“ใช่เฮีย”ผมยืนยัน เฮียแกนส่ายหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อ “หึๆ มึงมันโง่ไอ้สอง...เออ ก็ได้ ไอ้ท็อปมันยอมแพ้ในครั้งนี้ แต่ครั้งหน้า กูจะไม่หยุดแน่ๆ”ผมมึนงง มองเฮียแกนเดินกลับลงจากเวทีมวยไปง่ายๆ อีกฝ่ายยอมง่ายแบบนี้เลยเหรอ
“สรุปคือจบแล้วใช่ไหม”พี่ท็อปตะโกนถามเฮียแกน คนโดนถามหยุดชะงัก
“เออ แต่มึงกับกูยังต้องเจอกันอีกนาน... โชคดีที่มึงได้...เมีย มาช่วยชีวิตไว้”เฮียแกนพูด จ้องหน้าผมแล้วเดินผ่านกลุ่มเพื่อนของตัวเองเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อ ทำเอาผมแทบทรุด เมียงั้นเหรอ ผมจะอ้าปากพูดแต่มีเสียงซุบซิบจากเพื่อนพี่ท็อปลั่น
“ใครว่า— เฮ้ย”ไม่ทันจะได้ปฏิเสธ พี่ท็อปเดินเข้ามาใกล้ ยื่นหน้ามาประกบปากผม ท่ามกลางสายตาของคนอื่น ผมอึ้งไป รู้ตัวอีกทีพี่ท็อปถอยห่างจากผมไป สีหน้ายิ้มแย้ม แววตาดูสนุกสนาน ผมจับปากเพราะเห็นว่ามีอะไรเปียกเปื้อน มองที่นิ้วมือ มือเลือดติดอยู่
“กูบอกแล้วไง ปากดีอย่างมึงต้องพิสูจน์ซะหน่อย”พี่ท็อปพูดกับผม
ผมเลียปากตัวเอง ถือว่าเป็นจูบที่มีรสเลือดด้วย
“เล่นแบบนี้เเลยหรอพี่”ผมแค่หัวเราะ ปล่อยให้พี่ท็อปดีใจไปก่อนเถอะ ขี้เกียจจะตอบโต้ด้วย เมื่อเหตุการณ์สงบลง ผมพยุงพี่ท็อปลงจากเวทีมวย แล้วยังต้องถูกเพื่อนพี่ท็อปมารุมล้อม ถามคำถามร้อยแปดอีก
“อะไรวะ แล้วมาทำมึนบอกว่าน้อง”พี่ธามพูดกับพี่ท็อป สีหน้าชื่นชมกับเหตุการณ์เมื่อครู่
“ถึงมึงจะแพ้ แต่กูก็เตรียมใจแล้ว... ไม่คิดว่าจะเปิดตัวแบบนี้นะไอ้ท็อป”ใครสักคนพูด
ระหว่างที่พาพี่ท็อปกลับไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อ ก็เจอเข้ากับไอ้ผิง และไอ้โก๋พอดี มันทำหน้าตื่นตระหนกดึงแขนผมมาคุยด้วย
“เพื่อนเลว แอบไปมีผัวตอนไหนได้วะเนี่ย”ไอ้ผิงยื่นมือมาผลักผมแรง ๆ ด้วยสีหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อ ผมส่ายหน้า ดูเหมือนผมจะตกเป็นฝ่ายเสียหาย
“ตลกแล้ว กูเป็นผัวพี่ท็อปมั้ง”ผมรีบพูดแข่งกับเสียงรอบตัวที่ดังเหมือนผึ้งแตกรัง
“ไอ้นี่ เค้าก็ได้ยินกันทั้งยิม เห็นไหม”ไอ้โก๋ว่า
“เฮ้ย ไอ้พวกนี้ มึงไม่เชื่อกูเหรอไง”ผมบอกเสียงอ่อนระโหย
“ไม่”มันสองคนพร้อมใจกันตอบ ไอ้เพื่อนเวรเอ้ย แต่ผมไม่อยากเถียงเพราะพี่ท็อปเดินไปเปลี่ยนเสื้อที่ห้องแต่งตัวของยิม ผมรีบตามไปทันที เมื่อเดินเข้าไปด้านในห้อง มีล็อกเกอร์อยู่ริมห้อง เจ้าตัวนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวยาว กำลังนั่งส่องกระจกเล็กๆในมือ ถือผ้าเช็ดตัวผืนเล็กไว้ด้วย เพื่อนพี่ท็อปกำลังหยิบเสื้อลำลองของพี่ท็อปมาให้ ผมรับมถือไว้ก่อนจะจับแขนเจ้าตัวไว้
“ไปหาหมอเลย เร็วเข้าเหอะ”ผมบอกก่อนจะมองแผลที่เหนือคิ้ว ยาวหลายซ.ม. พี่ท็อปซับเลือดด้วยผ้าขนหนูแล้วหันมายิ้มให้ผม
“โอเคน่า.. มึงนี่เหนือความคาดหมายจริงๆ”พี่ท็อปหัวเราะ แล้วบอกให้เพื่อนไปรอด้านนอก ผมไม่สนใจสายตาที่ล้อเลียนผมกับพี่ท็อป จนพวกนั้นเดินหายออกไป พี่ท็อปก่อนจะลุกขึ้นยืน ถอดกางเกงเปลี่ยนชุดต่อหน้าผมอย่างไม่กระดากอาย ผมเองก็เพิ่งได้เห็นแบบชัดเต็มตาก็คราวนี้
“มองอะไร เดี๋ยวคืนนี้ให้มองนานๆเลย”พี่ท็อปพูดทีเล่นทีจริงส่งยิ้มให้ แต่ผมนี่คิดลึกไปถึงไหนต่อไหน
“ได้เลยพี่ ...เออ ไหนว่ากลับไปคบกับไอ้คนเก่าของพี่ไง”ผมขมวดคิ้วมอง มาพูดจาหมาหยอกไก่แบบนี้ ก็ไม่โสดซะหน่อย
“ก็แค่คบ แล้วไงวะ กูไม่ได้ชอบมันแล้ว กูแค่หาทางเอาคืนนิดๆหน่อย”พี่ท็อปพูดอย่างไม่ใส่ใจ ยังคงมีรอยยิ้ม เอาคืนแบบไหนกัน ระหว่างนั้นผมพาพี่ท็อปไปโรงพยาบาลในมหา’ลัยเพราะว่าอยู่ใกล้ที่สุดแล้ว และอยากที่คาดไว้ว่าพี่ท็อปโดนเย็บไปสี่เข็ม นอกนั้นก็ได้ยาแก้อักเสบแก้ปวดมาชุดใหญ่ ในเมื่อมีผมดูแล เพื่อนๆพี่เขาก็แยกย้ายกันกลับ จากนั้นพี่ท็อปก็ซ้อนรถมอเตอร์ไซด์
ผมกลับมาที่หอพัก พอมาถึงห้องพักของพี่ท็อป เจ้าตัวเดินไปนั่งลงบนเตียงอย่างอ่อนแรง ท่าทางระบมช้ำไปทั้งตัว อาการปวดก็คงเริ่มออกอาการ ผมเดินเข้าไปสำรวจบาดแผลฟกช้ำบนใบหน้าพี่ท็อป
“หน้าช้ำ เสียหล่อหมด”ผมพึมพำ เอื้อมมือไปสัมผัสรอยแผลเหนือโหนกแก้มที่ขึ้นฝ่าดเลือดชัดเจน ไหนจะรอยฟกช้ำดำเขียวที่เริ่มจะมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น บอกได้คำเดียวว่าเละ
“เออ กูก็หลบได้มากที่สุดเท่านี้แหละ”พี่ท็อปเบนหน้าหนีสัมผัสจากมือของผมแล้วจ้องเขม็ง ผมเองอยากถามอยู่เหมือนกันว่ามีเรื่องอะไรกับเฮียแกนกันแน่ รับคำท้าทั้งๆที่รู้ว่าต้องแพ้
“ดูปากสิ ช้ำหมดแล้ว”ผมพูดปราม ก่อนจะยื่นมือไปแตะบริเวณมุมริมฝีปาก มีรอยช้ำและมีรอยแตกเล็กๆของเจ้าตัว เห็นแล้วรู้สึกเจ็บแทนไปด้วย เลยได้โอกาสไล่นิ้วมือไปตามเรียวปากนั้นช้าๆแผ่วเบา ขณะนั้นเลยมองสำรวจใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างละเอียดและชัดเจน ผมสบตากับพี่ท็อป นัยน์ตาสีดำจับจ้องผมไม่วางตาเช่นกัน เหมือนพี่ท็อปมีแรงดึงดูดที่ประหลาดทำให้ผมอยากเข้าหา
ผมนึกอยากแกล้งเอาคืนพี่ท็อปเลยยื่นหน้าหมายจะจูบ เจ้าตัวเองก็ไม่ได้เอนตัวหนีไปไหน ผมประทับริมฝีปากไปที่บริเวณมุมปากของอีกฝ่าย ไล้ลิ้นไปตามริมฝีปากอย่างแผ่วเบา ใช้มือประคองใบหน้าของพี่ท็อป สอดลิ้นเข้าหา ก่อนจะจูบหนักหน่วง
“โอ้ย เชี่ยสอง”พี่ท็อปสะดุ้งโหยงแล้วผลักผมออกห่าง ก่อนจะเบ้หน้าเพราะเจ็บ เจ้าตัวเอามือแตะที่บาดแผลบริเวณมุมปากที่บอบช้ำ คิ้วขมวดเข้าหากัน ก่อนจะหันมองผมด้วยสายตาอันดุดัน
“ขอโทษครับ”ผมเกาศีรษะแก้เก้อ แล้วส่งยิ้มซื่อให้ ก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายยื่นมือเข้าไปเลิกชายเสื้อของพี่ท็อปขึ้น เพื่อดูรอยแดงทั่วลำตัวที่กำลังห้อเลือดเป็นจุดๆ
“คืนนี้ผมนอนด้วยนะ พี่เจ็บขนาดนี้ ผมเป็นห่วง”ผมพูดเสียงจริงจัง มองหน้าพี่ท็อปนิ่งๆ แล้วล้มตัวนอนลงบนเตียงอย่างถือวิสาสะ
“หึ ข้ออ้างหรือเปล่าวะ อยากนอนกับกูว่ามาเหอะ”พี่ท็อปขยับตัวมาหา รอยยิ้มกว้าง ก่อนจะยื่นมือมาปัดเส้นผมที่ปรกหน้าให้ผมไปด้วย ทำเอาผมใจเต้นรัวไปด้วย อยู่ๆก็รู้สึกอยากใกล้ชิดอีกฝ่ายให้มกกว่านี้ นี่ผมกำลังพลาดอะไรไปหรือเปล่านะ ‘นอนของพี่ท็อปนี่หมายความไปแง่ไหนนะ’ ผมคิดหนักหน่วง
“อือ ผมอยากนอนกับพี่”ผมตอบแล้วยิ้มกว้าง พี่ท็อปขมวดคิ้ว ผมเลยรีบสำทับอีกรอบว่า“นอนเป็นเพื่อน กลัวพี่ปวดเนื้อปวดตัวขึ้นมาจะได้ช่วยทัน”
พี่ท็อปมองหน้าผมอยู่อย่างนั้น จากนั้นก็ล้มตัวลงนอนข้างๆผมอย่างช้าๆ เสียงหัวเราะของอีกฝ่ายทำให้ผมยิ้มออก
“เหอะ กูว่า มึงชักหลงกูแล้วนะ นี่แค่เริ่มต้นเอง ไอ้สอง”พี่ท็อปหันมอง แววตาคู่นี้มีประกายขึ้นมา
ก็นั่นน่ะสิ มันเพิ่งเริ่มต้นเองนี่ ผมชักไม่แน่ใจกับไอ้สิ่งที่เรียกว่า ‘หัวใจ’ และ ‘ความรู้สึก’ซะแล้วสิ ชีวิตคนเรานี่มันยากจะคาดเดาจริงๆ
