไรที่เขามัวแต่คิดถึงเด็กคนนั้น …คิดถึงร่างน้อยๆอันสั่นเทายามอยู่ในอ้อมแขนเขา…คิดถึงผิวสัมผัสเรียบเนียน…ริมฝีปากหอมหวาน

…หรือแค่เพราะเขาอยากดื่มกินรสหอมหวานนั้นมากกว่านี้?

เบียร์สะบัดหน้าน้อยๆขับไล่ความคิดที่ทำให้เขารู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง…

“กูไปเรียนละ” น้ำแข็งถอนหายใจแรงๆก่อนลุกออกไป

…ท่าทางแบบนี้ คงต้องปล่อยไว้สักพัก

…เดี๋ยวมันก็เล่าออกมาเอง





MOONLIGHT









ตอนที่ 3 มาแล้วค่ะ  ^/////////////^

ตอนนี้มัน… แปลกๆมั้ย? แบบว่า โซดากับสปายดูเว่อร์ไปหรือเปล่า? ทุกคนคิดว่าไงคะ?
แบบ … แอมคิดว่าเด็กอายุ 16 ทำงานแบบนี้ คงมีเรื่องคิดมากแน่ๆ
แล้วโซดาที่เจอเรื่องแบบนั้น …ถ้าเบียร์ทำอะไรมากกว่านี้ คงทำร้ายจิตใจโซดามากแน่ๆ เพราะน้องไม่ได้สมยอม
สปายก็ไม่ได้คิดอะไรมากนอกจากเป็นห่วงเพื่อนคนเดียวที่ถือเหมือนเป็นคนในครอบครัว
ดีที่เบียร์ไม่ได้ทำอะไรโซดามากไปกว่านี้ …ไม่งั้น ….TT

ให้คำแนะนำได้นะคะ ^^ 

ถ้าเทียบกับเรื่องที่แอมเคยแต่งมาอย่างเรื่องขนมจีบซาลาเปา… เรื่องนี้คงต่างจากขนมจีบซาลาเปาลิบลับ


ฝากติดตามให้กำลังใจสปายและโซดาด้วยนะคะ …  ^^
มาลุ้นกันว่าใครจะคู่ใคร ฮี่ๆๆๆ


เจอกันตอนต่อไปค่ะ ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mtd

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
มาแล้ววววว :katai2-1:

รอสปายกับน้ำแข็งเจอกัน :z1:

ทุกปัญหาต้องผ่านไปให้ได้นะเด็กๆ :กอด1:

ออฟไลน์ iiam

  • อัยแอม Bulan
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-2


Chapter 4


รถเบนซ์สีดำคันหรูเข้าจอดในที่จอดรถของเจ้าของร้าน เจ้าของรถลงจากรถก่อนก้าวเท้าเดินเข้าร้านไป

น้ำแข็งเดินผ่านพนักงานรักษาความปลอดภัยด้านหน้าร้าน…

…ร้านที่ถูกเรียกว่าผับ ย่อมต้องมีพนักงานรักษาความปลอดภัยบ้าง

ร่างสูงพาตัวเองเดินเข้าร้าน…อ้อมไปขึ้นบันไดเพื่อพาตัวเองไปยังห้องทำงานเหมือนทุกครั้ง

วันนี้เขาเข้าร้านช้ากว่าทุกวัน.. เพราะต้องเตรียมโปรเจคกันตั้งแต่ต้นเทอม… ถึงจะยุ่งแค่ไหน อย่างไรเสียเขาก็ไม่ยอมทิ้งงานที่ร้าน

น้ำแข็งเดินไปตามทางเดินจนถึงห้องทำงานของตัวเอง …เปิดประตูเข้าไป…เจอบุคคลคุ้นเคยนั่งอยู่ที่โซฟา

เบียร์นั่งมองผ่านกระจกสีมัวตรงไปยังด้านล่างของร้าน ..คิ้วหนาของคนเป็นพี่ชายขมวดน้อยๆ

“เป็นอะไรวะ?” น้ำแข็งเดินไปทิ้งตัวลงตรงข้ามพี่ชาย ได้ยินเบียร์ถอนหายใจเบาๆ

“กูก็ไม่รู้ว่ะ…กูเป็นอะไรวะ?” เบียร์ตอบคำถามด้วยคำถาม… น้ำแข็งส่ายหน้าอย่างหน่ายๆ.. ท่าทางไอ้เบียร์มันแปลกๆไปตั้งแต่วันก่อน

น้ำแข็งลุกหนีพี่ชาย …ร่างสูงเดินตรงไปที่โต๊ะทำงานที่มีเอกสารมากมายอยู่บนนั้น ด้านหลังโต๊ะทำงานมีชั้นวางเอกสารที่รวบรวมบัญชีรายรับรายจ่ายของร้าน รวมไปถึงเอกสารสัญญาสำคัญต่างๆ

น้ำแข็งหยิบแฟ้มเอกสารมาตรวจดูบัญชีของร้านเหมือนทุกวัน หากขาดเหลืออะไรจะได้จัดการถูก

เสียงเพลงดังกระหึ่มในร้านเล็ดลอดเข้าห้องทำงานได้เพียงน้อยนิด..คล้ายเสียงเพลงคลอเบาๆชวนฟังมากกว่า..ด้วยระดับเสียงเพียงเท่านี้จึงไม่เป็นการรบกวนการทำงานของน้ำแข็งนัก

ภายในห้องไร้การสนทนา น้ำแข็งจดจ่ออยู่กับแฟ้มเอกสาร..ในขณะที่เบียร์ยังนั่งจ้องบรรยากาศในร้านไม่ละสายตาไปไหน

จนกระทั่งเบียร์ลุกเดินไปยืนชิดกระจกห้องทำงาน สายตามองลงไปด้านล่างคล้ายจับจ้องอะไรบางอย่างอยู่ …น้ำแข็งรู้สึกถึงความผิดปกตินั้นจึงลุกไปยืนเคียงข้างพี่ชาย

…สายตาน้ำแข็งจับโฟกัสไปยังจุดผิดปกติภายในร้าน

ภาพที่มองเผินๆยังรู้สึกผิดสังเกต

…เด็กตัวเล็กๆคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ท่ามกลางวงล้อมของผู้คนหลายสิบชีวิต…ท่าทางของเด็กคนนั้นดูเกรี้ยวกราดไม่ยอมใคร ถึงน้ำแข็งจะไม่ได้ยินว่าเด็กคนนั้นพูดว่าอะไร … แต่จากท่าทางเกรี้ยวกราดนั้น ..ก็พอจะเดาได้ว่าคงเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแน่ๆ

..น้ำแข็งหมุนตัวเดินออกไปจากห้องทำงาน ก้าวเท้าเดินลงบันไดอย่างมั่นคง… สายตาสอดส่องหาเป้าหมายที่ทำให้เขาต้องลงมา

พลันสายตาคมปะทะเข้ากับพนักงานในร้านที่คุ้นเคยกันดีกำลังเดินตรงเข้ามา ไม่รอช้าที่จะเข้าไปถามเรื่องราว

“เกิดอะไรขึ้นหรือครับพี่พิมพ์?” พนักงานสาวแต่ประสบการณ์เกินวัยขบริมฝีปากน้อยๆอย่างลังเล พยายามหลบสายตาน้ำแข็งอย่างจงใจ

น้ำแข็งขมวดคิ้วแน่นกับท่าทีของหัวหน้าพนักงาน

…ถ้าเป็นเรื่องลูกค้าก็รีบบอกสิ! จะได้รีบเคลียร์

บ่อยครั้งที่ลูกค้าทะเลาะกันแล้วพนักงานในร้านเอาไม่อยู่ น้ำแข็งกับพนักงานรักษาความปลอดภัยต้องมาช่วยกันดูแลพื้นที่

ถึงใครจะมองว่านี่ไม่ใช่เรื่องของคนเป็นหัวหน้า..แต่น้ำแข็งกลับมองว่าเรื่องพวกนี้นี่แหละที่หัวหน้าต้องเป็นคนจัดการ..ความไว้วางใจของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ  .. ถ้าคนเป็นหัวหน้าไม่ยอมแสดงตัวให้ลูกค้าเห็น ลูกค้าที่ไหนจะเชื่อใจ..

น้ำแข็งส่งสายตาคาดคั้นคำตอบจากพิมพ์ หากแต่พิมพ์กลับไม่ยอมสบตาน้ำแข็งเลย

น้ำแข็งไม่ทนรออาการอึกอักของพนักงานสาว …ร่างสูงเดินฝ่าฝูงชนไปยังกลุ่มคนที่เริ่มแตกตื่นตรงหน้า ได้ยินเสียงคนตะโกนโหวกเหวกแข่งกับเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม

ร่างสูงเดินเข้าหาเป้าหมายจนภาพของเหตุการณ์ตรงหน้าขัดเจนขึ้น

..เด็กตัวเล็กๆ กำมือแน่นเหวี่ยงเข้าใส่ชายหนุ่มร่างใหญ่ น้ำแข็งชะงักไปนิดเมื่อเห็นภาพนั้น… ไม่คิดว่าคนตัวเล็กกว่าคือคนได้เปรียบ

ยังไม่ทันที่น้ำแข็งจะยกยอในความสามารถของเด็กตัวเล็ก ร่างใหญ่ที่โดนหมัดซัดหน้าเมื่อครู่หันมากระชากคอเสื้อของเด็กคนนั้นจนเท้าแทบลอยจากพื้น…

ตอนนั้นเองที่น้ำแข็งเริ่มเข้าใจอะไรชัดเจนขึ้น

ป้ายสี่เหลี่ยมเล็กๆที่กลัดอยู่ที่หน้าอกเสื้อของเด็กตัวเล็กคือคำตอบ…

ป้ายที่ระบุชื่อของพนักงานในร้าน!

น้ำแข็งเบิกตากว้างกับเหตุการณ์ตรงหน้า พลันร่างหนาโอนเอนน้อยๆเมื่อเจอแรงปะทะของคนที่เพิ่งวิ่งมาชนหลัง

…พิมพ์หอบหนักๆเมื่อวิ่งมาถึงจุดเกิดเหตุได้

แต่มันคงช้าไป…

เจ้านายร่างใหญ่เดินตรงเข้าไปไกล่เกลี่ยกับผู้ชายที่กำลังขยุ้มคอเสื้อของ ‘เด็กใหม่’ อยู่

พิมพ์เผลอกลั้นหายใจเมื่อเห็นสายตาที่น้ำแข็งมองเด็กคนนั้น..

เมื่อกี๊ตั้งใจจะออกไปตามพวกที่เฝ้าหน้าร้านแท้ๆ! ถ้าวิ่งออกไปเร็วกว่านี้คุณน้ำแข็งคงไม่ต้องลงมาเอง!

…น้องคนนั้นเพิ่งมาทำงานวันนี้วันแรกเองนะ!

จะโดนไล่ออกตั้งแต่วันแรกไหมเนี่ย!

พิมพ์ไม่ทันวิ่งไปดักหน้าน้ำแข็งได้อย่างที่ตั้งใจ ได้แต่มองร่างสูงใหญ่ของเจ้าของร้านเดินลิ่วตรงไปยังห้องทำงานโดยมี ‘เด็กใหม่’ เดินตามไปด้วย

แอบคิดไปถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในห้องทำงาน พิมพ์ลอบกลืนน้ำลายไปอึกใหญ่

เมื่อเหตุการณ์ตรงหน้าเป็นปกติ ลูกค้าในร้านก็หันไปโยกตัวตามจังหวะเพลงต่อ ประหนึ่งเมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น พิมพ์มองตามลูกค้าตัวใหญ่ที่เพิ่งมีเรื่องไป ผู้ชายคนนั้นดูท่าทางหัวเสีย แต่ไม่ทันไรก็หันไปยิ้มหวานใส่หญิงสาวโต๊ะข้างๆ … พิมพ์ส่ายหน้าอย่างหน่ายๆ

พิมพ์หันหลังกลับไปตรงส่วนเคาน์เตอร์บาร์ จัดการดูแลสต็อกสินค้าอย่างที่ควรทำ ในมือถือแฟ้มเอกสารที่มีตารางสินค้าอย่างคร่าวๆ แต่ทันไรก็มีมือเล็กๆมาจับแขนพิมพ์แน่น ทำเอาหญิงสาวเกือบกรีดร้องออกมา

“พี่พิมพ์!!” เสียงเรียกดังเคล้ามากับเสียงหอบ พิมพ์เงยหน้ามองเจ้าของมือน้อยๆนี้ก็พอเข้าใจเรื่องราวทันที

“พี่พิมพ์ สปาย…สปายเป็นไงบ้าง ใครทำอะไรสปาย แล้วสปายอยู่ไหน?” โซดาละล่ำละลักออกมา ท่าทางเหนื่อยหอบ ท่าทางที่พิมพ์เดาได้ทันทีว่าคงวิ่งมาหาเขาแน่ๆ

หญิงสาวตีสีหน้าลังเล…แต่บอกหรือไม่บอกมันก็คงไม่ต่างกันเท่าไรวะ!

“สปายคงไปพบคุณน้ำแข็งที่ห้องทำงาน”

คำตอบของพิมพ์ทำเอาโซดาเบิกตากว้าง

ตอนโซดากำลังเดินเสิร์ฟเครื่องดื่มอยู่ จู่ๆก็ได้ยินคนพูดว่ามีคนทะเลาะกัน โซดาคิดว่าตัวเองชินแล้วกับเรื่องแบบนี้เลยไม่ได้สนใจอะไร แต่พอเดินเข้าใกล้พนักงานด้วยกัน ได้ยินคนพูดถึงเรื่องของเด็กใหม่ที่บอกว่าคุณน้ำแข็งลงมาตวาดถึงที่ โซดาไม่อยากคิดหรอกว่าเด็กใหม่คนนั้นคือสปาย แต่ช่วงนี้ไม่มีพนักงานในร้านคนไหนมาใหม่เลยนอกจากสปาย ความเป็นห่วงครอบงำจิตใจ พยายามเดินหาสปายทั่วร้านก็หาไม่เจอ กดโทรศัพท์หาตั้งหลายครั้งก็ไม่มีการรับสาย จนโซดาตัดสินใจวิ่งตามหาพี่พิมพ์ทั่วร้านเพื่อถามให้หายข้องใจ

คำตอบที่ได้ไม่ได้ต่างจากที่คิดไว้เลย…

เพิ่งคลาดสายตากับสปายแป๊บเดียว! ทำไมมันถึงต้องไปห้องทำงานของคุณน้ำแข็ง!

“ไปทำไมพี่พิมพ์?!” ความห่วงเพื่อนทำเอาโซดาเริ่มทำอะไรไม่ถูก ในหัวคิดไปต่างๆนานาว่าสปายจะต้องเจออะไรบ้างในห้องทำงานของคุณน้ำแข็ง

“คงเป็นเรื่องเข้าใจผิด พี่ว่าสปายไม่…เฮ้ย!  โซดา จะไปไหน?!”

พิมพ์ยังพูดไม่จบดี รุ่นน้องตัวเล็กก็วิ่งหายลับไปจากสายตา

พิมพ์ลอบถอนหายใจแรงๆ…

คงจะดีกว่านี้ ถ้าทางที่สปายวิ่งไป ไม่ได้นำไปสู่ห้องทำงานขงคุณน้ำแข็ง…

พิมพ์อดไม่ได้ที่จะภาวนาว่าอย่าให้เกิดเรื่องไม่ดีกับเด็กทั้งสองคนเลย

เด็กก็ตัวแค่นั้น.. อายุก็แค่นี้… คนอย่างคุณน้ำแข็งคงไม่ใจร้ายกับเด็กตัวเล็กๆสองคนนั้นหรอก

กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยก็มีมือลึกลับมาจับแขนพิมพ์ไว้อีกครั้ง ..ที่เดิมกับที่โซดาเพิ่งจับไปเมื่อกี๊ …ทันทีที่ความรู้สึกอุ่นร้อนทาบทับที่แขนอีกครั้ง ครั้งนี้พิมพ์อดไม่ได้ที่จะเผลอกรีดร้องออกมา

“เป็นอะไร?” เสียงทุ้มดังขึ้นตรงหน้า พิมพ์เงยหน้ามองเจ้าของมือ ก่อนลอบถอนหายใจเบาๆ …

“คุณเบียร์! มาไม่ให้สุ้มให้เสียง” เบียร์ปล่อยมือออกจากแขนของหญิงสาว ก่อนเอ่ยสั่งเครื่องดื่มมาดับกระหาย ทิ้งตัวนั่งลงตรงข้ามหญิงสาวที่เป็นอีกด้านของเคาน์เตอร์

หลังจากที่น้ำแข็งพรวดพราดออกจากห้องทำงานมา เบียร์ก็ออกมาหาคำตอบให้ตัวเองบ้าง

พอจะรู้อยู่แล้วล่ะว่าน้ำแข็งออกจากห้องทำงานเพราะอะไร …เหตุการณ์นั้นเบียร์เองก็เห็นจากห้องทำงาน ปล่อยให้น้ำแข็งมันจัดการไปแล้วกัน 
เป็นพี่ชายที่ดีจริงๆเลยเบียร์…

เบียร์สอดส่องสายตาหาตัวการที่ทำให้เขางุ่นง่านได้ข้ามวัน แต่หาเท่าไรก็หาไม่เจอ เมื่อไม่รู้จะไปไหน พอดีกับที่สายตาปะทะเข้ากับร่างของพนักงานคนสนิท จึงเข้ามาไต่ถามเสียเลย

เบียร์ดื่มน้ำสีม่วงเข้มในแก้วไปอึกใหญ่ ก่อนเรียกชื่อพนักงานสาวที่กำลังอ่านเอกสารในแฟ้มงานของเธอ“พิมพ์ …”

“คะ?”

เบียร์มีสีหน้าลังเลเล็กน้อย ก่อนเอ่ยออกมา

“..วันก่อน  เธอส่งใครไปที่ห้องฉัน?”  ถามแล้วก็เกิดคันหูขึ้นมาเสียอย่างนั้น…มือหน้ายกขึ้นเกาหูอย่างทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าคำถามแค่นั้นทำไมเขาต้องทำอึกอักด้วย

พิมพ์มองท่าทางแปลกๆของเจ้านายอย่างแปลกใจ ยิ่งแปลกใจเข้าไปอีกเมื่อได้ยินคำถามจากปากของคนตรงหน้า

หญิงสาวมีสีหน้าครุ่นคิดกับคำถามนั้น…พยายามนึกหาคำตอบ…  พลางมองหน้าเจ้านาย …

ปกติส่งใครไปไม่เห็นมีมาถาม ทำไมวันนี้ถึงมาถาม?

หรือคุณเบียร์ได้รับการบริการที่ไม่ถูกใจ?

แต่ไม่น่าจะนะ…พิมพ์ค่อนข้างมั่นใจกับการเลือกคน

“แนนมั้งคะ? หรือยุ้ย? ไม่รู้เหมือนกันแฮะ…” พิมพ์นึกยังไงก็นึกไม่ออก คุณเบียร์ให้พิมพ์หาคนให้ครั้งเดียวที่ไหน …ไม่รู้หาไปให้กี่คนต่อกี่คน แล้วชื่อแต่ละคนก็แทบจะไม่ซ้ำกันเลย พิมพ์จำไม่ได้หรอก

“ไม่ใช่…” เบียร์เอ่ยออกมา น้ำเสียงแหบแห้ง ร่างสูงยืดตัวกระแอมน้อยๆ ก่อนเอ่ยต่อ “ไม่ใช่ผู้หญิง”

“ฮะ?!” พิมพ์ร้องลั่น …มันมีด้วยเหรอที่พิมพ์ไม่ส่งผู้หญิงไปให้ … หรือว่าเป็นผู้หญิงที่ผ่าออกแล้ว? แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ไม่น่าจะแยกออกง่ายขนาดนั้นสิ

เบียร์ชะงักไป พยายามนึกว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง…

อ่า….จริงสิ วันนั้นมีผู้หญิงอีกคนนี่หว่า

แล้วเด็กคนนั้นเข้าไปทำอะไรที่ห้องเขา?

“เด็กตัวเล็กๆ..” เบียร์วางฝ่ามือขนานกับพื้น ยกสูงขึ้นกลางอากาศระดับความสูงของมืออยู่ประมาณคิ้วของเขา

พิมพ์ขมวดคิ้วน้อยๆ.. มองท่าทางแปลกๆของเบียร์ แล้วก็มองมือหนาที่ยกสูงกะระดับความสูงของคนที่พูดถึง

…เด็กผู้ชายตัวเล็กๆ…มันก็มีไม่กี่คน

เคยมีใครขึ้นไปที่ห้องคุณเบียร์ด้วยหรือ?

แต่…เหมือนจะมีแฮะ

“โซดา?” พิมพ์เอ่ยออกมา เบียร์มองหน้าพนักงานสาวด้วยแววตาฉงน

“ไม่ ไม่ได้สั่งโซดาเพิ่ม แค่ไวน์ขวดเดียวก็พอแล้ว”

“ไม่ใช่ค่ะ  ไม่ใช่” พิมพ์หลุดขำออกมาเบาๆ รีบเอ่ยต่อ “หมายถึง… เด็กที่คุณเบียร์พูดถึง บางทีอาจจะเป็นโซดา”

“โซดา?” เบียร์ขมวดคิ้วน้อยๆ  ท่าทางของเจ้านายหนุ่มทำให้พิมพ์รีบพูดต่อ

“น้องโซดาน่ะค่ะ…น่าจะใช่ วันนั้นคนที่พิมพ์เรียกตัวมา เธอมาช้ามาก เลยหาคนเอาเครื่องดื่มไปให้คุณเบียร์ก่อน” เพราะปกติคนที่ขึ้นไปบริการคุณเบียร์จะเป็นคนยกเครื่องดื่มไปเอง แต่วันนั้นมันผิดพลาดเล็กน้อย เลยต้องแก้สถานการณ์กันไปก่อน

เบียร์ปะติดปะต่อเรื่องราวที่ได้ฟังจากปากของพนักงานคนสนิทแล้วเผลอยิ้มกว้าง

“เด็กคนนั้นอยู่ไหน?” น้ำเสียงร้อนรนจนพิมพ์ตกใจ

“ใจเย็นค่ะคุณเบียร์ น้องเขาทำอะไรให้คุณเบียร์ไม่พอใจหรือเปล่าคะ?”

มีไม่กี่เรื่องหรอกที่ทำให้เจ้านายหนุ่มร้อนรนแบบนี้ ถ้าพนักงานในร้านทำอะไรพลาดหรือทำงานไม่ถูกใจ ก็ถูกเรียกตัวไปพบกันทุกคน

เบียร์กระแอมน้อยๆ ยืดตัวตรงแน่ว “ไม่มีอะไร๊ ไม่ได้ทำอะไรเล๊ย ”

เบียร์ชะงักไปนิด ก่อนก้มหน้าไปใกล้ๆพนักงานสาว

“เธอแน่ใจนะ ว่าวันนั้นเธอส่งคนไปคนเดียว” ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องกระซิบ

“ค่ะ…”

“ไม่มีใครเสนอตัวให้เธอก่อนใช่ไหม?”

พิมพ์ชะงักไปนิดกับคำถามนั้น ก่อนตอบน้ำเสียงหนักแน่นเช่นเดิม..“ค่ะ”

เบียร์ยืดตัวกลับมานั่งเหมือนเดิม มือหนาคว้าแก้วไวน์มาเขย่าเบาๆก่อนเทน้ำสีม่วงเข้มผ่านลำคอในครั้งเดียว

“ขอบใจมาก” เบียร์วางแก้วเปล่าไว้ก่อนลุกหายออกไปทางเดียวกับที่โซดาวิ่งไป

พิมพ์มองตามแผ่นหลังกว้างของเจ้านายหนุ่ม ใบหน้าหญิงสาวเจือไปด้วยความสงสัย  ....แปลกๆนะคุณเบียร์


ออฟไลน์ iiam

  • อัยแอม Bulan
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-2

เบียร์เดินฝ่าฝูงชนไปยังห้องทำงาน สองเท้าก้าวเดินไปเรื่อยๆ ในใจนึกไปถึงเรื่องที่เพิ่งได้คุยกับพิมพ์

ถ้าอย่างนั้น วันนั้นก็คงเป็นเรื่องเข้าใจผิด …เด็กคนนั้นคงแค่เอาเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ

คิดแล้วอดเสียดายไม่ได้

น่าจะมีบริการอะไรเล็กๆน้อยๆเพิ่มให้บ้าง…

พลันนึกถึงร่างน้อยๆที่สั่นเทาอยู่ในอ้อมแขนแล้วใจกระตุกวูบ

จะหาว่าตัวสั่นเพื่อยั่วยวนเขาก็เป็นไปไม่ได้..คงไม่มีใครบังคับตัวเองให้สั่นระริกแบบนั้นได้หรอก

…หรือเด็กคนนั้นกลัวเขา?

กำลังคิดอะไรเพลินๆ กว่าจะรู้ตัวก็มาหยุดอยู่บนทางที่นำไปสู่ห้องทำงาน

แต่ตอนนี้ไอ้น้ำแข็งคงกำลังจัดการเรื่องที่มีพนักงานทะเลาะกับลูกค้าอยู่แน่ๆ …ตอนเขาลงไปเดินเล่นเมื่อกี๊ก็ได้ยินหลายคนคุยกันว่ามีคนทะเลาะกับพนักงานในร้าน ถ้าเป็นอย่างนั้น…ป่านนี้ไอ้น้ำแข็งคงกำลังปล่อยเกล็ดหิมะเต็มห้องทำงานแล้วแน่ๆ

เบียร์เปลี่ยนเป้าหมายใหม่ …ร่างสูงตั้งใจเดินไปยังห้องนอนแทน

แต่เพราะทางเดินที่ต้องเดินผ่านห้องทำงานและเสียงโวยวายที่ดังอยู่ตรงนั้น ทำให้เบียร์หยุดชะงัก เมื่อสายตาปะทะเข้ากับคนที่กำลังตามหา

…เจอตัวแล้ว

ห่างจากห้องทำงานไม่กี่ก้าว ร่างสูงใหญ่ของชายฉกรรจ์กำลังพยายามเจรจากับผู้ชายตัวเล็กๆ

ท่าทางของคนตัวเล็กดูเคร่งเครียดมากขึ้นเมื่อชายฉกรรจ์หน้าห้องไม่อนุญาตให้ผ่านเข้าไปในห้องทำงานนั้น

“พี่! ให้ผมเข้าไปหาเพื่อนผมหน่อยนะครับ..นะพี่นะ เพื่อนผมมันเพิ่งมาทำงานวันแรก ไม่งั้นพี่ก็เข้าไปช่วยพูดกับคุณน้ำแข็งให้ผมหน่อยสิ” โซดาละล่ำละลักพูดด้วยท่าทางเคร่งเครียด พยายามเดินฝ่าวงแขนใหญ่เข้าไปในห้องไม่รู้ตั้งกี่ครั้งแต่ก็โดนกักตัวไว้ทุกครั้ง

“พี่…ผมขอร้อง” โซดาได้แต่ส่งสายตาเว้าวอนไปให้ชายผู้ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ดีเยี่ยม

“ไม่ได้ก็คือไม่ได้ กลับไปทำงานของเธอซะ”

“โถ่…พี่…” โซดาถอนหายใจไปไม่รู้กี่ครั้งแล้วเหมือนกัน

ทันใดนั้นท่าทางของชายฉกรรจ์ที่รบกับโซดาอยู่ก็มีท่าทีสงบขึ้น  โซดาเห็นอย่างนั้นรีบถือโอกาสเดินผ่านเข้าไปยังเป้าหมาย

แต่ทว่ากลับช้ากว่ามือหนาของอีกคนที่คว้าแขนของโซดาไว้

“จะไปไหน?” เสียงดังเข้ามาก่อนที่โซดาจะได้เห็นหน้าคนพูด ตั้งใจจะหันกลับไปตวาดที่มาขัดจังหวะโอกาสดีๆ
ทันทีที่เห็นหน้าคนที่จับแขนไว้ โซดาแทบอยากร้องไห้

“คุณเบียร์..” ได้แต่ครางชื่อคนตรงหน้าเบาๆ

เบียร์มองตาใสของคนตัวเล็กนิ่งๆ

ไร้การสนทนาของทั้งสองคน บุคคลอีกคนที่ยืนอยู่ด้วยเริ่มส่งเสียงออกมา

“ขอโทษครับคุณเบียร์ ผมพยายามห้ามแล้ว แต่เด็กคนนี้ดึงดันจะเข้าไปให้ได้” ชายฉกรรจ์คนนั้นยืนกุมมือก้มหน้า

“ไม่เป็นไร เด็กคนนี้…ฉันจัดการเอง” เบียร์เอ่ยโดยยังจับจ้องใบหน้าหวาน มือหนาจับแขนบางไว้แน่น

ทั้งเบียร์และโซดาไม่มีทีท่าว่าจะขยับไปไหน ชายฉกรรจ์ที่ทำหน้าที่ตัวเองได้ดีมาตลอดจึงเลี่ยงไปยืนประจำที่เชิงบันไดแทน ปล่อยให้พื้นที่หน้าห้องทำงานเป็นพื้นที่ส่วนตัวของคุณเบียร์ชั่วคราว

“ปล่อยครับ” เสียงหวานร้องเบาๆ พยายามดึงแขนตัวเองให้หลุดจากฝ่ามือหนา เบียร์ยอมปล่อยให้อย่างว่าง่าย… มือบางลูบแขนตัวองเบาๆ สายตาคมจับจ้องไปยังรอยแดงช้ำที่เจ้าตัวลูบอยู่ เห็นรอยนิ้วมือเด่นชัด

…นี่เขาจับแรงขนาดนั้นเลยหรือวะ

“มาทำอะไรตรงนี้?” เบียร์ถามออกไปแล้วลอบสำรวจร่างบางทั่วร่าง…

ที่ร้านของเขามีกฎว่าพนักงานในร้านทุกคนต้องมีป้ายชื่อกลัดหน้าอก เนื่องจากเป็นร้านที่ไม่เคร่งเรื่องเครื่องแบบของพนักงาน อย่างน้อยป้ายชื่อก็ทำให้แยกพนักงานกับลูกค้าออกได้บ้าง

ป้ายที่ติดอยู่บนหน้าอกของเด็กคนนี้ เขียนไว้ว่า ‘โซดา’

คนตัวเล็กตรงหน้าอยู่ในเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีดำกับกางเกงผ้าฝ้ายขายาวสีดำเข้าชุด ถ้าเทียบกับวันนั้น….วันนี้ดูเรียบร้อยกว่าเยอะ

เรียบร้อยระดับมิดชิดเลยทีเดียว

เมื่อรู้สึกว่าสายตาคมกำลังจับจ้องอยู่..มือบางกำชายเสื้อตัวเองแน่น…

อย่างกับกลัวว่าเขาจะใช้สายตาถลกเสื้อบางๆนั่นขึ้นได้อย่างนั้นล่ะ

“จะไปห้องนอนฉันหรือไง?” เบียร์อดเย้าไม่ได้ คนตัวเล็กมีสีหน้าตื่นตกใจ ส่ายหน้ารัว

…คำพูดของคุณเบียร์ชวนให้คิดถึงเรื่องน่ากลัววันนั้น

“จะตอบได้หรือยังว่ามาทำอะไรตรงนี้?” ถามย้ำไปอีกครั้ง คนตัวเล็กสะดุ้งน้อยๆกับเสียงทุ้มๆของร่างสูง

จะให้บอกยังไง บอกว่ามาช่วยเพื่อนผมที่อยู่ในห้อง อย่างนี้หรือ?

บอกไปแล้วคุณเบียร์จะให้เข้าไปหาเพื่อนหรือเปล่าล่ะ ไม่แน่ว่าคุณเบียร์อาจจะเข้าไปรุมสปายอีกคนก็ได้

ใจจริงอยากจะวิ่งหนีหายไปด้วยความกลัว แต่ร่างกายกลับทำไม่ได้

เผลอคิดไปถึงเรื่องวันนั้น…

 …ดีที่ไม่พลาดเกิดเรื่องแย่ๆเสียก่อน

แต่ถึงกระนั้น คุณเบียร์ก็ไม่ได้น่ากลัวน้อยลงเลย กลับเพิ่มรังสีแปลกๆแผ่ออกมา … น่ากลัวกว่าที่เคยคิดไว้อีก

โซดาที่ไม่ได้ตอบคำถามเบียร์ในทันที ทำเอาร่างสูงคิ้วกระตุกน้อยๆ สาวเท้าเข้าไปประชิดร่างเล็ก

“คะ…คุณเบียร์!” เสียงหวานร้องลั่น ก้าวเท้าถอยหลังหนีแผ่นอกกว้างที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ…

เท้าเล็กก้าวได้ไม่เท่าไรก็ประชิดฝาผนัง ไม่ทันจะได้ขยับตัวหนี แผ่นอกกว้างก็ลอยเด่นอยู่ตรงหน้าแทบแนบชิด  สองแขนหนายกกั้นทางเอาตัวรอดของโซดาไว้ทุกทาง รู้สึกถึงไรเคราที่สัมผัสหน้าผากเป็นพักๆ

…ร่างเล็กๆสั่นเทาโดยไม่รู้ตัว

“คุณเบียร์” เสียงหวานเอ่ยเรียกอีกครั้ง เหมือนคุยกับแผ่นอกมากกว่า เมื่อระดับสายตาของโซดาอยู่ที่หน้าอกล่ำของคนตรงหน้าพอดี

“ว่าไง?” เบียร์ก้มหน้าเล็กน้อย กลิ่นหอมละมุนที่ตามหาลอยเข้าจมูก  สูดดมความหอมหวานที่คุ้นเคยเข้าเต็มปอด จงใจปล่อยลมหายใจปะทะต้นคอขาวเนียน … นึกอยากขบกัดต้นคอนี้สักสองสามที

“เราไปยืนคุยกัน…ดีๆ …ดีกว่าครับ” มือบางออกแรงยกขึ้นดันไหล่กว้าง ย่นคอหนีจมูกโด่งที่เข้ามาซุกไซร้ ไม่ว่าโซดาจะหันไปทางซ้ายหรือขวาก็ไม่พ้นจมูกโด่งของคนตรงหน้าได้

“ก่อนหน้านี้ก็ดีแล้วนะ แต่ไม่เห็นเธอพูดะไรเลย” ว่าพลางแนบริมฝีปากเข้าขมับเนียนไปทีหนึ่ง ทำเอาร่างน้อยๆสะดุ้งเฮือก เบียร์ไม่ได้สนใจเท่าไรนัก จึงเอ่ยต่อ “ฉันเลยคิดว่าถ้าทำแบบนี้…เธออาจจะยอมคุยด้วย”

“ม่ะ….ไม่เอาครับ” โซดาหลับตาปี๋เมื่อริมฝีปากร้อนเริ่มสัมผัสที่ข้างแก้ม โซดาออกแรงดันไหล่กว้างมากขึ้น หากแต่ไม่ขยับเหมือนเดิม

“เห็นไหม เธอพูดกับฉันเยอะขึ้นแล้ว” เสียงหัวเราะในลำคอของร่างสูงทำอาโซดาอยากร้องไห้

“วันนั้นเธอไปที่ห้องนอนฉันทำไม?” โซดาไม่คาดคิดว่าเบียร์จะถามถึงเรื่องวันนั้น …เขาไม่อยากคิดถึงเรื่องวันนั้นอีกแล้ว
“ว่าไง?” ร่างสูงแนบริมฝีปากเข้ากับติ่งหู โซดาหลับตาปี๋ กลั้นหายใจพูดยาวๆในประโยคเดียว

“วะ…วันนั้นผมแค่เอาเครื่องดื่มไปเสิร์ฟ พี่ผู้หญิงคนนั้นเธอไปไหนไม่รู้ พี่พิมพ์เลยให้ผมเอาเครื่องดื่มมาให้คุณเบียร์ก่อน ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจให้คุณเบียร์เข้าใจผิดนะครับ...”

เบียร์ชะงักริมฝีปากทันทีที่คนตัวเล็กพูดจบ ริมฝีปากหนากระตุกยิ้มน้อยๆ

“เธอไม่ได้ทำอะไรผิดไม่เห็นต้องขอโทษเลย ฉันต่างหาก…ขอโทษนะ”

ริมฝีปากหนาแนบจูบหน้าผากเนียนไปหนึ่งครั้ง ตั้งใจขอโทษอย่างที่พูดจริงๆ…. แต่คนตัวเล็กที่ได้รับคำขอโทษกลับสะดุ้งสุดตัว มือบางออกแรงดันไหล่กว้างอย่างตกใจ …บอกขอโทษแต่ก็ทำเหมือนเดิม!

เบียร์เห็นคนตัวเล็กเริ่มมีน้ำซึมในหน่วยตาใส ตอนนั้นเองที่เขาเพิ่งรู้ตัวว่าคงเล่นแรงไปซะแล้ว

“โอเคๆหยุดแล้ว ทีนี้บอกฉันหน่อยว่ามาทำอะไรตรงนี้” มือบางที่ออกแรงผลักเขาถูกหดกลับปล่อยแนบลำตัวเจ้าของเหมือนเดิม …คงรู้ว่าหลุดไปจากอ้อมแขนเขาไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด

ร่างบางชะงักไปกับคำพูดของคนตรงหน้า กลั้นใจเงยหน้าสบตาร่างสูง ถึงได้รู้ว่าสายตาคมจ้องอยู่ก่อนแล้ว …โซดาก้มหน้าหนีแทบไม่ทัน

เวลาเดินผ่านไปโดยไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา…

“คุณเบียร์…อย่าทำอะไรเพื่อนผมเลยนะครับ” เสียงหวานเอ่ยเบาๆ ท่าทางนิ่งไปจนเบียร์เริ่มหวั่นใจ

“เพื่อนผมมันต้องมีเหตุผลอะไรแน่ๆถึงได้มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น ผมไม่รู้ว่าคุณเบียร์จะทำยังไง แต่อย่าถึงกับลงไม้ลงมือกันเลยนะครับ ผมขอร้อง” ใบหน้าหวานเงยขึ้นมองเจ้าของร้าน แววตาใสเต็มไปด้วยความเว้าวอน

ทำไมเด็กคนนี้ถึงคิดว่าจะต้องมีการลงไม้ลงมือกัน?

ทั้งเขาทั้งน้ำแข็ง ไม่มีใครโหดร้ายถึงขึ้นทำร้ายร่างกายพนักงานในร้านแน่ๆ อย่างมากก็ลดเงินเดือนไม่กี่เดือน หรือเรียกมาอบรมชุดใหญ่สักสองสามวัน

ฝังใจ?

เด็กคนนี้เคยเจออะไรมา?

“คุณน้ำแข็งจะทำอะไรเพื่อนผมไหม? คุณเบียร์ช่วยพูดกับคุณน้ำแข็งให้หน่อยนะครับ” มือบางยกขึ้นเขย่าแขนล่ำเบาๆ ท่าทางที่เบียร์ยอมลดแขนที่กั้นออก ปล่อยให้คนตัวเล็กจับไว้แน่น ไม่ทันไร มือบางก็ปล่อยมือออก ก่อนยกมือทั้งสองข้างพนมไว้แนบอก…

“ผมขอโทษแทนเพื่อนผมด้วย…” เสียงหวานสั่นเทาจนเบียร์ใจกระตุก

โดยไม่รู้ตัว…มือหนาเอื้อมไปวางบนศีรษะเล็ก ลูบเบาๆคล้ายปลอบโยน

“ไม่ต้องห่วง เพื่อนเธอไม่เป็นอะไรหรอก….”




ภายในห้องทำงานกว้าง

ไร้การสนทนาของบุคคลภายในห้อง…มีเพียงเสียงเพลงดังกระหึ่มเล็ดลอดเข้ามาไม่ให้บรรยากาศอึดอัดมากนัก

น้ำแข็งนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่โต๊ะทำงาน สายตาจับจ้องไปยังร่างเล็กตรงหน้าที่ยืนนิ่งไม่พูดไม่จาเลยตั้งแต่เข้ามาในห้อง

สายตาคมจับจ้องไปยังป้ายสี่เหลี่ยมที่กลัดอยู่บนหน้าอกของเด็กคนนี้

‘สปาย’ คือคำที่เขียนอยู่บนป้ายนั้น

เด็กใหม่หรือ?  ไม่คุ้นชื่อ…

“ตกลงจะไม่ยอมรับใช่ไหมว่าตัวเองผิด” เมื่อไม่มีการเอ่ยแก้ตัวหรืออธิบายอะไรจากคนตัวเล็ก น้ำแข็งจึงตัดสินใจพูดออกมา

สปายกัดริมฝีปากล่างแน่น สบตากับคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน

“แต่ผู้ชายคนนั้นเขา…!!!!” สปายชะงักไป

มันควรพูดออกไปไหมว่าโดนผู้ชายด้วยกันลวนลาม!

มันไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเลยสักนิด และมันเป็นเรื่องที่ผู้ชายหลายคนรับไม่ได้ แต่เรื่องบ้าๆนั่นดันเกิดขึ้นกับเขา!

“ผู้ชายคนนั้นเขาเป็น ‘ลูกค้า’ ยังไงซะ เธอก็ไม่ควรทำแบบนี้” น้ำแข็งจงใจเน้นตรงคำว่าลูกค้า

ไม่ใช่ว่าน้ำแข็งไม่เห็นว่าผู้ชายคนนั้นทำอะไรกับเด็กคนนี้  ใช่…เขาเห็นตั้งแต่อยู่ในห้องทำงาน เด็กคนนั้นคงพูดอะไรแล้วลูกค้าคนนั้นไม่ฟัง ดูจากเหตุการณ์แล้วลูกค้าหื่นคนนั้นคงไม่ได้ลวนลามเด็กคนนี้ครั้งเดียวแน่

เด็กคนนี้เล่นหน้าตาน่ารักชวนมองขนาดนี้ รูปร่างบอบบางน่าลูบไล้ขนาดนั้น … ยืนเฉยๆยังดูเหมือน ‘ยั่ว’ ได้ง่ายๆ ไม่แปลกถ้าจะเจอลูกค้าหื่นลวนลาม

แต่อย่างไรเสีย ลูกค้าก็คือลูกค้า พนักงานก็คือพนักงาน

ทะเลาะกับลูกค้าแบบนี้เป็นเรื่องถูกต้องหรือไง?

“ลูกค้าแบบนี้คุณก็ไม่ต้องไปง้อสิ ปล่อยไป” สปายเอ่ยนิ่งๆ แต่น้ำเสียงหนักแน่น …

“เธอน่าจะรู้ว่ามันไม่เหมาะสม สิ่งที่เธอทำไม่ได้ส่งผลในวงแคบ แต่มันส่งผลในวงกว้าง เหตุการณ์เมื่อครู่มีคนเห็นเหตุการณ์กี่คน หนึ่งคนเท่ากับสิบปาก เธอคิดว่ามันจะเป็นยังไงถ้าคนที่เห็นเหตุการณ์ไปพูดเรื่องนี้กับคนอื่นอีกสิบคน แล้วสิบคนนั้นไปพูดต่ออีกสิบคน ว่า‘พนักงานร้านนี้ทำร้ายร่างกายลูกค้า’ แล้วทีนี้ใครจะกล้าไว้ใจร้านนี้อีก”

สปายไม่รอช้า รีบสวนกลับประโยคยาวเหยียดนั้นทันที

“ที่แท้คุณก็ห่วงเงิน เพราะเงินสินะคุณถึงมองว่ามันสำคัญกว่าความเป็นมนุษย์ คุณยินดีให้คนแปลกหน้าลวนลามคุณเพราะคุณรู้ว่าเขาจะให้เงินคุณ  ถ้าเรื่องแย่ๆเผยแพร่ออกไปคงไม่มีคนเข้าร้านคุณ ตอนนั้นคุณคงขาดทุน ทำไมคุณไม่ลงไปให้ลูกค้าของคุณลวนลามซะล่ะ รับรองว่าคุณต้องได้เงินเพิ่มแน่ๆ”

สปายเอ่ยอย่างเกรี้ยกราด เรียกสายตาคมดุของร่างสูงได้เป็นอย่างดี

น้ำแข็งขบกรามกรอด

ทำไมเด็กคนนี้กล้าเถียงเขาขนาดนี้นะ!

“คิดจะทำงานแบบนี้ก็ต้องเจอเรื่องแบบนี้เป็นธรรมดาอยู่แล้ว เธอไม่รู้หรือว่าแกล้งไม่รู้กันแน่”

คำพูดของน้ำแข็งเหมือนน้ำเย็นสาดเข้าหน้าสปาย คนตัวเล็กคล้ายเพิ่งได้สติ

…ทำงานแบบนี้….

ใช่ เขาทำงานแบบนี้

“กลัวขาดทุน ? …ใช่ คนทำธุรกิจทุกคนกลัวเรื่องนี้กันทั้งนั้น แล้วตราบใดที่เงินเป็นปัจจัยสำคัญอยู่ ฉันก็ยอมรับนะว่าขาดมันไม่ได้ หรือเธอจะปฏิเสธว่าเธอทำงานแล้วไม่อยากได้เงิน”

สปายกัดฟันแน่น

รู้สึกเหมือนโดนจี้ใจดำ มือบางกำแน่นเข้าหาตัว

น้ำแข็งมองคนตรงหน้าที่นิ่งไป รู้สึกคุ้นตากับสีหน้าท่าทางแบบนี้…

เหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน…

เหตุการณ์ที่เบียร์โดนต่อยวันนั้นเพิ่งผ่านไปไม่กี่วัน ภาพของคนตัวเล็กที่ซัดปลายคางพี่ชายเขาเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ…

เบียร์หัวเราในลำคอเบาๆ…ขำในความตลกของโชคชะตา

“เดี๋ยวนี้ไม่ไปนั่งเล่นข้างถนนแล้วหรือไง?”  คำถามของน้ำแข็งยิ่งทำเอาสปายขมวดคิ้วแน่นเข้าไปอีก

คนบ้าอะไรคิดจะเปลี่ยนเรื่องก็เปลี่ยนซะเฉยๆ

“วันก่อนเธอเพิ่งปล่อยหมัดใส่พี่ชายฉันอยู่หยกๆ  จำไม่ได้หรือไง?”

สปายไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่น้ำแข็งพูดนัก แต่สปายกลับคิดตามถึงเรื่องที่น้ำแข็งพูดทุกอย่าง

สายตาใสสบกับสายตาคมที่มองมา ความจำลางเรือนที่สปายไม่ได้สนใจจำเริ่มเด่นชัดขึ้น

“คุณ!!!”

น้ำแข็งยกยิ้มมุมปากกับท่าทางของคนตรงหน้า

“เพิ่งมาทำงานที่นี่ใช่ไหม?”

สปายกัดฟันแน่น …พยักหน้าส่งๆ

“ถึงฉันไม่รู้เหตุผลว่าทำไมเธอถึงมาทำงานที่นี่ แต่ถ้าไม่อยากถูกหิ้วก็อย่าไปมีเรื่องกับลูกค้าอีก” ให้ความรู้สึกว่าเป็นคำตักเตือนมากกว่าคำกล่าวโทษ

สปายคิดไปถึงวันที่เกือบโดน ‘หิ้ว’ แล้วรู้สึกขยะแขยงขึ้นมา

…ไม่มีทางเกิดเรื่องอย่างนั้นเด็ดขาด

“ถึงเธอจะอยากลาออกตอนนี้ ฉันก็ไม่อนุญาตหรอกนะ”

น้ำแข็งเอ่ยต่ออย่างเดาความคิดสปายได้ 

ร่างเล็กเบิกตากว้าง

“เธอต้องอยู่รับผิดชอบสิ่งที่เธอทำไว้”

การลาออกไม่ใช่การแก้ปัญหา

ใครสร้างเรื่องไว้ ก็ต้องรับผิดชอบ

…หวังว่าคงทำให้เด็กคนนี้คิดอะไรได้บ้างนะ





MOONLIGHT





>< มาต่อยาวๆ ~~
เข็นมาเท่านี้ก่อนเน่อ ><

ช่วงนี้เป็นช่วงกิจกรรมรับน้อง ย้ายหอกันใช่มั้ยคะ? ^^
เอ๊ะ … แล้วแอมทำอะไร



เจอกันตอนต่อไปฮับ ^-^

 :hao7:

ออฟไลน์ benzdekba

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2

ออฟไลน์ benzdekba

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
โห่ๆ ไม่เกี่ยวเลยพี่น้ำแข็ง อยากให้น้องอยู่ใกล้ๆก็บอกสิคะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ naiyou

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
กำลังสนุกเลย
สู้ๆนะคับคนเขียน

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3960
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
เห็นด้วยกะสปาย ทำไมคุณพระเอกไม่ลงไปให้คนอื่นล้วงแทนล่ะ ถ้าอยากได้เงินมากนัก เหอะๆ ดีแต่ปากนี่หว่า

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
คาดว่าสปาย&น้ำแข็งจะมีการปะทะกันอีกหลายรอบ 555555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด