ตอนที่ 01เขาเป็นคนประหลาด ๆผมรู้จักเขาครั้งแรกผ่านโซเชียลมีเดีย โปรแกรมนกลาร์รี่ตัวสีฟ้าสดใสที่ผลักดันผู้ใช้ให้เข้าสู่วิถีชีวิตพูดคนเดียวเมื่อราว ๆ ปีก่อน จำไม่ได้ว่าเพราะอะไรถึงติดตามเขา ปุ่ม follow ที่อยู่ในตำแหน่งชวนพลาดพลั้งนั่นอาจจะเป็นคำตอบ แต่เพราะไม่ใช่พวกซ้ายจัดหรือขวาจัด ไม่บ่นการเมือง ไม่ก่อดราม่าผมเลยไม่ถอนความเป็นเพื่อนออก วัน ๆ เห็นอัปโหลดแค่เพลงหรือไม่ก็รูปถ่ายอะไรประหลาด ๆ แต่ไม่เคยโชว์รูปจริงตัวเองให้เห็นสักที
โปรแกรมทวิตเตอร์(twitter)โยงลิงค์ไปถึงอินสตราแกรม(instragram) โซเชียลมีเดียที่เน้นการสื่อสารผ่านรูปภาพ ข้อมูลเพียงน้อยนิดที่ได้จากนั้นคือชื่อมหาวิทยาลัยและคณะที่เรียนอยู่ ที่อยากให้สืบสาวราวเรื่องต่อไปก็เพราะเรียนอยู่ที่เดียวกัน แถมยังคณะเดียวกันอีก
จะคนใกล้ตัวหรือเปล่าวะ ด่าลงทวิตไปเสียมาก ไม่เชิงด่าหรอก แต่เวลาอารมณ์ไม่ดีก็ชอบไปง้องแง้งคนเดียวในโซเชียลมีเดียที่ไม่เป็นที่เปิดเผยเสียส่วนใหญ่นี่แหละ
“ไอ้ว่าน”
เสียงทุ้มทักมาก่อนความแข็งของสันหนังสือจะทุบลงท้ายทอยดังปั้ก ผมหัวทิ่มหัวตำเกือบโขกมือถือ ส่วนคนทำหัวเราะร่วนก่อนหย่อนตัวลงข้าง ๆ เอาแก้วนมเย็นสีชมพูสดใสใส่นมคาเนชั่นโรยด้านบนเยอะ ๆ ของโรงอาหารวางใกล้ ๆ ไหน ๆ ก็ทำร้ายร่างกายกูแล้วขอค่าทำขวัญหน่อยเถอะ คว้าหมับเข้ามือทันที
“กูถุยน้ำลายลงไปแล้ว”
กำลังจะดูดปรื๊ด เสียงเรียบนิ่งของไอ้โต๋ เพื่อนสนิทก็ดังขึ้นลอย ๆ อย่าประมาท ไอ้ห่ะนี่เวรตะไลของจริง “ทุเรศว่ะ”
ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ ใครถือ ไม่ใช่ผม ดึงแก้วน้ำพลาสติกขึ้นดูดจนหนำใจ ไอ้โต๋ทำหน้าเซ็งจะแย่งกลับไปพ่อก็เป่าลมใส่ให้น้ำมันพองปุด ๆ แม่งเลย
“ไอ้เหี้ยว่าน! อุบาทว์”
“โหย แค่ลม อะ กูคืน”
“เอาไปล้างหน้าแม่มึงเถอะ” โต๋เต๋ทำหน้าพะอืดพะอม ผมยิ้มรับหน้าบาน
“โห้ยยย ขอบใจมาก”
“สันดานแบบนี้ไงถึงไม่มีใครเอา”
จึ้ก... เจ็บฉิบหาย
“หน้าตาก็ดีแท้ ๆ ถ้ากูรู้ว่ามึงเป็นคนแบบนี้นะ ไม่โหวตให้เป็นเดือนคณะเมื่อปีที่แล้วหรอก เสื่อมเสียชื่อคณะวิดวะหมด คนอื่นเขาเลยคิดว่าเราซกมก รู้ตัวไว้เลยไอ้ว่าน เพราะมึงคนเดียว”
“โห ถ้าจะด่าขนาดนี้เอาพ่อกูลงมาเล่นเลยด้วยไหม” เว่อวังอลังการ ผมมองค้อนไอ้โต๋แต่ไม่คิดจะเถียง อยากด่าด่าไป กูได้น้ำฟรีมาแดกแล้วกัน
“การบ้านแมทมึงเสร็จหรือยังเนี่ย”
“แมทอะไร”
“เอ้า แมทอาจารย์สมเกียรติไง รหัสนิสิตเลขคู่ทำข้อคี่ รหัสคี่ทำข้อคู่ อย่าบอกว่ามึงลืม เชี่ยว่าน”
“เออ” เมื่อสัปดาห์ก่อนงดเซค ใครจะไปจำได้วะ “มึงรหัสเลขคู่นี่โต๋”
“แล้วไง”
“โต๋เพื่อนรักกกกกกกกกก”
“ไม่ต้องมารักกูไอ้เหี้ย” ชายหนุ่มหน้าคร้ามคมผุดลุกขึ้น ผมดึงขอบกางเกงมันไว้ เจ้าตัวร้องเสียงหลง “ไอ้ว่าน!”
“ขอลอกหน่อย”
“ไม่ให้”
“เฮ้ย มึงจะฆ่ากูลงเหรอ” ทำหน้าขอร้อง “ให้ทำเองก็ไม่ทันแล้วเนี่ย อีกสิบห้านาที”
“เรื่อง’มึง”
“พี่โต๋คร้าบบบ” กูไหว้ล่ะ ไม่มีงานส่งวันนี้หายไปห้าคะแนนเลยนะเว้ย ห้าคะแนนนี่คือหนึ่งเกรด จากเอฟเป็นด็อกได้เลยนะมึง “เดี๋ยวซื้อนมเย็นคืน”
“พร้อมลูกชิ้น”
“หนึ่งไม้”
“โง่แล้วเสือกงก”
“ฉลาดได้แค่นี้แหละ เป็นเวรเป็นกรรมกูเอง นะ น้า นะ” ไอ้โต๋ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เอาสมุดรายงานในกระเป๋าโยนตรงหน้าในที่สุด โต๋เต๋เพื่อนรัก เป็นบุญวาสนาโดยแท้ได้เกิดมาพบมาเจอมึงในชาตินี้
“มึงก็อย่างนี้ตลอดเลย รอบหน้ากูไม่ให้ลอกแล้วนะเว้ย”
ผมขานรับแข็งขัน ขอกระดาษมันใช้ด้วย แต่ปากกาไม่ต้อง ของตัวเองมี นั่งจดยุกยิกตั้งใจ ส่งกระเป๋าตังค์ให้ไอ้โต๋ไปซื้อนมเย็นแก้วใหม่กับลูกชิ้นปิ้งหนึ่งไม้ ไม่ใช่ไว้ใจว่ามันไม่เอาเงินผมไปครับ แต่ไม่มีมากกว่านี้แล้วจริง ๆ สิ้นเดือนนี้แม่ยังไม่โอนเงินค่าขนมมาให้เลยพับผ่าสิ
ผมชื่อว่าน ว่าน วริทธิ์ ภูมิลำเนาเดิมอยู่จังหวัดชายขอบทะเลในภาคตะวันออก เกิดและโตที่นั่น กำลังศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ฯ เป็นเดือนคณะปีที่แล้ว แต่ความแบ๊วพาไปไม่ถึงฝัน แพ้เดือนบริหารหลุดลุ่ยขาดรอย ผู้หญิงเดี๋ยวนี้ไม่ชอบผู้ชายน่ารักครับ มองกันแต่ตัวบึ้ก ๆ ไม่เห็นละมุนสายตาเลยสักนิด ไอ้ปาล์ม บริหารปีเดียวกันเลยซิวตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัยไปเฉย หน้ามันก็เก๊เกย์ หุ่นมันก็เก๊เกย์ ไม่รู้ทำไปเล่นเอาผมแพ้คะแนนโหวตมันยับได้ขนาดนั้น
“ขอโทษครับ”แต่เอาเข้าจริง หลังจากงานประกวดผมก็ป๊อบอยู่ช่วงหนึ่งหรอก มีสาว ๆ แอบมองกรี๊ดกร๊าดกันไม่ขาดสาย ต่อให้ตอนนี้จะไม่ค่อยมีคนสนใจแล้วก็เถอะ
“เอ่อ...ขอโทษครับ”ไอ้บ้านี่จะพูดซ้ำไปซ้ำมาทำไมตั้งสองครั้ง ผมเงยหน้าขึ้นจากสมุดที่ลอกการบ้านไอ้โต๋อยู่ ผู้ชายตัวสูงใหญ่ ไหล่กว้าง ในเสื้อยืดสวมช็อปทับยืนตรงหน้า ที่ไหน ๆ ของคณะผมก็มีแต่คนประเภทนี้ ถ้าไม่ใช่วิชามหา’ลัยจริง ๆ ไม่ค่อยใส่หรอกชุดนักศึกษา ใครมันจะไปขยันรีดวะ บ้าบอ ไหนจะเวลาลงช็อปอีก เสื้อเลอะไม่คุ้มกันเลย
“ตรงนี้มีคนนั่งหรือเปล่า”
ผมส่ายหน้า เหลือบมองเลขรุ่นที่ปักบนแขนช็อปแล้วก็รู้ว่าเป็นรุ่นพี่ ถือจานข้าวราดแกงกับน้ำปั่น เหลือบมองอีกทีไปที่โต๊ะตัวอื่น เที่ยง ๆ แบบนี้คนแม่งล้นโรงอาหารฉิบหาย
“พี่นั่งด้วยได้ไหม”
“ครับ” ผมว่า สุภาพครับกับคนแปลกหน้า แต่ไอ้พี่คนนี้โคตรคุ้น เหมือนอยู่กลุ่มเดียวกับ...
“ไอ้แคน!” อ้อ ใช่...พี่แคน แคนตัส เอกคอมพิวเตอร์ปีสี่ หน้าตาดีระดับเทพ ตัวสูงใหญ่แบบนักกีฬา เรื่องเรียนไม่ต้องพูดถึง คอมนี่คะแนนเข้าสูงตั้งแต่สอบเข้าแล้ว พอเข้ามาก็พากันเหยียบภาคอื่นให้เป็นฐานกันหมด เพิ่งได้เจอตัวเป็น ๆ ใกล้ ๆ ก็วันนี้
หน้าตาดีสมคำร่ำลือครับ จมูกนี่คมเหมือนเหลาก่อนออกจากบ้านทุกวัน สวมเสื้อช็อปเหมือนกัน ข้างในใส่เสื้อคอวีเรียบ ๆ สีเข้ม นมแน่นมาก แน่นพอ ๆ กับไอ้ปาล์มเลยก็ว่าได้
“พี่มากันกี่คนอะ” ถามขึ้นเพราะไอ้คนที่พี่หล่อคนแรกตะโกนเรียกมันถือข้าวราดแกงกับน้ำตามมาด้วย สักพักก็ทิ้งตัวลงเยื้อง ๆ กับผมไม่พูดไม่จา
“สองครับ” ไอ้ยักษ์ตรงหน้าก็สุภาพเกิ๊น เล่นเอาผมสถุลไปเลยครับท่าน “น้องนั่งกันกับเพื่อนหรือเปล่า”
“อ้อ มีอีกคน มันไปซื้อน้ำ” ผมตอบ ถ้ามีกันสองคนก็เหลือที่ให้นั่งอยู่ นึกว่าขนกันเป็นโขยงคงต้องอัญเชิญไปที่อื่น คนจะปั่นการบ้านโว้ย ถึงที่นี่จะเป็นโรงอาหาร แหล่งสำหรับทานอาหารแต่ผมมาก่อนก็ต้องได้นั่งก่อนดิ เหมือนหมาฉี่รดไว้แล้ว ถ้าไม่อนุญาตตัวอื่นก็อย่าแหยมเชียว
“แมทเหรอน้อง” อย่าเพิ่งชวนคุยสิวะ ผมพยักหน้า มือจดยิก ๆ ไอ้พี่ตรงหน้าท่าทางอัธยาศัยดีเป็นพิเศษ ไม่เหมือนอีกคนที่นั่งกินเงียบกิ๊บบบ แต่พอผมเงยหน้าขึ้นมอง เฮ้ย มันจ้องผมอยู่ว่ะ
“แมท 2 แค่นี้ยังต้องลอก”
“อ้าว พี่...”
“แคนตัส” แนะนำตัวแล้วก้มหน้ากินเงียบ ๆ พูดงี้เดี๋ยวกูแย่งน้ำลำไยมึงแดกเลยนี่ คนยิ่งไม่มีเงินซื้ออยู่ อยากจะลุกไปมีเรื่องด้วยหรอก แต่กลัวงานไม่ทันส่ง อีกอย่างตัวมันก็ใหญ่โตมโหระทึกขนาดนั้น เนื้อแน่นเปรี๊ยะ ต่อให้ผมเอาหัวโหม่งยังกระเด็นออกมาทั้งตัวเลยล่ะมั้ง
“มึงก็ไปว่ามัน ไอ้แคน” เอาเลยพี่ จัดการมันแทนผมที ตัวไล่ ๆ กัน ผมกับมันมวยคนละรุ่นโว้ย ถ้าจะสู้ต้องสู้กันที่สมอง เออ...คิด ๆ ดูแล้วไม่ดีกว่า สู้กันที่ความแบ๊วสิ กูชูสองนิ้วมึงก็แพ้ราบแล้ว
“น้องชื่ออะไรอะ เอกโยธาเหรอ” พี่อัธยาศัยดีเป็นคนถาม คงเห็นจากชื่อภาคที่ปักบนแขนเสื้อช็อปกับรุ่น ผมก้มหน้าก้มตาลอก ลอก และก็ลอก ที่จริงไม่ดีหรอกครับ แต่สถานการณ์บังคับจริง ๆ ไม่ส่งก็คะแนนเกลี้ยง ลบห้าจริงไม่อิงนิยาย
“ไอ้ว่าน”
เจ้าของสมุดเดินกลับมา คราวนี้ผมไม่เงยหน้าขึ้นมองแต่เงาวูบไหวที่หางตาก็พอเห็นว่ามันนั่งลงข้าง ๆ เสียงเคี้ยวลูกชิ้นแจ๊บ ๆ ไอ้เชี่ยโต๋ กูอยากกิน
“พี่อาร์มมาจีบเพื่อนผมเหรอพี่”
“เฮ้ย” อ้อ...ชื่ออาร์ม เออ ๆ เมื่อกี้ไอ้โต๋มันว่าอะไรนะ ผมเงยหน้าขึ้นมองคนพูด สลับคนร้องเฮ้ย เอ้า มึงก็ปฏิเสธไปสิวะ มานั่งยิ้มแห้ง ๆ ทำไม
“แหน่ะ” เพื่อนผมมันเลยล้อใหญ่ ล้อเท่ารถสิบล้อไปแล้วครับ ฝั่งตรงข้ามแม่งก็หน้าขึ้นสีเรื่อย ๆ เรื่อย ๆ เฮ้ย ๆ อย่าบอกนะว่า...
“อย่าเอามันเลยพี่ ไอ้ว่านมันซกมก”
“ไปว่าเพื่อน”
เออ ๆ ใช่ มึงนี่มันชั่วจริง ๆ ไอ้โต๋ มาว่ากู แต่เดี๋ยวก่อน กูจะจดบันชีไว้ในสมุดบันทึกหนังหมา ตอนนี้ขอลอกก่อน จะไม่ทันแล้ว
“ว่าแต่ชื่อว่านเหรอ พี่ชื่ออาร์มนะ นี่เพื่อนพี่ แคนตัส ทำไมโต๋ไม่ชวนเพื่อนเข้าชมรมด้วยล่ะ”
“ชมรมอะไรวะ” ดอดไปสมัครตอนไหน ไอ้เพื่อนเลว ทิ้งกู อ๋อ ตอนที่ชวนเข้าอคูสติกด้วยกันไม่เขาเพราะมีชมรมในดวงใจอยู่แล้วสินะ
“มันไม่ชอบฟันดาบหรอกพี่”
“ห้ะ?”
“ชมรมฟันดาบไง ปิ้ว ๆ” ไอ้โต๋ทำท่าชักไม้ชักมือเหมือนมีดาบไอคิโดอยู่ในมือ อ้อ...ที่จริงก็ชวนแล้วแต่ผมไม่ไปนี่หว่า ไม่ชอบออกกำลังครับ เหนื่อย ชอบงานนั่งหล่อ ๆ ให้สาวมากรี๊ดมากกว่า
“เสียดาย เลยไม่รู้จักกันเลย แต่ไม่เป็นไร ตอนนี้ก็รู้จักกันแล้วนี่เนอะ”
“สรุปพี่อาร์มจะจีบไอ้ว่านจริง ๆ ใช่ปะ”
คนตรงหน้าหัวเราะ บรรทัดสุดท้ายแล้วกู ขีดเส้นใต้ เขียนชื่อเป็นอันเสร็จสรรพ มองนาฬิกา เหลือห้านาทีพอดี วิ่งไปส่งการบ้านก่อนเริ่มชั่วโมงเรียนน่าจะทัน อาจารย์สมเกียร์ติแกโหดมาก มาถึงแล้วเก็บการบ้านเลยครับ ไม่เผื่อเวลาให้นักเรียนลอกในห้องเลย เมื่อกี้ว่าไงนะ
“เปล่าครับ ไม่ได้จีบหรอก ถึงจะน่ารักก็เถอะ สงสัยคนจองตัวเยอะ”
“โห พี่อาร์มมมม” ไอ้โต๋ลากเสียงยาว “ไอ้นี่มันของคัดพิเศษครับ คัดทิ้ง ถ้าไหวพี่เอา ๆ ไปก็ได้นะ อย่างมันไม่มีใครเขาเอาแล้ว”
“เฮ้ย กูอดีตเดือนคณะนะเว้ย” พูดอะไรก็เกรงใจหน้าตาอันหล่อเหลาเกาหลีกูบ้าง ถึงจะเทียบไม่ได้กับไอ้พี่แคนก็เถอะ แต่แปลกว่ะ หล่อขนาดนี้ทำไมไม่ได้เป็นเดือนคณะวะ
“ไอ้กร๊วก มึงนี่มันโง่ไม่เลิกเลยวริทธิ์ เดือนคณะเราเขาเน้นคนหน้าด้าน ใครมันจะบ้าไปเต้นกาโวท่าปะแป้งเหมือนมึงบนเวทีอีกวะ ผ่านมาปีกว่ายังไม่สำนึก”
“เมื่อกี้มึงยังบอกอยู่เลยว่ากูหน้าตาดี”
“ก็ใช้ได้” มันว่า “หน่อมแน้ม”
เอ้า จะชมหรือจะด่า ผมยังไม่ทันเถียง อ้าปากพะงาบ ๆ ไอ้หล่อลากไตฝั่งตรงข้ามก็ยกนาฬิกาขึ้นมาดู เคาะเบา ๆ ให้ผมก้มดูนาฬิกาตัวเองบ้าง ไอ้ฉิบหาย จะเข้าเรียนไม่ทันแล้ว
“เฮ้ย ไป ๆ เดี๋ยวเฮียแกล็อคห้อง”
“อ้าว ถึงเวลาแล้วเหรอวะ” ไอ้โต๋ผุดลุกขึ้นบ้าง ยกมือไหว้พี่ชมรมมันทำให้ผมต้องยกมือไหว้ด้วย เหลือบตามองพี่แคน ยังก้มหน้ากินข้าวไม่หือไม่อือ ไม่ทักไม่ทาย ไม่แม้แต่จะรับไหว้ มนุษยสัมพันธ์ติดลบ ลบเหี้ย ๆ เข้าใจอะไรผิดแล้วแน่ ๆ มันหมดยุคคนหล่อนั่งเก็กแล้วมึง ต้องเฟรนลี่ดี๊ด๊าอย่างกูนี่ครองใจแฟน ๆ แต่ทำไปทำมามันเหมือนมันจะรู้ตัวว่าผมจ้องอยู่ว่ะ จู่ ๆ ก็เงยหน้าขึ้นยกน้ำลำไยขึ้นดูดกวน ๆ กะยักคิ้วให้อีกที
อะเหื้ออ แม่ง....หล่อสัสสสสสสสสสส“มึงเป็นไรวะไอ้ว่าน”
ก้าวฉับ ๆ หนีออกมาจากตรงนั้นได้โต๋เต๋ก็คว้าไหล่ไว้ มันกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามให้ทันผมแล้วก็ทันในที่สุด “ไม่สบายปะวะ หูแดง ๆ”
ผมนี่ตะครุบหูแทบไม่ทันเลยครับ ส่ายหน้ารัว ๆ ตัวก็ไม่ร้อนนี่หว่า
หรือว่าโดนแคนตัสแอทแทคเข้าแล้ววะ!
ว่านหวานหวาน @Wannwannwannn 1 วิ
กินอะไรเล่าเธอถึงได้งามแสนงาม...กินน้ำลำไย?
ภาพแม่ง ติดตามาก อาจารย์สมเกียรติกำลังสอนแมทฯ หรือคณิตศาสตร์เพื่อวิศวกรรม 2 อยู่หน้ากระดาน แต่ตอนนี้เบลอมาก ผมนั่งจิ้มโทรศัพท์ คุยกับตัวเองบบนโปรแกรมนกลาร์รี่สีฟ้าแล้วถอนหายใจ มีข้อมูลเกี่ยวกับผมหนึ่งอย่างที่เป็นความลับคือผมแอบมองพี่แคนมานานแล้วครับ ตั้งแต่วันรับน้อง มันไม่ได้ทำอะไรเลย เดินผ่านซุ้มเฉย ๆ พวกรุ่นพี่ก็ประกาศใส่โทรโข่งแซว พี่แคนมันยกมือโบก ยิ้มให้เฟรชชี่หนึ่งทีแล้วเดินหล่อหายไปเฉย ทั้งกรุ๊ปมีเสียงฮือฮาขึ้นมาทันที ผมยืดคอมองไปจนสุดสายตานั่นแหละแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าคนเหี้ยอะไร ทำไมหล่อได้หล่อดี
ถูกครับ ผมมองคนจากภายนอก ใคร ๆ มันก็มองคนจากภายนอกทั้งนั้นแหละวะ ในเมื่อสายตามันแสกนไปไม่ถึงตับไตใส้พุง ไม่งั้นคนคงเลือกคู่ที่สด ๆ สุขภาพดี ไม่มีมะเร็งกันไปแล้ว แต่ผมไม่ได้หมายถึงอยากได้พี่แคนมาเป็นผัวหรือเมียอะไรแบบนั้นนะ เขาแค่เป็นคนที่เห็นแล้วสามารถกรีดร้องออกมาได้สุดเสียงจริง ๆ
“เล่นอะไรวะไอ้ว่าน”
“เสือกครับ” ผมตอบ คว่ำโทรศัพท์ลง โง้ยยย ต้องทำยังไงถึงจะหล่อเป็นไอดอลอย่างพี่แคนได้ครับ สมมติถ้าคืนนี้ผมนอนแล้วตื่นมาทำหน้าเครียดเข้าสู่โหมดขรึมบ้างชีวิตกูจะดีกว่านี้ไหม
“พี่แคนแม่งหล่อว่ะ มึงว่าไหม”
“อือ มีใครไม่คิดงั้นบ้างวะ”
“แล้วพี่อาร์มอะ”
“เฉย ๆ”
“แต่เวลาเฮียแกเดินคู่กันดูออร่าพระเอกกันทั้งคู่เลยนะ”
“แล้ว?”
“มึงชอบคนไหน”
“พี่แคน” ผมตอบ “เฮ้ย ๆ มึงหมายถึงชอบแบบไหนวะ”
ไอ้โต๋ยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ย เอาศอกกระทุ้ง “เมื่อกี้ ตอนเดินออกมามึงเขินใช่ไหมล่ะ พี่แคนยักคิ้วให้”
“กูไม่ได้ชอบแบบนั้น” ผมเถียง “ชอบแบบไอดอล อะไรแบบนี้ กูอยากมีสาวกรี๊ดบ้าง”
“เลยอยากมีผัวหล่อ สาวจะได้กรี๊ดใส่?”
“ไม่ใช่ละ” อัปปรีย์มากมึง คิดได้ไง ว่านรับไม่ได้อย่างแรง “งี้มึงก็ชอบพี่อาร์มสิ เห็นชวนคุยปร๋อ”
“โอ้ มีย้อน” ย้อนสิโว้ย จู่ ๆ มากล่าวหากันแบบนี้ ผมเสียหายนะครับ คนยิ่งหาแฟนไม่ได้อยู่ด้วย สาว ๆ เกิดได้ยินแล้วคิดไปไกลผมก็แย่สิ
“เอาจริง ถ้าพี่แคนชอบมึง มึงว่าไงวะ”
“หา”
ไม่ได้อะไรหายครับ เสียงอุทาน ผู้หญิงโต๊ะข้างหน้าหันมาทำท่ารำคาญใส่ แต่เพราะผมนั่งอยู่หลังสุดเสียงเลยไปไม่ถึงหน้าชั้น ไม่งั้นได้รับเกียรติจากอาจารย์สมเกียรติไปหาเกียรติหน้าห้องแน่นอน ไอ้โต๋ยักคิ้ว เลื่อนไอโฟนสี่เอสปุ่มใกล้จะพังพ่วงแบตสำรองมาให้ หน้าจอที่เปิดค้างไว้เป็นแชทไลน์คุยกับพี่ชมรมมัน
Arm: โต๋ ขอไลน์ว่านหน่อยดิ
ToTae: อะไรพี่ ไหนว่าไม่จีบ
Arm: เออ ก็ไม่ได้จีบ แต่มีคนอยากได้
ToTae: อย่าบอกนะว่าพี่แคน
ToTae: เหยดดดดดดดด พี่แคนเป็นเกย์เหรอวะพี่
Arm: เออน่า จะให้ไม่ให้
ToTae: เดี๋ยวขอมันก่อน
ผมงี้ร้อนวูบขึ้นหน้าเลยครับ มองหน้าไอ้โต๋แล้วส่ายหัวถี่ ๆ อย่าให้นะมึง มึงให้กูโกรธแน่ เพื่อนรักผมยักยิ้ม เป็นยิ้มที่โคตรไม่น่าไว้ใจที่สุดในโลกหล้า ไม่ถึงนาที โทรศัพท์ผมก็สั่น มีข้อความขึ้นเตือนจากโปรแกรมไลน์
Cantus added you from phone numberหันไปจ้องไอ้เหี้ยโต๋ มันฉีกยิ้มกว้าง ปากเกือบถูกรูหู หยิบปากกาขึ้นมาทำท่าตั้งใจเรียน ร้อยวันพันปีไม่เห็นมึงขยัน ไอ้เพื่อนเวร อยากจะด่าครับ แต่ด่าไม่เต็มปาก ไอ้โต๋เรียนเก่ง ไม่เก่งมาก แต่อย่างน้อยก็เก่งกว่าผม ขืนตัดญาติขาดมิตรเดี๋ยวปรสิตอย่างกูไม่มีที่พักพิงพอดี
Cantus send you a photoโทรศัพท์ผมสั่นครืด พอพลิกหน้าจอขึ้นมาดูข้อความที่เตือนเข้ามาแล้วไม่กล้ากดดูเลยว่ะ พี่แคนแม่งแอบถ่ายรูปผมแน่เลย โอ้ย เกิดมาไม่เคยมีคนจีบ เจอแบบนี้แล้วใจเต้นตึกตัก ผมจะรับมือกับมันยังไงดีวะ เอาล่ะ น้องว่าน ใจเย็น ๆ แล้วกดดู ถ้ามันถ่ายรูปหนูก็เอาพรบ.คอมไปขู่มันเลย ดีไม่ดีเรียกร้องค่าเสียหายได้ด้วยนะ
แต่เอ๊ะ รูปที่มันส่งมาเป็นกระเป๋าสตางค์หน้าตาคุ้น ๆ ว่ะ
Cantus: ของมึงเออ ใช่ ของกู ที่ให้ไอ้โต๋ไปซื้อน้ำกับลูกชิ้นเมื่อกี้ไง
Cantus send you a photoไอ้เหี้ยยย พอแล้ว กูจำได้ ไม่ต้องถ่ายบัตรประชาชนมาให้ หยาบมาก ไอ้พี่แคน พ่อแม่มึงไม่สั่งสอนเหรอว่าห้ามเปิดกระเป๋าตังค์คนอื่น ยิ่งบัตรประชาชนคนอื่นยิ่งอย่ายุ่ง หน้าผมบวมอืดซีดเทาบนบัตรหรามาก ตอนนั้นตัดรองทรงเบอร์หนึ่ง ติดหนังหัว ดีที่กล้องอำเภอความละเอียดต่ำไม่ซูมไปถึงขี้กลากบนหัวกู นี่มันความลับทางราชการเลยนะโว้ย
Cantus: จะมาเอาหรือให้แปะบัตรไว้ที่กองกิจฯ?
Wann: เดี๋ยวกูไปเอา
Cantus: กู?
Cantus: ไปรับกับพี่ธุรการแล้วกันนะ
Wann: เฮ้ย ๆ เดี๋ยวผมไปเอา
Wann: พี่แคนอยู่ไหน
Cantus: เลิกเรียนสี่โมง มาเจอกันใต้ตึกคอม
Wann: โอเค
Cantus: อย่าลืมเอาคำขอบคุณมาด้วย กูไปเรียนแล้ว
เป็นอันสิ้นเรื่อง ผมถอนหายใจยาว โธ่ ตอนแรกก็นึกว่าจะจีบ ไอ้โต๋แม่งปูเรื่องให้เสียอย่างดี ที่แท้ก็เก็บกระเป๋าสตางค์ไว้ให้ แต่เจ้าตัวมันรู้หรือยังวะว่าไม่ได้คืนกระเป๋าผม แกล้งแม่งเลยดีกว่า
“โต๋ กระเป๋าเงินกูอะ”
“คืนแล้ว”
“คืนตอนไหน”
“ก็กูกลับมาก็วางคืนมึงเลย ไม่เห็นเหรอ”
ตอบได้หน้านิ่งมาก มันจดสูตรบนสไลด์ยุกยิก สักพักก็หันมามองหน้าผม “มึง...ไม่ได้หยิบมาจริงดิ”
“เออ”
“ไม่เป็นไรหรอกมั้ง” สำนึกผิดสักนิดเถอะครับเพื่อน “เงินก็ไม่มีสักกะบาท”
อย่างน้อยกูก็ไม่ต้องจ่ายค่าบัตรเอทีเอ็มใหม่ไงโว้ย!!!
แต่สุดท้ายก็เท่านั้นแหละครับ อัตตา หิ อัตตโน นาโถ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน จะไปเอาอะไรกับไอ้โต๋มัน เลิกเรียนได้ก็เปิดแนบไปเล่นเกมแยกเกษตรแล้ว ความมีมนุษยธรรมเดียวที่เหลืออยู่คือให้เงินผมยืมไว้ 50 บาท ถ้าหาพี่แคนไม่เจออย่างน้อยเย็นนี้ก็ยังมีอะไรกิน แม่ผมจะโอนเงินมาให้ตอนห้าโมง ต้องใช้บัตรเอทีเอ็มครับ จำเป็นมาก ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือหาตัวมันให้ได้นี่แหละ
ผมเดินอย่างเคว้งคว้าง เปล่าเปลี่ยวและเงียบเหงาจากอาคารเรียนรวมกลับมาที่คณะเพียงลำพัง เลิกเรียนสี่โมงเหมือนกัน กว่าจะมาถึงตึกพี่หล่อแกก็นั่งก้มหน้าเล่นมือถือรออยู่แล้ว อยู่คนเดียว ไม่มีพี่อาร์มด้วย ราศีความเจิดจรัสไม่ได้ลดลงไปเลย
“พี่แคน” ผมทัก เขายักคิ้วให้แต่ยังก้มหน้าเล่นเกมในมือถือต่อ ที่นั่งฝั่งตรงข้ามว่าง ที่จริงมันว่างหลายที่เลยแต่ผมเลือกนั่งตรงข้ามมันนี่แหละครับ กระดิกนิ้วรอ เอากระเป๋าตังค์กูคืนมาเส่ะ
“ของของผมอะพี่”
“จะทำอะไรเป็นการขอบคุณ”
“หา” ต้องทำอะไรด้วยเหรอวะ แค่พูดอย่างเดียวไม่พอหรือไง “ก็พี่คืนกระเป๋าผม ผมขอบคุณพี่ แล้วก็แยกย้ายกันกลับไง”
“นี่กูมานั่งรอมึง” เขาว่า แต่ยังไม่เงยหน้าขึ้นจากมือถือ “ตั้งนาน”
ไอ้กร๊วก มึงนั่งเล่นเกมอยู่ อย่าพูดเหมือนบุญคุณสูงส่งหน่อยเลยไหม ผมอ้าปากจะเถียง มันก็ปิดเกมในมือถือหยิบกระเป๋าสตางค์ใบเก่า ๆ เน่า ๆ ของผมขึ้นมา เปิดดูข้างใน หยิบบัตรประชาชนออกมาด้วย
“เฮ้ย! พี่แคน”
“สมมติกูทำไอ้นี่หาย แล้วคืนแต่กระเป๋าสตางค์มึง?”
“พี่อย่าแกล้งผมดิ”
“ข้าวหนึ่งมื้อ”
โอ้โห ไอ้หน้าด้าน เงินกูไม่มีสักบาทมึงก็เห็นแล้ว “พี่รวยจะตาย อย่าขูดเลือดกับปูเลย ขอกระเป๋าผมคืนเถอะ”
มันโยนกระเป๋ามาให้ผมจริงครับ แต่บัตรยังอยู่ที่มัน ผมรับไว้ได้ เก็บให้มิดชิดแล้วลุกไปแย่ง ไอ้พี่แคนยืนขึ้นบ้าง พอชูมือสูงผมก็ได้แต่กระโดดเหยง ๆ หมุนซ้ายหมุนขวา สุดท้ายก็กลายเป็นผมปีนขึ้นมาอยู่บนหลังมัน แต่ไอ้เหี้ยยย ยังไม่ได้บัตรประชาชนคืนเสียที
“ไอ้พี่แคน เอาคืนมานะโว้ย”
มันแกล้งดีดบัตรประชาชนลอย แขนข้างหนึ่งผมล็อกคอมันไว้แต่อีกข้างก็ไวไม่พอ ฉกไปใหม่ไวมาก เฮ้ย ผมเริ่มโกรธจริง ๆ แล้วนะ
“ก็แค่ข้าวมื้อเดียว”
“ผมไม่มีเงิน”
“ไว้มีค่อยเลี้ยง ไม่ได้รีบนี่ บัตรก็ยังไม่ต้องใช้”
“ไอ้พี่แคน”
“อะไร”
“ไอ้แคน”
“หืม”
“ไอ้แคนหงวย”
ได้ผลครับ ไอ้พี่แคนชะงักเลย ผมโดดจากหลังมันไปคว้าบัตรประชาชนมาได้ ฮัดช่า เสร็จโก๋ แม้แต่แดงเดียวก็อย่าคิดว่าจะได้ไปจากกูเลย ผมเก็บบัตรประชาชนเข้ากระเป๋าสตางค์ กำลังจะเดินหนีแต่คอเสื้อแม่งกระตุกรั้งลูกกระเดือกเสียก่อน แค่กกก ใครสอนให้มึงดึงเสื้อคนอื่นแบบนี้วะ
“เมื่อกี้เรียกว่าอะไร”
แววตามันวาววับ ไม่ใช่ไอ้พี่แคนที่ยิ้ม ๆ แกล้งผมเหมือนเมื่อครู่แล้ว วิญญาณปีศาจหิมะเข้าสิงเหรอวะ เทพเจ้านกกะเรียนช่วยผมด้วย
“ถาม”
“ผะ....ผม....” เอาจริงว่ะ ต่อให้หล่อขนาดไหนแต่ทำหน้าจริงจังใส่แบบนี้ผมก็หลอน มันยืนซ้อนข้างหลังผม ดึงคอเสื้อเข้าไปจนแผ่นหลังผมชนกับอกแข็ง ๆ ของมัน ผมเอียงหน้าสบตาตรง ๆ ได้นิดเดียวก็หลับตาปี๋
“พี่แกล้งผมก่อนนะ”
“กูผิด ว่างั้น?”
“พี่แคนนนน”
“แคนอะไร” กูเติมว่าหงวยอยู่ในใจ แต่ไม่บอกมึงหรอก
“แคนตัสครับ”
“กูเป็นรุ่นพี่มึงนะ อย่าปีนเกลียวให้มันมาก”
พูดธรรมดาผมก็กลัวแล้วครับ ไม่ต้องขู่ก็ได้ ผมโดนตบหัวหนึ่งครั้ง ไม่เบามาก แต่ไม่ถึงตาย เจ็บ ๆ หน่วง ๆ นิด ๆ เงยหน้ามาอีกทีพี่แคนผมก็เดินไปอีกฝั่งของตึกแล้ว ไอ้สันดาน (เติม น.หนูลากเสียงยาว ๆ) แน่จริงกลับมาสู้กับกูตัวต่อตัวสิโว้ย ดีแต่หล่อ เอาเข้าจริงเสือกป๊อด
ผมปัดจมูก ควักกระเป๋าสตางค์มาตรวจตรา มันขโมยบัตรอะไรผมไปหรือเปล่าวะ ไม่มีอะไรหายครับ แต่มีอะไรใหม่เพิ่ม ธนบัตรใบละร้อยหนึ่งใบ เรียบกริ๊บ ไม่มีรอยยับย่นอยู่ในช่องเงิน ไม่ใช่ของผมแน่ล่ะ หันกลับไปมองคนที่เดินห่างออกไปเรื่อย ๆ อีกครั้งแล้วตะโกนเรียก
“พี่แคน! ขอบคุณครับ!”
มันไม่หันกลับมา แต่ได้ยินแน่นอนเพราะชูมือขวาพร้อมนิ้วกลางเน้น ๆ ให้ โฮ้ยย ไม่ให้ปลื้มได้ไง คนอะไรนอกจากหล่อแล้วยังใจดีอีก ไอดอลผมจริง ๆ ครับคุณชายย
TBC
นี่ ชั้น ทำ อะ ไร ลง ไป
เปิดเรื่องใหม่อีกแล้วค่ะ /พรากส์ (กับเรื่องงานเคยขยันแบบนี้มั้ย) สารภาพด้วยใจจริงค่ะ เรื่องนี้กลวงมาก อย่าหาสาระ สาดดราม่าใส่เรื่องก่อน ๆ มาเยอะ กลัวจะเดินทางเข้าสายดาร์กเต็มพิกัดเลยขอSwapกลับมาในแนวเรื่องแรกที่เขียนบ้าง
แน่นอนยังคงกลวงเหมือนเดิม หากินกับคณะเดิม แนวเฮีย-เน็ต (แต่นั่นเน็ตยังมีดีค่ะ) นายเอกเรื่องนี้หาดีไม่ได้ นัดกับเดย์(afterday)ไว้ ว่าจะลงด้วยกันวันนี้เลยเข็นออกมาได้ในที่สุด
ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวอีกครั้ง กับตัวละครใหม่ ๆ พี่แคน-น้องว่าน และผองเพื่อน เรื่องนี้ไม่สามารถหาแฮชแท็ก #แคนดี้ หรือ #Candy ได้เลยในทวิตเตอร์ ชื่อเริื่องดันตรงกับชื่อน้องหมาของนักร้องเกาหลี ถ้าเมตตาจะให้กำลังใจผ่านข้อความ รบกวน#candynovel ด้วยนะคะ
ขอบพระคุณอย่างสูง
รักและคิดถึงคนอ่านมาก ไหนขอกอดที