}Preoder{Contract มาเฟีย (ป๋า-มิท) P.31
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: }Preoder{Contract มาเฟีย (ป๋า-มิท) P.31  (อ่าน 408294 ครั้ง)

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
}Preoder{Contract มาเฟีย (ป๋า-มิท) P.31
« เมื่อ31-05-2016 01:18:58 »

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ


*****************************************************************************************

เรื่องย่อ
   
ชายผู้เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ลึกลับน่าค้นหา แอบซ่อนอาชีพเสริมที่ไม่อาจบอกให้ใครรู้ได้
งานกลางคืนที่ใครหลายคนรังเกียจ ผมทำอาชีพเด็กไซด์ไลน์เพื่อเลี้ยงปากท้อง
จุ๊ๆ อย่าเพิ่งคิดว่าดราม่า แม้ชีวิตผมจะไม่สวยหรูอย่างคนอื่นเขา แต่ผมมีแนวทางในการดำเนินชีวิตของตัวเอง
เก็บงำความลับผู้อื่นภายใต้รอยยิ้ม เว้นระยะจากทุกคนหนึ่งก้าว ยามเลือกลูกค้าต้องมีลู่ทางถอยให้ตัวเองเสมอ
   แต่โชคชะตามักเล่นตลก ในขณะที่กำลังหาเงินเข้ากระเป๋า ดันไปเจอมาเฟียตัวเอ้เข้าอย่างจัง!
หนีไม่พ้นยังไม่พอ คิดจะมายัดเหยียดตำแหน่ง ‘อิหนู’ ให้กันอีกเรอะ!
   มาลองดูกันเถอะว่า ประสบการณ์หนีหนี้อันโชคโชนบวกกับไหวพริบที่ได้มาตั้งแต่เกิดจะทำให้ผมรอดจากวิกฤตครั้งนี้หรือไม่
โปรดติดตามชมตอนต่อไป...

**เรื่องนี้ไม่สักแต่เรทแน่นอน คนเขียนรับประกัน!

สารบัญ




พิเศษ

Special ไม่เกี่ยวกับเรื่องหลัก





ผลงานแนวแฟนตาซี
Charm Online สาปผมเป็นแวมไพร์ แฟนตาซีแวมไพร์หมาป่า แนวเกมเข้าใจง่าย [จบแล้ว]
มิติมายา ผมกลายเป็นเงือก แฟนตาซีโลกเวทมนต์สลับโลกไฮเทค


ติดต่อตบตีได้ที่
Silver Fish
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-04-2018 14:25:27 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
รอบที่1 ชายใต้แสงไฟ Re

   ภายในย่านท่องเที่ยวยามกลางคืน ริมถนนใต้แสงจากเสาไฟ มีร่างหนึ่งกำลังนั่งกดมือถือเล่น เขาสวมชุดนักศึกษาแบบที่ไม่ควรมาอยู่สถานที่แถวนี้ ใบหน้าหล่อปนสวยแบบลูกครึ่งดูเบื่อหน่าย เรือนผมเส้นละเอียดสีน้ำตาลทองคลอเคลียแก้ม ดวงตาสีเทาล้อมด้วยแพขนตาหนา จมูกได้รูป ริมฝีปากบาง รูปร่างสูงเพรียวกำลังดี กางเกงยีนเอวต่ำช่วยขับเน้นสะโพกสอบน่าดึงดูด

   “พวกนายไปซะ ฉันจะเดินเล่นสักพัก”

   เสียงทุ้มต่ำทรงอำนาจดังจากอีกฟากของถนน ด้วยความที่บริเวณนี้ไม่ค่อยมีรถหรือคนผ่าน บรรยากาศจึงเงียบสงบ ทำให้ได้ยินคำพูดของชายแปลกหน้าได้อย่างชัดเจน แต่เขาเลือกที่จะทำเป็นเมินเฉย เพราะการอยู่ย่านท่องราตรีแบบนี้ การทำตัวเป็นคนหูหนวกตาบอดบางเวลาก็ถือว่าเป็นการเอาตัวรอดอย่างหนึ่ง

   ดวงตาคมกริบสีน้ำเงินเข้มค่อยมองสำรวจโดยรอบตามความเคยชิน กระทั่งสะดุดตาเข้ากับร่างโปร่งที่นั่งอยู่ใต้แสงไฟ ไม่รู้อะไรดลใจถึงได้เดินไปหยุดตรงหน้า จนเกิดเป็นเงาดำทาบทับ

   ผมเงยหน้าขึ้นมอง รู้สึกขัดอารมณ์ไม่น้อยที่มีใครหน้าไหนไม่รู้มายืนค้ำหัวตัวเอง คิ้วโค้งขมวดเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหน้าตาดีแบบสุดๆ ที่สำคัญ ตั้งแต่หัวจรดเท้าไม่ว่าจะเสื้อผ้า นาฬิกาข้อมือ ทุกอย่างบนตัวของอีกฝ่ายล้วนเป็นของมีราคาแพงทั้งสิ้น หากเป็นปกติผมคงไม่ลังเลที่จะเข้าไปทักทายเพื่อสานสัมพันธ์หาเงินเลี้ยงปากท้อง แต่น่าเสียดาย ที่วันนี้ผมไม่มีอารมณ์จะปรนนิบัติใคร

   “เท่าไหร่?” คำถามสั้นห้วนไม่เท่ากับแววตาคล้ายจะดูถูก ผมโคลงหัวไม่นึกโกรธเคือง เพราะชินซะแล้วกับสายตาแบบนี้ ทุกคนที่เข้ามาต่างคิดว่าผมนั้นสิ้นคิด แทนที่จะหางานสุจริตทำ กลับมาเป็นเด็ก ‘ไซด์ไลน์’

   “ขอโทษด้วย พอดีวันนี้ผมไม่รับงาน” ผมปฏิเสธแบบไม่เสียเวลาคิด หลักๆ เพราะวันนี้ผมคิดจะพัก ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งคือ อีกฝ่ายดันอยู่ในกฎห้ามของผมทั้งสองข้อ

   ข้อแรก ผมจะไม่รับลูกค้าที่ดูถูกผม เพราะพวกนี้ไม่ค่อยถนอมกันสักเท่าไหร่ ผมยังต้องใช้ร่างกายอีกมาก ยอมให้โดนทารุณไม่ได้หรอก

   ข้อสอง กฎเหล็กของผมเลย คือห้ามยุ่งเกี่ยวกับพวกมีเบื้องหลังไม่น่าไว้ใจ ผู้ชายคนนี้เห็นชัดๆ ว่าเป็นคนต่างชาติที่น่าจะมาทำธุรกิจในไทย แถมยังมีลูกน้องคอยตามเป็นขบวนแบบนี้ ดูยังไงก็ตัวอันตราย

   “ถ้าไม่ทำงาน มานั่งอยู่ในที่แบบนี้ทำไม” เขาเลิกคิ้วถาม มุมปากผุดรอยยิ้มราวกับว่าตัวเองอยู่เหนือทุกสรรพสิ่งและเห็นผมเป็นเพียงแค่เหยื่อตัวเล็กๆ เท่านั้น แต่แล้วยังไง เพราะผมยังคงยืนยันปฏิเสธหนักแน่น

   “ที่สาธารนะไม่ได้มีป้ายห้ามสักหน่อย อีกอย่าง บอกแล้วไงว่าวันนี้ผมไม่ขาย”

   “คิดจะเพิ่มค่าตัว? สำคัญตัวเองผิดไปรึเปล่า”

   ไอ้ต่างชาติหัวดำปากเสียพูดด้วยรอยยิ้มยั่วให้ผมของขึ้นได้ ผมขอบอกทุกคนไว้เลยนะ พวกคนต่างชาติสมัยนี้นิสัยไม่ต่างจากคนไทยหรอก ดูที่อยู่ตรงหน้าผมเป็นตัวอย่าง พูดไทยชัดแจ๋ว รู้จักคำยากๆ ด้วย แสดงว่าต้องอยู่ที่นี่มานาน

   “ผมก็ไม่ได้ขอให้คุณมาซื้อนี่ ขาดคุณไปผมก็ไม่อดตายหรอก” ยักไหล่ไม่แยแสเพราะผมไม่คิดจะขายให้กับคนที่ดูถูกตัวเองอย่างโจ่งแจ้งขนาดนี้ ผมว่ายิ่งคุยยิ่งหงุดหงิด เลยตัดสินใจเดินหนีให้มันจบๆ ไปดีกว่า แต่อีกฝ่ายไม่ยอมเลิกราง่ายๆ มือใหญ่ดันคว้าแขนผมไว้แน่นราวกับคีมเหล็ก

   ตาลุงนี่จะเอายังไงกันแน่วะ!

   “น่าสนใจ เธอชื่ออะไร”

   ถึงแววตาของอีกฝ่ายจะเปลี่ยนไปเมื่อเห็นผมไม่กระหายเงินอย่างที่ควรเป็น แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องบอกชื่อ ผมเลยเงียบ เขาก็เงียบ เรายืนค้างอยู๋แบบนั้นเกือบสองนาที และไม่มีทีท่าว่าเขาจะปล่อยผมไปง่ายๆ เลยถอนหายใจหนักยอมบอกชื่อแบบเซ็งๆ

   “มิทรี่”

   “โอเคมิทรี่ ฉันเสนอเงินให้เธอสามเท่าจากปกติ” เสียงหัวเราะเบาๆ กับดวงตาที่จ้องมองบ่งบอกความสนใจแบบโจ่งแจ้ง ไม่ทันจะอ้าปากตอบ แรงบีบที่แขนมากขึ้น ดวงตาคมหรี่ลงเหมือนสัตว์ป่ากำลังล่าเหยื่อที่ถูกใจ

   “คิดให้ดีเจ้าหนู เธอไม่มีทางเลือกมากนัก”

   ผมกัดฟัน คำนวณในหัวเร็วจี๋ อีกฝ่ายเป็นของจริง หากยังเล่นตัวต่อไปไม่รู้ว่าผมต้องเจออะไรบ้าง เอาวะ หลับหูหลับตาทำไปสักคืน ถือซะว่าได้เงินมากกว่าเดิมตั้งเยอะ เช้ามาค่อยตัวใครตัวมัน

   “ก็ได้”

   ดวงตาน้ำเงินทอประกายอ่อนลงอย่างพึงพอใจ

   “ดี... ฉันจะได้ไม่ต้องลงมือฉุดเองและเธอจะไม่ได้เงินแม้แต่บาทเดียว”

   เสียงเย็นเอ่ยชิดริมหูให้ผมกลืนน้ำลายอึกอย่างหวาดหวั่น นึกขอบคุณที่ตัวเองเลือกทางถูกต้อง ต่อให้หนีไม่พ้น อย่างน้อยๆ ไม่ขาดทุนก็ยังดี

   เขายกมือเรียกลูกน้องที่หลบอยู่ห่างๆ เพียงไม่นานก็มีรถหรูสีดำเงามาจอดเทียบข้าง พร้อมคนขับที่วิ่งออกมาเปิดประตูให้อย่างรู้งาน ตัวผมถูกโอบไว้ป้องกันหนีพร้อมยันเข้าไปในรถก่อนคุณลูกค้าบังเกิดเกล้าจะตามมานั่งปิดทางหนี

   ระหว่างรถเคลื่อนตัวสู่ท้องถนนในยามราตรี ผมมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยเหตุผลสองประการ อย่างแรกคือลดความรู้สึกอึดอัดจากความเงียบขรึมที่คนข้างตัวแผ่ออกมา และอย่างที่สองคือ ผมพยายามมองทางเอาไว้ เพื่อให้รู้ว่าตัวเองถูกพาไปอยู่ส่วนไหนของกรุงเทพ เมื่อถึงคราวจำเป็นจะได้หาทางกลับบ้านถูก

   กระทั่งเขาพาผมมาที่ตึกแห่งหนึ่ง เป็นตึกที่มีความสูงไม่มากนัก แล้วยังไม่มีป้ายติดว่าเป็นบริษัทอะไร เหมือนกับเป็นตึกส่วนตัวมากกว่า

   รถเคลื่อนตัวอ้อมไปด้านหลังตึก ผ่านป้อมยามที่มีการ์ดใส่ชุดดำตัวสูงใหญ่ ก่อนประตูเหล็กกั้นจะถูกเลื่อนเปิดให้รถเข้าไปด้านในที่มีสภาพเหมือนลานจอดรถตามห้าง แค่มีขนาดเล็กกว่า และรถที่จอดอยู่มีแต่สีดำเหมือนกันไปหมด นี่ผมหลุดมาอยู่ที่ไหนกันแน่

   ผมก็พยายามทำตัวสงบเสงี่ยมไม่ตื่นตูมจนเกินไป แต่ในใจกระวนกระวายไปล้านแปด ยิ่งรถขับวนขึ้นเรื่อยๆ ความหวังที่จะหนีรอดจากที่แห่งนี้ก็ยิ่งริบหรี่ลงอย่างน่าใจหาย

   “ไม่ต้องเกร็ง ฉันไม่พาเธอไปฆ่าหรอก ถ้าฉันจะทำคงไม่เสียเวลาพามาถึงที่นี่”

   คำพูดเหมือนจะปลอบ ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด เมื่อถึงชั้นบนสุด รถจอดสนิทเทียบข้างรถคันอื่นที่มีอยู่ไม่กี่คันบนชั้นนี้ ผมถูกลูกค้าปริศนารั้งตัวเข้าไปในอาคาร ผ่านการ์ดเฝ้าหน้าประตูและระบบรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา ขณะที่คิดว่าน่าจะถึงจุดหมายแล้ว ผมยังต้องขึ้นลิฟต์ด้านในต่ออีก

   พอลิฟต์เปิดก็เผยให้เห็นห้องรับรองอันแสนหรูหรา ซึ่งมีชายชาวต่างชาติคนหนึ่งยืนคอยอยู่ เขาปรายตามองผมด้วยใบหน้าเย็นชา ปากพูดภาษาไทยกับเจ้านายตัวเองเหมือนจงใจให้ผมได้ยิน

   “ลูเซียสคิดยังไงถึงพาเด็กไซด์ไลน์มากิน นายไม่ได้อดอยากขนาดนั้นนี่”

   ในที่สุดผมก็รู้ชื่อลูกค้าสักที...

   “ฉันพอใจ หลังจากนี้ห้ามใครเข้ามารบกวนฉันเด็ดขาด ต่อให้ใครตายก็ช่างหัวมัน”

   คนฟังหัวเราะหึในคอ ก่อนเดินไปยังไม่วายหันมาคุยกับผมทิ้งท้าย

   “หวังว่าพรุ่งนี้ฉันไม่ต้องมาเก็บศพนายนะ เจ้าหนู”

   ผมชะงัก มองตามหลังอีกฝ่ายจนลับสายตา พอหันกลับมาก็เห็นชายที่ชื่อลูเซียสจ้องผมอยู่ก่อนแล้ว

   “ฉันไม่ใช่พวกซาดิสม์” เขาพูดแค่นั้นแล้วเดินนำผ่านห้องรับรอง มือหนาเปิดประตูบานใหญ่และดันผมเข้าไป แอร์เย็นฉ่ำปะทะใบหน้าเป็นอันดับแรก ต่อมาคือความอลังการของสถานที่พัก ที่เหมือนจะเหมาตึกสามชั้นบนเป็นบ้านหลังหนึ่ง ผมอดไม่ได้ที่จะมองสำรวจอย่างสนใจ เพราะเกิดมาเพิ่งเคยเห็นอะไรแบบนี้เป็นครั้งแรก

   ระหว่างที่ผมกำลังสำรวจอย่างลืมตัว ก็ถูกอีกฝ่ายลากแขนผ่านห้องรับแขก เข้าไปสู่โซนด้านในซึ่งเป็นห้องนอนขนาดใหญ่ มีเตียงคิงไซส์กับห้องน้ำในตัว

   “อาบน้ำซะ”

   คำสั่งห้วนสั้นที่ผมไม่กล้าอิดออด เพราะลูกค้าคือพระเจ้า และยิ่งเป็นลูกค้าท่าทางอันตรายราวกับราชาปีศาจ ผมยิ่งต้องทำตามอย่างว่าง่าย สองเท้าเปิดประตูห้องน้ำ พลางถอดเสื้อผ้าตัวเองใส่ตะกร้า ตาวาวกับอ่างจากุชชี่ที่ผมอยากจะลองแช่ดูสักครั้ง เลยตัดสินใจเปิดน้ำใส่อ่าง ล้างตัวรอน้ำเต็มแล้วกระโดดลงไปแช่อย่างสบาย ไหนๆ ก็หนีไม่รอดแล้วผมขอทำตามใจหน่อยแล้วกัน

   ระหว่างนอนแช่พิงขอบอ่าง ผมไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า กดสบู่เหลวชะโลมนิ้วแล้วสอดไปทางด้านหลังเพื่อเตรียมพร้อมกับหน้าที่ของตัวเอง พอเสร็จก็ชมวิวของเมืองหลวงในตอนกลางคืนผ่านกระจกที่กินพื้นที่บนกำแพงไปแถบหนึ่ง ผมเคยได้ยินมาว่ามองเห็นได้จากด้านในฝั่งเดียว คนข้างนอกจะเห็นเป็นกระจกทึบธรรมดา

   ผมใช้เวลาอาบน้ำพอสมควร โดยที่อีกฝ่ายไม่เรียกเลยสักนิด แต่จะทำตามใจต่อไปก็ใช่ทีเลยลุกขึ้นจากน้ำมาเช็ดตัวสวมเสื้อคลุมเดินไปหาเจ้าของห้อง

   ผมเห็นอีกฝ่ายนั่งอยู่บนเก้าอี้เอนหลังตรงมุมหนึ่งของห้อง ใบหน้าคมเข้มหลับตาลงอย่างผ่อนคลาย ในมือมีแก้วเหล้าราคาแพง ใกล้กันนั้นเป็นโต๊ะกลมที่มีขวดวิสกี้ที่ใสเหมือนคริสตัลวางอยู่

   “จะเริ่มเลยมั้ย” ผมถามอีกฝ่าย คนตรงหน้าไม่ได้หลับอย่างที่คิด ดวงตาคมลืมขึ้นมองพลางกระดิกนิ้วเรียกผมให้เข้าไปหา
   “ฉันนึกว่าเธอตายคาห้องน้ำไปแล้วซะอีก ถอดเสื้อผ้าให้ฉัน”

   เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เกือบสองเมตรได้ ผมอาศัยความชำนาญทางอาชีพ แค่ยืนตัวขยับมือนิดหน่อยกระดุมเสื้อเชิ้ตก็ถูกปลดออกจนหมด เผยให้เห็นแผงอกกว้างกับมัดกล้ามเรียงตัวสวย ผิวขาวหุ่นกำยำจนน่าอิจฉา ตามด้วยปลดเข็มขัดออกแล้วดึงกางเกงสแล็คเนื้อดีลงด้านล่าง ผมพยายามอย่างมากที่จะไม่มองขนตรงท้องน้อยกับส่วนที่ตุงออกมาจากกางเกงซับใน ในใจพลันคิดว่า คืนนี้ตัวเองคงพบศึกหนัก

   ลูเซียสก้าวขาออกจากกองชุด เดินหยิบผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำไป ปากก็สั่งราวผมเป็นลูกน้องของเขา

   “เก็บเสื้อผ้าพวกนั้นแล้วเตรียมเสื้อคลุมอาบน้ำให้ฉันด้วย”

   ผมเริ่มสงสัยแล้วสิ ตกลงผมมาเป็นคู่นอนหรือขี้ข้ากันแน่วะ ใช้งานเอาๆ ผมขมวดคิ้วหยิบเสื้อผ้ายัดลงตะกร้า ก่อนเปิดลิ้นชักหาเสื้อคลุมอาบน้ำไปวางแทนตัวที่ผมใส่ ผมได้ยินเสียงน้ำดังลอดออกมา เลยฉวยโอกาสนี้มองหาทางหนีทีไล่

   ไม่รู้ว่าทางออกมีกี่ทาง เพราะผมยังไม่ได้เดินสำรวจแบบละเอียด แต่ที่แน่ๆ ก็ทางที่ผมเข้ามา ซึ่งตัดทางนั้นออกไปได้เลย มีการคุ้มกันแน่นหนาขนาดนี้ ต่อให้แมลงสักตัวยังรอดยาก หจังวะที่ผมกำลังครุ่นคิดว่าจะเสี่ยงเปิดประตูอื่นๆ ที่ถูกปิดสนิทเพื่อหาทางออกเพิ่มดีมั้ย คนที่ควรจะอยู่ในห้างน้ำก็มาโผล่อยู่แถวเตียง ทำเอาผมสะดุ้งหันขวับไปมอง เห็นเจ้าบ้านในสภาพผมเปียกหมาดปลกใบหน้าให้ยิ่งดูร้าย เรือนรายที่แสดงถึงความเป็นชายชัดเจนถูกปิดทับด้วยเสื้อคลุมอาบน้ำในแบบที่ใส่ไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ จึงเปิดเปลือยแผงอกแน่น

   “มานี่มิทรี่”

   ดูเหมือนว่าจะถึงเวลางานของผมแล้ว... ผมเดินเข้าไปแค่ระยะเอื้อมถึง มือหนาก็คว้าแขนดึงเข้าหาตัว ก่อนช้อนท้ายทอยให้ผมเงยหน้าขึ้น พร้อมริมฝีปากที่ถูกบดจูบอย่างไม่ปรานี ยามผมเปิดปากออกอย่างรู้งาน ลิ้นชื้นก็สอดเข้ามารุกไล่อย่างดุดัน ขาของผมถูกมือสากลูบลากขึ้นจนชายเสื้อคลุมถลกจนถึงสะโพกเห็นบั้นท้ายได้รูปวับๆ แวมๆ

   แต่คงจะไม่ทันใจอีกฝ่าย มือใหญ่จึงรั้งขาข้างนั้นขึ้นเกี่ยวตรงสะโพกสอบ พร้อมร่างกายที่ถูกดันจนแผ่นหลังติดกำแพง ลำคอถูกซุกไซร้จูบเม้มจนเกิดเสียง สะโพกกับบั้นท้ายถูกลูบคลึงจนขึ้นรอยมือ เสียงทุ้มต่ำเอ่ยปากชิดริมหู

   “สะโพกสวยดีนี่”

   ผู้ชายคนนี้คงมีรสนิยมชอบสะโพกเป็นพิเศษ

   “ขอบคุณที่ชม อึก!” ผมยอมรับคำชมนั้นแต่โดยดี ก่อนสะดุ้งเฮือกเมื่อริมฝีปากพร้อมลมหายใจร้อนที่เป่ารด เปลี่ยนเป้าหมายจากลำคอเป็นยอดอกที่ถูกดูดดึงเจ็บปนเสียว

   คนฟังกัดฟันตอบ สะดุ้งน้อยๆ กับยอดอกที่ถูกดูดดึงเจ็บปนเสียว ลูเซียสตวัดแขนอุ้มโอบเอวร่างเพรียว ขาหนีบรัดสะโพกหนาอย่างรู้งาน สองมือโอบลำคอแกร่ง จูบแลกลิ้นดูดดื่มจนถึงเตียงนอน มือใหญ่จับศีรษะให้ใบหน้าอีกคนจ่ออยู่ตรงหว่างขาเป็นเชิงบังคับ

   ร่างเพรียวรู้งานใช้มือแหวกสาบเสื้อคลุมออกเผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ดวงตากระตุกวูบ กัดฟันอ้าปากปรนเปรอโดยมีมือโอบประคองขยับไม่ทิ้งช่วง ปลายลิ้นไล้ไปตามแนวร้อน วาดผ่านความเย็นจากมุกที่เรียงอยู่บนความเป็นชาย

   หนึ่ง สอง สาม สี่... ห้าเม็ด! มันมีมุกทั้งหมดห้าเม็ด!!

   “หึ!”

   ลูเซียสหัวเราะในคอยามเห็นสีหน้าตกใจของผม แววตามองอย่างหื่นกระหาย ด้วยหน้าตากำลังทรัพย์และอำนาจ ลูเซียสเพียงแค่ปรายตามองไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายต้องพลีกายให้ แต่ไม่มีใครปลุกความต้องการได้เท่าเด็กคนนี้มาก่อน

   คนทำไม่ได้ใส่ใจท่าทางของอีกฝ่าย ความต้องการที่ถูกปลุกเร้า รวมกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มไปก่อนหน้า ยิ่งทำให้ร้อนรุ่มไปทั้งกาย นิ้วเรียวข้างที่ว่างเอื้อมไปด้านหลังเพื่อเตรียมพร้อมซ้ำหลังเตรียมการจากในห้องน้ำมาล่วงหน้า แต่ดูเหมือนจะยังไม่พอกับการลงสนามจริง

   ส่วนอ่อนไหวถูกมือสากคอยรั้งรูดอย่างรังแก จนกระทั่งคนออกคำสั่งเริ่มทนไม่ไหวพลิกกายทาบทับจับเรียวขาแยกพาดบ่า จรดจ่อความเป็นชายกับจุดเร้น ฝืนกดเข้าไปอย่างเอาแต่ใจ คนรองรับจิกบ่ากว้าง ทั้งคู่อารมณ์ปะทุจนลืมเรื่องใส่ถุงยางไปจนหมดสิ้น

   แค่ขนาดก็ว่าน่ากลัวแล้ว ยังมีตัวเสริมเป็นมุก ผมเม้มปากพยายามผ่อนอาการเกร็งให้มากที่สุด เพื่อลดความเจ็บลง ซึ่งมันไม่ค่อยช่วยสักเท่าไหร่ ในเมื่ออีกคนดึงดันให้สัมผัสกับความแน่นร้อน ลูเซียสสูดลมหายใจผ่อนความต้องการ ยังถือว่าปราณีที่ยังไม่ทำตามอารมณ์ดิบอย่างคู่นอนคนอื่น

   เขาค่อยๆ ดึงดันเข้าไปทีละนิด ฟังเสียงร้องครางรื่นหู คอยขยับปลุกเร้าร่างด้านใต้ไม่ได้ขาด ถึงค่อยขยับตามความต้องการ โถมแรงหนักหน่วงจนตัวโยกคลอน เสียงหยาบโลนไม่เข้าหู

   ความเจ็บแล่นพล่านมาตามไขสันหลัง ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน ผมสะท้านเฮือกหอบหายใจน้ำตาคลอด้วยความเจ็บปนกระสัน ลิ้นร้อนเลียหางตา จูบหนักที่เรียวปาก สะโพกถูกลูบจากมือร้อน จังหวะที่ผมหันหันไปด้านข้างเปิดคอให้ซุกไซร้ พลันเห็นเงาสะท้อนในกระจก สิ่งที่ทำให้ตกใจเหมือนสายฟ้าฟาดผ่านไปทั่วร่างไม่ใช่ภาพอิโรติกของตัวเอง มันคือแผ่นหลังกำยำที่มีรอยสักจนไร้ที่ว่าง

   อีกคนรู้สึกว่าร่างเพรียวไม่ตอบรับอย่างเร่าร้อนเท่าเดิมจึงเกิดความแปลกใจ เขามองตามสายตาอีกฝ่าย เห็นภาพบนกระจก กระตุกยิ้มมุมปาก

   “รอยสักฉันมันเป็นอะไรกับเธอหรือไง?”

   “อึก...น่ะ นายเป็นมาเฟีย อา...” ผมหอบหายใจ ถามปนครางเพราะเขายังไม่หยุดการกระทำเบื้องล่างเลยแม้แต่น้อย

   “เธอไม่ได้ถามฉันนี่” ร่างสูงเอ่ยปัดอย่างไร้เยื่อใย ทั้งยังคงโถมแรงหนักหน่วงมากขึ้นเรื่อยๆ ความร้อนบดเบียดส่วนที่โอบรัดชวนให้รู้สึกดี กระหาย ต้องการ

   ผมไม่ยอมให้ความร่วมมือเหมือนทีแรก มาเฟียเป็นสิ่งที่ผมหลีกเลี่ยงมาตลอดทั้งชีวิต ในเวลานี้ผมดันเป็นคู่นอนให้กับมาเฟียแล้วยังเป็นตัวบอสอีก ต่อให้อารมณ์ยังอยู่ แต่ความคิดมันเตลิดไปหมด อีกฝ่ายไม่ยินยอม ออกแรงกดจนผมแทบจมหายบนเตียงนุ่ม

   “ปะ... ปล่อย” เสียงหอบพร่าพูดออกมา พร้อมดวงตาจ้องเขม็ง

   “เสียใจนะ... ฉันยังไม่เสร็จ ไม่ต้องจำเป็นต้องห่วงเรื่องอื่น เวลานี้เธอแค่ครางอยู่ใต้ร่างฉันก็พอแล้ว”

   เรียวปากชิดใบหู เอ่ยกระซิบเสียงทุ้มพร่าชักนำอย่างชั่วร้าย พลางกดกายย้ำความเป็นจริง ว่าหน้าที่ของร่างเพรียวคืออะไร มือสากลูกไล้ไปทุกสัดส่วน ปลุกเร้าให้ตอบสนองต่อความร้อนแรงที่เขายังคงพึงใจอยู่ในยามนี้

   จังหวะที่เร่งเพิ่มพร้อมเสียงครวญครางผสานกับเสียงเสียดสีของผิวกาย สองร่างกระตุกปลดปล่อยยามถึงที่สุดของอารมณ์ ร่างหนาไม่ยอมถอนกายออก ความร้ายกาจเริ่มปรากฎให้เห็นชัดเจน

   “มาลองดูกันดีมั้ยว่าฉันจะทำให้เธอสุขสมได้สักกี่ครั้ง”

   นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่ผมได้ยิน เพราะที่เหลือเป็นสัมผัสเร่าร้อนจากร่างกายล้วนๆ จนถึงรุ่งเช้า โดยไม่รู้ว่าผมสลบไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ขนาดในสติเลือนรางยังรู้สึกเหมือนร่างกายยังคงถูกกระทำ

   ผมตื่นมากับความปวดเมื่อยไปทั้งตัวโดยเฉพาะด้านล่างที่เหมือนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ไม่เคยโดนหนักเท่านี้มาก่อนเลย เวลาขยับทีก็เจ็บแสบจนน้ำตาเล็ด แล้วยังเหนียวตัว อึดอัดช่วงท้องอีกต่างหาก มั่นใจเลยว่าพออีกฝ่ายเสร็จสิ้นอารมณ์หมายก็ปล่อยผมทิ้งไว้ไม่คิดดูดำดูดี

   เอาเถอะ ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะที่ผ่านมาผมก็ไม่เคยเจอลูกค้ามาดูแลเช็ดตัวทำความสะอาดให้เหมือนกัน คิดพลางกวาดสายตามองไปรอบห้อง ไม่เห็นเงาเจ้าของ สงสัยไปทำงานแล้ว ผมเลยล้มตัวลงนอนใช้เวลานี้พักฟื้นเต็มที่ เพราะผมลุกไปไหนไม่ไหวจริงๆ

   จังหวะที่เตรียมจะหลับ หางตาเหลือบเห็นแบงค์สีเทาปึกหนึ่งอยู่บนโต๊ะข้างเตียง ผมมองมันด้วยความรู้สึกด้านชา ช่วงแรกๆ ที่ทำงานก็เคยนึกละอายใจเหมือนกัน แต่ตอนนี้ผมมาไกลเกินกว่าจะรู้สึกอะไรแบบนั้นแล้ว เลยตัดสินใจหลับตาลง

   ไม่รู้เวลาผ่านไปเท่าไหร่ พอผมตื่นอีกครั้งค่อยขยับตัวได้บ้างแม้จะยังย่ำแย่ก็ตาม ถึงงั้นก็ลากสังขารไปอาบน้ำชำระคราบแห้งบนตัว พลางกดท้องทำความสะอาด สอดนิ้วเปิดทางปล่อยให้ของเหลวไหลออกมาตามเรียวขา... เมื่อคืนไม่ได้ใส่ถุงยางสินะ หวังว่าอีกฝ่ายจะสะอาดพอ...ไม่สิ ผมต่างหากที่สกปรก มองสภาพตัวเองบนกระจก ตามลำคอมีรอยจ้ำจากการจูบ ช่วงสะโพกมีแต่รอยมือ จะบอกว่าผมตอนนี้ยับเยินก็ไม่ผิดนัก

   ผมส่ายหัวใช้มือวักน้ำล้างหน้าปิดท้ายแล้วสวมชุดเมื่อวานหยิบเงินใส่กระเป๋ากางเกง ตัดสินใจว่าจะออกทางเดิม ในเมื่อหมดหน้าที่แล้วคิดว่าอีกฝ่ายไม่น่าจะกักตัวไว้อีก แต่ผมคิดผิด

   ไม่ทันจะถึงประตูห้องรับรองก็ถูกลูเซียสเรียกจากอีกห้อง

   “จะไปไหน” น้ำเสียงทุ้มต่ำทำให้ผมต้องหันไปหาอย่างเสียไม่ได้

   “ผมจะกลับแล้ว”

   “มากินข้าว” ลูเซียสทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดของผม แล้วจ้องกดดันให้ผมเดินเข้าไปหาในห้องทานอาหาร ใจจริงก็อยากปฏิเสธ แต่รถเข็นอาหารที่ชายใส่ชุดเชฟเข็นเข้ามาส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายมาก ผมไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อคืน นับรวมเวลาตอนนี้ก็เย็นแล้ว ขอสักหน่อยแล้วกัน ถือว่าทิ้งท้าย

   ตัดสินใจเสร็จ ก็ลากเท้าไปนั่งช้าๆ ป้องกันไม่ให้สะเทือนบั้นท้ายมากนัก พลางยิ้มให้เชฟที่ช่วยจัดโต๊ะให้ เมื่อทุกอย่างถูกจัดวางเรียบร้อย ผมรอให้ลูเซียสกินก่อนค่อยลงมืออย่างรู้มารยาท อาหารอร่อยอย่างผมคิดไว้ไม่มีผิด

   “อาหารอร่อยมากเลยครับ” ผมออกปากชม เชฟหัวเราะระหว่างรินน้ำให้พวกเรา

   “อร่อยก็ทานเยอะๆ นะครับ คุณตัวผอมหากเทียบกับเด็กวัยเดียวกัน”

   “ไม่ผอมน้า ผมว่าตัวเองออกจะหุ่นดี แต่ถ้าผมทานหมดนี้จริงมีหวังได้กลิ้งออกไปแทนการเดินแน่” อีกคนดีมาผมก็ดีตอบ เพราะปกติผมมีนิสัยขี้เล่น เข้ากับคนอื่นง่ายอยู่แล้ว เชฟเพียงแค่ยิ้มรับแล้วเสิร์ฟของหวานหลังจบของคาว ผลเลยฟาดเรียบจนกลายเป็นว่า อิ่มจุกแทบลุกไม่ไหว ขอนั่งอืดบนเก้าอี้ต่อไป รอจนอาหารเริ่มย่อยค่อยบอกลา

   “ผมกลับล่ะ” ไม่มีเหตุผลที่จะต้องอยู่ต่อ แต่เสียงเจืออำนาจเรียกให้ผมหันไปมอง

   “ใครให้เธอออกไม่ทราบ”

   “เราตกลงแค่คืนเดียว”

   “เธอนับเงินดูรึยัง ว่ามันมากกว่าที่ตกลงเท่าไหร่”

   ผมกำมือแน่น เพราะนับมาแล้ว มันเกินกว่าที่ตกลงมาสามวัน คงไม่ใช่ว่า... ดวงตาผมเบิกกว้าง หยิบตังส่วนที่เกินวางไว้บนโต๊ะ

   “ผมขอคืนส่วนที่เกินมา!”

   “ฉันไม่รับ นายต้องอยู่กับฉันอีกสองวัน ถ้าคิดว่าหนีออกไปได้ก็ลองดู” ท่าทางสนุกเหมือนแมวหยอกหนูทำให้ผมไม่สบอารมณ์ กัดฟันเดินไปที่ประตูก่อนถึงลิฟต์ และพบว่ามันถูกล็อก!

   “พรุ่งนี้ผมมีเรียน คุณกักตัวฉันไว้ไม่ได้” ต่อให้ผมทำงานแบบนี้ก็ยังไม่ทิ้งการเรียนนะ แน่นอนว่าคนเอาแต่ใจอย่างลูเซียสไม่คิดจะฟัง

   “ได้ไม่ได้ฉันก็ทำแล้ว กลับมาทำหน้าที่ของตัวเองซะมิทรี่ ให้ฉันได้เอ็นดูเธอหน่อย”

   ผมกอดอกทิ้งตัวลงนั่งที่เดิม เพราะแบบนี้ไงเล่า! ผมถึงบอกว่าไม่อยากยุ่งกับพวกมาเฟีย ไอ้พวกนี้มันดื้อด้านเอาแต่ใจ อยากได้อะไรก็ต้องได้ ที่สำคัญมีอำนาจอยู่ในมือ ผมตัวคนเดียวคงทำอะไรไม่ได้นอกจากยอม

   ลูเซียสรับรู้ถึงสายตาร้อนแรงจากผม ไม่ได้พิศวาส ผมโมโห!

   ถ้าเผลอเมื่อไหร่จะหนีออกไปให้ดู แต่น่าเศร้าที่ความจริงมันโหดร้าย นอกจากจะหนีไม่รอดแล้ว เวลาส่วนใหญ่ก็ผมอยู่บนเตียงตลอด ถูกขังอยู่ในห้อง มือถือก็ถูกยึด และคนที่ผมเห็นหน้าก็มีแค่ลูเซียส ไนท์คนที่แช่งผมตอนแรก กับเดฟพ่อครัวที่ผมคุยด้วยบ่อยสุด

   โชคยังดี พอผ่านไปสามวันลูเซียสรักษาคำพูด เขายอมปล่อยผมอย่างง่ายดายพร้อมเงินให้อีกปึกหนึ่ง

   ผมรับเงินมาจากไนท์ เห็นว่าลูเซียสทำงานอยู่เลยไม่ได้เอามาให้ผมด้วยตัวเอง สำหรับผมจะใครให้ก็เหมือนกันทั้งนั้นแหละ สุดท้ายมันก็คือเงินอยู่ดี

   เมื่อหมดธุระที่นี่แล้ว ผมก็รีบแผ่นออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่สองขาจะช่วยได้เพราะผมกลัวลูเซียสเปลี่ยนใจมาจับผมกลับไปขังตามเดิม

   ตอนพ้นจากตึกนรกพลันนึกในใจว่าลาขาด อย่าได้มาเจอะมาเจอกันอีกเลย แม้ผมได้อยู่ที่หรู ของกินอร่อย เตียงนุ่มให้นอนกับเงินจำนวนมาก ที่กว่าจะได้เท่านี้ต้องใช้เวลาเกือบเดือน แต่พอเอามาหักลบกับนิสัยลูเซียสและหน้าที่บนเตียง ข้อดีทั้งหมดหายวับในพริบตา

   ผมโบกแท็กซี่กลับถึงห้องพัก แตะหน้าผากตัวเองเหมือนมีไข้อ่อนๆ เลยเลือกที่จะสะสมแต้ม หยุดเรียนครบอาทิตย์ ก็นะ ทำงานแบบนี้ต้องดูแลรักษาร่างกายตัวเองให้ดี เกิดป่วยเป็นอะไรหนักๆ ขึ้นมาจะแย่เอา

   ร่างเพรียวนอนกลิ้งหลังทานยา เปิดมือถือขึ้นมาเช็ค ข้อความเข้าเป็นสิบ มีคนโทรหาเกือบร้อย พอเช็คดูแล้ว ส่วนใหญ่เป็นของไอ้ซันล้วนๆ นอกนั้นเป็นพวกลูกค้าคนเก่า เพื่อนในวงการ กับเพื่อนในกลุ่มอีกคนละนิดหน่อย

   ตัวผมอยู่ปีหนึ่งเพิ่งเปิดเทอมได้ไม่นาน มีเพื่อนในกลุ่มทั้งหมดห้าคน ทั้งที่เรียนคณะวิศวะเหมือนกันแต่คนละสาขา และเพื่อนต่างคณะอื่นสองคน แต่ที่สนิทจริงๆ มีแค่สามคน

   คนแรกที่ผมเข้าหาคือริว เห็นว่าเป็นลูกครึ่งเหมือนกัน ถึงจะต่างเชื้อชาติกันก็เถอะ แล้วริวมันก็ลากผมไปหาวากับซันด้วยเหตุผลที่ว่า พวกนี้หล่อดี ถ้ารวมกลุ่มได้คงเป็นกลุ่มหนุ่มสุดฮอต แล้วมันก็ได้ผลซะด้วย จับกลุ่มกันไม่เท่าไหร่ คนส่วนใหญ่เริ่มรู้จักพวกเราแล้ว อีกหน่อยคงเป็นไอดอลมหา’ลัยสบายๆ คิดไปนู่น

   หากให้บรรยายนิสัย ขอเริ่มจากซันที่เป็นหัวโจกก่อนแล้วกัน มันเป็นพวกหน้าเถื่อนแต่ความจริงเป็นคุณชาย อยู่ต่างจังหวัดเข้ามาเรียนในกรุงเทพ เป็นเพื่อนสมัยเด็กของวา ปัจจุบันมันสถิตอยู่บ้านญาติวา

   ถัดมาท่านรองหัวหน้า หน้าหล่อนิ่ง นิสัยขี้รำคาญและเอาแต่ใจมากกว่าซันสามเท่า เสือผู้หญิง เป็นคนที่ผมคุยด้วยน้อยที่สุด แต่ดันรู้ทันผมมากที่สุด ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม

   และเจ้าริว คู่หูของผมเอง มันนิสัยสบายๆ ใจดีกับชาวบ้านเขาไปทั่ว มักเป็นคนไกล่เกลี่ยระหว่างผมกับซัน อย่างที่รู้กัน ผมทำงานแบบนี้ บางครั้งก็หายเพราะโดนตามตื้อ ไม่ก็อยากพักฟื้นร่างกายอยู่เฉยๆ ไอ้ซันเป็นพวกรักเพื่อน พอผมโกหกมันไปว่าทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟร้านเหล้าหาเงินส่งตัวเองเรียน ตัดปัญหาเรื่องผมชอบหายตัวกับชอบร่อนตอนกลางคืน มันเลยยิ่งเป็นห่วงหนัก

   เพื่อระงับความบ้าของซัน ผมต้องโทรไปหาริวผู้เป็นคนกลางที่เอนมาทางผมซะเยอะ

   เพลงรอสายไม่ทันเริ่ม มันก็กดรับแล้ว ไวโคตร

   /มึงอยู่ไหนวะมิท พวกกูเป็นห่วงกันฉิบหาย จู่ๆ หายไปติดต่อก็ไม่ได้ ที่ห้องก็ไม่อยู่/

   “เดี๋ยวมึงใจเย็นก่อน ตอนนี้กูอยู่ห้องแล้ว พอดีมีเหตุนิดหน่อยเลยไปเรียนไม่ได้”

   /เหตุอะไรของมึงอีกวะ/ ผมบ่นอย่างเป็นห่วง ผมยิ้มขำ

   “กูโดนป้ายหนี้ใส่ อีกสองสามวันถึงเคลียร์ได้”

   /อีกละ ทำไมมึงซวยงี้ กูว่ามึงเลิกทำงานแบบนั้นเหอะว่ะ สังคมอับปรีมาก ส่วนเรื่องเงินพวกกูเต็มใจให้มึงยืม จะช่วยมึงหางานใหม่ด้วย แล้วมึงค่อยทยอยคืนที่หลัง/

   “ไม่เอา กูอยากหาด้วยตัวเองมากกว่า ขอบใจที่เป็นห่วงมึง ไว้เจอกันอาทิตย์หน้า ฝากบอกซันกับวาด้วยว่าไม่ต้องเป็นห่วง” ต้องปฏิเสธน้ำใจเพื่อนไป จำนวนเงินที่ผมต้องการมันไม่ใช่แค่นั้น งานทั่วไปไม่สามารถทำให้ผมสมปรารถนาได้

   /วามันคงไม่เป็นห่วงมึงหรอก มันกำลังหัวหมุนกับการเตรียมถูกถีบไปอยู่วิทยาเขตเชียงใหม่ มีแต่ไอ้ซัน ถ้ามันรู้ว่ามึงอยู่ห้อง มันบุกไปหาแน่ๆ/

   จริงสิ วามันจะโดดดีดไปอยู่เหนือ โล่งใจนิดหน่อย ไม่มีคนจำผิดแล้ววู้ว ผมตอบมัน

   “กูรู้ว่ามึงรับมือมันได้ ฝากด้วยนะ แต๊งว่ะ”

   รีบกดตัดสายก่อนริวโวยวาย ผมไม่อยากให้พวกมันรู้ว่าผมทำงานไซด์ไลน์ ขนาดแค่ผมหายไปไม่กี่วันมันยังเป็นห่วงกันขนาดนี้ ถ้าเกิดผมบอกความจริงทั้งหมดไป ได้โดนมันคนใดคนหนึ่งตามคุมแจยัดเยียดเงินให้แหง เงินนี้พ่อแม่ส่งให้พวกมันเรียน ผมไม่อยากเบียดเบียนคนอื่น

   ยังไงซะ เงินที่ได้จากลูเซียสไม่ใช่จำนวนน้อยๆ ผมสามารถอยู่สบายๆ ได้โดยไม่ต้องทำงานไปพักใหญ่เชียวล่ะ

   โล่งใจก็นอนต่อ จะได้หายไวๆ ไปกวนไอ้ซันให้มันเลิกบ้า ดวงตาปิดลงเข้าสู่ห้วงนิทรา ไม่สนใจไฟกระพริบบนมือถือ เอาไว้ตื่นมาค่อยโทรกลับ

   บนหน้าจอโทรศัพท์ปรากฏชื่อเรียกสั้นๆ

   ป๋า...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-04-2018 15:49:26 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ noonit

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
แวะมาจิ้มมมมมม
 :mew1:

ออฟไลน์ nu-tarn

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-6
ป๋ามิทมาแล้ว  :impress2:

ออฟไลน์ PiSCis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
ป๋าไม่ปล่อยแกง่ายๆหรอกมิท  :hao6:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
มิทททททททททททททททท


โอ้ยยยยย อยากกอ่านคู่นี้หลาย  :katai2-1:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :L1:  มิทกับป๋ามาแล้ว เย้

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
มิทรี่!!!! เป็นคนที่เราอยากเผือกมากที่สุดในบรรดาเพื่อน ๆ ของเรื่องซันโป้เลยอ่ะ

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
รอบที่2 คนเดิม

   ผมทำตัวเป็นตัวขี้เกียจอย่างเต็มภาคภูมิ ตื่นมาหาอะไรกินแล้วนอนกลิ้งเล่นมือถือ สลับไปมาอยู่แบบนี้จนกระทั่งครบกำหนดวันที่ผมบอกริว ส่วนเรื่องซันผมโทรไปหามันแล้ว โดนเทศน์ไปอีกหนึ่งชุดใหญ่แถมสั่งเด็ดขาดว่าวันนี้ผมต้องไปเรียน ไม่เช่นนั้นมันจะบุกมาถึงห้อง

   อีกเบอร์นี่สิที่น่ากังวล บันทึกชื่อไว้ว่า ‘ป๋า’ ซึ่งไอ้ป๋าที่ว่าผมโคตรมั่นใจพันเปอร์เซ็นต์เลยว่าต้องเป็นเจ้าพ่อมาเฟียที่ผมหลวมตัวไปนอนด้วยแหง เอาไงดี กำหนดใช้เงินใกล้เข้ามาแล้ว หวังพึ่งเงินที่ลูเซียสให้ต่อไปก็ไม่ได้ ผมต้องหาเพิ่ม สงสัยคืนนี้คงต้องทำงานจริงๆ

   เรื่องร่างกายกลับมาแข็งแรงสมบูรณ์เหมือนเดิมแล้ว ผลจากประสบการณ์ที่ผ่านมาและการดูแลตัวเองของผม อย่างว่า ทำงานแบบนี้ต้องดูแลสุขภาพมากกว่างานอื่น

   ร่างเพรียวลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัว ฉีดน้ำหอมแถวซอกคอกับข้อมือ เซ็ตผมใส่นาฬิกาเป็นอันเสร็จ หอที่ผมอยู่ไม่ไกลจากมหาลัยมากนัก มีห้องน้ำในตัว มีระเบียงเล็กที่แค่ยืนยังอึดอัด ภายในห้องสี่เหลี่ยมมีเตียงหนึ่งหลัง กับตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งสำหรับวางอุปกรณ์ประทินโฉมของผม ซึ่งพวกของมีราคาทั้งหลายอย่างน้ำหอม นาฬิกาข้อมือ กระเป๋าตังแบรนด์เนม เสื้อผ้ามียี่ห้อ ทั้งหมดผมไม่ได้เป็นคนซื้อเอง เป็นพวกลูกค้าซื้อมาเพื่อมัดใจผมทั้งสิ้น

   ของฟรีมาผมรับไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว แต่ไม่ผูกมัดตัวเองกับใครแน่ การทำแบบนั้นรังแต่จะสร้างปัญหาให้ตัวเอง ที่ผ่านมาผมหาทางรอดให้ตัวเองได้เสมอ หวังว่าคราวนี้ก็เช่นกัน แม้ลึกๆ ในใจ มันมีลางสังหรณ์ว่างานนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด

   สะบัดหัวไล่ความคิดไม่เป็นมงคล กับอีแค่เด็กไซด์ไลน์คนหนึ่ง หัวหน้ามาเฟียคนนั้นคงไม่ให้ความสนใจอะไรมากหรอกมั้ง...

   “เลิกคิดใช้ชีวิตตามปกติดีกว่าเรา” ผมพึมพำอยู่คนเดียวหน้ากระจก คว้ากระเป๋าตังกับมือถือเดินออกจากห้อง นั่งรถเมล์ไปมหาลัย

   สิ่งที่เจอไม่ต่างจากที่คิดเท่าไหร่ ซันยืนรอหน้ายักษ์อยู่หน้าคณะ ลากคอผมไปซักสารพัด มีหรือผมจะบอก บ่ายเบี่ยงพูดไปเรื่อยจนริวมันยื่นมือเข้ามาช่วยให้รอดพ้นจากการโดนเค้นคอ พอเข้าห้องเรียนไปเจอหน้าอาจารย์ โดนด่าพร้อมหักคะแนนเสร็จสรรพ

   ผมอาศัยรูปร่างหน้าตาตัวเอง เข้าหาเพื่อนร่วมสายถามหางานที่คั่งค้างช่วงที่ผมไม่อยู่เกือบอาทิตย์ พิมพ์ข้อมูลทั้งหมดเอาไว้ในโทรศัพท์ วิ่งหากลุ่มที่เป็นเด็กเรียนหน่อยแล้วเสนอตัวทำงานกลุ่มด้วย ไม่ใช่ผมคิดจะเกาะหรอกนะ แค่กลุ่มเด็กเรียนเขาแบ่งงานกันทำ ไอ้พวกกลุ่มอื่นโยนกันไปโยนกันมา จะปั่นก็ตอนไฟลนก้น ผมยิ่งไม่มีเวลาอยู่ ขืนเป็นแบบนั้นไม่ต้องเอาหรอกคะแนนงาน

   หลังรับงานส่วนของตัวเองจากเพื่อนร่วมกลุ่มเรียบร้อย เลิกเรียนผมออกจากคณะ นั่งรถในมหาลัยไปซื้ออุปกรณ์มาทำงานส่ง ลบรายการทิ้งไปทีละอย่างสองอย่าง พยายามเร่งทำให้เสร็จในวันเดียว ระหว่างนั่งทำริวมันเลิกเรียนลงมาพอดี ผมเลยลากคอให้มันมาช่วยเป็นลูกมือทำงานซะ

   “มิท กูถามจริง มึงทำงานอะไรกันแน่” มันถามเสียงจริงจัง ผมเหล่มองไม่คิดบอก

   “อย่างที่มึงรู้ กูไม่ได้ค้ายาแล้วกันไม่ต้องห่วง”

   พูดพลางตบบ่ามัน ริวปัดมือผมออกสีหน้าไม่เบื่อหน่าย ผมเข้าใจว่ามันเป็นห่วง แต่เรื่องบางเรื่องบอกไม่ได้จริงๆ อย่างเรื่องผมทำงานไซด์ไลน์พวกเพื่อนจะคิดยังไง แน่นอนว่ามันไม่รังเกียจ แต่พวกมันต้องซักไซ้ผมแน่ว่าต้องการเอาเงินไปทำอะไร ถึงขั้นใช้วิธีนี้ในการหาเงิน ดังนั้นผมเลยตัดปัญหา บอกริวว่าตัวเองทำงานร้านเหล้าตอนกลางคืนเพื่อส่งตัวเองเรียนพอ ส่วนซันไม่ต้องบอกอะไรสักอย่าง ป้องกันไม่ให้ความเป็นห่วงเพื่อนมากเกินไปของมัน มาทำให้เรื่องราวมันยุ่งยากไปกว่าเดิม

   สองคนนี้ไม่น่าเป็นห่วง ที่น่ากังวลคือวาต่างหาก หมอนั้นรู้จักผมพร้อมกับซัน ทั้งที่ไม่ค่อยได้คุยด้วยแต่ดูเหมือนมันจะรู้ทันผมดีเหลือเกิน โชคดีที่มันโดนดีดไปอยู่เหนือ ไม่งั้นสิ่งที่ผมเก็บไว้โดนมันซักจนหมดเปลือกแน่

   “เหม่ออะไรของมึง งานเสร็จแล้วไม่เอาไปส่งรึไง”

   เสียงทักจากหนุ่มผิวขาวเพราะเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นดึงผมออกจากภวังค์ ก้มมองงานตัวเอง ทำเสร็จตอนไหนไม่รู้เรื่อง

   “’งั้นกูเอางานไปส่งจารย์ก่อน”

   สั่งเสร็จผมหอบหิ้วงานตัวเองขึ้นตึกคณะไปส่งงาน โชคดีปีหนึ่งส่วนใหญ่เป็นวิชาพื้นฐาน งานเลยไม่ยากอะไร พอส่งเสร็จลงมาที่โต๊ะเดิม เห็นซันนั่งหัวโด่รออยู่ที่โต๊ะ ผมเดินเข้าไปนั่งประจำที่ โบกมือทักทายคุยกับคนนู่นคนนี้ไปเรื่อย ทำไงได้ คนมันหน้าตาดีแถมยังมนุษย์สัมพันธ์ดี เลยเป็นที่รู้จักของชาวบ้าน

   ความจริงคือ ผมทำงานกลางคืน อาศัยคารมตัวเองรู้จักพวกเที่ยวกลางคืนหลายคน ทีแรกว่าจะชวนคุยเล่นๆ ต่อมากลายเป็นแนะนำตัวกับเพื่อนของเพื่อน คนนั้นรู้จักคนนี้ คนนี้รู้จักคนนั้น เล่าเรื่องระบายสิ่งที่คิด บางคนถึงขั้นมาปรึกษาปัญหาชีวิต ปัญหาหัวใจ เพราะเห็นว่าผมเป็นคนนอกน่าจะตอบได้ดีกว่า กลายเป็นว่าผมรู้จักชาวบ้านเขาไปทั่ว แถมยังรู้เรื่องคนอื่นซะเยอะ

   เรื่องไซด์ไลน์นี่ไม่ต้องห่วง ไม่มีเพื่อนคนไหนในมหาลัยรู้ ต่อให้รู้ก็ไม่คิดปากมากแน่ ในเมื่อผมก็รู้เรื่องลับๆ ของพวกมันเยอะเหมือนกัน ที่สำคัญ เวลาผมรับแขก จะเลือกพวกที่ห่างไกลกับมหาลัยป้องกันปัญหาตามมาในภายหลัง อาจเป็นสเปคตัวเองด้วยส่วนหนึ่ง ผมชอบคนมีอายุมากกว่า พวกนี้กระเป๋าหนัก ฐานะมั่นคง ต่อให้หลอกเอาเงินก็ไม่รู้สึกผิดเท่าไหร่

   “มึงนี่รู้จักคนเขาไปทั่วเลยนะ” หนุ่มเถื่อนหรี่ตามอง ผมหัวเราะย้ายที่ไปนั่งกอดคอมัน

   “อะไรกัน มึงยังโกรธที่กูไม่ยอมรับสายอีกเหรอ ไม่เอาน่าซันนี่ น้อยใจป๋าที่ไม่สนใจรึไง”

   นิ้วเรียวจิ้มแก้มสาก ซันปัดมือผมออก ท่าทางขยะแขยงเต็มกำลัง ระวังเถอะสักวันมึงจะได้เมียเป็นผู้ชาย ทำมารังเกียจกูไปได้

   “ไปไกลๆ ตีนกูมิท”

   “เอ้า ไกลก็ไกล วามันไปเหนือแล้วใช่มั้ย งี้มึงจะเอาไงต่อ อยู่บ้านญาติมันต่อปะ” ขยับมานั่งห่างจากเท้ามัน ส่วนวิธีเอาตัวรอดที่ง่ายที่สุดคือ ชวนมันคุยเปลี่ยนเรื่องแม่ง

   “ไม่ว่ะ ถึงเขาจะบอกไม่เป็นไร แต่กูเกรงใจอยู่ดี”

   “แล้วมึงจะไปอยู่ไหน ให้กูช่วยหาห้องให้มะ” ถามพลางนึกไปด้วยว่ามีหอพักแถวไหนน่าอยู่บ้าง เพื่อนซันดันส่ายหัว

   “ไม่เป็นไร กูได้ห้องแล้ว มึงจำปอนด์ไอทีที่เจอกันวันนิเทศได้ปะ มันกำลังจะย้ายจากหอในไปอยู่กับพี่ชาย เลยให้กูไปเสียบแทน”

   ปอนด์ไอที ภาพเด็กหนุ่มหน้าอ่อนกว่าวัยโผล่เข้ามาในห้วงความคิดทันที จนป่านี้ผมยังไม่เข้าใจ หนุ่มมาดเถื่อนนิสัยหยาบคายมันไปสนิทกับปอนด์ที่ดูใสซื่อไร้พิษสงได้ยังไง ถ้าไม่ใจเพราะฟ้าเห็นใจซันที่มีแต่เพื่อนนิสัยน่าถีบ คงเป็นนรกลงโทษปอนด์ต้องมาเจอคนอย่างซัน ผมคิดขำๆ

   “ดีแล้ว ขอให้มึงเจอรูมเมทเป็นเกย์”

   ซันหันขวับง้างมือหมายตบหัวผมทิ่ม หลบสิรออะไร

   “ไอ้มิท ปากหมา!” ผมแลบลิ้นใส่ หัวเราะเยาะมัน วิ่งหนีไปทางริวที่เพิ่งกลับมาจากการซื้อน้ำ ผมโบกมือลาพวกมันทั้งคู่

   “กูไปก่อนนะ เดี๋ยวต้องเตรียมตัวทำงานอีก”

   “เออ ระวังด้วยล่ะ มีอะไรโทรเรียกกูนะ” ริวพยักหน้ารับ ปลงแล้วเลิกคิดจะถามมัน เอาไว้ถ้ามันจะบอกเดี๋ยวมันก็บอกเอง ฝั่งซันไม่ยอมง่ายแบบนั้น เจ้าตัวลุกหมายจะลากคอเพื่อนผู้มากความลับมาคุยให้รู้เรื่อง ผมรีบเผ่น วิ่งออกจากตรงนั้นขึ้นรถกลับหอมาเปลี่ยนชุดท่องราตรี

   ชุดที่ผมชอบใส่จะเป็นพวกเสื้อเชิ้ตเข้ารูปสารพัดสีเรียงอยู่ในตู้ แบ่งเป็นโซน สีทึบจะอยู่ฝั่งซ้าย พวกสีสดใสจะเป็นสีอ่อนอยู่ฝั่งขวา ริมสุดคือสีขาว ส่วนกางเกงจะเป็นพวกขายาวอย่างยีนเอวต่ำเป็นต้น รองเท้าผ้าใบ รองเท้าหนัง ใส่เที่ยวจัดเป็นสัดส่วน

   บนโต๊ะเครื่องแป้งมีพวกครีมทาผิว ทาหน้า เจลเซ็ตผมและขวดน้ำหอมราคาแพง เครื่องประดับส่วนใหญ่จะเป็นพวกเงิน อืมม ผมเจาะหูด้วยนะ ด้านขวารูเดียว แต่ฝั่งซ้ายสามรูเรียงขึ้นบน ใส่ต่างหูหัวกลมธรรมดา ไม่คิดจะระเบิดหู เพราะมันไม่ค่อยเหมาะกับลุคของผมสักเท่าไหร่

   หลังเปลี่ยนร่างอยู่หน้ากระจกเสร็จ ได้เวลาออกหากิน หึหึ

   ผมเลือกร้านประจำ ด้วยความที่ชอบร้านนี้มากเป็นพิเศษ บรรยากาศในร้านออกไปทางผู้ใหญ่ ไม่เปิดเพลงเสียงดังกระหึ่ม แต่เปิดเพลงจังหวะสนุกคลอแทน เหมาะสำหรับมานั่งดื่มชิวๆ กับเพื่อนฝูงหลังเลิกงาน ทำให้ไม่ค่อยมีวัยรุ่นมาเท่าไหร่ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องดีสำหรับผม

   เด็กหนุ่มวัยรุ่นเป้าสายตาของใครหลายคนเดินมานั่งตรงบาร์ สั่งเครื่องดื่มจิบพลางสอดส่องสายตามองทั่วร้าน รอไม่นานก็มีชายคนหนึ่งเดินมาขอชนแก้วชวนคุย เลี้ยงเครื่องดื่ม มองสบตาเป็นอันรู้ว่าต้องการอะไร ผมมองสำรวจแวบหนึ่งพอรู้ว่าอีกฝ่ายมีฐานะไม่เลว แถมยังเจนจัดซะด้วย

   ร่างโปร่งของอีกฝ่ายขยับเข้ามาชิดแบบเนียนๆ มือเลื่อนมาโอบเอวยิ่งคุยนานยิ่งเลื่อนไปแถวสะโพก ดวงตาพราวระยับบ่งบอกความต้องการ จังหวะที่ผมกำลังจะตอบตกลงไปต่อกันด้านนอก เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างตัว

   “มาร์ตินี่...”
   
   รอยยิ้มบนใบหน้าหุบลงทันที ร่างกายแข็งทื่อจนว่าที่ลูกค้ามองอย่างสงสัย เสียงทุ้มแหบแบบนี้ผมจำลึกในสมองไม่มีทางลืม

   “พี่ชาย รู้สึกว่าผมไม่ว่างแล้วล่ะ เอาไว้วันหลังนะ” ผมรีบกลับคำ วางเงินค่าเหล้าแล้วลุกพรึบผละจากตรงนั้นเหมือนเจอผีไม่สนใจเสียงเรียกของว่าที่ลูกค้า บอกเลยว่าซวย ซวยมาก!

   สองเท้าจ้ำหนีไม่ทันเห็นสายตาของคนสั่งเครื่องดื่มว่ามองตามหลังตนอย่างหมายมาดแค่ไหน รู้สึกเพียงแค่ว่า จู่ๆ ขนทั่วร่างพร้อมใจกันลุกซู่ สมองคิดเร็วจี๋ ออกประตูหน้าไม่ได้ชัวร์ ต้องไปประตูหลัง ตัดสินใจได้ดังนั้น อาศัยความสนิทกับเจ้าของร้านเดินผ่านพนักงานออกทางด้านหลัง มองซ้ายมองขวาอย่างหวาดระแวง จังหวะจะหันไปทางซ้าย ฝีเท้าชะงักกึก มองไล่จากชุดสูทราคาแพงเงยหน้าขึ้นบน

   “สายันต์สวัสดิ์มิทรี่...ไม่ได้เจอกันหลายวันเลยนะ”

   ร่างสูงในชุดสูทสีทึบสมฐานะมาเฟียตัวเอ้ สุดแสนจะร้ายกาจ รอยยิ้มมุมปากประดับใบหน้าหล่อเหลาให้ยิ่งดูดีไปพร้อมๆ กับความอันตรายที่เจ้าตัวไม่คิดจะกักเก็บเลยสักนิด ผมมองภาพนั้นกลืนน้ำลายอึก กัดฟันตอบสมองคิดหาทางหนี

   “สายันต์สวัสดิ์”

   ร่างเพรียวขยับถอยเว้นระยะห่างแบบที่หากมีอะไรสามารถเผ่นได้ทันที พลางคุมเชิงจ้องเขม็งใส่

   “หืมม ไม่ต้องระแวงขนาดนั้นหรอกหน่า ฉันมาดีนะ” เสียงหัวเราะทุ้มต่ำเยือกเย็นในคอ ดวงตาหลุบต่ำมองท่าทางเหมือนลูกสัตว์กำลังหวาดระแวงนายพราน รู้ว่าสู้ไม่ได้แต่ยังหันมาแยกเขี้ยวขู่ ยิ่งชวนให้น่าล่ามากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก
   
   “ต้องการอะไร” ผมถามเสียงห้วนทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรจากตัวเอง อย่างน้อยๆ ขอคุยประวิงเวลาหาทางหนีหน่อยเถอะ ไม่ชอบจริงๆ พวกมาเฟีย ให้ตายสิ

   “ก็แค่อยากมาชวนไปกินข้าวเท่านั้นเอง นายเล่นมองฉันแบบนี้ห่างเหิงจังนะ...ใจร้ายจริงๆ ฉันว่าฉันไม่ได้ทำอะไรนายไม่ใช่หรือไง?”

   อยากถุยน้ำลายใส่หน้า วาจาไม่เข้ากับการกระทำเลยสักนิด สืบเท้าเข้าหาแผ่รังสีคุกคามเต็มที่จนผมถอยหลังจะชิดกำแพงอยู่แล้ว อยู่ต่อไปไม่ดีแน่ ต้องรีบเผ่น ผมหมุนตัววิ่งหนีเข้าซอยหนึ่งทันที แม้จะตงิดใจอยู่บ้างที่อีกฝ่ายเหมือนจงใจไล่ต้อนผมมาทางนี้ แต่ทำไงได้ มันเหลือช่องให้วิ่งอยู่เส้นทางเดียว

   “ตามไป”

   คนสั่งเอ่ยเสียงเรียบ ลูกน้องสามคนวิ่งไล่ต้อนเด็กเพียงคนเดียว ผมได้ยินเสียงฝีเท้าจากทางด้านหลัง ไม่ต้องหันไปดูก็รู้ว่าผมงานเข้าขั้นรุนแรง

   “โธ่เว้ย! ทำไมชีวิตกูซวยขนาดนี้เนี่ย” ได้แต่บ่นอุบด่าทอชะตากรรมอันน่าเศร้าของตัวเอง แล้วพุ่งเลี้ยวขวาตรงทางแยก ฉับพลัน วงแขนใหญ่ที่รอท่าไว้อยู่แล้ว ตวัดเอวเล็กของร่างเพรียว ยังไม่ทันได้หือได้อืออะไร ก็ถูกจับโยนใส่รถที่แล่นผ่านมาตรงหน้าพอดีสมกับที่คำนวณเอาไว้ล่วงหน้า เพราะแม้แต่หน้าเจ้าของวงแขนที่อุ้มโยนยังไม่ทันได้เห็นด้วยซ้ำ

   ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมากจนผมตามไม่ทัน รู้ตัวอีกทีตัวเองมานั่งอยู่เบาะหลังรถคันหรู

   “วิ่งเล่นสนุกมั้ย?” วาจาที่ฟังดูคุกคามเอ่ยถามด้วยแววตาพราวระยับ คนขับบังคับรถขึ้นทางด่วนแบบไม่มีช่องทางให้หนี

   ผมนั่งบื้ออยู่กับที่ พอสมองประมวลผลทันเหมือนเรี่ยวแรงทั้งหมดถูกสูบหายไปในทันที นั่งเอนเบาะถอนหายใจเฮือกใหญ่ เหล่มองไปนอกหน้าต่าง เห็นภาพสะท้อนคนที่ตัวเองกังวลกำลังจ้องมาทางผมเหมือนจะกลืนกินไปทั้งตัว อยากหนีความจริงเป็นบ้า สุดท้ายผมก็หนีไม่รอด

   เจ้าของแผนการ พอเห็นผมไม่ถามเลยเปลี่ยนเป็นยื่นน้ำส่งให้ด้วยรอยยิ้มขำขัน ผมรับน้ำมากระดกอย่างเสียไม่ได้ ฝ่ายร่างสูงจิบแชมเปญไปพลางมองผมที่นั่งหน้าหงิกไปพลาง จ้องกันขนาดนี้ผมคงพูดได้แค่ประโยคเดียว

   “คิดค่าบริการเหมือนเดิมนะ”

   เกิดความเงียบไปชั่วขณะ คนฟังหัวเราะในลำคอเจือความพึงพอใจ

   “3 เท่าของค่าตัวปกติ” เจ้าตัวพูดราวกับว่านั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่ ชิ หมั่นไส้ไอ้คนมีเงิน กะอีแค่ไม่กี่หมื่นคงไม่ทำให้ขนหน้าแข้งอีกฝ่ายร่วงหรอก

   อยากให้เวลายืดยาวออกไปสักสิบปี แต่ความจริงมันโหดร้าย รถคันหรูเลี้ยวเข้าตึกคุ้นตา ผมถูกพาขึ้นมาห้องเดียวกับรอบก่อน

   “อาบน้ำก่อนมั้ย”

   ใครสั่งใครสอนให้ถามด้วยน้ำเสียงออกคำสั่งแบบนี้ ผมได้แต่พยักหน้า หยิบผ้าขนหนูที่ถูกเตรียมไว้เข้าห้องน้ำไปอาบน้ำล้างตัวจนสะอาด ก่อนสวมเสื้อคลุมอาบน้ำเดินออกมา เห็นร่างสูงนั่งเอนกายบนโซฟา สูทตัวนอกถูกถอดโยนทิ้งไปอีกทาง ดวงตาคมจ้องมองผมอย่างอารมณ์ดี มือหนึ่งคีบบุหรี่ปล่อยควันขาวให้ล่องลอยไปในอากาศ โดยมีแก้วเหล้าวางไว้ที่โต๊ะเล็กด้านข้าง ห้องสลัวด้วยแสงไฟสีนวล

   เจ้าของห้องกระดิกนิ้วเรียกเข้าไปหา ผมที่ทำใจในห้องน้ำไปแล้วว่าต้องรับศึกหนัก เดินลากขาเข้าหาอีกฝ่าย วงแขนแกร่งตวัดรั้งจนผมขึ้นไปนั่งบนตัก ตัวผมก็ไม่ได้เล็ก คุณท่านมาเฟียเล่นคว้าง่ายดายอย่างกับผมเป็นตุ๊กตายัดนุ่น

   ในความคิดของร่างสูง กลิ่นหอมสบู่โชยมาอ่อนๆ ดีกว่ากลิ่นน้ำหอมเป็นไหนๆ สัมผัสนุ่มของสะโพกมนสวยที่นั่งตักกว้างชวนให้รู้สึกดียิ่ง มือหนายกลูบไล้อย่างเผลอไผล

   “ทำไมนายถึงถูกใจฉันล่ะ ระดับอย่างนาย มีคนแจ่มๆ กว่าฉันมาให้เลือกแทบไม่หวาดไม่ไหวไม่ใช่เหรอ” อดไม่ได้ที่จะถาม ผมหน้าตาดีหุ่นดีก็จริง แต่ไม่ถึงกับที่สุด ยังมีคนอีกมากที่ดูดีและน่าจะตรงสเปคร่างสูงมากกว่า หรือผมควรหาคนมารับกรรมแทนดี น่าสนใจ

   “ความถูกใจต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ? อีกอย่าง...ฉันเชื่อสัญชาตญาณของฉันมากกว่า” คนตอบเอ่ยด้วยรอยยิ้มแฝงความร้ายกาจ ใบหน้าหล่อคมเชิดขึ้นน้อยสมสายเลือดมาเฟียที่ไม่ใช่แค่เพียงทายาท แต่มันคือสิ่งที่เขาโดนเคี่ยวเข็ญและฝึกฝนอย่างหนักเพื่อแก๊งและครอบครัว เรื่องพวกนี้ผมเพิ่งมารู้เอาหลังจากนั้นเกือบปี

   หัวใจกระตุกวูบ ทั้งกลัวและตื่นเต้นกับท่าทางของร่างสูง มันแฝงความโหดร้าย เลือดเย็น มั่นใจในอำนาจ เป็นพวกที่อยากอยู่ให้ห่างมากที่สุด พวกมาเฟียเอาแต่ใจตัวเอง อยากได้อะไรต้องได้ สามารถทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มันมาโดยไม่สนว่าใครจะสูญเสียไปเท่าไหร่ ผมเม้มริมฝีปาก

   เขาเชยคางมนขึ้น นัยน์ตาสีเข้มจัดจับจ้องใบหน้าสวยปนหล่อของเด็กที่พามา ราวกับมองทะลุลึกถึงความคิดไม่ใช่เพียงรูปกายภายนอก ก่อนโน้มลงแนบริมฝีปาก เม้มให้กลีบปากเผยอขึ้นก่อนสอดลิ้นเข้าไปดื่มด่ำอย่างกระหายหิว รสจูบเจือกลิ่นบุหรี่กับเหล้ามันทั้งขมปนหวาน ไม่ต่างจากสิ่งเสพติดอันตราย

   ฝ่ามือหยาบจากการจับอาวุธลูบไล้สะโพกมนลากลงไปถึงข้อเท้า ก่อนจะลูบขึ้นถลกชายชุดคลุมอาบน้ำมากองที่เอวเผยขายาวกำลังดี ไม่เรียวบางอย่างผู้หญิง และไม่หนาใหญ่อย่างพวกออกกำลัง

   เวลางานของผมเริ่มแล้ว มือปลดเข็มขัดรูดซิบใช้มือคลึงส่วนร้อนอย่างรู้งาน ก่อนจะผละจูบออกเคลื่อนกายลงคุกเข่าบนพื้นทำหน้าที่ของตัวเอง สัมผัสร้อนคละกับความเย็นจากมุก หูได้ยินเสียงครางต่ำอย่างพึงพอใจ มือหนาขยี้บุหรี่ทิ้งแล้วยกแก้วเหล้ากระดกผ่อนคลายความตึงเครียดที่ได้รับจากงานมาทั้งวัน

   ในใจของร่างหนากำลังนึกถึงคนตรงหน้า หลายวันที่ผ่านมาใช่ว่าจะไม่มองคนอื่น แต่ไม่มีใครเข้าตาเลยซักคนจนตัวเองยังหงุดหงิด สุดท้ายก็ต้องไปเอาเจ้าเด็กคนเดิมกลับมาได้สิน่า ดวงตาทอดมองด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก มาเฟียตัวร้ายวางแผนซับซ้อนไว้หลายชั้นเพื่อไล่ต้อนศัตรูของตน มาคราวนี้กลับครุ่นคิดที่จะยึดตัวร่างเพรียวไว้เพียงผู้เดียว ไม่ว่าใครหน้าไหน ไม่คิดจะแบ่งปันเด็ดขาด!

   คนถูกหมายมาดพลันรู้สึกหนาวเยือกจนหยุดชะงักการกระทำ ไม่ทันเงยหน้ามอง ก็ถูกช้อนตัวอุ้มเข้าไปในห้องนอน มีเพียงเสียงแผ่วดังแว่วออกมาตลอดทั้งคืน เหนื่อยสายตัวแทบขาด เหงื่อชุ่มไปทั่วร่างแต่จะให้ลุกไปอาบน้ำก็ไม่ไหว สุดท้ายเลยต้องหลับมันทั้งแบบนั้น

   ตื่นขึ้นมาตอนสายของอีกวัน เมื่อยล้าไปทั้งตัว หันไปข้างกายไร้เงาเจ้าของห้อง สงสัยจะไปทำงานแล้ว คิดพลางผ่อนลมหายใจยกแขนก่ายหน้าผาก มองเงินสดที่วางไว้ตรงโต๊ะข้างเตียงเช่นเดิม

   “ตื่นแล้วเหรอ?” เสียงทักเรียกสายตาให้หันไปมอง ร่างสูงกำยำในชุดคลุมเดินออกมาจากห้องน้ำ มือข้างหนึ่งถือผ้าผืนเล็กเช็ดผม ปลดเสื้อคลุมทิ้งเพื่อสวมเสื้อตัวใหม่ ทำให้เห็นลวดลายบนแผ่นหลังแกร่งที่กินเนื้อที่ไปทั้งหมด ลากยาวไปจนถึงสะโพกสอบชั่วขณะ ก่อนถูกปิดด้วยเสื้อเชิ้ต

   “อย่างที่เห็น”

   ผมตอบกวนไปตามอารมณ์ ไอ้หมอนี้มันใช้ร่างกายคนอื่นหนักหน่วงเกินไปแล้ว มือยกเสยผมแบบเซ็งๆ เจ้าตัวเหมือนไม่รู้สึก ถามต่อไปเรื่อยระหว่างแต่งตัว

   “นายเองก็ดูฉลาด ไม่น่าจะมาทำอาชีพไซด์ไลน์ ทำไมถึงมาทำงานแบบนี้ล่ะ”

   “เหตุผลเหมือนคนอื่นๆ ที่ต้องการเงินมาใช้นั่นแหละ”

   “ฉันว่านายมีเหตุผลมากกว่านั้น” ดวงตาคมตวัดมองพร้อมคนพูดที่เดินเข้ามาหา ร่างสูงทิ้งกายตรงขอบเตียง จับข้อมือทั้งสองข้างกดกับเตียงนุ่ม คร่อมอยู่เหนือร่างเปลือยเปล่า ตามตัวมีแต่รอยจ้ำแดง มีเพียงผ้าห่มช่วยปิดท่อนล่างอย่างหมิ่นเหม่ ผมหลบสายตา เปิดช่องให้จมูกโด่งโน้มลงมาซุกไซร้แถวลำคอ

   “เอาเถอะ ไม่บอกก็ไม่เป็นไร นายไม่คิดจะมาเป็นคนของฉันหน่อยเหรอมิทรี่”

   คนถูกถามคิดในใจ ถามอย่างเดียวได้มั้ยวะ ทำไมต้องลากจมูกมาถึงไหปลาร้าด้วย

   “ไม่คิด” ผมตอบทันที ดูเป็นคำตอบที่อีกฝ่ายไม่ต้องการ ในเมื่อเจ้าตัวก้มมาตรงอกซ้ายแล้วใช้ปากดูดอกหนักๆ จนต้องนิ่วหน้า ช่วงที่กำลังคิดว่าจะมียกสองรับอรุณ ประตูห้องถูกเปิดออก ชายร่างสูงใบหน้าคมคายเลิกคิ้วมองภาพตรงหน้าแบบไม่สะทกสะท้าน

   “บอสถึงเวลางานแล้ว ถ้าจะกกเด็กเอาไว้กลับมาค่อยกกก็ยังไม่สาย สภาพแบบนั้น...” กวาดตามองผมที่อยู่ใต้ร่างหนา “คงไม่มีปัญญาลุกไปไหน” จบคำด้วยรอยยิ้มแสยะ

   เออ! ตอนนี้ขยับไม่ได้ อย่าให้หายแล้วกัน จะแอบมุดไปตัดวงจรไฟฟ้าทั้งตึกแม่ง ผมจ้องอย่างเอาเรื่อง ในสายตาของผู้ชายอันตรายทั้งคู่ คงเหมือนเห็นจ้องจอกน้อยไร้ทางสู้ขู่พองขนแยกเขี้ยวใส่

   “จริงของนาย ไนท์สั่งให้คนเฝ้าหน้าห้อง ห้ามให้อีหนูของฉันก้าวออกจากห้องแม้แต่ก้าวเดียว ไม่งั้นฉันจะเอาลูกตะกั่วเก็บไว้ในหัวมัน” เสียงเย็นจนผมยังผวา

   “เออ รีบมาล่ะ ถ้าช้านายจะโดนลูกตะกั่วแทน” หนุ่มต่างชาติพูดภาษารัสเซียบอกกับบอสตัวเองอย่างไม่กลัวเกรงก่อนออกจากห้องไปเหลือเพียงเจ้าของกับเหยื่อที่น่าสงสาร ความหนักที่กดทับบนร่างหายไป

   “ไม่ต้องสงสัย เจ้านั่นชื่อไนท์เป็นมือขวาของฉันเอง มีอำนาจรองจากฉันเท่านั้น คนเดียวกับที่จับนายขึ้นรถมาให้ฉัน” อ่อ ไอ้หมอนั่นเองสินะ สักวันเหอะ จะเอาคืนให้สาสม!

   หัวหน้าแก๊งมองภาพว่าที่อีหนูฉายแววอาฆาตอย่างชอบใจ

   ”ฉันให้เวลาเธอตัดสินใจถึงตอนฉันกลับมา หวังว่าจะเป็นข่าวดีนะมิทรี่” มือหนาตบที่สะโพกมนจนคนโดนรังแกเจ็บร้าวไปทั้งตัว ถลึงตาจ้องใส่

   “@#%^%&$%@!#” คำหยาบภาษารัสเซียเป็นพรวนดังออกจากปากผู้ถูกกระทำ แถมยังคว้าหมอนขว้างใส่ระบายอารมณ์ฉุนเฉียว ลูเซียสหัวเราะเบิกบานออกมาสมทบกับคนสนิทแล้วพากันเดินไปที่รถเพื่อทำงานของวันนี้

   “หึๆ น่าสนุกจริงๆ เลยนะ นี่เป็นครั้งแรกที่คนอย่างฉันถูกปฏิเสธ จริงมั้ยไนท์”

   เจ้าของชื่อตอบกลับ

   “ผิด... ครั้งที่สองต่างหาก เพราะครั้งแรกคือฉัน” เขาเอ่ยแก้ด้วยท่าทางเรียบเฉย แต่แววตาพราวระยับอย่างที่รู้กันดีว่าต้องจัดการยังไงให้เจ้าบอสมาเฟียถูกใจ

   “อ่ออ จริงสินะ คนแรกที่ปฏิเสธฉันคือนาย คุณอดีตสารวัตร” ลูเซียสยักคิ้วยียวนมือขวาที่เคยเป็นถึงอดีตสารวัตรกองปราบปราม แต่กลับลาออกแล้วผันตัวเองมาเป็นมือขวามาเฟียอย่างตนแทน

   ไนท์ปล่อยให้บอสทำตามใจก็จริง ถึงงั้นก็ยังไม่วางใจเด็กคนนี้เท่าไหร่นัก คงต้องสืบประวัติซักหน่อย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
 :mew3: :mew3: :mew3: :mew3: :mew3: :mew3: :mew3:ติดตามจ้า :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ถูกใจจริงๆ อยากอ่านเรื่องของมิท ตั้งแต่เจอมิท ในหนุ่มวายยกกำลังสอง :ling1:
มิท ดูมีความลึกลับ ซับซ้อน ไม่เข้ากับกลุ่มเพื่อนๆ สักคน
แล้วก็สมใจ อ๊า.....สนุก ชอบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
 

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :hao6:   ป๋าาาา

ออฟไลน์ Mafiaziip

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
สนุกมากค่ะไรท์ น้องมิทสู้คนจริงๆ อิอิ

มาต่อไวๆ นะคะ สู้ๆ  :mew1:

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3862
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13

ออฟไลน์ yaoisamasang

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Yaoi-Sama/463499467036395?ref=hl
โอ้...ในที่สุด ป๋าของมิทก็เผยตัว (ปรบมือรัวๆ)

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2

ออฟไลน์ chouxcream59

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โง้ยยยยยยยย พยศจริงๆ รอให้คุณป๋ามาปราบนะจ้ะ  :-[ :impress2:

ออฟไลน์ PiSCis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
รอบที่3 ชีวิตบัดซบ

   คล้อยหลังสองนายบ่าว ผมต้องนั่งจับเจ่าอยู่ในห้องกว้างเพียงลำพัง นับรวมแล้วนี่เป็นครั้งที่สองที่ผมถูกลากมาสถิต ณ รังมาเฟียแม้เจ้าตัวจะพูดว่าเป็นแค่นักธุรกิจก็ตาม ตลอดช่วงระยะเวลาที่ผมถูกกักตัวอยู่ที่นี่คราวก่อน ผมสำรวจทั่วทุกซอกทุกมุม ไม่มีโอกาสให้หนีเลยแม้แต่น้อย ในหนังในละครเขาพากันไปติดเกาะ ผมนี่ติดตึกไม่มีระเบียง มีแต่ทางเดินออกไปยังสระว่ายน้ำส่วนตัว

   หนทางเดียวที่จะหนีได้คือ กระโดดลงตึกแม่งตรงสระว่ายน้ำนั่นแหละ ซึ่งผมยังไม่คิดสั้นขนาดนั้น ในเมื่อไม่มีทางหนี ขอนั่งถอนหายใจผลาญพลังงานชีวิตเล่นอยู่เฉยๆ ดีกว่า เอาไว้ฟื้นกำลังเต็มที่เมื่อไหร่ค่อยคิดอีกทีว่าจะเอาไงต่อ

   ลูเซียสไม่ได้บอกซะด้วยสิว่าจะกักตัวผมกี่วัน ให้ตาย ผมจะเรียนจบมั้ยเนี่ยคิดแล้วเครียด จะปรึกษาใครก็ไม่ได้ ให้ใครช่วยก็ไม่ได้อีก ต้องลองกล่อมเจ้าของตึกดู หวังว่าลูเซียสจะมีเหตุผลมากพอ...มั้ง

   ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง เชฟประจำตัวลูเซียส เดฟเข็นอาหารเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเช่นเคย เห็นประตูเปิดออกมีการ์ดสองคนยืนเฝ้าอยู่โคตรตัดทางหนี ผมเลื้อยลงจากเตียงหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำมาสวมไว้ แล้วเดินเป็นคุณชายมานั่งเก้าอี้รอเดฟจัดโต๊ะให้ด้วยใบหน้าบูดบึ้ง

   “กินอะไรสักหน่อยนะครับคุณมิทจะได้ทานยาหลังอาหาร ถ้ามีอะไรต้องการเป็นพิเศษบอกผมหรือการ์ดหน้าห้องได้เลย”

   เสียงนุ่มนวลจากหนุ่มหล่อไม่ทำให้ผมรู้สึกดี ความจริงผมไม่ได้มีรสนิยมอะไรเป็นพิเศษ...โอเค เลิกมองแบบนั้น สเปคผมเป็นแบบลูเซียสพอใจยัง ตัวสูงใหญ่ กำลังเหลือเฟือ อายุมากกว่า พึ่งพาได้ ฐานะดี แฝงความอันตรายให้ท้าทาย แล้วยังไง ชอบก็ส่วนชอบ ไม่น่าข้องเกี่ยวด้วย ผมไม่ได้ตัวคนเดียว ยังมีหน้าที่อันหนักอึ้งอยู่บนบ่า ต่อให้ตายก็ทิ้งไม่ได้ ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม

   ดังนั้นกับคนอันตรายอย่างลูเซียส ผมควรอยู่ให้ห่างหากยังอยากมีชีวิตยืนยาวต่อไป จริงสิ รอบก่อนถูกปล่อยตัวก่อนจะลองขอให้เดฟช่วย ถือโอกาสเอาความคิดนั้นมาใช้ตอนนี้เลยแล้วกัน

   “เดฟ คุณช่วยผมออกจากที่นี่ได้รึเปล่า ผมเป็นเด็กมหาลัยยังต้องเรียน ไม่สามารถมาอยู่ไปวันๆ แบบนี้ได้”

   ผมเข้าเรื่องพูดไปตรงๆ ไม่หวังว่าอีกฝ่ายจะช่วยเหลือ ต่อให้ดีแค่ไหนอีกฝ่ายก็ยังเป็นคนของลูเซียสอยู่ดี แค่อยากลองเท่าที่ตัวเองทำได้

   “ผมก็อยากช่วยคุณนะ แต่ผมขัดคำสั่งบอสไม่ได้จริงๆ ครับ”

   น้ำเสียงจริงใจกับสีหน้าเห็นอกเห็นใจไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการ ไม่ได้เกลียดคนที่มองผมด้วยความสงสาร สมเพช หรือดูถูก คนพวกนั้นไม่มีอิทธิพลสำหรับผมอยู่แล้ว ในเมื่อสิ่งที่ช่วยผมได้มีเพียงเงินเท่านั้น ผมเลยเลือกที่จะเงียบ ไม่พูดอะไรต่ออีก เวลานี้ไม่จำเป็นต้องเสแสร้งแกล้งทำตัวให้ดูร่าเริง ชวนคุยแบบพวกบ้ามนุษย์สัมพันธ์ดี ผมอยากอยู่เงียบๆ รอโอกาส...

   จนกระทั่งผมกลับมาอยู่คนเดียวอีกครั้ง เดฟเข็นรถอาหารออกไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ ผมอาบน้ำ ทำความสะอาดร่างกาย เปิดทีวีดูฆ่าเวลาเพราะมือถือถูกยึดไปตั้งแต่เมื่อคืน หูได้ยินเสียงทีวีที่จับใจความไม่ได้ ดวงตาจ้องมองแต่เหม่อไปถึงไหนไม่ทราบ

   ในที่สุด โอกาสที่ผมรอคอยก็มาถึง...

   “เปิดทีวีโดยไม่สนใจแบบนั้นมันเปลืองไฟไม่รู้เหรอ”

   รูปประโยคคล้ายจะดุ แต่น้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์ ผมแหงนคอจากโซฟามองชายร่างสูงโปร่งในชุดสูทเรียบกริบเดินโดยไร้เสียงมาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้า นี่ถ้าเขาไม่ส่งเสียงทัก ผมคงไม่รู้สึกตัวจนกระทั่งอีกฝ่ายเข้ามาประชิดตัวแน่

   “ค่าไฟพวกนายจ่าย ไม่เกี่ยวกับฉันนี่” ผมตอบพลางยักไหล่ ขยับมานั่งหลังตรงในชุดเสื้อคลุม โดยมีร่างสูงทิ้งตัวนั่งฝั่งตรงข้าม ”มาเร็วกว่าที่คิด นึกว่าจะมาตอนเย็นๆ ซะอีก คุณไนท์” พูดไปเหมือนรู้ดี ความจริงไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายจะมาคุยเป็นการส่วนตัว ถามว่าผมเดาได้ยังไงน่ะเหรอ

   จากที่ได้ฟังและสังเกตมา ไนท์เป็นมือขวาของลูเซียส ควบตำแหน่งเลขามีอำนาจเป็นรองแค่เพียงลูเซียสคนเดียวเท่านั้น เขาดูไม่ค่อยพอใจตั้งแต่แรกเรื่องที่เจ้ามาเฟียนั่นหิ้วผมมานอนกก ครั้งเดียวก็เกินพอ นี่ยังมีรอบสองแถมยังตั้งท่าจะจับผมเป็นอิหนูส่วนตัวจนกว่าจะเบื่อด้วย

   ในฐานะมือขวาคงไม่ต้องการให้ผมซึ่งไม่รู้หัวนอนปลายเท้ามาอยู่ใกล้บอสคนสำคัญ คงคาดเดาไปต่างๆ นาๆ ผมอาจจะเป็นสายให้กับแก๊งอื่น ไม่ก็สายจากคู่แข่งทางธุรกิจ แม้ผมจะไม่รู้ว่ามีธุรกิจอะไรบ้างก็เถอะ

   “ฉลาดดีนี่ ฉลาดแบบที่ไม่น่ามาทำตัวแบบนี้ น่าเสียดาย...”

   ผมเมินกับวาจาดูถูกจากอีกฝ่าย

   “มีอะไรพูดมาตรงๆ เลยดีกว่า ฉันไม่มีสิทธิ์อะไรอยู่แล้ว จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด ถ้าลูเซียสยอมปล่อยมือล่ะก็นะ” ท้ายเสียงแฝงความหงุดหงิดจนคนฟังต้องเลิกคิ้วมอง

   “นายดูไม่อยากเป็นเด็กลูเซียส? ทั้งที่ได้อยู่แบบสบาย มีเงินใช้จ่ายตามใจชอบ เด็กแบบนายน่าจะชอบนี่”

   “ฉันไม่ปฏิเสธว่ามันสบาย แต่ฉันยังอยากมีอนาคต ฉันยังต้องเรียนหนังสือ ที่สำคัญ ฉันอยากมีอายุยืนยาว” ไม่ต้องอธิบายขยายความประโยคสุดท้าย ของแบบนี้รู้กันดีอยู่

   ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย มีแต่คนจ้องจะฆ่า ถ้าผมมาเป็นอิหนูให้ ไม่รู้วันไหนจะเบื่อแล้วส่งต่อให้คนอื่นจนชีวิตมันบัดซบมากไปกว่านี้ หรืออาจจะซวยโดนลูกหลงตายเข้าสักวัน กับอิแค่เด็กไซด์ไลน์ เขาไม่เจียดเวลา ลดตัวเองมาปกป้องคุ้มครองหรอก ผมรู้ตัวเองดี ความสบายเพียงชั่วครั้งชั่วคราวกับชีวิตที่ต้องจบลงเพียงเสี้ยววิ ผมไม่เอาดีกว่า

   ปกติ ผมไม่ใช่คนตรงคิดอะไรก็พูดอย่างนั้น ผมมีทักษะการเอาตัวรอดสูงจากการใช้ชีวิตมาตั้งแต่เด็กยันโต บางสิ่งควรหุบปาก บางอย่างควรพูดออกไป แต่กับไนท์ที่แสดงออกชัดเจนว่าไม่ต้องการให้ผมอยู่กับลูเซียส มันตรงใจผมที่อยากจะเผ่นหนีไปให้ไกลๆ พอดี ดังนั้นควรพูดไปตรงๆ รีบๆ เขี่ยฉันออกไปสิ ฉันจะได้ไปลัลล้าโลดแล่นแบบเดิม

   ต่างฝ่ายต่างจ้องตากันนิ่ง คนมากประสบการณ์มองออกอย่างง่ายดายว่าเด็กตรงหน้าต้องการอะไร ส่วนคนถูกมองจนทะลุปรุโปร่งกลับยืดอกรับไม่หวั่นเกรง มุมปากมือขวามาเฟียยกยิ้ม น่าเสียดายจริงๆ นั้นแหละเด็กคนนี้

   “ฉันจะให้เงินตามที่ลูเซียสตกลงไว้กับเธอและจะเปิดโอกาสให้เธอหนีออกไปจากที่นี่ซะ พยายามทำยังไงก็ได้ให้ห่างไกลพวกเรามากที่สุด หากยังอยากจะใช้ชีวิตบนโลกภายนอกต่อไป” มือใหญ่ของไนท์ล้วงหยิบธนบัตรปึกหนึ่งมาวางไว้เบื้องหน้า แต่ยังไม่เลื่อนส่งให้ผมทันที

   “ขอบอกไว้ก่อน ฉันปล่อยนายไปได้แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น หากเจอกันคราวหน้า ฉันต้องทำตามคำสั่งของเจ้านั่นแม้ว่าจะไม่ชอบใจก็ตาม หวังว่าที่ยังพูดไปเธอคงเข้าใจนะ”

   “อืม จะพยายามหนีให้รอดแล้วกัน”

   ตอบแบบไม่มั่นใจนัก เด็กไซด์ไลน์ธรรมดาคนหนึ่งจะเอาอะไรไปงัดข้อกับมาเฟียตัวเอ้กัน ไนท์พยักหน้ารับปล่อยมือจากธนบัตร ผมหยิบมาพร้อมกับเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับชุดเดิม เห็นไนท์ยืนคุยมือถือเป็นภาษารัสเซียอยู่ตรงทีวีที่ถูกปิดไปแล้วเรียบร้อย ฟังคล่าวๆ น่าจะคุยกับลูเซียส เจ้าตัวคงขอปลีกตัวมาชั่วครู่ไม่นานคงกลับไปหาเจ้านายตามเดิม

   ผมไม่สนใจเดินออกมานอกห้องไร้เงาของการ์ด เม้มปากกัดฟันฝืนเดินให้ดูเป็นมนุษย์ปกติมากที่สุด ความเจ็บแสบคัดยอกยังมีอยู่เต็มเปี่ยมแม้ว่าจะทานยาไปแล้ว คิดว่าการรองรับลูเซียสทั้งคือมันเป็นเรื่องง่ายหรือไง ขนาดชาวต่างชาตินะ ไม่พอยังจะมีตัวเสริมเป็น....ไอ้นั่นแหละ ไอ้ห้าเม็ดนั่นไง

   ตลอดทางราบรื่นไร้คนรบกวน ไนท์จัดการได้สุดยอดจริงๆ สมแล้วที่เป็นมือขวา ผมลากสังขารโบกรถแท็กซี่กลับห้องพักซอมซ่อของตัวเอง คิดทบทวนตลอดทางว่าจะหนีลูเซียสยังไงดี อันดับแรกคงต้องย้ายที่อยู่ กับเปลี่ยนสถานที่ทำมาหากินก่อนสินะ รู้สึกว่าทางนั้นจะสืบประวัติมาหมดแล้วว่าผมชอบไปสถิต ทำงานตกเหยื่อที่ไหนบ้าง

    ถึงห้องพัก ผมเจอนรกขุมที่หนึ่งในชีวิต ชายวัยกลางคนสวมเสื้อผ้ามอซอ หลังงอใบหน้ารกไปด้วยหนวดเคราไม่น่ามองกำลังยืนกอดอกอยู่หน้าห้องผม อย่างที่รู้ว่าห้องผมมันเป็นแบบราคาถูก ไม่มีหรอกคีย์กงคีย์การ์ดหรือยามใต้หอ ทำให้ชายน่ารังเกียจคนนี้บุกมาหาผมได้ถึงที่

   ผมกำลังจะหมุนตัวเดินกลับไม่อยากเจอหน้า อีกฝ่ายดันตาไว รีบจ้ำอ้าวมาคว้าแขนผมไว้

   “หันหลังหนีให้พ่อตัวเองแบบนี้หมายความว่าไงไอ้ลูกชาย” กลิ่นเหล้ามาจากลมหายใจ เปิดปากพูดแต่ละคำ ผมแทบอยากเอามีดแทงให้ตายคาที่ รอหาวิธีฆ่าแบบไม่เหลือร่องรอยก่อน จะลากไปเชือดหมกป่าเลยคอยดู

   “เดี๋ยวนี้ฉลาดทำงานแล้วนี่หว่า ทีแรกทำเป็นเล่นตัว ข้าอุตส่าห์หาหนทางทำเงินไง สุดท้ายเป็นไง ต้องใช้วิธีนี้อยู่ดี รายได้ไม่เลวเลยใช่ไหมล่ะ”

   ผมกัดปากจนเลือดซิบ สูดลมหายใจลึกเก็บความรู้สึกของตัวเองให้มิด พ่อสารเลวที่จะจับลูกชายอายุสิบห้าขายให้ซ่องยังมีหน้ามาพูดอีกเหรอ ที่กูทำงานเหี้ยๆ อย่างทุกวันนี้ไม่ใช่เพราะมึงเลย มันเพราะตัวกูเองและใครอีกคนต่างหาก ผมสะบัดแขนออกจากการจับเห็นนาฬิกาคุ้นเคยโผล่มาจากกระเป๋าเสื้อของชายที่เรียกตัวเองว่าพ่อ ดวงตาหันขวับไปมองห้องตัวเองทันที กุญแจกองอยู่บนพื้น ตัวล็อกถูกงัดแบบเห็นได้ชัด เชี่ยเอ๊ย!

   “นี่มึงงัดห้องกูเหรอ!”

   “เออสิวะ! ถ้ากูไม่งัดจะรู้มั้ยว่าลูกกูมีเงินขนาดนี้ หัดสำนึกที่กูให้มึงเกิดมาบ้าง มีเงินสดอีกเท่าไหร่ เอาออกมาให้หมด”

   “เรื่องสิวะ นี่มันค่าเทอมกู ทำไมต้องให้มึงเอาเป็นเล่นพนันแดกเหล้าด้วย”

   ฝ่าเท้ายันผมจนเกือบหงายหลังกระแทกกับพื้น น้ำหนักเท้าลงแบบไม่เกรงใจ จุกจนตัวงอ มือสกปรกล้วงหยิบเอาเงินสดในตัวผมไปหน้าตาเฉย

   “ให้ง่ายๆ ก็จบแล้ว หาเรื่องเจ็บตัว!! มึงต้องขอบคุณพ่ออย่างกูนะ ที่เว้นไม่ทำอะไรใบหน้าของมึง เห็นแก่ว่ามึงต้องใช้มันหากิน”

   เสียงหัวเราะน่าสะอิดสะเอียดเบาลงพร้อมกับชายที่เดินลงบันไดหายไป ผมยันตัวลุกขึ้น ร้าวระบมกว่าเดิมอีก ท้องผมต้องช้ำเป็นดวงแหง ใช้แทนเท้ากำแพงเพื่อพยุงตัวขึ้นกลับห้อง ทันทีที่เปิดออก ผมฟาดหมัดกับกำแพงเสียงดังทึบความเจ็บกับเลือดที่ไหลออกมาไม่ทำให้อารมณ์ขุ่นมัวดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย

   ห้องของผมถูกรื้อกระจุยกระจาย ขนาดที่ว่าโจรย่องเบาเป็นอาชีพมันยังมีมารยาทมากกว่า คำนวณจากสายตาของมีค่าที่พอขายได้ทุกอย่างถูกเอาไปหมดเกลี้ยง โชคดีผมระวังตัวมากพอไม่เก็บเงินสดไว้ที่ห้องรวมถึงเงินที่ได้มาจากไนท์ด้วย

   ผมเอาไปฝากธนาคารก่อนกลับ พกแค่เงินสดไม่กี่ร้อยติดตัว เห็นทีเรียนพรุ่งนี้ต้องขอยืมใครสักคนแล้วค่อยคืนที่หลัง เรื่องห้องพักอีก ผมรู้จักคนเยอะหาห้องใหม่ไม่ยากเท่าไหร่ หยิบมือถือโทรไปถามไม่ถึงสามคนก็ได้ที่อยู่แล้ว คืนนี้ต้องทนนอนไปก่อน พรุ่งนี้แค่บอกปากเปล่าขนเสื้อผ้าแล้วชิ่งเป็นอันจบ ไม่ต้องจ่ายค่ากลอนประตูกับลูกบิด เรื่องเงินค่าเช่าค่าน้ำค่าไฟเดือนนี้ผมจ่ายไปเรียบร้อยแล้วด้วย

   พาร่างโทรมๆ นอนบนเตียงยับๆ เมื่อไหร่ชีวิตผมจะดีขึ้นสักที จะมีวันนั้นไหมนะหรือต้องรอจนกระทั่งตายกัน...


   “เหี้ย!!” คำอุทานติดปากของเพื่อนควบตำแหน่งพ่อขี้บ่นประจำกลุ่มดังลั่นโรงอาหารทันที หลังเห็นผมเดินยิ้มยักคิ้วหลิวตาให้คนนู่นคนนี้จนมาถึงโต๊ะ

    “เกิดอะไรขึ้น ทำไมเจ้าพ่อแห่งความงามถึงปล่อยตัวเองโทรมได้” ริวพูดหน้าตื่นฉุดให้ผมนั่งลง มองสำรวจอย่างกับผมบาดเจ็บปางตาย แค่ใต้ตาคล้ำเป็นหมีแพนด้า หน้าซีดเล็กน้อย เดินตัวงอขาถ่างอีกนิดหน่อย ทรงผม เอ่อ...ผมเซ็ตมาแล้วนะ แต่ระบมท้องยกแขนไม่สะดวกเลยจัดมาแบบเร่งรีบมาดเซอร์กันไป ข้อมือไม่มีนาฬิกาโลเลตเหมือนเคย ตัวไม่มีกลิ่นน้ำหอม คิดดูดิ ขนาดน้ำหอมยังขโมยไปขายอะผู้ชายคนนั้น เพลียจิต

   “กูว่ามึงไปห้องพยาบาลมะ ไม่สิ หาหมอเลยดีกว่า”

   ซันมองสำรวจตัวผมขึ้นลง ถือวิสาสะถลกเสื้อนศ.ผมขึ้นจนเป็นรอยช้ำเขียวม่วงเป็นวงตรงท้อง

   มันคงเห็นผมเดินตัวงอเลยลองเปิดดู แล้วพากันทำหน้าเครียด จังหวะเดียวกับที่ริวจับมือผมมาดู มีผ้าพันแผลผลจากการระบายอารมณ์กับกำแพง นึกได้ตอนนี้รู้สึกไร้สาระมาก แต่อารมณ์ในตอนนั้นผมต้องหาที่ระบายความอัดอั้นจริงๆ ไม่งั้นได้บึ่งไปฆ่าพ่อตัวเองแน่

   “ถามจริง เกิดอะไรขึ้นกับมึงเนี่ย ช่วงนี้ไม่ค่อยมามหาลัยด้วย ปกติต่อให้มึงชอบหายหัวแค่ไหนก็ไม่โดดเรียนนี่หว่า”

   ริวถามน้ำเสียงไม่พอใจ เพราะผมชอบมีความลับกับมัน ยิ่งซันไม่ต้องพูดถึง แผ่รังสีทมึนออกมาแล้ว ผมยกมือสองข้างแบบยอมแพ้ แล้วยอมเล่าเรื่องให้ฟังแบบเสริมเติมแต่งตามยถากรรม

   “จำได้ใช่มะว่ากูทำงานเสิร์ฟเหล้าตอนกลางคืน พอดีลูกค้าเมาต่อยกันกูเข้าไปห้าม เลยเป็นอย่างที่เห็น พอกลับห้องก็ถูกโจรงัด ของมีค่ากูหายเรียบ เหลือแค่ตัวและหัวใจมาเรียนเนี่ย”

   ริวทำหน้าแบบไม่เชื่อ ส่วนซันมันซื่อบื้อพยักหน้ารับทั้งที่ยังหงุดหงิด ผมชะงักเมื่อนึกอะไรบางอย่างออก เดี๋ยวนะ ผมจำไม่ได้ว่าตัวเองเคยเล่าให้ซันฟังนี่หว่าเรื่องทำงานร้านเหล้าทำไมมันรู้แล้วไม่ยักเดือดแบบที่ควรเป็น ผมหันขวับไปทางริวทันที ซันมองพวกเราสลับกันอย่างงงๆ

   เพื่อนญี่ปุ่นตอนแรกยังไม่รู้ว่าผมต้องการจะสื่ออะไรผ่านทางสายตาร้อนแรง ไม่กี่วิต่อมามันนึกออกแทบยกมือไหว้ผมท่วมหัว

   “ขอโทษว่ะมึง ไอ้ซันมันเค้นคอกูให้บอก” พูดถึงตรงนี้ ซันกระจ่างหันมาแยกเขี้ยวใส่ผม ไม่ติดว่าผมเจ็บตัวอยู่มันคงยกเท้าถีบตกเก้าอี้ระบายความโมโห

   “มึงแม่งไม่ยอมบอกอะไรกูเลย กูรู้ว่าตัวเองอารมณ์ร้อน แต่ไอ้ริวกับวามันช่วยกันกล่อมกูจนยอมรับงานมึงได้แล้ว อยากทำงานหาเลี้ยงตัวเองก็ทำไป แต่ถ้าขาดเงินจริงๆ อย่าคิดอะไรโง่ๆ มายืมพวกกูนะจำไว้”

   นิ้วชี้หน้าผมแทบจิ้มตา ผมยิ้มแห้งดันมือมันกลับไป ลอบผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอกที่มันเข้าใจข้ออ้างลวงๆ ของผม นี่ถ้าพวกมันรู้ความจริงว่าผมทำงานอะไรกันแน่ มันคงรวมหัวกันสามตัวบีบให้ผมยอมรับการช่วยเหลือจากพวกมันชัวร์

   “โอเคครับพ่อ ตกลงครับท่านซัน ข้าน้อยจะทำตามที่ท่านสั่ง” ผมยิ้มยอมรับปากง่ายๆ ในใจไม่คิดจะทำตามเด็ดขาด นี่แหละโฉมหน้าที่แท้จริงของผม ผมสามารถปรับตัวไปตามสภาพแวดล้อม เข้าหาทุกคนได้อย่างง่ายดายเพราะผมมองคนออกว่าแต่ละคนนิสัยยังไง แบบไหนถึงจะโอเค จะบอกว่าหาความจริงใจไม่ได้ ผมไม่ปฏิเสธ แต่ผมเห็นพวกมันเป็นเพื่อนจริงๆ เลยไม่อยากดึงเข้ามาอยู่ในวังวนอันเน่าเฟะของผม

   ยิ่งล่าสุดมีเหตุกับมาเฟีย พวกมันวัยเรียน ต่อให้ที่บ้านมีอิทธิพลแค่ไหนก็สู้ลูกตะกั่วจากกระบอกปืนไม่ได้หรอก

   “แล้วไมมึงโทรมงี้วะ ปกติไม่เคยปล่อยตัวเองนี่”

   เพื่อนริวถามด้วยความเป็นห่วง พวกมันลืมเรื่องที่จะพาผมไปโรงบาลแล้วสินะ ดีแล้ว ถ้าเกิดไปหมอตรวจรู้ว่าผมทำงานอะไรเดี๋ยวซวยกันทั้งบาง

   “ช่วงนี้คนทำงานมันขาด กูเลยรับบทหนักแถมยังเจ็บตัวโดนโจรขึ้นห้องอีก ไม่เหลืออะไรให้กูแต่งหล่อเลย เซ็งมาก เรตติ้งกูตก กูจะสาปแช่งให้ไอ้โจรมันไม่ได้ผุดได้เกิดตลอดกาล”

   คำพูดทีเล่นทีจริงโกหกทุกประโยค มีเพียงประโยคสุดท้ายที่มาจากใจ อยากให้เกิดขึ้นใจจะขาด จะได้หมดทุกข์หมดโศก พ้นกันสักทีเวรกรรมชาตินี้

   “ปากดี มึงแน่ใจนะว่าไม่ได้มีปัญหาหรือกำลังหนีใครอยู่ถึงไม่มาเรียน” ซันจี้ต่อไม่ปล่อยให้ผมหนี สองหน่อเล่นขยับมานั่งประกบซ้ายขวา ขอบคุณสวรรค์ที่ส่งวามันไปอยู่เหนือ ไม่งั้นผมคงไหลเนียนต่อไปไม่ราบรื่นเช่นตอนนี้

   “ไอ้ปัญหามันก็มี เรื่องหนีก็ใช่ หนีหลบอริที่เผลอไปมีเรื่องด้วยตอนทำงานน่ะ”

   สองสหายพากันถอนหายใจเฮือกใหญ่ ปอดแทบหลุดออกมากองบนโต๊ะ ผมกอดคอพวกมันด้วยรอยยิ้มเบิกบานราวกับว่าโลกทั้งโลกกูไม่มีความทุกข์เลยแม้แต่เศษเสี้ยว

   “อย่าห่วงไปเลยพวกมึง กูจัดการเองได้ เรื่องอย่างนี้พวกกูเยอะกว่ามึงสองตัวรวมกันอีก นี่ย้ายห้องแล้วด้วย” ผมบอกที่อยู่ใหม่ให้พวกมันไป มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าริวกับซันไม่ให้ที่อยู่ผมสุ่มสี่สุ่มห้าแน่

   เราแยกย้ายกันไปเรียน ผมกลับมาใช้ชีวิตตามปกติที่ไม่ปกติเลยสักนิด เวลามีเรียนผมเข้าไม่เคยขาด ขยันจีบอาจารย์ จีบหนุ่มสาวเรียนเก่งเพื่อฝากฝังตัวเองเวลาทำงานกลุ่ม งานเดี่ยวไม่สะดวกทำที่ห้องผมก็ไปขลุกทำบ้านไอ้ริว ริวมันไม่ได้อยู่หอแบบพวกผม บ้านมันใกล้เลยไปกลับเอา

   ตกกลางคืนกลายร่างเป็นผีเสื้อราตรีออกหากิน พอเล่าเรื่องพวกเองโดนโจรขึ้นห้องนิดหน่อย เหล่าคู่นอนแข่งกันซื้อของเอาใจจนตอนนี้ผมมีของทุกอย่างพร้อมใช้ยิ่งกว่าก่อนที่จะโดนขโมยซะอีก

   โล่งอกได้ไม่นาน ผ่านไปสองอาทิตย์กว่า เจ้ากรรมนายเวรของผมเริ่มแสดงอภินิหารอีกครั้ง...

   ไม่ว่าผมจะไปร้านไหนก็ถูกพนักงานไม่ก็เจ้าของร้านปฏิเสธเรื่องการหาแขกหมด ถ้ามานั่งเล่นนั่งดื่มล่ะก็ได้ ขนาดไปหาเอานอกสถานที่ก็เหมือนมีมือดีอุ้มเอาแขกหายไปจากผมเกลี้ยง ผมไม่มีรายได้มาหลายวันแล้ว เงินที่ได้มาโอนไปให้คนสำคัญ เหลือเพียงส่วนน้อยใช้จ่ายในชีวิตประจำวันซึ่งมันร่อยหรอลงทุกที

   หนักกว่านั้นคือ มีพวกที่คิดว่าน่าจะเป็นคนของลูเซียสคอยจับตาดูผมตลอด พยายามหาจังหวะจับตัวผมให้ได้ ผมต้องคอยหลอกล่อสลัดหนีหลายต่อหลายครั้ง เนียนไปค้างบ้านเพื่อนทั้งเพื่อนสนิทอย่างริว จนไปถึงเพื่อนเที่ยวกลางคืนหลายคนเพื่อไม่ให้พวกนั้นรู้ว่าที่พักจริงๆ ของผมอยู่ไหน

   ผมทั้งเหนื่อย ทั้งเพลีย เริ่มเครียดหนักกับแรงกดดัน ลูเซียสส่งข้อความเข้าโทรศัพท์ทุกครั้ง รวมถึงโทรมากวนเป็นประจำเรื่องที่จะให้ผมเป็นเด็กของเขา ยังดีที่อย่างน้อยแถวมหาลัยไม่มีคนของลูเซียสมากวน น่าจะเป็นผลงานของไนท์ ไม่รู้ว่าจะโดนอะไรรึเปล่าตอนปล่อยผมออกมาคราวก่อน ช่างมันแล้วกัน ชีวิตตัวเองยังเอาไม่รอด

   ร่างสูงเพรียวกำลังนั่งถอนหายใจทิ้งตรงข้างถังขยะในซอกตึกสถานเริงรมณ์แห่งหนึ่ง เห็นชายหลายคนวิ่งผ่านไป คงต้องแช่อยู่ตรงนี้สักชั่วโมง สองชั่วโมงค่อยกลับห้องไปพัก

   เสียงกรอบแกรบจากการเหยียบถุงขยะแบบจงใจให้ได้ยิน ดึงดูดความสนใจผมได้ชะงัก หันไปมองเห็นรองเท้าหนังอย่างดีที่ไม่ควรมาอยู่แถวนี้ กางเกงยี่ห้อดัง เลื่อนขึ้นจนถึงเสื้อสูทเนียบคุ้นตา ถัดจากคอไปเป็นใบหน้าคุ้นเคย ให้ตาย...ผมอยากเอาหัวโขกถังขยะตาย

   “สนใจเก็บสัตว์โลกตัวน้อยไปเอ็นดูสักคืนมั้ย คิดไม่แพง คนกันเอง” หยอกเย้าทั้งที่น้ำเสียงเบื่อหน่าย คนที่ผมไม่อยากเจอมากที่สุดในช่วงนี้

   “ลูกจิ้งจอกจรจัดแบบนี้ฉันไม่สนใจหรอก ฝีมือร้ายใช่เล่นหนิ สลัดเจ้าพวกนั้นหลุดเป็นว่าเล่น”

   “แต่สลัดนายไม่ได้มันก็ไร้ประโยชน์ มาทำไม ไหนบอกจะช่วยไง” ดวงตาคมสวยตวัดมองแบบเอาเรื่อง มือขวามาเฟียหัวเราะในลำคอ ท่าทีอ่อนลงจากที่เจอกันครั้งล่าสุด สายตาทอดมองเด็กหนุ่มชันตัวลุกขึ้นปัดเนื้อปัดตัวประจันหน้า

   “เพราะนายร้ายถึงขนาดที่ลูเซียสต้องสั่งฉันให้มาล่าด้วยตัวเอง” พูดอย่างกับมาไล่จับหมาแมวสักตัว “เรื่องช่วยคิดว่าเราตกลงกันไปแล้วนะ ฉันช่วยนายแค่ครั้งเดียว หลังจากนั้นต้องทำตามคำสั่งเจ้านายไม่น่าเคารพ”

   “ไม่น่าเคารพขนาดนั้น สนใจมาเคารพฉันแทนมั้ย” ผมประชด

   “นายจ่ายไม่ไหวหรอก” หนุ่มต่างชาติเหยียดรอยยิ้มปรายตามองจนผมเซ็ง ติดตัวผมมีอยู่ยี่สิบ คิดจะให้จ้างมาเฟียระดับรองหัวหน้าเรอะ

   “ฉันสืบเรื่องของนายทุกอย่างแล้ว ความจริงนายก็ไม่ใช่เด็กแย่อะไร ออกจะเป็นเด็กดีด้วยซ้ำ”

   ประโยคชวนคุยราวกับพูดเรื่องดินฟ้าอากาศ หากความหมายมันทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าผมเลือนหายไปช้าๆ จนเหลือเพียงสีหน้าเรียบเฉย ดวงตาวาววับ กำมือแน่น

   ไนท์ที่เฝ้ามองปฏิกิริยาเด็กหนุ่มมาตั้งแต่แรก ย่อมมองออกว่าตัวเองได้ไปสะกิดสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการฝังให้มิดที่สุดซะแล้ว

   “ต้องการอะไร เซ็กส์?” เค้นเสียงในลำคอเย็นชา ผู้อาวุโสกว่าไม่ถือโทษโกรธกับท่าทางก้าวร้าว

   “ฉันไม่มีรสนิยมแบบลูเซียส เห็นแบบนี้ฉันเป็นตำรวจมาก่อนนะ เห็นเด็กอย่างเธอมาก็เยอะ...” ไม่รอให้อีกฝ่ายพูดต่อ ผมขัดขึ้นทันที ดวงตาสอดส่องมองหาอะไรที่พอจะใช้เป็นอาวุธได้ ลองอีกฝ่ายพูดเรื่องนั้นออกมาแม้แต่คำเดียวสิ ต่อให้ลงมือฆ่าคนผมก็จะทำ

   “อดีตแล้วไง ตอนนี้นายเป็นมาเฟียที่กำลังจะจับฉันไปเป็นสัตว์เลี้ยงของเจ้านายตัวเอง ทำไม นึกอิจฉาเหรอที่ลูเซียสไม่สนใจ เห็นนายเป็นเดือดเป็นร้อนแทนขนาดนั้น รักหมอนั้นล่ะสิ”

    พริบตาเดียวหลังจบประโยค ไม่ทันหยิบอะไรมาเป็นอาวุธ ร่างสูงกำยำตรงหน้าโผล่มายืนระยะประชิด มือแกร่งบีบล็อกคอผมกระแทกหลังกับกำแพง เจ็บร้าวไปทั้งแผ่นหลัง ส่วนลำคอไม่เจ็บเลยแม้แต่น้อยมีเพียงความอึดอัดเท่านั้น นับว่าอีกฝ่ายออมมือให้พอสมควร ไม่งั้นคอคงหักในชั่วพริบตา

   “อย่าปากดีไอ้หนู พวกฉันไม่ใช่นักเลงสวะอย่างที่นายเคยเจอ การฆ่าคนน่ะ มันง่ายยิ่งกว่าบี้มดซะอีก ในเมื่อพยศนักก็อยู่แบบนี้แล้วกางหูฟังเงียบๆ แล้วกัน”

   ผมกลืนน้ำลายอย่าฝืนคอ กับน้ำเสียงเย็นเยือก สิ่งที่ไนท์พูดมาไม่ผิดเลยสักนิด จากที่ไม่เคยกลัวอะไร เมื่อถึงเวลาถูกคุกคามอย่างหนักย่อมต้องกลัวเป็นธรรมดา ผมพยายามข่มความรู้สึกนั้นไว้ สำหรับอีกฝ่ายที่มองออกทุกอย่างมันช่างไร้ประโยชน์

   “นิ่งแล้วสิ เอาเถอะ ฉันก็ไม่อยากจะกดดันนายไปมากกว่านี้ แค่เรื่องที่เป็นอยู่คงมากพอจนแทบจะฆ่าตัวตาย” งั้นก็ปล่อยมือจากคอกูสิโว้ยบักห่านี่

   ไนท์ไม่สนดวงตาที่จ้องเขม็ง เปิดปากเล่าประวัติอีกฝ่ายอย่างละเอียดตั้งแต่เล็กจนโต ยิ่งมันพร่ำพรูออกจากปากไนท์มากเท่าไหร่ ใบหน้าของคนฟังยิ่งบิดเบี้ยวจนดูไม่ได้ ประวัติเด็กชายคนหนึ่งผู้โชคร้าย

   ขายาวยกหมายจะยันคนล็อกคอให้ถอยออกไปและเลิกพล่ามอะไรบ้าๆ ออกมา อนิจาประสบการณ์ชีวิตมันต่างกัน ไนท์สามารถกันได้อย่างง่ายได้ ออกแรงล็อกคอจนคนดิ้นขัดขืนนิ่งไปอีกรอบ

   “แสดงอาการขนาดนี้ถือเป็นเครื่องพิสูจน์อย่างดีกว่าทุกสิ่งที่ฉันพูดเป็นเรื่องจริง ว่ายังไง เด็กน้อยผู้น่าสงสาร ต้องขายตัวเองเพื่อส่งเงินให้แม่รักษาตัวที่บ้านเกิด…”

   “เหี้ยเอ๊ย!! มึงต้องการอะไรจากกูกันแน่ฮะ” เครียดจนสมองแทบระเบิด ปวดหัว อยากร้องไห้ อยาก...

   “อย่าคิดจะฆ่าตัวตาย บอกแล้วไง ฉันเคยเป็นตำรวจมาก่อน เจอเด็กแบบเธอมาเยอะ ฉันมีข้อเสนอให้เธอ”

   “ขอล่ะ...” คนยื่นข้อเสนอเลิกคิ้วมองกับเสียงแหบแห้งที่เปร่งออกมาจากปากอีกฝ่าย

   “ได้โปรด อย่าทำอะไรคนๆ นั้น จะให้ฉันทำอะไรก็ได้...ยอมทุกอย่างแล้ว ขอแค่...อึก ขอแค่อย่าแตะต้อง...” สรรพนามสุดท้ายไม่ทันออกจากปาก มือหนายอมละออกมือปิดปากเรียวปากบางไว้

   “ชู่ว...ไม่ต้องกังวลเด็กน้อย ฉันไม่สกปรกขนาดนั้น ฟังข้อเสนอฉันก่อนแล้วค่อยทำหน้าเหมือนตายทั้งเป็น”

   แม้ระยะเวลาในการทำอาชีพตำรวจจะผ่านมานานแค่ไหน ลึกๆ ในใจของไนท์ยังคงอดไม่ได้ที่จะเห็นใจเด็กแบบนี้ ไม่ได้ทำอะไรผิดสักอย่าง มันพลาดที่พ่อแม่แล้วเด็กต้องมารับกรรมแทน สังคมมันเน่าเฟะซะจนน่าทอดถอนใจ

   เขารอจนกระทั่งคนตรงหน้าปรับอารมณ์กลับมาสงบดังเดิม มือใหญ่ช่วยลูบหลังเรียกเสียงตาแปลกใจจากผู้ถูกคุกคาม

   “อย่ามองฉันเหมือนเป็นปีศาจร้ายแบบนั้นสิ เห็นแบบนี้ชื่อฉันแปลว่า ‘Knight’ ไม่ใช่ ‘Night’ ” ผมเบ้ปากใส่ ไนท์ยักไหล่ ถอยออกไปให้ผมมีช่องว่างหายใจหายคอ ลดความรู้สึกน่ากลัวลงจนเหมือนชาวต่างชาติหลงมาอยู่ผิดที่ผิดทางธรรมดาๆ คนหนึ่ง

   “ข้อเสนอของฉันคือ นายยอมมาเป็นเด็กลูเซียสซะ” เห็นผมชักสีหน้า ไนท์รีบอธิบายต่อ “ตอนนี้บอสเอาแต่สนเรื่องนายจนน่าปวดหัว ขอแค่นายยอมนิดยอมหน่อยทุกอย่างจะได้กลับมาสงบสุขตามเดิม เรื่องของแม่นายฉันมั่นใจว่าลูเซียสต้องยอมช่วยเหลือแน่ๆ หมอนั้นเองก็นิสัยคล้ายกับฉัน เอ็นดูเด็กมีปัญหาแบบนายมากเป็นพิเศษ ส่วนสาเหตุไม่รู้หรอกนะ ไปหลอกถามเอาเอง”

   ประโยคยืดยาวไม่สามารถดึงความสนใจผมได้เท่าคำว่า จะเอาเรื่องคนสำคัญของผมไปบอกกับไอ้หัวหน้ามาเฟียนั่น

   “ไม่ ฉันไม่อยากให้ใครรู้เรื่องแม่มากไปกว่านี้” มาเฟียน่ะไว้ใจไม่ได้ ผมกลัวว่าแม่จะเป็นอันตรายเพราะผม

   “ตามใจ ไม่บอกก็ไม่บอก งั้นนายจะเอายังไงเจ้าหนู เรื่องผลประโยชน์ของตัวเองน่ะ”

   นับว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ใหญ่ที่แฟร์ดีเหมือนกัน เอาเฉพาะที่เห็นอยู่ตรงหน้า ไว้สนิทรู้จักตื้นลึกหนาบางมากกว่านี้ค่อยสรุปอีกที

   “ตอนนี้ยังคิดไม่ออก ขอเวลาหน่อย”

   “หนึ่งอาทิตย์... ในระหว่างนั้นพวกฉันจะตามล่านายเหมือนเดิม ส่วนเรื่องเงินใช้ในชีวิตประจำวันฉันให้ยืมก่อนก็ได้ ไว้เป็นเด็กลูเซียสเมื่อไหร่ ค่อยตอดเงินหมอนั้นมาคืนฉัน”

   ผมขมวดคิ้วแน่น คิดคำนวณส่วนได้ส่วนเสียในหัว ก่อนจะโดนคำว่า ‘ไม่มีทางเลือก’ กระแทกเข้าเต็มสมอง ผลเลยต้องจำยอมตกลง รับเงินสดจากอีกฝ่ายมาใช้หมุนชั่วคราว ไนท์ขยี้หัวผมจนยุ่งเหยิงแล้วเดินจากไปทิ้งให้ผมยืนเคว้งอยู่คนเดียว

   เอาวะ อะไรจะเกิดมันต้องเกิด!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-06-2016 17:00:00 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 o13  โถชีวิตของมิท

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :pig4: สนุกดีค่ะ รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ PiSCis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2

ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
สู้ต่อไปมิทรี่

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
มิทน่าสงสารอ่ะ :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 :mew5: มิทเอ้ย

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
สนุกมากเลย ป๋ากะน้องมิท

ออฟไลน์ Chise

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
สถานการณ์มันบังคับจริงๆ แถมมีพ่อเลวๆอีก
ชีวิตบัดซบจริงๆมิทเอ้ย ป๋าอย่าร้ายกับมิทมากนะ
รอตอนต่อไปค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด