[Ultimate Love] ยากนัก... รักนี้ ♥♥♥ ตอนส่งท้าย up!! 011114/P.44 จาก ss1 สู่ ss2
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

คุณปลื้มหนุ่มคนไหนมากที่สุด? (เลือกได้ 2 ข้อ)

รักชาติ  (คุณหนูผู้ไล่ตามความรัก)
101 (21.8%)
ไอ  (หนุ่มเฟรนด์ลี่ที่เดาใจได้ยาก)
41 (8.8%)
เมโล่  (แมวยักษ์จากต่างดาว)
109 (23.5%)
ปูเป้  (โชตะวัยประถมฯ)
5 (1.1%)
เฮียภาค  (กัปตันสุดเข้ม)
32 (6.9%)
เฮียภูมิ  (ผู้กองจอมกะล่อน)
14 (3%)
แกรี่  (แบดบอย+ค้ำคอร์)
32 (6.9%)
ชายต่าย  (ผู้เกิดมามีเสน่ห์โดยธรรมชาติ 555)
130 (28%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 273

ผู้เขียน หัวข้อ: [Ultimate Love] ยากนัก... รักนี้ ♥♥♥ ตอนส่งท้าย up!! 011114/P.44 จาก ss1 สู่ ss2  (อ่าน 277735 ครั้ง)

ออฟไลน์ White Raven

  • I'm beautiful in my way.~
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +779/-3
    • Fanpage
 :call:ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด


3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป


12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง


16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม




@@@@@@@@@@@@@@@@@



ผลงานทั้งหมด
hello! SUNSHINE -จบแล้ว
hi AURORA -จบแล้ว
HEARTLESS -จบแล้ว
[SF] My Boyfriend is Grandpapa. ♥ -จบแล้ว

M a d a m e _ M a f i a -ยังไม่จบ
======================


ยากนัก...รักนี้ ♥ Season 1

สารบัญ

ตอนที่ 1 : คุณชายต่าย
ตอนที่ 2 : สามผู้ท้าชิง
ตอนที่ 3 : ทฤษฎีโลกกลม
ตอนที่ 4 : โอเอซิสแห่งใหม่
ตอนที่ 5 : ยูโดสายดำ
ตอนที่ 6 : ความลับของไอ
ตอนที่ 7 : ความเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 8 : กระต่ายลายพาดกลอน
ตอนที่ 9 : เมโล่กับนกพิราบ
ตอนที่ 10 : รถไฟชนกัน
ตอนที่ 11 : ไม่รัก ไม่ต้อง
ตอนที่ 12 : คุณชายหัวขโมย
ตอนที่ 13 : แฝดจอมเนียน
ตอนที่ 14 : คารมแมว
ตอนที่ 15 : ลูกอมที่ร่วงหล่น
ตอนที่ 16 : โปรโมชั่น
ตอนที่ 17 : เดิมพันที่แพ้
ตอนที่ 18 : เมโล่แถมให้
ตอนที่ 19 : บังเอิ๊นนน บังเอิญ
ตอนที่ 20 : คืนดี
ตอนที่ 21 : องุ่นเปรี้ยว
ตอนที่ 22 : หนีออกจากบ้าน
ตอนที่ 23 : เตะพุงแตก
ตอนที่ 24 : รางวัลของไอ
ตอนที่ 25 : คำขอของรัก
ตอนที่ 26 : แต่ละคน
ตอนที่ 27 : ไอและเมโล่
ตอนที่ 28 : ลงเอย???
ตอนส่งท้าย [END SS1]




ยากนัก...รักนี้ ♥ Season 2

สารบัญ



L o a d i n g . . .




Thx 3 time
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-11-2014 02:03:38 โดย White Raven »

ออฟไลน์ benze13

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: T H R E E S ♥ M E . . . . . . # Act.1 up! 25.01.14
«ตอบ #1 เมื่อ25-01-2014 22:52:24 »

รออ่านค้าาา ฮี่ๆ  :katai2-1:

ออฟไลน์ White Raven

  • I'm beautiful in my way.~
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +779/-3
    • Fanpage
ยากนัก... รักนี้ ♥ #ตอนที่ 1 up! 28.03.14
«ตอบ #2 เมื่อ25-01-2014 22:58:28 »

ยากนัก... รักนี้ ♥




ตอนที่ 1





ผม.. ‘วรา เมตตวรา’ หรือเรียกสั้นๆ ว่า ‘ต่าย’ นี่เป็นวันเปิดเรียนวันแรกในฐานะนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม สิ่งที่ผมคาดหวังจากที่นี่ไม่ใช่แค่ความรู้หรืออนาคตที่สดใส ที่อยากได้มากที่สุดและเป็นหนึ่งในแรงจูงใจให้ผมเลือกมาเรียนที่นี่ก็คือ ‘เพื่อนผู้ชาย’


ช้าก่อน!


อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าผมแปลกประหลาดหรือมีแรงจูงใจผิดศิลธรรมอะไร อย่างน้อยก็ก่อนที่จะได้ฟังเกี่ยวกับอาถรรพ์ชีวิตไร้เพื่อนผู้ชายตลอด 18 ปีที่ผ่านมาของผมซะก่อน...


ผมก็ไม่รู้ว่ามันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง แต่ตั้งแต่จำความได้ ตัวผมนั้นมักจะถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้หญิงเสมอ ตอนอยู่บ้านก็มี แม่ พี่สาวที่อายุห่างกัน 4 ปี แล้วก็น้องสาวที่อายุห่างกัน 2 ปี


สมัยเรียนอนุบาล ความฝันที่จะได้เล่นกับเพื่อนผู้ชายครั้งแรกต้องจบลง เมื่อมีเด็กผู้หญิงจากห้องกุหลาบมาตะโกนขอผมแต่งงาน ทำให้เด็กผู้หญิงในห้องลิลลี่ของผมไม่พอใจ จนเกิดเป็นสงครามข้ามห้องขึ้น จากนั้นก็มีเด็กผู้ชายจากห้องทานตะวันมาตะโกนท้าต่อยกับผม รู้สึกเขาจะพูดเรื่องลูกผู้ชายอะไรสักอย่าง(ผมมารู้ทีหลังว่าเขาแอบชอบหนึ่งในเด็กผู้หญิงพวกนั้น) แต่พอพวกเด็กผู้หญิงได้ยิน พวกเธอก็หยุดตีกัน แล้วหันไปตีเด็กผู้ชายคนนั้นแทน.. สงครามครั้งนั้นไม่ได้แค่พัดพาเพื่อนผู้ชายออกไปจากชีวิตวัยอนุบาลของผม แต่มันรวมไปถึงวัยประถมทั้ง 6 ปีของผมด้วย เพราะผมต้องเรียนอยู่โรงเรียนเดิม พวกเด็กผู้หญิงก็เลยเกาะผมแน่นหนึบเหมือนเดิม และพวกเด็กผู้ชายก็เกลียดขี้หน้าผมเหมือนเดิมเช่นกัน


พอขึ้นชั้นมัธยมต้น อุตส่าห์คิดว่าชีวิตคงจะมีอะไรเปลี่ยนไปบ้างหลังได้ย้ายโรงเรียน แต่มันก็แทบไม่แตกต่าง มีแค่เด็กผู้หญิงเท่านั้นที่เข้ามาคุยกับผม ส่วนเด็กผู้ชายดูเหมือนจะมองว่าผมเป็นศัตรูโดยธรรมชาติของพวกเขาไป ผมเลยต้องเดินไปไหนมาไหนโดยมีผู้หญิงล้อมหน้าล้อมหลังทั้งตลอด 3 ปี


ผมย้ายโรงเรียนอีกครั้งตอนขึ้นชั้นมัธยมปลาย ความหวังที่จะหาเพื่อนเป็นผู้ชายหายวับไปกับตาตั้งแต่วันแรกที่เปิดเรียน เมื่อมีผู้หญิงสองคนมาตบกันเพราะผม พอผมเข้าไปแยกก็ถูกถามว่าระหว่างพวกเธอผมชอบใครมากกว่า แต่เพราะไม่ได้ชอบใครเป็นพิเศษมากกว่าใคร ผมก็เลยตอบไปว่าชอบทั้งสองคน หลังจากวันนั้นข่าวลือไม่ดีๆ เกี่ยวกับผมก็เริ่มแพร่ออกไป บ้างก็ว่าหลายใจ บ้างก็ว่าเสือผู้หญิง ฟันแล้วทิ้งก็มี ทั้งที่ผมไม่เคยทำสักอย่าง แต่ถึงแบบนั้นพวกผู้หญิงก็ไม่เคยทอดทิ้งผม ยังติดสอยห้อยตามผมไปแทบทุกที่เหมือนเดิม ขณะที่ผู้ชายก็ไม่เคยเฉียดเท้าเข้ามาใกล้ผมเลย


ตอน ม.5 ผมเพิ่งเคยโดนต่อยเป็นครั้งแรก ถึงจะแค่หมัดเดียวแต่ก็ทำเอาเจ็บไปหลายวัน เจ้าของหมัดหาว่าผมไปแย่งผู้หญิงของเขา ตอนทำท่าจะเข้ามาต่อยซ้ำอีกที ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งพุ่งเข้าไปตบสวนอย่างแรงซะก่อน เธอก็คือแฟนสาวที่ถูกกล่าวหาว่ามาเล่นชู้กับผมนั่นเอง สรุปวันนั้นพวกเขาก็เลิกรากันไปโดยไม่ดี เพราะมีผมเป็นมือที่สาม ...ตามข่าวลือน่ะ


ผู้หญิงคืออาถรรพ์ไร้เพื่อน(ผู้ชาย)สำหรับผม.. แต่เอาเข้าจริงๆ ผมก็ไม่ได้ไม่ชอบพวกเธอหรอกนะ สำหรับผมแล้วการคุยกับพวกเธอนั้นง่ายและสบายใจกว่าคุยกับพวกผู้ชายเยอะ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังอยากจะมีเพื่อนผู้ชายไว้คุยไว้เล่นแบบผู้ชายๆ กับเขาบ้างนี่นา ใช่ว่าผู้หญิงจะเข้าใจผมไปหมดสักหน่อย แล้วเรื่องบางเรื่องมันก็เอามาคุยกับพวกเธอไม่ได้ด้วยใช่ไหมล่ะ.. บางครั้งมันก็โดดเดี่ยวนะ รู้สึกเหมือนผมเป็นผู้ชายคนเดียวในโลกยังไงไม่รู้


แต่นั่นแหล่ะ! ช่วงเวลาแห่งการโดดเดี่ยวของผมได้จบลงแล้ว เพราะในปีที่ 19 นี้ ทุกอย่างจะต้องเปลี่ยนไป!


เอ่อ..


หวังว่านะ


อ้าาา สารภาพก็ได้ว่าผมไม่มีความมั่นใจเอาซะเลย คณะวิศวะนี่มีผู้ชายเยอะจริงอย่างที่ได้ยินมา แต่..แต่บรรยากาศแต่ละคนมันดูน่ากลัวยังไงไม่รู้อ่ะ ทำเอาผมนึกถึงไอ้คนที่มาต่อยผมตอน ม.5 ได้เลย ถึงจะจำหน้ามันไม่ได้แล้วก็เหอะ


ยิ่งกว่านั้น ทั้งค่ายเฟรชชี่ของมหา’ลัย ค่ายเฟรชชี่ของคณะ ผมไม่ได้เข้าร่วมสักอย่าง เพราะมัวแต่ป่วยเป็นอีสุกอีใส(เนี่ยยังทิ้งรอยเอาไว้ตามตัวเลย แต่โชคดีที่ไม่ขึ้นหน้า) มาอีกทีก็เป็นวันเปิดเรียนซะแล้ว คนอื่นๆ เขาก็จับกลุ่มสนิทสนมกันไปตั้งแต่ตอนเข้าค่ายนู่นแล้ว ผมรู้สึกเหมือนถูกทิ้งเอาไว้คนเดียวเลย.. พูดแล้วก็เศร้า


“ฮ้าาา เลิกสักที แค่วันแรกอาจารย์ก็ใส่กันเต็มที่เลย ไม่อยากจะคิดถึงอีกสี่ปีที่เหลือ.. อยากกลับไปนอนหอจัง”


“แต่เย็นนี้รุ่นพี่เรียกปีหนึ่งทั้งหมดไปรวมใต้ตึกคณะนะ”


“คุยเรื่องรับน้องอีกแน่ๆ ขี้เกียจอ่ะ ขี้เกียจจจจ ค่ายก็เข้าไปแล้ว ไม่ทำไม่ได้หรือไงนะไอ้รับร้องเนี่ย”


“น่าๆ เป็นเฟรชชี่ต้องอดทน ถ้าอยากจะแก้แค้นล่ะรอขึ้นปีสองก่อน”


“อะไรล่ะนั่น ฮ่าๆๆๆ”


“จะไปที่คณะใช่ไหม เราไปด้วยสิ” 


ผมตัดสินใจจู่โจมผู้หญิงสองคนที่นั่งเก้าอี้แถวหน้า หลังฟังพวกเธอคุยกันมาพักหนึ่ง


“....!....” 


ทั้งคู่หันหลังมา แล้วก็ดูเหมือนว่าพวกเธอจะอึ้งไป ผมจึงยิ้มให้อย่างเป็นมิตร


“ต่ายครับ อยู่สิ่งแวดล้อม”   




ว่าแล้วเชียว.. เข้าหาผู้หญิงนี่ง่ายกว่าสำหรับผมจริงๆ



“ตกใจหมดเลย ไม่คิดว่าแผนกเราจะมีคนแบบนี้อยู่ด้วย”


“คนแบบนี้เหรอ? ฟังชอบกลๆ อยู่นะ”


“ไม่ได้หมายความไม่ดีหรอก แล้วทำไมตอนค่ายเฟรชชี่นายไม่มาล่ะ?”


“ป่วยน่ะ”


“ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงเหรอ?”


“ดูเหมือนเป็นแบบนั้นเหรอ?”


“เปล่า ก็ดูแบบ..ผู้ดีๆ เอ้ย นี่นามสกุลจุฑาเทพหรือเปล่าเนี่ย?”


“พอมาเดินข้างกันแบบนี้ รู้สึกเหมือนพวกเราเป็นนางขี้ข้าในวังยังไงชอบกลเนาะ อยากจะลงไปคลานเข่าดีพิลึก”


“ฮ่ะๆๆ อย่าพูดแบบนั้นสิ จริงๆ ก็เพิ่งจะเคยป่วยนี่แหล่ะ”


เราเดินคุยกันมาเรื่อยระหว่างทางไปตึกคณะ เพื่อนใหม่สองคนนี้เรียนอยู่สาขาเดียวกับผม คนท้วมๆ ชื่อ ‘นิ่ม’ ส่วนคนที่ดูคล้ายทอมบอยแต่หน้าสวยชื่อ ‘สจี’ สองคนนี้มาจากโรงเรียนเดียวกัน


“แล้วมีคนมาจากโรงเรียนเดียวกับต่ายบ้างหรือเปล่า?”


“ไม่รู้สิ เรารู้จักคนไม่ค่อยเยอะน่ะ”  จะพูดให้ถูกคือ มีผู้หญิงเข้ามาป้วนเปี้ยนในชีวิตเยอะเกินไป จนจำไม่ได้ว่าใครเป็นใคร ส่วนผู้ชายนี่แทบไม่รู้จักเลย


“เหลือเชื่อ..ดูท่าทางน่าจะเป็นคนเพื่อนเยอะแท้ๆ แล้วพวกเพื่อนสนิทล่ะ?”


“เพื่อนสนิทเราอยู่คณะนิเทศน์”


ผมมีเพื่อนที่เรียกได้ว่าสนิทอยู่คนหนึ่ง แน่นอนว่าเป็นผู้หญิง เรียนที่เดียวกันตั้งแต่อนุบาลจนถึงตอนนี้ บ้านก็อยู่ซอยเดียวกัน เลยมักจะไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ หลายครั้งที่มีคนเข้าใจผิดคิดว่าเราเป็นแฟนกันด้วย


“หืมม แต่นายมาเรียนที่นี่ก็ดีแล้วล่ะ ถือว่ามาเป็นหน้าเป็นตาให้แผนกของเรา”


“ใช่ๆ ภาคโยธาก็มี ‘รักชาติ’ ฝั่งอินเตอร์ ภาคแอโร่ก็มี ‘เมโล่’ เครื่องกลก็มี ‘ไอ’ เด่นสุดๆ ต้องยกให้สามคนนี้แหล่ะ โดยเฉพาะไอนะ ทั้งหล่อ ทั้งเท่ห์ เรียนดี กีฬาเด่น เป็นมิตร แถมรอยยิ้มพ่อเจ้าประคุณทูนหัวก็ช่างเจิดจ้าซะจน..อร๊ายยยย ไม่รู้จะอธิบายยังไง บอกได้แค่ว่าเพอร์เฟ็คสุดๆ”


“แบบนี้พอสู้ได้เปล่า?”  ผมลองยิ้มให้นิ่มดูบ้าง


“ได้จ้ะ! ได้ๆๆ อย่างต่ายไม่มีทางแพ้ใครแน่นอน...แอร๊ยย อย่ามาทำให้เขวสิ! เดี๋ยวตีเลย นิ่มรักมั่นกับไอแค่คนเดียวเท่านั้นนะ แต่ว่า..แต่ว่าช่วยยิ้มอีกทีได้ไหม?”


“ฮ่าๆๆ”  ผมหัวเราะกับท่าทางที่ขัดแย้งกันเองของเพื่อนร่างท้วม


“ไม่ต้องไปบ้าจี้กับมันหรอก ถ้าวัดกันที่หนังหน้า ยังไงเราก็ว่านายกินขาด”  สจีพูดหน้าตาเฉย


“แล้วเขาเป็นใครเหรอ?” 


ผมชักสนใจ นิ่มบอกว่า ‘เป็นมิตร’ ด้วย บางทีผมอาจจะเข้าไปตีสนิทได้ไม่ยาก แล้วบางทีเราก็อาจจะได้เป็นเพื่อนกัน...เพื่อนผู้ชายคนแรก อิอิ ว่าไปนั่น


“ใคร?”


“ไอ”


“อ๋อ ไอศูรย์น่ะเหรอ..”


“ไอน่ะดังมากมาตั้งแต่มัธยมแล้วล่ะ!”  นิ่มรีบแย่งสจีตอบ  “เขาอยู่สาธิตมหา’ลัยนี้เอง เพราะโรงเรียนเราก็อยู่แถวนี้เหมือนกัน เลยได้ยินเรื่องของไอมาเยอะเลย อย่างเรื่องที่เคยเป็นนักกีฬายูโด เคยเป็นตัวแทนถือธงในงานกีฬาแห่งชาติ เคยคบกับผู้หญิงมาหลายคน ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง เห็นว่าเคยคบกับเด็กมหา’ลัยด้วยนะ แต่ถึงจะเด่นขนาดนั้นพวกผู้ชายก็ไม่ได้เขม่นเขานะ เห็นว่าเขามีเพื่อนเยอะแยะไปหมดทั้งชายทั้งหญิง ใครๆ ก็อยากเป็นเพื่อกับเขา แล้วก็นะ..”


เป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับผมเลย ที่มาได้ยินพวกผู้หญิงเพ้อถึงผู้ชายคนอื่นให้ฟังแบบนี้


“.........”


ดีล่ะ ยังไงก็ต้องหาทางสนิทกับผู้ชายที่ชื่อ ‘ไอ’ ให้ได้!




“หว่าาา.. เด่นน่าดูเลยนะนายเนี่ย”


“ไว้เราค่อยเข้าไปทีหลังไหมจี ฉันรู้สึกว่าไม่คู่ควรจะเดินข้างๆ เลยว่ะ”


ผมคุ้นเคยกับการตกเป็นเป้าสายตาของพวกผู้หญิงอยู่แล้ว แต่ในที่ที่ประชากรชายหนาแน่นกว่าอย่างคณะวิศวะเนี่ย ทำเอาผมรู้สึกประหม่าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลย แถมเพื่อนใหม่สองคนก็ทำท่าเหมือนไม่อยากจะเดินเข้าไปใต้คณะพร้อมผมซะอย่างนั้น


“อย่าเพิ่งทิ้งกันสิ ไปด้วยกันหมดนี่แหล่ะ”  ผมคว้าข้อมือทั้งสองคนไว้แน่น


“น้องผู้ชายคนนั้นน่ะ ปีหนึ่งเหรอ? แล้วทำไมไม่คล้องป้ายชื่อเหมือนเพื่อนๆ ล่ะ?”  เสียงรุ่นพี่คนหนึ่งทำผมแอบสะดุ้งน้อยๆ ทำเอากลายเป็นจุดสนใจมากกว่า


“ต่ายเขาเพิ่งมามหา’ลัยวันนี้เป็นวันแรกค่ะ เลยยังไม่มีป้าย”  นิ่มตอบแทนผม


“อ๋อ น้องที่บอกว่าป่วย เลยมาเข้าค่ายไม่ได้ใช่ไหม?”


“ครับ”  ผมเอายิ้มเข้าสู้ไว้ก่อน


“งั้นมาลงชื่อตรงนี้เลยครับ เดี๋ยวพวกพี่ทำป้ายให้”



“ชายต่ายยย ลูกปลามารับแล้วจ้า!”


ระหว่างยืนรอป้าย เพื่อนสนิทของผมก็โผล่มา เพราะเมื่อเช้าเราออกจากบ้านมาพร้อมกัน ก่อนแยกย้ายก็เลยสัญญาว่าวันนี้จะกลับบ้านพร้อมกันด้วย


“เฮ้ย นั่นมันน้องลูกปลา ดาวนิเทศน์ไม่ใช่เหรอ?”


“เออ ตอนค่ายเฟรชชี่เด่นน่าดูเลยนี่”


ลูกปลาไม่สนใจสายตาและคำพูดซุบซิบของคนอื่นตามประสาคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง เธอเดินฉับๆ ผ่านเหล่ามนุษย์ดาววิศวะที่แออัดกันอยู่ใต้ตึก มาคว้าแขนผมหมับด้วยความคุ้นเคย


“กลับยัง?”


“ปีหนึ่งต้องเข้าประชุมครับน้อง ยังกลับตอนนี้ไม่ได้”  รุ่นพี่คนหนึ่งชิงตอบก่อนผม


“งั้นหนูนั่งรอแถวนี้ได้ไหม?”  ลูกปลาถามรุ่นพี่คนนั้น


“เอ่อ เอ้อ ครับ ม้านั่งตรงนั้นก็ได้”  พวกรุ่นพี่ผมดูจะไม่คุ้นเคยกับความเป็น ‘ลูกปลา’ สักเท่าไหร่


“ขอบคุณค่า”  ลูกปลายิ้มกว้าง เธอปล่อยมือจากผม ชี้ไปทางม้านั่งที่อยู่ห่างออกไป  “รอตรงนั้นนะ”


“อื้อ”



“คุณชายต่ายยยยยยยย!”


ลูกปลายังเดินไปไม่พ้นสามก้าว ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งเข้ามากระโดดกอดคอผมจากข้างหลัง ทำเอาเซไปชนขอบโต๊ะข้างหน้าเลย โชคดีที่ไม่โดนจุดอันตรายใต้เข็มขัดเข้า
แล้วใครเนี่ย?


“จำกุ้งนางได้เปล่า?”  คนพูดชะโงกหน้าข้ามไหล่ผมมา  “กุ้งนางที่อยู่ห้องกุหลาบ อนุบาลดอกไม้บานไง ไม่ได้เจอคุณชายต่ายตั้งนาน คิดถึ๊งงงง คิดถึง! แต่ไม่ว่าจะผ่านไปสักกี่ปี คุณชายต่ายก็ยังดูดีเท่าโลกเหมือนเดิม เนี่ยกุ้งเห็นแค่แว้บแรกก็จำได้เลยนะ คิดถึงๆๆๆๆๆๆ”


กุ้งนางเอาคางมาถูไหล่ผมอย่างกับแมว แถมยังกอดคอผมแน่นไม่ยอมปล่อย จนเริ่มรู้สึกว่าหายใจลำบาก ก็พอดีกับที่ลูกปลามากระชากตัวเธอออกไป


“นี่! เดี๋ยวเถอะยัยกุ้งเน่า ปล่อยต่ายเดี๋ยวนี้เลยนะ!”


“เอ๊ะ!”  กุ้งนางสะบัดมือลูกปลาออกอย่างไม่พอใจ  “อ้อ นึกว่าใคร ยัยปลาเค็มนี่เอง ยังเกาะติดคุณชายต่ายไม่ยอมปล่อยเลยนะ หน้าไม่อาย!”


“ถ้าเทียบกับคนที่กล้ามาขอผู้ชายแต่งงานตั้งแต่อยู่อนุบาลหนึ่งอย่างแก ฉันนี่ถือว่าหน้าบางกว่าเยอะย่ะ”


“ฉันก็แค่ปากตรงกับใจ คิดไงพูดงั้น อย่าเอาไปเทียบกับพวกที่ชอบทำตัวเป็นเหลือบเป็นไร อ้างความเป็นเพื่อนเพื่อแอบตอดนิดตอดหน่อยดีกว่า ขยะแขยง!”


“เกินไปแล้วนะ ยัยกุ้งเน่า!”


“พูดความจริงเข้าหน่อยทำเป็นรับไม่ได้ ยัยปลาเค็มขึ้นรา!”


“แก..”


ผมจับข้อมือที่ง้างขึ้นของทั้งคู่ไว้คนละข้าง พวกเธอสะดุ้งเล็กน้อย หันมามองผมด้วยสายตาตระหนก


“อย่าทะเลาะกันเลยนะ?” 


“ต่าย..”


“มันรบกวนน่ะ”  ผมบอกยิ้มๆ


สองสาวยังนิ่งมอง ผมก็บอกไม่ได้หรอกว่าตาใสๆ ของพวกเธอกำลังคิดอะไรอยู่


“อื้อ! ไม่ทะเลาะก็ได้” 


แต่สุดท้ายพวกเธอก็ตอบรับคำขอของผม ผมจึงปล่อยมือพวกเธอ


“งั้นเดี๋ยวกุ้งไปเข้าแถวแล้วนะ”  กุ้งนางชี้ไปทางแถวที่เพื่อนร่วมชั้นปีนั่งรออยู่


“ลูกปลาไปนั่งรอตรงนั้นนะ”  ลูกปลาชี้ไปทางม้านั่งตัวเดิม 


ทั้งคู่หันมายิ้มให้ผมอีกครั้ง แล้วแยกย้ายไปทางใครทางมัน


ผมหันกลับมาหาพวกรุ่นพี่ที่ดูเหมือนจะอึ้งกิมกี่กันไปหมด


“ป้ายชื่อผม.. เสร็จหรือยังครับ?”




อาาา.. ท่าทางว่าหนทางการหาเพื่อนผู้ชายในรั้วมหา’ลัย มันจะไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่ผมคิดหวังเอาไว้ซะแล้ว


หลังได้ป้ายชื่อ ผมก็เดินเข้ามารวมกลุ่มกับเพื่อนร่วมชั้นปีที่นั่งต่อแถวกันอยู่ ดูเหมือนพวกผู้ชายจะจงใจเมินหลบสายตาผมอย่างเห็นได้ชัด มีเพียงผู้หญิงซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในที่แห่งนี้เท่านั้นที่พยายามจะสบตากับผม ถึงจะเป็นเรื่องที่ชินชาแล้วแต่ก็อดรู้สึกโดดเดี่ยวเล็กๆ ไม่ได้.. แถวของเสคผมถูกขนาบข้างด้วยเด็กเครื่องกลกับปิโตรเลียม ผมตั้งใจจะสะกิดชวนคนข้างหน้าคุยหวังสร้างมิตร แต่ได้ยินเสียงของคนที่นั่งทางขวามือก่อน จึงหันไปมอง


“สุดยอดไปเลยนะ ‘คุณชายต่าย’ เนี่ย” 


คนนั้นพูดเสียงเบาจนเกือบกระซิบ แล้วก็ยิ้มกว้างเต็มหน้า


!


ไม่ต้องมีใครบอกผมก็รู้ได้ทันทีเลยว่า คนนี้แหล่ะ


‘ไอ’


และมันก็ใช่จริงๆ เมื่อผมลดสายตาอ่านที่ป้ายชื่อของเขา


“ตามนี้.. ยินดีที่ได้รู้จัก”  เขายกป้ายชื่อตัวเองขึ้นมาแตะริมฝีปาก


ที่ผ่านมายังไม่เคยมีผู้ชายคนไหนมาพูดว่า ‘ยินดีที่ได้รู้จัก’ กับผมมาก่อนเลย ..หมอนี่เป็นคนแรก!


“อือ”  ผมทำแบบเดียวกัน  “เมื่อกี๊ประชดกันหรือไง?”


“ชื่นชมต่างหาก สุดยอดไปเลย...คุณชายต่าย~”


“นั่นพวกผู้หญิงเรียกเอาเองตามใจหรอก”


“อ้าว ไม่ได้เป็นคุณชายจริงๆ เหรอ?”  หมอนั่นทำหน้าแปลกใจเวอร์ที่ดูยังไงก็รู้ว่าแกล้งทำ


“ใช่ที่ไหน”


“อ๊ะ..”  ไอชี้มาที่โพยใบเล็กๆ ในมือผม มันเป็นรหัสนักศึกษาของเพื่อนร่วมชะตากรรมสักคน สำหรับกิจกรรมบัดดี้คณะที่ผมเพิ่งเสี่ยงดวงหยิบมาก่อนเดินมานั่งตรงนี้


“ทำไมเหรอ?”  ผมรีบม้วนมันกลับเป็นก้อนเหมือนเดิม


เขาชี้หน้าตัวเองพร้อมยิ้มกว้างเต็มหน้าอีกครั้ง


“รหัสเราเอง”





“จริงเหรอ ชายต่าย?! มาแรกกันนะ แรกกันๆ”  นิ่มตื่นเต้นมากที่รู้ว่าผมได้ไอเป็นบัดดี้


“นิ่มจับได้ใครเหรอ?”


“ชื่อก้อย อยู่อุตสาหการ นะต่ายนะ แรกกันเถอะ เราอยากเทคแคร์ไออ่า.. แล้วก้อยคนนั้นก็น่ารักอยู่นะ น้า~”


“อย่ามาเพ้อเจ้อ นึกถึงใจคนที่เขาได้แกเป็นบัดเดอร์บ้างเถอะ ถ้าเขารู้ว่าแกเอาชื่อเขาไปเปลี่ยนกับคนอื่น เขาจะคิดยังไง? มันเหมือนกับแกไม่อยากเทคแคร์เขางั้นแหล่ะ”  สจีพูดด้วยหน้าตาเฉยเมยตามเคย


“ก็ไม่ใช่แบบนั้น ฉันแค่อยากเทคแคร์ไอมากกว่าอ่ะ.. ใช่ซี่ แกไม่เดือดร้อนอยู่แล้วนี่ยัยทอม ก็คู่บัดดี้ของแกเป็นถึงดาวคณะอย่างยัยกุ้งนางนั่น”


“นี่แกจะเสียงดังให้มันมาได้ยินหรือไง?”  สจีรีบคว้าคอนิ่มมาอุดปากไว้  “แล้วฉันก็ไม่ใช่ทอม! แต่ถึงฉันจะเป็นทอมหรือเป็นผู้ชายแท้ๆ ฉันก็ไม่มีทางสนใจยัยสวยสยองนั่นหรอก ผู้หญิงอะไรแค่อ้าปากก็เห็นถึงลิ้นไก่ ใจตรงกับปากเกินไปใช่ว่าจะดี ถามจริงเหอะต่าย แกไม่รำคาญมันบ้างหรือไง? เจอทีไรก็กระโดดเกาะหนึบอย่างกับเห็บหมัดงั้นแหล่ะ”


“ปากร้ายยย”  นิ่มพูดแล้วปิดปากตัวเอง มองเพื่อนสนิทด้วยสายตาพรั่นพรึง


“ฮ่ะๆๆ ชินแล้วน่ะ เจอแบบนี้มาตั้งแต่อนุบาล”


“เป็นแบบนี้มาตลอดเลยเหรอ?”


“อื้อ ทั้งตอนประถม ม.ต้น ม.ปลายด้วย ถึงไม่มีกุ้งนาง ก็มีคนอื่นมาเรื่อยๆ ..ชินแล้วล่ะ”


“เกิดเป็นคุณชายต่ายนี่ก็ลำบากเหมือนกันเนอะ”  นิ่มตบไหล่ผม ส่งสายตาสงสารจับใจมาให้


“ไม่ใช่คุณชายสักหน่อย”  ผมหัวเราะ


“นี่.. แล้วเรื่องที่ได้ไอเป็นบัดดี้เนี่ย มันแปลกๆ อยู่นะ” 


“ยังไง?”  ผมกับนิ่มพูดพร้อมกัน เราจ้องหน้าสจีด้วยความสงสัย


“ก็ฉันเพิ่งได้ยินมาว่า ‘สุเมธ’ แผนกเราจับได้รหัสของไอน่ะสิ วันนี้ยังเห็นซื้อขนมฝากให้เพื่อนไปเทคให้อยู่เลย”


“อ้าว ยังไง?”  นิ่มหันมามองผม


“นายแน่ใจนะว่าเช็ครหัสถูกทุกตัว? ไม่ได้จำตัวเลขสลับกันหรอกนะ?”




จริงๆ แล้ว.. ผมยังไม่เคยเอารหัสนั่นไปเช็คดูเลยต่างหาก



“โกหกกันนี่”  ผมเจอ ‘ไอ้บ้านั่น’ ที่โรงอาหารคณะในวันเดียวกัน


“อะไร?”  ฝ่ายนั้นทำไม่รู้ไม่ชี้ด้วยหน้ายิ้มๆ


ผมก็ยิ้มเหมือนกัน แต่ไม่ได้ยิ้มให้หมอนั่น ยิ้มให้เพื่อนๆ ของมันที่ยิ้มให้ผมก่อนต่างหาก จะว่าไปที่ผมมายืนคุยกับมันนี่ก็เป็นจุดสนใจมากทีเดียว ครึ่งหนึ่งก็เพราะว่ามันเป็นคนดัง อีกครึ่งหนึ่งก็เพราะว่าผมเองก็เป็นคนดังเหมือนกัน...จริงๆ แล้วดังสุดๆ ไปเลยตั้งแต่ลูกปลากับกุ้งนางมาทะเลาะกันใต้ตึกคณะวันนั้นแหล่ะ ประวัติชีวิตอันแสนศิวิไลซ์ของผมตั้งแต่สมัยอนุบาลยันเมื่อวานซืนนี้ก็เลยถูกขุดคุ้นขึ้นมาหมด ไม่รู้ว่าไปคุ้ยมาจากไหนเหมือนกัน แต่ผมบอกได้อย่างหนึ่งว่ามันมีความจริงอยู่ราว 30% เท่านั้น ส่วนที่เหลือเป็นความผิดพลาดทางการสื่อสารล้วนๆ ..ผมพยายามจะมองโลกในแง่ดีแล้วนะ


“หลอกให้ซื้อขนมมาเทคตั้งสองวัน”


สรุปว่าเจ้าของรหัสที่ผมจับได้เป็นเด็กเสคโยธาที่ชื่อ ‘เม่น’ ต่างหาก


“ก็แค่ลองพูดเล่นๆ ทางนั้นพลาดเองที่ไม่รู้จักเช็คดูไม่ใช่เหรอ?”


อยากฆ่ามัน.. แต่ผมก็ยังยิ้มอยู่ ที่มันพูดมาก็จริง คราวนี้ผมพลาดเองแหล่ะ จะพยายามโทษตัวเองแล้วกัน


แต่ก็นะ อุตส่าห์นึกว่าเป็นคนดี เห็นเป็นฝ่ายมาทักผมก่อน แถมใครๆ ก็ชื่นก็ชม ที่ไหนได้.. กวนตีนหลบใน


“จำไว้เลย”  ผมตัดสินใจจบบทสนทนาแล้วตั้งใจจะเดินไปซื้อข้าว


“ความจำไม่ดี”


“นิสัยก็ไม่ดีด้วย”  ผมหันกลับไป เจอหมอนั่นยื่นป๊อกกี้ที่กำลังกินอยู่มาให้แท่งหนึ่ง


“คืนให้.. ถือว่าเจ๊ากันไปเนอะ” 


“.........”  ยิ้มเต็มหน้าแบบนั้นอีกแล้ว..


“ไม่เอาเหรอ?”


“ให้ไปเกือบร้อย ได้คืนมาแค่เนี่ยนะ”  ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ผมก็อ้าปากรับด้วยความเคยชิน


“.........”  เห็นหมอนั่นทำหน้าแปลกๆ ถือป๊อกกี้นิ่ง ก็เลยนึกได้ว่านี่ไม่ใช่พวกผู้หญิงที่มักอยู่รอบๆ ตัวผมนี่นา


ผมหุบปาก จะยื่นมือไปรับ แต่หมอนั่นดันยื่นแท่งป๊อกกี้มาใกล้จนแตะริมฝีปาก ก็เลยต้องเปิดปากรับอีกรอบ


“เอาหมดนี่แหล่ะ”  เพราะรู้สึกว่าตกอยู่ในความสนใจมากเกินไปแล้ว(หรือเปล่า?) ผมเลยฉวยป๊อกกี้ทั้งกล่องของหมอนั่นแล้วชิ่งออกมาเลย



เมื่อกี๊มันอะไรน่ะ.. ทำเอาใจเต้นผิดไปจังหวะหนึ่งเลย




“โอ๊ะ! โทษที..”  เพราะไม่ทันได้มองทาง ก็เลยมาชนเข้ากับใครไม่รู้อย่างจัง


“เจ็บ..”  เสียงที่ค่อนข้างจะไร้อารมณ์ของอีกฝ่ายเรียกให้ผมเงยหน้าขึ้นมอง


แล้วก็ต้องอึ้งไป..


หวาาา ไททันสองเมตร! หมอนี่มันใครกัน? ทำเอาผมที่สูง 180 กว่า กลายเป็นหนูน้อยไปเลยไม่ใช่เหรอ ฝรั่งหรือคนไทยนะ ผมสีอ่อน ตาก็สีแปลกๆ จะเหลืองก็ไม่ใช่ น้ำตาลก็ไม่เชิง อย่างกับตาแมวแน่ะ


จริงสิ รู้สึกอย่างกับกำลังถูกแมวจ้องอยู่เลย


“ขอ..โทษ...”  ผมพูดอย่างไม่แน่ใจนักกับสายตาที่อ่านไม่ออกของคนที่ก้มมองลงมา เล่นเอาเดาไม่ได้เลยว่ากำลังอยู่ในอารมณ์ไหน


‘เมโล่’ ป้ายชื่อเขียนบอกไว้แบบนั้น งั้นก็เป็นเด็กปีหนึ่งเหมือนกันสินะ ตัวใหญ่เวอร์..


แต่รู้สึกชื่อนี้เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า?


“โอ๊ยยย เจ็บจังเลยยยย”  แล้วจู่ๆ เจ้ายักษ์นั่นก็ทรุดลงไปนั่งโอดครวญกับพื้นโรงอาหาร


“นี่ นาย! ไหวหรือเปล่า?”  ผมลงไปนั่งด้วย ตกใจเหมือนกันที่เห็นท่าทางเจ็บปวดขนาดนั้นของเขา


“เจ็บๆๆๆ ถ้าไม่ได้กินน้ำแข็งใสกับข้าวโพดอบเนยใต้คณะ ต้องตายแน่เลย..”




ห๊ะ?










TBC.
มาลงเรื่องใหม่ แต่ใช้กระทู้เดิม เพราะไม่อยากเป็นภาระให้โมดุฯ
ส่วนเรื่องเก่า พยายามจะให้มันเศร้า แต่ก็เศร้าได้ไม่สุดสักที เลยพับโครงการเก็บไปก่อน

เรื่องนี้เป็นเรื่องเรื่อยๆ คอมเมดี้เบาๆ ความรักเน้นๆ และตั้งใจจะให้เป็นเรื่องยาวเรื่องที่สอง
(เพราะหลังจาก hSS จบก็ไม่ได้เขียนเรื่องยาวอีกเลย)

ก็หวังว่าจะทำได้อย่างที่ตั้งใจ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
ไวท์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-03-2014 22:34:14 โดย White Raven »

ออฟไลน์ paojijank

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: T H R E E S ♥ M E . . . . . . # Act.1 up! 25.01.14
«ตอบ #3 เมื่อ25-01-2014 23:56:03 »

ต้อนรับเรื่องใหม่จ้า แนวรัก 3 เส้าซะด้วย

ออฟไลน์ SoulFighter

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
Re: T H R E E S ♥ M E . . . . . . # Act.1 up! 25.01.14
«ตอบ #4 เมื่อ26-01-2014 00:55:59 »

 :z2:

แวะเข้ามาอ่านเรื่องใหม่


ออฟไลน์ princessrain

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
Re: T H R E E S ♥ M E . . . . . . # Act.1 up! 25.01.14
«ตอบ #5 เมื่อ26-01-2014 18:16:56 »

บร๊ะะะ เรื่องใหม่  :katai2-1: :katai2-1:

สามพีมันก็ดีนะคะ  :hao6:
แต่ขออย่าคือพยายามอย่าดราม่า น้ำตานอง
แบบเป็นผู้หญิงอารมณ์ดี ชอบอ่านแบบขำๆ
#เหมือนเลือกได้ #เพราะคุณไวท์แต่งอะไรก็อ่านค่ะ ฮ่าาา

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
Re: T H R E E S ♥ M E . . . . . . # Act.1 up! 25.01.14
«ตอบ #6 เมื่อ26-01-2014 18:50:41 »

มาอ่านด้วยคนเน้อ
รักสามเส้ารึรักสามเศร้าหนอ
แบบแรกเถอะ เราพวกสุขนิยม ฮ่าๆ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: T H R E E S ♥ M E . . . . . . # Act.1 up! 25.01.14
«ตอบ #7 เมื่อ27-01-2014 01:59:00 »

 :katai2-1: อ่า เรื่องใหม่ๆ

ออฟไลน์ Ipatza

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 932
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-7
Re: T H R E E S ♥ M E . . . . . . # Act.1 up! 25.01.14
«ตอบ #8 เมื่อ27-01-2014 02:38:01 »

อือ เห็นแนวดราม่ามาแต่ไกล

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เปิดตัวแต่ละนายเด็ด ๆ ทั้งนั้น

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ยากนัก... รักนี้ ♥ #ตอนที่ 1 up! 28.03.14
« ตอบ #9 เมื่อ: 29-03-2014 14:32:18 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ยากนัก... รักนี้ ♥ #ตอนที่ 1 up! 28.03.14
«ตอบ #10 เมื่อ29-03-2014 16:20:13 »

 :hao6: ชายเยอะโคตรถูกใจ

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
Re: ยากนัก... รักนี้ ♥ #ตอนที่ 1 up! 28.03.14
«ตอบ #11 เมื่อ29-03-2014 16:47:44 »

ชายต่ายน่ารักเกินไปแล้ววววววววว

โอ๊ยยยยยยยย อยากเรียนคณะนี้บ้างจัง XD

ออฟไลน์ White Raven

  • I'm beautiful in my way.~
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +779/-3
    • Fanpage
ยากนัก... รักนี้ ♥






ตอนที่ 2






“ทำให้เจ็บ ก็ต้องรับผิดชอบสิ”


เพราะไอ้แมวยักษ์มันพูดแบบนั้น ผมเลยต้องมานั่งมองมันสวาปามน้ำแข็งใส 2 ถ้วย ข้าวโพดอบเนย 3 แก้ว กับชาเขียวอีก 1 ขวด...ที่ซื้อจากเงินในกระเป๋าของผม


“พี่สาวคร้าบ ขอน้ำแข็งใสอีกถ้วย เอาถั่วแดงเยอะๆ นะ”  ไอ้คนที่เพิ่งยกด้วยน้ำแข็งใสขึ้นซดจนหมดเกลี้ยง หันไปสั่งใหม่อีก


“จ้า เมโล่นี่ชอบถั่วแดงจริงๆ นะ”  คนขายน้ำแข็งใสเหมือนจะคุ้ยเคยกับลูกค้าคนนี้ดี


‘คาร์เมโล เดนธ์’ ดาวเด่นจากภาคอากาศยาน(ผมจำได้แล้วว่าเคยได้ยินเรื่องของหมอนี่มาจากนิ่มหลายครั้ง) คือคนที่ผมบังเอิญเดินไปชนเข้า


“ช่ายยย ถั่วแดงอร่อยดีเนอะ”  มันหันไปคุยกับเพื่อนสนิทของมันที่นั่งข้างกัน


ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ‘ไอศูรย์ วงศ์ฐิติ’ มนุษย์กวนตีนหลบใน ดาวดังจากภาคเครื่องกล ที่ผมเพิ่งจะหันหลังให้มันไม่ถึงสามนาทีนั่นล่ะ ก็ไม่รู้ทำไมมันถึงต้องมานั่งกินข้าวโต๊ะเดียวกับเราด้วย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็นั่งอยู่อีกโต๊ะแท้ๆ


“ลูกชิดก็อร่อยนะ”  ไอแนะนำเพื่อนของมัน


“งั้นเหรอ..”  เมโล่ทำหน้าสนใจ มันหันไปหาคนขายเหมือนจะสั่งเพิ่ม แต่เสียงของไอทำให้ต้องหันกลับมาฟัง


“จริงๆ รากบัวเชื่อมก็อร่อย”


“เหรอ..”  เมโลหันไปหาคนขายอีกที แล้วก็ต้องหันกลับมาเพราะเสียงเดิมอีกทีเหมือนกัน


“มันเชื่อมก็อร่อย”


“มีอะไรอร่อยอีกไหม?”  คราวนี้เมโล่ไม่รีบหันไป แต่ถามให้รู้เรื่องกันไปทีเดียวเลย


“อร่อยทุกอย่างแหล่ะ”  ไอ้นั่นก็ตอบง่ายๆ  “แต่เขาให้ใส่ได้แค่สามอย่างไม่ใช่เหรอ?”


เมโล่นั่งคิด คิด คิด.. คิดหนักอยู่หลายอึดใจก็ยังเลือกไม่ได้ สุดท้ายก็หันมาหาไออีกรอบ


“แต่ถ้าเอาอย่างอื่นด้วย ก็ต้องได้ถั่วแดงน้อยลงใช่เปล่า?”


“งั้นดิ”  ไอพยักหน้า พูดทั้งที่ข้าวเต็มปาก


“งั้นไม่เอาดีกว่า”  หมอนั่นยอมตัดใจง่ายๆ แล้วตั้งหน้าตั้งตารอน้ำแข็งใสถ้วยใหม่อย่างจดจ่อราวกับเด็กๆ 


“เฮ้ย จะกินไปถึงเมื่อไหร่?”  ผมเคาะนิ้วกับโต๊ะเรียกความสนใจอีกฝ่าย (หาจังหวะพูดมานานละ เพิ่งจะเจอ)


“ทำคนอื่นเจ็บยังพูดมากได้อีกเหรอ?”  มันหันมาถามกลับหน้าตาเฉย


“นี่มันเข้าข่ายขู่กรรโชกทรัพย์กันแล้วไม่ใช่หรือไง? แล้วก็ไม่เห็นจะเจ็บตรงไหน ท่าทางสบายดีออก”


“หน้าตาก็ไม่เห็นเหมือนคนถูกขู่เลย..”  ไอสอดปากเบาๆ พอผมมอง มันก็ทำยิ้มๆ แล้วกินข้าวต่อ


“ไม่ต้องใส่น้ำแข็งเยอะนะพี่สาว”  ส่วนเพื่อนของมันทำเป็นหูทวนลมซะงั้น


เกลียดไอ้คู่นี้จริง.. ผมนั่งมองพวกมันอย่างชั่งใจ ปกติผู้ชายเป็นกันแบบนี้หรือไง?


ผมก็ไม่ค่อยรู้จักผู้ชายคนอื่นนอกจากตัวเองด้วยสิ(แต่ผมแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้เป็นแบบนั้น) ความคิดที่ว่าอยากตีสนิทกับผู้ชายชื่อ ‘ไอ’ นั้นเอาลงหลุมฝังกลบโบกปูนทับไปได้เลย เออ รวมผู้ชายชื่อ ‘เมโล่’ เข้าไปด้วยแล้วกัน จากนั้นก็ต้องมองหาเป้าหมายใหม่ที่มันเข้าท่ากว่านี้แล้วล่ะ


“ถ้วยนี้จ่ายเองแล้วกัน ไปล่ะ”  ผมลุกขึ้น


“ได้ไง?”  เมโล่รีบคว้าแขนผมไว้ ..มือใหญ่ชะมัด หมอนี่มันใหญ่ทั้งตัวเลยหรือไง


“ใครกินใครก็จ่ายไปสิ.. เอานี่ไปแล้วกัน”  ผมวางป๊อกกี้ที่แย่งมาจากไอก่อนหน้าให้


เมโล่หยิบป๊อกกี้ไปไว้ข้างตัวเหมือนกลัวผมจะเปลี่ยนใจ แล้วจับสีข้างข้างที่ถูกผมชน 


“เจ็บ..”   


“ห๊ะ?”


“เจ็บๆๆๆๆๆ”  มันฟุบหน้าลงกับโต๊ะ ปล่อยมือข้างที่จับแขนผมแล้วเอาไปทุบโต๊ะแทน


“.........”  ผมมองไอ มันก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ กินข้าวต่อไป


“ได้แล้วจ้า”  คนขายเอาน้ำแข็งใสมาเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะอย่างกระตือรือร้น แล้วเดินกลับร้านไป


“เจ็บจะตายแล้ว..”  มันเหลือบมองถ้วยน้ำแข็ง ก่อนย้ายมาที่หน้าผม วางคางไว้บนโต๊ะ แล้วสารภาพ  “ไม่มีตังค์อ่ะ จ่ายให้หน่อยไม่ได้เหรอ?”


“ตังค์ไปไหนหมด เมโล่?”  ไอขมวดคิ้ว


“ก็...”  ไอ้แมวยักษ์กลายร่างเป็นเด็กยักษ์กลัวความผิดไปเมื่อถูกถาม  “เมื่อวีคที่แล้วพรีออเดอร์เกมกับไอไปใช่ไหมล่ะ แล้วเมื่อวาน เมื่อวานก่อน เมื่อวานนู้น เมื่อวานนู้นอีก..”  เมโล่นับนิ้วตัวเองไปเรื่อย


“สรุปว่าทุกวัน?”  ไอรวบรัดตัดความ


“อือ ไปร้านเลอโนทมา”


“เข้าใจนะว่าชอบเค้ก..”  คนพูดถอนหายใจ  “แต่ถ้าไม่รู้จักวางแผนใช้เงิน เงินมันก็จะไม่พอใช้แบบนี้แหล่ะ นี่ยังไม่ถึงกลางเดือนเลยด้วยซ้ำ เหลืออีกตั้งหลายวันกว่าค่าขนมจะออกไม่ใช่เหรอ?”


“ทำไงดีอ่ะ ลุงบอกไม่ให้ขอใหม่ถ้ายังไม่สิ้นเดือนด้วย”  เมโล่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ เหมือนมันเพิ่งจะรู้ตัวเดี๋ยวนั้นเองว่าตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากเข้าให้แล้ว


ผมล่ะเชื่อสนิทเลยว่าหมอนี่ท่าทางจะโตแต่ตัวเท่านั้นล่ะ


“ก็รับกรรมไปสิ เคยเตือนไปหลายทีแล้วนี่ แล้วเดี๋ยวเดือนหน้าค่อยตั้งต้นใหม่”


“ไหงพูดง่ายงั้น แล้วระหว่างนั้นเพื่อนนายจะกินอะไรล่ะ?”  ผมที่ฟังมานานอดพูดบ้างไม่ได้ เห็นหน้าตาซึมๆ ของมนุษย์แมวยักษ์นั่นแล้วก็ค่อนข้างจะ...เห็นใจ ล่ะมั้ง


“หรือคุณชายต่ายจะรับอุปการะล่ะ? แต่หมอนี่กินเยอะนะ”  ไอชี้เพื่อนตัวโต แต่มองหน้าผม


“เกี่ยวอะไรด้วยล่ะ เพื่อนใครก็ดูแลกันเองสิ”


“ก็นึกว่าจะใจดี”  ไอพูดยิ้มๆ ที่เหมือนจะเยาะๆ ด้วย ..ยิ่งคุยยิ่งไม่ถูกชะตาแฮะ


แต่ก็นะ ถ้าบ้านผมรวยกว่านี้ผมก็อาจจะใจดีกว่านี้ก็ได้ แต่พอดีว่าบ้านผมแค่ฐานะปานกลาง แล้วทั้งบ้านก็มีแม่หาเงินอยู่คนเดียว ผมเองก็ต้องประหยัดเหมือนกันแหล่ะ


“อ้าว จะไปแล้วเหรอ?”  พอผมหันหลัง เสียงตัวกวนประสาทนั่นก็ดังขึ้นอีก  “เอ้า เมโล่ ขอบคุณคุณชายต่ายที่ใจดีเลี้ยงขนมหน่อยสิ”


“ขอบคุณคร้าบบบ” 


ผมหันกลับไปมอง แล้วก็ได้เห็นรอยยิ้มจริงใจแบบเด็กๆ ของแมวยักษ์เมโล่เป็นครั้งแรก


“แล้วมาเลี้ยงอีกนะ บันนี่~”




บันนี่?




“ร้อน..”


ผมแหงนหน้ามองดวงอาทิตย์ยามบ่ายที่กำลังร้อนแรงได้ที่แล้วก็อยากจะละลายหายไปจากตรงนี้เลย ไม่รู้คิดอะไรของพวกรุ่นพี่ ชั่วโมงรับน้องวันนี้อยู่ดีๆ ก็ให้ออกมาวิ่งรอบคณะซะงั้น


“ไหวเปล่า คุณชาย?”  ไอวิ่งมาตีเสมอผม เหงื่อเปียกเต็มเสื้อ แต่ท่าทางยังดูชิลล์ๆ ..หรือพยายามทำให้ดูเหมือนแบบนั้น


“ห่วงตัวเองเถอะ”


“ก็ไม่ได้บอกสักหน่อยนี่ว่าห่วงนาย”


ไอ้นี่.. ผมเร่งฝีเท้าวิ่งหนีมัน แต่มันก็ยังไล่ตามจนทัน แถมยังหัวเราะอีก


“น้ำไหม?”  อยู่ดีๆ มันก็ยื่นขวดน้ำที่กินไปแล้วเกือบครึ่งมาให้


“ไปเอามาจากไหน?”  เท่าที่เห็นยังไม่มีใครได้รับอนุญาตให้หยิบน้ำที่รุ่นพี่เตรียมไว้ให้เลยนี่นา


“ความลับ”  หมอนั่นยักคิ้ว  “เอาไม่เอา?”


“เอา”  ผมคว้าขวดน้ำมาเปิดฝาแล้วกระดก ได้ยินเสียงหมอนั่นหัวเราะแต่ก็ทำเป็นไม่ได้ยินไปซะ


“มีคนล้มลงไปแล้ว!”  เสียงคนที่วิ่งข้างหน้าทำให้ผมสนใจ มองหาคนล้มที่ว่า เห็นอยู่ไกลลิบๆ แต่ก็บอกได้ทันทีเลยว่าเป็นใคร


“นั่นเพื่อนนายนี่?”  ผมคืนน้ำที่ยังเหลืออยู่นิดหน่อยให้ไอ อีกมือชี้ไปทางมนุษย์แมวยักษ์ที่นอนเหยียดยาวคว่ำหน้าอยู่บนลานกลางของคณะ


พูดถึงได้หมอนั่น.. ที่ผมเป็นห่วงว่ามันจะอดตายเพราะใช้ค่าขนมหมดก่อนสิ้นเดือนนี่ช่างเสียเปล่าจริงๆ เพราะไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ผมผ่านไปทางโรงอาหาร ผมก็จะเห็นมันสิงสถิตย์อยู่ที่นั่นตลอด ประหนึ่งเป็นบ้านหลังที่สอง แล้วโต๊ะไหนที่มันนั่งก็มักจะมีขนมนมเนยวางอยู่ไม่เคยขาด แน่นอนว่ายาจกชั่วคราวอย่างมันไม่ได้ซื้อเองอยู่แล้ว ทั้งหมดนั่นมาจากบรรดามิตรรักแฟนคลับทั้งนอกและในคณะที่มาหลงใหลในความแปลกคนของมันล้วนๆ


แม้แต่อาจารย์ในคณะ ผมยังเคยเห็นแกซื้อข้าวให้มันกินเลย ..ท่าทางจะเป็นที่เอ็นดูของหลายคนอยู่นะ หมอนั่น


แบบนี้ต่อให้เงินค่าขนมไม่ออกไปตลอดชีวิต ผมก็ไม่คิดว่ามันจะเดือดร้อนหรอก


“ไม่ห่วงหรือไง?”  ผมเห็นไอดูเฉยๆ เลยสงสัยว่าปกติพวกเพื่อนผู้ชายนี่เขาไม่เป็นห่วงกันหรือไง


“มันแค่ขี้เกียจน่ะ ไม่ต้องไปสนใจหรอก”


“ห๊ะ?”


“เมโล่ อย่าอู้!” เสียงตะโกนของพี่ว้ากทำให้ผมหันไปมองทางเจ้าของชื่ออีกครั้ง


ร่างเหยียดยาวที่นอนแน่นิ่งเริ่มกระดุกกระดิก สักพักก็ค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นนั่ง ขึ้นยืน แล้วก็วิ่งต่อ..


“เห็นมะ?”


ไอยิ้มกว้างทิ้งท้าย แล้ววิ่งนำห่างออกไป




ยิ้ม.. แบบนั้นอีกแล้ว
 



“ว้าย!” 


เพราะหยุดวิ่งกระทันหันโดยไม่รู้ตัว ทำให้คนที่วิ่งตามมาชนเข้ากับหลังผมอย่างจัง หันไปมองก็เห็นว่าเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ จากเสคอุตสาหการ ที่ชื่อ ‘ก้อย’ ผมจำได้ก็เพราะนิ่มชอบฝากขนมให้ผมเอาไปเทคเธอบ่อยๆ


“โทษที เป็นอะไรมากหรือเปล่า?”  ผมเข้าไปช่วยจับเธอลุกขึ้น


“โอ๊ย..”  แต่เหมือนว่าข้อเท้าเธอจะแพงซะแล้ว


“ไหวไหมเนี่ย ก้อย?”  เพื่อนที่วิ่งมากับเธอเป็นคนถาม


“น้อง พี่ว่าพาไปตรงที่พวกพี่พยาบาลอยู่ดีกว่า”  พี่ว้ากที่ยืนคุมอยู่บริเวณนั้นเข้ามาดู


“ให้เราช่วยนะ”  ผมเห็นท่าพวกเธอทุลักทุเลน่าดู เลยอาสา  “โทษนะ ไปแบบนี้แล้วกัน”


“ว้าย..”  ก้อยหวีดสั้นๆ ผวากอดคอผมไว้แน่นเมื่อผมช้อนอุ้มเธอขึ้น จากนั้นก็เอาแต่ก้มหน้าชิดอกโดยไม่พูดอะไรอีก


จนมาถึงจุดสวัสดิการ ที่มีทั้งพี่สวัสดิการและพี่พยาบาลรวมตัวกันอยู่...


“ชายต่ายเป็นไงบ้าง?”


“เอาน้ำหวานไหม?”


“เหงื่อชุ่มเชียว พี่เช็ดหน้าให้นะ?”


“พี่ปีสอง! น้องคนนั้นไม่ได้เจ็บ ไปดูแลแค่คนเจ็บก็พอ”  พี่ว้ากปีสามทำเอาพวกปีสองถึงกับสะดุ้งไปตามกัน


“ส่วนคนที่ไม่เจ็บก็กลับไปวิ่งซะ!”  พี่ว้ากอีกคนสั่งโดยไม่มองหน้าผม


“ครับ..”  ผมรับคำ กำลังจะกลับออกไป ก็เจอกุ้งนางเดินมึนๆ เข้ามาพอดี


“อ้าว คุณชายต่ายไม่พักเหรอ?”


“เราไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อยนี่”  ผมยิ้มตอบเธอไป


“หืมม เหรอ”  หน้าเธอดูแดงๆ บวมๆ นิดหน่อย ผมสงสัยว่าอาจเป็นเพราะฤทธิ์แดด


จะว่าไปแล้วผู้หญิงคณะนี้ก็อึดกันน่าดูเลยแฮะ แม้แต่คนที่รูปร่างดูบอบบางอย่างกุ้งนางก็เถอะ


“แล้วน้องมาทำอะไรตรงนี้?”  พี่ว้ากคนหนึ่งถามกุ้งนาง


“ก็หนูสงสัยว่าคุณชายต่ายอุ้มใครมาอ่ะ”


“แล้วรู้ยัง?”


“รู้แล้วค่ะ” 


“งั้นก็กลับไปวิ่งได้แล้ว ทั้งคู่เลย อย่าเอาเปรียบเพื่อน”


ผมรู้สึกว่าถูกจ้องจากด้านข้างมาพักหนึ่งแล้ว เลยเห็นไปดู เลยได้สบตากับรุ่นพี่ผู้หญิงคนหนึ่งเข้า เธอหลบสายตาผม แล้วเดินมาละกิดเพื่อนที่เป็นว้ากเกอร์


“กูว่าพอแค่นี้ไหม?”  เธอพูดแบบนั้น แล้วเหลือบมองผมอีกที  “วันนี้พวกน้องมันก็เหนื่อยกันมากแล้วนะ”


“แล้วมึงว่าไง?”  พวกรุ่นพี่ปีสามหันไปปรึกษากันสักพัก สุดท้ายผลสรุปก็ออกมา..


“เออ งั้นก็ไปเรียกพวกมันกลับมารวมตัวกัน”


“อิอิ เพราะคุณชายต่ายเลยนะเนี่ย”  กุ้งนางเข้ามากอดแขนผม ดีใจที่ไม่ต้องกลับไปวิ่งอีก


“ไม่เหม็นเหงื่อเหรอ?”  ผมรับผ้าเช็ดหน้ากับน้ำหวานเย็นๆ จากพี่สวัสดิการคนหนึ่งด้วยมือข้างเดียว เพราะอีกข้างกุ้งนางยังเกาะไว้แน่น  “ขอบคุณครับ”


“ผ้าพี่เอง ใช้เสร็จแล้วขอคืนนะ”  พี่สวัสดิการคนนั้นกระซิบบอก ก่อนแยกไปดูแลคนอื่น


“กลิ่นเร้าใจดีออก”  กุ้งนางก็ยังปากตรงกับใจตามเคย


อีกพักใหญ่ๆ นั่นแหล่ะเธอถึงจะยอมปล่อยผม





“อะไร?”  ผมถามยิ้มๆ กับตาที่มองมาแบบเยิ้มๆ ของนิ่ม


“กำลังคิดว่าทำไมชายต่ายของเพื่อนถึงได้เป็นสุภาพบุรุษจุฑาเทพขนาดนี้นะ อยากจะคลานเข่าเข้าไปกราบเท้าหญิงแม่ที่เลี้ยงดูมาจริงๆ”


“ว่าไปนั่น”  ผมหัวเราะ กำลังแยกขนมที่อยากกินกับไม่อยากกินออกจากกัน อันไหนไม่อยากกินก็ตั้งใจว่าจะเอากลับไปฝากน้องสาวที่บ้าน ทั้งหมดนี่ได้มาจากพวกผู้หญิงต่างคณะที่แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนเมื่อเช้าเองแหล่ะ


“วันนี้เดินไปทางไหนก็ได้ยินแต่วีรกรรมที่นายทำไว้เมื่อวาน”  สจีพูดหน้าตายเหมือนเช่นทุกวัน


“ถ้าคนเจ็บเป็นนิ่ม ชายต่ายจะอุ้มเปล่าอ่ะ?”  นิ่มทำตาเป็นประกายวิบวับตามประสาสาวช่างฝัน


“ใครเขาจะไปอุ้มกระสอบปุ๋ยอย่างแกไหววะ?”


“ฉันเกลียดแก!”  นิ่มหันไปบอกสจีด้วยสีหน้าเจ็บปวดเกินจริง


“เมื่อเช้าเห็นก้อยมาหา?”  สจีถามผม


“ซื้อขนมมาฝากน่ะ”


“มีแฟนแล้วนะนั่น”  นิ่มเบ้ปาก


“เขาคงแค่อยากขอบคุณเรื่องเมื่อวานมั้ง”


“ถ้าแค่นั้นก็ดี แฟนยัยนั่นอยู่โยธา กลุ่มเดียวกับรักชาติ ได้ยินว่าตอน ม.ปลายเกเรกันน่าดู”  สจีบอก


“เหรอ..”  ผมฟังผ่านๆ หู





“ทางนี้โว้ย! ส่งมาทางนี้!”


ระหว่างเดินไปห้องสมุด ผมเห็นกลุ่มของไอกำลังเล่นฟุตซอลอยู่ในสนามของคณะ ดูน่าสนุกดีก็เลยหยุดยืนมอง


“ปิดเชี่ยไอ! ปิดมันไว้!”


พอไอได้แตะลูก ฝ่ายตรงข้ามเกือบทั้งทีมก็กรูกันมาล้อมเขา ทั้งยื้อทั้งดึงแบบผิดกติกากันเห็นๆ แต่สุดท้ายหมอนั่นก็อุตส่าห์เลี้ยงบอลฝ่าทีมศัตรูออกมาทำประตูจนได้ ..เก่งเหมือนกันแฮะ


“กรี๊ดดดดด ไอสุดยอด!”  เสียงสาวๆ ข้างสนามดังเจี๊ยวจ๊าว


หมอนั่นยิ้มร่ารับแรงใจล้นหลามจากแฟนคลับ รวมทั้งเพื่อนทีมเดียวกันและต่างทีมที่เข้ามาตบหัวตบตูดหยอกล้อกันอย่างสนิทสนม


“เมโล่ นี่มึงไม่คิดจะขยับตัวเลยหรือไงห๊ะ?!”


นั่นล่ะ ที่บอลมันเข้าไปง่ายๆ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะผู้รักษากระตูฝ่ายตรงข้ามคือเจ้าแมวยักษ์จอมขี้เกียจนั่นล่ะ


“เอ๋.. ก็มันเหนื่อยนี่”


“ฮ่าๆๆๆ เมโล่ก็สุดยอดเหมือนกัน”


“น่าสนุกจังเลยน้า..”  ผมพูดกับตัวเอง


อยากจะมีช่วงเวลาแบบนี้กับเพื่อนๆ บ้างเหมือนกัน ไม่รู้ว่าชาตินี้จะมีโอกาสหรือเปล่านี่สิ


“เล่นด้วยกันไหม คุณชาย?”


เพราะมัวแต่เหม่อมองกลุ่มคนในสนาม เลยไม่ทันสังเกตเห็นว่าไอมายืนพิงรั้วเหล็กอีกด้านตั้งแต่เมื่อไหร่


“เอ๊ะ ได้เหรอ?”


หมอนี่เป็นผู้ชายคนแรกเลยที่เข้ามาชวนผมไปเล่นด้วย.. รู้สึกดีใจหน่อยๆ แฮะ


ถึงคนชวนจะเป็น ‘ไอ’ คนนั้นที่ผมตัดออกจากรายชื่อคนที่อยากสนิทด้วยไปแล้วก็เหอะ


“ก็เป็นสนามของทุกคนอยู่แล้วนี่”  หมอนั่นกระดกขวดน้ำอึกๆ เสื้อเปียกชุ่มไปทั้งตัว


“งั้นเหรอ..”


“แล้วนี่กำลังจะไปไหน?”


“ว่าจะไปยืมหนังสือที่ห้องสมุดมาเขียนรายงาน”


“ดรออิ้ง?”


“อือ ทำแล้วเหรอ?”


“ยังเลย”  หมอนั่นหันมาชูสองนิ้ว ยิ้มยิงฟัน


“ก็ว่างั้น”


“หมายความว่าไง?”


“ไม่นี่..”  ผมมองไปทางเพื่อนของไอที่วิ่งไล่เตะกันในสนาม  “นายนี่เพื่อนเยอะดีนะ ดูสนิทกันดีด้วย”


“ก็ปกตินี่”


“อิจฉานิดๆ แฮะ”


“เห..”  ไอหันมามองผมยิ้มๆ  “ไม่ใช่นายหรอกเหรอที่น่าอิจฉา ใครๆ ก็พูดกันทั้งนั้นว่าอิจฉาคุณชายต่าย”


“เพื่อนเรามีแต่ผู้หญิง”


“แต่พวกเธอก็เป็นเพื่อนที่ดีของนายไม่ใช่เหรอ?”


“อือ..”  ไอพูดถูก


“ใช่ไหมล่ะ? ฮ่ะๆๆ”


มาพูดแบบนั้น มายิ้มเต็มหน้าแบบนั้น..


หมอนี่ต้องการอะไรจากผมกันแน่นะ



“เป็นอะไร?”  ไอเอียงคอมองมือที่ยกขึ้นกดอกของผม


“เหมือนจะเป็นโรคหัวใจ”  มันเต้นแปลกๆ


“พูดเล่นพูดจริงเนี่ย?”


“ไม่รู้เหมือนกัน”


“เอ๊า”


“ไปแล้วนะ” 


“อะไรวะ?”





ผมเดินไล่หาหนังสือที่ต้องการตามชั้นมาเรื่อยๆ แต่พอเจอกลับถูกใครบางคนหยิบตัดหน้าไปก่อน


“อ๊ะ..”


ผู้ชายที่หยิบหนังสือไปมามองผม ผมเลยยิ้มให้หวังสร้างมิตร แต่เขากลับยกยิ้มมุมปากคล้ายเยาะเย้ยกันซะงั้น


“แบ่งให้เราเล่มหนึ่งไม่ได้เหรอ?”  ผมชี้หนังสือสองเล่มในมือเขา มันเป็นแบบเดียวกัน ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเอาไปทำไมตั้งสองเล่ม


“ไม่อ่ะ”  หมอนั่นตอบหน้าตาเฉย ผมชักยั้วะแต่ก็ยังยิ้มอยู่ เห็นมันไม่ได้คล้องป้าย เลยนึกกลัวว่าอาจจะเป็นรุ่นพี่


“น้ำใจอ่ะ”  ผมว่า ทางนั้นดันยิ้มชอบใจ


“อ๊ะ รักชาติ หนังสือนั่นน่ะ ขอพวกเราเล่มหนึ่งได้เปล่า?”  มีเพื่อนร่วมชั้นปีสองคนเดินเข้ามาถาม


‘รักชาติ’ ..? ใช่คนเดียวกับที่อยู่เสคโยธาหรือเปล่า? งั้นก็ไม่ใช่รุ่นพี่น่ะสิ


ผมหันไปมองหน้าหมอนั่น มันยกยิ้มมุมปากอีกแล้ว แล้วก็ยื่นหนังสือเล่มหนึ่งให้คนที่มาทีหลังนั่นเฉยเลย   


“เอาไปดิ”


“ขอบใจนะ”  สองคนนั้นเดินจากไปด้วยท่าทางดีใจ ขณะที่ผมมองตามหลังไปด้วยความเสียดาย


“จริงๆ แล้วควรจะให้เราไม่ใช่เหรอ?”  ผมสงสัย


“ก็แค่ไม่อยากแบ่งให้พวกที่ชอบแย่งของคนอื่น”  หมอนั่นหันหลังเตรียมเดินออกไป 


“แย่ง..”


“โดยเฉพาะพวกที่ชอบแย่งผู้หญิงของคนอื่น”


แย่งผู้หญิงของคนอื่น.. หรือหมอนี่จะฟังข่าวลือที่คนเขาพูดกัน?


ผมเอื้อมมือไปดึงเสื้อของอีกฝ่ายไว้ หมอนั่นหันกลับมา ผมชี้หน้าตัวเอง


“นั่นแค่ข่าวลือน่ะ” 


พยายามยิ้มเข้าไว้ เผื่อมันจะเปลี่ยนใจยกหนังสือเล่มที่เหลืออยู่ให้ผม


“แค่ข่าวลือได้ไง ก็กูเจอมากับตัวเอง”





ห๊ะ?












TBC.
เปิดตัว 3 ผู้ท้าชิง อิอิ :110011: :z7:

พูดถึงชายต่าย
เขาไม่ใช่คนหล่อประเภทที่หล่อแบบ..ทำให้ชายแท้ๆยอมเป็นเกย์ได้อะไรแบบนั้นนะ
แต่ทั้งหน้าตาและบุคคลิกของเขามันเป็นประเภทที่ทำให้ผู้ชายด้วยกันรู้สึกว่าแพ้ราบคาบอ่ะ แล้วก็พาลทำให้ไม่อยากเข้าใกล้ เพราะไม่อยากถูกเปรียบเทียบ ประมาณว่าอยู่ให้ห่างๆ มันเอาไว้ชีวิตจะสดใสกว่า อะไรทำนองนั้น
ด้วยสาเหตุนี้แหล่ะ ทำให้ชายต่ายไม่ค่อยมีผู้ชายเข้ามาหา  ไม่เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ชาย(ฮา..) แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ค่อยรู้ตัวเท่าไหร่นะ ฮ่ะๆๆๆ

ถ้าชอบก็กดบวก กดเป็ด กดเม้นบอกความในใจให้คนเขียนได้รู้บ้างนะจ๊ะ จะได้เป็นกำลังใจต่อไป
 :pig4:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
แต่ละนายก็คนละแนว
ไอทำชายต่ายเราใจสั่นละนะ

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
ผู้ชายที่เป็นศัตรูกับผู้ชายทุกคนในโลกนี้เพราะผญ.วิ่งเข้าหาล่ะมั้งเนี่ย


ใจดีจนน่ากลัวเลยแฮะ

กะลาสี

  • บุคคลทั่วไป
เชียร์ไม่ถูกเลย แต่ละคนต่างสไตล์ เมโล่ให้ความรู้สึกเหมือน มุราซากิบาระเลย 5555 ชอบๆ

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
จะเลือกใครดีเนี่ย!!!!!!!!!

ออฟไลน์ broncho

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-1
มาให้กำลังใจคุณไวท์ค่ะ  ชอบเรื่องแนวนี้ของคุณไวท์มากเลย

คุณชายต่าย จะได้เพื่อนชายไหมน่ะงานนี้
คนนึง ก็ชอบหลอก
คนนึง ก็ชอบไถ
คนนึง ก็ดูจะตั้งสมาคมคนถูกแย่งหญิงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (คบยากที่สุดแล้วคนนี่) :m29:

อุตส่าห์ออกมาจากโลกสาวๆ มาเจอคนแบบนี้สงสัยต้องกลับไปทางเดิม
 :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
เป็นสุภาพบุรุษจุฑาเทพสินะ

หนุ่มๆเลยไม่อยากเป็นเพื่อนแถมยังเขม่นอีกตะหาก

แถมเหมือนให้ความหวัง(แบบไม่รู้ตัว)ไปทั่ว

เมโล่ให้ฟีลแบบแมวยักษ์ตัวใหญ่แสนขี้เกียจเลย แอร๊ยยย

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียวว่าจะเชียรใคร

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
ตัวเลือกเยอะไปนะ ไม่รู้จะเชียร์ใครดี อิอิ

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
ต่ายนี่ดูเป็นคุณชายไฮโซ ผู้ดีนะสินะ

ออฟไลน์ Shin Heeyoo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
เพิ่งเห็นนนนนนนน  พลาดไปได้ยังไงเนี่้ยยยยยยยย


คุณชายต่าย แห่งวังจุฑาเทพ จะคู่กับใครนิ


แลดูไอมาวินนะ เจอไอทีไร เป็นโรคหัวใจทู๊กที


รออ่านตอนต่อไปดีกว่า


 :katai2-1:

ออฟไลน์ yoyo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
รักชาติเป็นใครรรร
พระเอกรึเปล่า โผล่มาซะเท่เลย มาแรงแซงหนุ่มอื่น :katai2-1:

ออฟไลน์ blanchet

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
5555น่ารักจังเลย ชักอยากได้ชายต่ายมานั่งเล่นบ้าง
สนุกมากเลยจ้าา ชอบๆ รอตอนต่อไปนะคะ
ปล.ไอทำชายต่ายหวั่นไหวนะเนี่ยคิคิ

ออฟไลน์ แป้งข้าวหมาก

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
เลือกใครดีนะ   :laugh:

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
ไม่รู้จะเลือกใครเลย  :sad4:

ออฟไลน์ nutty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-3
ชอบจังพลอตแบบนี้ ชายต่ายขอเชียร์เป็นนายเอก
ส่วนพระเอกตอนนี้ขอลุ้นไอ ออร่าเทพ&เท่ใกล้เคียงกัน

ปล แบบรักชาติ คู่แค้นกันก้อน่าสน 555

ออฟไลน์ Pnomsod

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
เหมือนเดาๆ พระเอกออกเลยแหะ ฮ่าๆๆๆ ไม่รู้ใช่เปล่านะ

ดูต่อปายยยยยยยยย  o13 o13

ออฟไลน์ บ๊ายบายโพ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
ชอบๆๆๆๆ มาอัพอีกไวไวนะ เราจะรอ :man1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด