-+-สุดโต่ง-+- : ตอนพิเศษ: 26/10/2014 (Page. 109) แจ้งข่าวหน้า 113
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: -+-สุดโต่ง-+- : ตอนพิเศษ: 26/10/2014 (Page. 109) แจ้งข่าวหน้า 113  (อ่าน 955377 ครั้ง)

ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)



*****************************************************************

สวัสดีค่ะ เรื่องนี้ชื่อเรื่องว่า สุดโต่ง แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าระหว่างตัวพระหรือตัวนางกันแน่ที่สุดโต่ง  o22

แล้วคุณจะรัก 'เขา' ค่ะ
:กอด1:

สารบัญ

ตอนที่ 1
ตอนที่ 2
ตอนที่ 3
ตอนที่ 4
ตอนที่ 5
ตอนที่ 6
ตอนที่ 7
ตอนที่ 8
ตอนที่ 9
ตอนที่ 10
ตอนที่ 11
ตอนที่ 12
ตอนที่ 13
ตอนที่ 14
ตอนที่ 15
ตอนที่ 16
ตอนที่ 17
ตอนที่ 18
ตอนที่ 19
ตอนที่ 20
ตอนที่ 21
ตอนที่ 22
ตอนที่ 23
ตอนที่ 24
ตอนที่ 25
ตอนที่ 26
ตอนที่ 27
ตอนที่ 28
ตอนที่ 29
ตอนที่ 30
ตอนที่ 31
ตอนที่ 32
ตอนที่ 33
ตอนที่ 34
ตอนที่ 35
ตอนที่ 36
ตอนที่ 37
ตอนที่ 38
ตอนที่ 39
ตอนที่ 40
ตอนที่ 41
ตอนที่ 42
ตอนที่ 43
ตอนที่ 44
ตอนที่ 45
ตอนที่ 46
บทส่งท้าย

ตอนพิเศษหัวเหม่ง&หน้าหล่อ
ตอนพิเศษหลิน+เล้ง 1
ตอนพิเศษหลิน+เล้ง 2
ตอนพิเศษหลิน+เล้ง End
ตอนพิเศษตั้ม+บิ้ว 1
ตอนพิเศษตั้ม+บิ้ว 2
ตอนพิเศษตั้ม+บิ้ว End
ตอนพิเศษโบ+แมว 1
ตอนพิเศษโบ+แมว End
ตอนพิเศษโบ+แมว Extra

ตอนพิเศษทองคำเอก + ชงโค
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-09-2015 22:11:47 โดย Snufflehp »

ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
Re: -+-สุดโต่ง-+- : ตอนที่ 1 : 11/5/2014
«ตอบ #1 เมื่อ11-05-2014 17:43:02 »

ตอนที่ 1

“ชงโค ช็อคโกแลตที่บิ้วอยากได้ ชงโคซื้อมาหรือยัง?” คำถามจากผู้ชายตัวเล็ก หน้าหวาน รูปร่างผอมบางตรงหน้าดังขึ้น ผมพยักหน้า ก่อนจะยื่นกล่องช็อคโกแลตกล่องใหญ่ไปให้

‘เพื่อน’ เพียงคนเดียวของผมยิ้มกว้างอย่างดีใจ กระโดดโลดเต้นไปรอบๆ ก่อนจะเข้ามาคลอเคลียเหมือนลูกแมวตัวน้อยๆ

“ชงโคเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเลย งั้นเย็นนี้ช่วยเอางานไปส่งอาจารย์ให้บิ้วด้วยนะ บิ้วนัดกับพี่มาร์ชไว้...ชงโคไม่ว่าอะไรใช่ไหมล่ะ อ้อ...บิ้วขอยืมรถชงโคด้วยนะ”

ผมพยักหน้าอีกครั้ง ล้วงเอากุญแจรถในกระเป๋าส่งให้กับบิ้วที่ยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้มที่แก้มทั้งสองข้าง ก่อนจะเขย่งตัวขึ้นมาหอมแก้มผม

“งั้นบิ้วไปก่อนนะ รับรองว่าจะรีบเอารถมาคืนก่อนหกโมงเย็น”

บิ้ววิ่งห่างออกไป ผมมองตามแผ่นหลังเล็กๆ นั้นจนลับสายตา

เฮ้อ...เพื่อน

คำๆ นี้ มันคืออะไรกันแน่นะ... สำหรับผมแล้ว ไม่เคยต้องการมันสักที หากคำว่าเพื่อนจะทำให้ชีวิตต้องวุ่นวาย ปั่นป่วน หรือแม้แต่ทำให้ถูกเอาเปรียบ สู้ไม่มี...คงดีกว่า

แต่กับบิ้วนั้นต่างออกไป...ผมรู้จักกับบิ้วตอนอายุสิบขวบ เป็นช่วงวัยที่เริ่มเรียนรู้กับความโหดร้ายของโลกสำหรับผมก็ว่าได้ ผมยังจำได้ไม่ลืม ในวันที่ผู้ชายคนนั้นพาแม่เลี้ยงกับลูกติดของเธอเข้ามาอยู่ในบ้าน บ้าน...ที่เป็นของแม่ผม บ้านที่ตั้งแต่นั้นมา...ผมเรียกมันว่าบ้านไม่ได้อีกต่อไป

แม่ของบิ้วเป็นผู้หญิงแต่งตัวจัด แม้วัยจะล่วงเลยเข้าเลขสี่ก็ยังไม่หยุดผลาญเงิน ผมมองไม่เห็นความดีสักข้อที่ผู้ชายคนนั้นเลือกแม่ของบิ้วมาเป็นคู่ครองชีวิต แต่คิดไปอีกที...ก็เหมาะสมกันดีอยู่แล้วล่ะครับ คนประเภทเดียวกัน...จะต่างกันสักกี่มากน้อย

ส่วนบิ้ว...ผู้ชายตัวเล็ก น่ารัก น่าเข้าใกล้แค่รูปกายภายนอก เป็นสิ่งมีชีวิตที่ทำยังไงก็ไม่ยอมหลุดออกจากชีวิตผมสักที ความตอแหลของบิ้วมักทำร้ายผมได้เสมอ หากผมทำให้ขัดใจ หรือทำอะไรไม่ได้ดั่งหวัง ผมมักจะถูกทำให้คนอื่นมองเหมือนตัวน่าขยะแขยงอะไรสักตัว

ผมไม่เคยชอบและไม่อยากอยู่ใกล้บิ้วเลยจริงๆ แต่ผมก็ไม่เคยพูดมันออกมา ก็ถ้าทำได้ผมก็อยากจะตะโกนใส่ใบหน้าน่ารักนั่นไปดังๆ เลยว่า ‘ไปตายซะ’

แต่มันก็เท่านั้น...ในเมื่อผมมันเป็นแค่ ‘ไอ้ใบ้’ ที่ไม่มีใครอยากคบ ที่บิ้วมาคบกับผม ก็เพื่ออยากสร้างภาพให้คนอื่นเห็นเท่านั้นแหละว่าตัวเองเป็นคนดีขนาดไหนที่ลดตัวมาเป็นเพื่อนกับผม ทั้งๆ ที่ตัวบิ้วเองก็มีเพื่อนๆ ล้อมหน้าล้อมหลังอยู่แล้ว

ชีวิตในโรงเรียนช่วงมัธยมปลายของผมจึงไม่มีอะไรน่าจดจำ ไม่มีแม้แต่ความทรงจำกับกลุ่มเพื่อน เป็นแค่ช่วงเวลาที่แย่ที่สุดอีกช่วงหนึ่งของชีวิตก็เท่านั้น... ผมคงทำได้เพียงภาวนาให้ถึงวันสำเร็จการศึกษาเร็วๆ เพราะเมื่อวันนั้นมาถึง ชีวิตผมคงจะดีขึ้นยิ่งกว่าที่เป็น

.
.
.

ผมชินแล้วกับการที่ต้องนั่งรถเมล์กลับบ้าน ชินแล้วกับคำพูดที่เชื่อถือไม่ได้ของบิ้ว รถที่บอกจะเอามาคืนก่อนหกโมงเย็น กลับไม่เห็นแม้แต่กระจกข้างสักอันแม้ว่าตอนนี้จะเกือบสองทุ่มแล้วก็ตาม

ซอยเข้าบ้านในเวลานี้ก็ยังคงเปลี่ยวเช่นเคย สองข้างทางมีหญ้าขึ้นรกอย่างชวนให้นึกถึงเหตุการณ์สยองขวัญในหนังฆาตกรรม ไฟถนนสองต้นไร้แสงสว่างเหตุเพราะเมื่อสองสามวันก่อนมีกลุ่มเด็กแว้นมือบอนลองความแม่นในการขว้างหินของตัวเอง สภาพแวดล้อมที่คุ้นเคยทำให้ผมกล้าเดินไปตามถนนเส้นนี้แต่เพียงลำพัง

มออออออออออออออ

หือ? เสียงวัว?

มอออออออออออออออออ

เอ๋? ไม่จริงน่ะ...วัวน่ะเหรอจะมาอยู่แถวนี้ ไม่มีบ้านคนที่พอจะเป็นเจ้าของวัวได้สักหลัง เพราะซอยนี้มีบ้านของผมอยู่แค่หลังเดียวเท่านั้น

มออออออออออออออ

เสียงวัวจริงๆ ด้วย!!

ผมรีบเร่งฝีเท้าตามเสียงร้องนั้นไป ยิ่งเสียงนั้นได้ยินชัดมากเท่าไหร่ หัวใจผมก็เต้นรัวมากขึ้นเท่านั้น ...หาไม่ได้ง่ายๆ นะครับที่จะได้เจอวัวตัวเป็นๆ ในเขตเมืองกรุงอย่างนี้

มออออออออออออออออออออออออ

เฮ้ยยยยยย!! นี่มันวัวตัวจริงเสียงจริงเลยนี่ครับ!!

ตอนนี้ผมกำลังยืนอยู่ข้างหลังรถกระบะที่สภาพไม่ได้ต่างจากเศษเหล็กเลยสักนิด น้องวัวตากลมโตสีขาวน่ารักน่าชังกำลังยืนมองผมตาแป๋วอยู่บนรถ

ผมทำภาษามือบอกกับน้องวัวไปว่า ‘น่ารักจัง ขอจับหน่อยได้ไหม’ แต่น้องวัวก็ทำแค่มองหน้าผมแล้วร้องมอๆ ต่อไป

ว่าแต่ใครเป็นเจ้าของรถคันนี้นะ ทำไมถึงเอามาจอดขวางทางเข้าบ้านของผมล่ะ หันมองซ้ายมองขวาก็ไม่เห็นใครเลยสักคน หืม...มีคนเอามาทิ้งไว้เหรอ? แต่คิดอีกที...ใครจะทิ้งรถไว้ด้วยล่ะ อืมมม จากสภาพรถนี่มันก็น่าทิ้งอยู่นะ เอ๋? ยังไงกันล่ะเนี่ย

ผมยืนครุ่นคิดอยู่นาน ก่อนจะเดินสำรวจรอบรถเพื่อหาร่องรอยของเจ้าของ แต่ก็ไม่มีอะไรที่พอจะบ่งบอกถึงเจ้าของรถและน้องวัวตัวนี้ได้เลย

ตุบ!

O_O! ใครน่ะ!!

จู่ๆ ก็มีผู้ชายร่างสูงกระโดดลงมาจากกำแพงบ้านผม หน้าตาไม่รู้ว่าเป็นยังไงเพราะมีผ้าปิดจมูกปิดไว้ครึ่งหน้า ในมือถือดอกชงโคที่ดูแล้วรู้เลยว่าเขาไปเอามาจากที่ไหน ถ้าไม่ใช่ต้นที่อยู่ในเขตบ้านผม

“ใครน่ะ” เสียงที่ดังผ่านผ้าปิดจมูกฟังแปลกๆ ชอบกล ผมชี้มือเข้าหาตัวเองอย่างไม่รู้จะตอบยังไง...

“ถามว่าใคร”

ผมควรจะเป็นคนถามมากกว่าว่าเขาเป็นใคร ทำไมถึงมาขโมยดอกชงโคของบ้านผม

“ไม่ตอบจะแจ้งตำรวจนะ! จะลักพาตัวเดซี่ใช่ไหม!! ตอบมา!”

ผู้ชายคนนี้บ้าไปแล้ว ผมยังไม่รู้เลยว่าใครคือเดซี่ -_-

พอเห็นว่าผมทำหน้างงๆ เขาก็ชี้นิ้วไปยังน้องวัวที่ยังคงร้องมอๆ ไม่หยุด

“เห็นไหม! เดซี่บอกว่ามึงจะมาพาตัวเดซี่ไป”

อ๋อ...เดซี่ น้องวัวนั่นเอง แล้วนี่เขาฟังภาษาวัวออกด้วยเหรอ? แต่ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้นนี่นา ตอนนี้เขากำลังปรักปรำผมอยู่ทั้งๆ ที่ตัวเขาเองนั่นแหละเป็นขโมยที่ปีนเข้าบ้านคนอื่น

ผมเลยเริ่มบอกเขาด้วยภาษามือที่ใช้สื่อสารกับคนอื่นๆ มาตลอดหลายปี

‘ผมไม่ได้จะพาตัวเดซี่ไป แล้วคุณก็คือขโมย ที่นี่บ้านผม ดอกชงโคในมือคุณก็เป็นของผม’

“ทำอะไร ไม่เข้าใจ เป็นใบ้รึไง” เขาถามพลางคิ้วเข้มๆ ก็ขมวดเข้าหากัน ดวงตาคมกริบมองมาที่ผมอย่างขุ่นเคือง แต่พอผมพยักหน้า คิ้วของเขาก็ยิ่งขมวดเข้าไปใหญ่

“เป็นใบ้แล้วทำไมไม่หูหนวก มึงใบ้แน่เหรอวะ โจรเดี๋ยวนี้ฉลาด หน้าตาท่าทางดี แต่สารพัดมุกเอาตัวรอด”

ก็ผมไม่ได้เป็นใบ้โดยกำเนิดซะหน่อยนี่ครับ ไม่มีอวัยวะใดพิการ แต่สาเหตุที่พูดไม่ได้...นั่นมันเหตุผลส่วนตัว -_-

“ไม่รู้แล้วเว้ย ถ้ายังมาทำมึนอย่างนี้ ก็ไปคุยกันที่โรงพัก!”

หา!! O_O!!

ผมก้าวถอยหลังพลางส่ายหน้าเร็วๆ แต่ผู้ชายเจ้าของน้องเดซี่ก็ตามมาจับผมไว้ได้ทัน ผมพยายามทำภาษามือบอกเขาว่า ผมไม่ใช่โจร ไม่ได้จะมาพาตัวน้องเดซี่ไป แต่เขาก็ไม่เข้าใจ หรือไม่ก็ไม่ยอมเชื่อผม ถึงได้จับผมยัดเข้าไปในรถกระบะ Nissan สีแดงซีดๆ เก่าๆ ที่เบาะข้างคนขับมีฟองน้ำทะลักออกมา

โครม!

เสียงปิดประตูรถดังโครมใหญ่ทำให้หัวใจผมตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม พอจะเปิดประตูรถออกไปก็ดันเปิดไม่ออกซะอย่างนั้น

“ไม่ต้องคิดหนี ประตูฝั่งนั้นมันเสีย ถ้าจะเปิดต้องเปิดจากข้างนอก”

ผมอยากจะแนะนำเขาให้ขายรถคันนี้ทิ้งซะ แต่นี่คงเป็นรถคันที่ดีที่สุดที่เขามีแล้วล่ะมั้งครับ ทั้งๆ ที่ประตูฝั่งคนขับก็ไม่ได้อยู่ในสภาพดีเท่าไหร่นัก ยังดีที่มีเข็มขัดนิรภัย แต่นี่ไม่ใช่เวลามาสำรวจสภาพรถของเขาซะหน่อย ผมต้องทำให้เขาเข้าใจให้ได้ว่าผมไม่ใช่โจรลักพาวัว

“โอ้ย! อย่าเขย่าแขน อยากรถคว่ำตายรึไง พวงมาลัยยิ่งแข็งๆ ขับยากนะเว้ย อยู่เฉยๆ สิวะ!”

T_T เขาเป็นคนน่ากลัวอะไรอย่างนี้นะ

เพราะกลัวว่ารถจะคว่ำอย่างที่เขาบอก ผมถึงได้อยู่เฉยๆ มาจนถึงโรงพัก เฮ้อ...มาถึงนี่จนได้ แต่เอาเถอะครับ ถ้าไม่ได้ทำอะไรผิด ก็ไม่มีอะไรต้องกลัว และผู้ชายที่จะแจ้งจับผมนี่ไม่บ้าก็โง่ หน้าผมมันเหมือนโจรลักพาวัวตรงไหน แล้วโจรที่ไหนจะแต่งชุดนักเรียน? หรือเขาคิดล้ำไปว่าเดี๋ยวนี้โจรมันปลอมตัวมาลักพาวัวกันแล้ว -_-

“คุณตำรวจครับ! ผมขอแจ้งความครับ ไอ้หมอนี่จะลักพาตัวลูกสาวผม!”

ลูกสาว = น้องเดซี่ = น้องวัว โจทย์นี้ผมเข้าใจถูกครับ แต่คุณตำรวจที่รับแจ้งความคงจะไม่เข้าใจอย่างที่ผมเข้าใจ เพราะตอนนี้เขากำลังมองมาที่ผมแล้วส่ายหน้าไปมาอย่างรับไม่ได้กับสภาพสังคมในปัจจุบัน

“คดีพรากผู้เยาว์สินะครับ ฝ่ายนี้ก็เป็นเด็กนักเรียน ยังไงช่วยเล่าเหตุการณ์มาด้วยนะครับว่าเรื่องเป็นมายังไง”

“ไม่ใช่พรากผู้เยาว์นะครับคุณตำรวจ! มันจะพรากลูกสาวผม!”

“ครับๆ ผมเข้าใจครับ เพราะฉะนั้นใจเย็นๆ ก่อนนะครับคุณพ่อ แล้วลูกสาวคุณอายุเท่าไหร่ครับ”

“เพิ่งจะสามขวบเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา”

“สามขวบ!” คุณตำรวจผู้รับเรื่องตะโกนเสียงดัง ก่อนจะตวัดสายตาดุๆ มาทางผม ในขณะที่ผมได้แต่พยายามอธิบายด้วยภาษามือของตัวเองว่า ‘มันไม่ใช่อย่างนั้น ลูกสาวที่เขาพูดถึงคือน้องวัวครับ น้องวัวตาบ้องแบ้วน่ารักน่าชัง’

“ใช่สิครับ! ผมเพิ่งฉลองวันเกิดให้แกไป แล้วนี่ก็วันวาเลนไทน์ ผมอุตส่าห์พามาเที่ยวด้วย แล้วลูกสาวผมน่ะชอบดอกชงโคมาก ถึงผมจะแพ้เกสรดอกไม้ก็ยังอุตส่าห์ปีนขึ้นไปเก็บมาให้ แต่แค่เพียงไม่กี่นาทีที่ผมละสายตาไป ไอ้หมอนี่! มันก็มายืนจ้องลูกสาวผมตาเป็นมัน มันต้องเป็นโจรลักพาตัวแน่ๆ ครับ จับมันเลยครับคุณตำรวจ!”

“นายทำอย่างนั้นใช่ไหม! เด็กสามขวบยังทำได้ลงคอ วัยรุ่นสมัยนี้จิตใจทำด้วยอะไร ฝ่ายคุณพ่อใจเย็นๆ ครับ ผมจะจัดการให้อย่างยุติธรรม”

T_T ใครก็ได้ช่วยผมด้วย

“มีอะไรจะสารภาพไหม”

ผมทำมือบอกไปว่า ‘ผมไม่ได้ทำ ผมถูกใส่ความ’

“มันแกล้งเป็นใบ้ครับคุณตำรวจ”

ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์พยักหน้าอย่างเชื่อสนิทใจ ในขณะที่ผมทำมือขอยืมกระดาษและปากกาเพื่อจะได้เขียนอธิบายเรื่องราว แต่ก็ไม่มีใครให้ผมยืมสักคน

“พูดมาไอ้น้อง ให้ไว!”

T_T ขอยืมมือถือก็ได้ ผมจะพิมพ์ให้อ่านเอง มือถือไม่น่ามาแบ็ตหมดตอนนี้เลย เพราะผมมัวแต่แชทกับเพื่อนทางอินเตอร์เน็ตทั้งวัน แบ็ตก็เลยหมดระหว่างที่นั่งรถเมล์กลับบ้าน ก็ไม่คิดหรอกว่าจะมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้

“ตกลงจะไม่พูด?”

อยากพูดสิ อยากพูดมาก ถ้าพูดได้จะด่าไอ้บ้าที่นั่งข้างๆ นี่ก่อนเลย จะด่าให้มันหาทางกลับบ้านไม่ถูก เอาให้มันสำนึกผิดไปตลอดชีวิต!

“จ่าแมวคะ มีใครในนี้เป็นเจ้าของวัวที่อยู่บนหลังรถสีแดงบ้างคะ?” จู่ๆ ก็มีตำรวจหญิงโผล่พรวดพราดเข้ามา ผู้ชายสติไม่เต็มข้างๆ ผมยกมือขึ้นฉับพลันก่อนจะพูดกลับไปด้วยเสียงดังลั่นว่า “ไม่ใช่วัวนะครับ นั่นลูกสาวผม”

“ลูกสาว?” เสียงพึมพำดังลอดมาจากปากของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์นามจ่าแมว ก่อนใบหน้าคล้ายแมวจะฉายความงุนงงออกมา

“จะอะไรก็เถอะค่ะ รีบไปล่ามไว้ไม่ดีกว่าเหรอคะ ตอนนี้วัวตัวนั้นลงจากหลังรถกำลังจะเดินไปที่ถนนแล้วค่ะ”

“ห้ะ!!! ไม่นะ! น้องเดซี่ลูกพ่อ!”

ด้วยความรักอันล้นเปี่ยมของผู้เป็นพ่อที่ห่วงลูกสาวจับใจ ผู้ชายไม่เต็มเต็งคนนั้นก็วิ่งลงบันไดทีละสามขั้นหายลับตาไปทันที

(‘ ‘   ) (   ‘ ‘)

จ่าแมวมองหน้าผม ผมมองหน้าจ่าแมว และตำรวจหญิงคนสวยก็มองพวกเราสองคน

“สรุปคือ ลูกสาวของคุณคนนั้นคือ...” จ่าแมวพูดเพื่อรอให้ผมต่อประโยค แต่เพราะรออยู่นานผมก็ไม่พูด เขาก็เลยสรุปเอาเองว่า “วัว...ที่อายุสามขวบ ชอบดอกชงโค และพามาเที่ยววันวาเลนไทน์!!”

ผมพยักหน้ารัวๆ เพื่อเสริมความเข้าใจของจ่าแมวให้มากยิ่งขึ้น

“เออ -_- งั้นเธอก็กลับไปเถอะ กลับไปเดี๋ยวนี้เลย โว้วววว นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะเนี่ยยยยย!!”

ผมรีบสปีดตัวออกจากโรงพักโดยเร็ว เพราะเห็นเค้าลางว่าจ่าแมวคงจะระเบิดอารมณ์อยู่อีกนาน และในวันนั้น...สุดท้ายแล้วผมก็ต้องนั่งรถเมล์กลับบ้านตัวเองอีกรอบ

เฮ้อ...วันวาเลนไทน์ปีนี้ของผม...ห่วยกว่าทุกปีจริงๆ

.
.
.

เช้าวันอาทิตย์อากาศแจ่มใส ท้องฟ้าไร้เมฆเป็นสีสวยสบายตา ผมออกมารดน้ำดอกไม้ที่ปลูกไว้ในสวนเล็กๆ หน้าบ้าน ดอกกุหลาบสีขาวกำลังบานได้ที่ เดี๋ยวผมว่าจะตัดไปใส่แจกันให้คุณแม่ ตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ผมจำได้ว่าท่านชอบดอกกุหลาบสีขาวไม่น้อยไปกว่าดอกชงโคเลย คุณแม่คงจะมีความสุขถ้าผมเอาไปใส่แจกันวางไว้หน้ารูปของท่าน

“คุณชงโคคะ คุณผู้ชายให้มาตามไปทานข้าวที่บ้านใหญ่ค่ะ” พี่กระแต แม่บ้านที่ทำงานมาหลายปีเดินมาหาด้วยรอยยิ้มเหมือนเช่นทุกครั้ง ในมือก็หิ้วปิ่นโตที่คงใส่สารพัดอาหารไว้ข้างใน

บ้านใหญ่...พ่อก็รู้ว่าผมจะไม่มีวันไปเหยียบที่นั่น ตราบใดที่พวกกาฝากยังอยู่ ผมขออยู่เรือนไทยหลังเล็กที่คุณแม่ชอบมาค้างคืนบ่อยๆ ดีกว่าไปอึดอัดใจ ถึงที่นี่จะเล็ก ไม่ใหญ่โตโอ่โถงเหมือนคฤหาสน์ที่อยู่ห่างไปไม่ไกล แต่ผมกลับได้รับความสุขใจ ความอบอุ่นที่หลายปีมานี้ไม่เคยได้รับเลยตั้งแต่คุณแม่ไม่อยู่ ตอนเด็กๆ ผมมักจะหนีมาหลบอยู่ที่นี่บ่อยๆ และพอเริ่มเข้าเรียนมอต้น ผมก็เก็บข้าวของมาอยู่ถาวร

“พี่กระแตรู้อยู่แล้วว่าคุณชงโคไม่ไป พี่เลยเอาข้าวมาให้ค่ะ มีแต่ของชอบของคุณทั้งนั้นเลย เดี๋ยวพี่กระแตเอาไปเก็บในครัวให้นะคะ”

ผมพยักหน้าพร้อมกับยกมือไหว้ขอบคุณ พี่กระแตร้องเสียงหลงว่าไม่ต้องไหว้ ยังไงพี่ก็เต็มใจทำให้ แต่ผมก็อยากขอบคุณอยู่ดี เพราะที่บ้านนี้มีไม่กี่คนที่ดีกับผมจริงๆ

“เดซี่ ชอบดอกชงโคมากเลยสินะ งั้นเดี๋ยวพ่อเข้าไปคุยกับเจ้าของบ้าน ขอซื้อพันธุ์ไปขยายละกันเนอะ เราจะได้ไม่ต้องลำบากมาบ่อยๆ”

เอ๋? เสียงคุ้นๆ เหมือนส่งตรงมาจากนรกนี่มัน...

“เดซี่รอพ่ออยู่ที่นี่นะ เดี๋ยวพ่อปีนเข้าไปแป๊บเดียว”

ไอ้บ้าไม่เต็มเต็งนั่น!! แล้วนี่ยังจะคิดปีนเข้ามาอีกเหรอ!!

ไม่ทันที่ผมจะได้ตั้งตัว บุรุษประหลาดเจ้าของน้องเดซี่ที่ยังคงมีผ้าปิดจมูกปิดไว้ครึ่งหน้าก็ปีนเข้ามาอย่างว่องไว แล้วความเร็วในการปีนป่ายกำแพงนี่มันคืออะไร คนหรือลิงกัง -_-

“เฮ้ยยยย! มึง! ยังไม่ถูกตำรวจจับไปอีกเหรอ! แล้วนี่ยังจะมาปีนเข้าบ้านคนอื่นเขาอีก!”

โอ้ยยยยยยยยย ผมจะประสาทกิน!

ป๊อก!

ผมรีบโยนกิ่งไม้แห้งที่ตกอยู่ใกล้ๆ ใส่ผู้ชายบ้าๆ บวมๆ ตรงหน้า ซึ่งเขาหลบไม่ทันเลยโดนเข้าอย่างจังแสกกลางหน้าผาก

“โอ้ย! เจ็บนะเว้ย!”

เห็นรอยปูดแดงบนหน้าผากขาวเนียนนั่นแล้วผมก็รีบทิ้งบัวรดน้ำที่ถืออยู่แล้ววิ่งเข้าไปดูเขาทันที

‘ขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ’

“ไม่ต้องทำมือโว้ย ไม่รู้เรื่อง”

ดังนั้นผมถึงรีบล้วงมือถือออกจากกระเป๋ากางเกงแล้วพิมพ์ข้อความ ก่อนจะยื่นให้เขาอ่าน

‘ผมขอโทษ คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?’

“ไม่เป็นบ้าดิ ไม้ไม่ใช่เล็กๆ ขว้างมาได้”

‘ที่นี่บ้านของผมเอง ไปใส่ยาก่อนไหม’

“บ้านมึงเหรอ?”

ผมพยักหน้าเป็นคำตอบ เขาเลยยื่นมือถือคืนมา

“อ้าว เป็นเจ้าของบ้านก็ไม่บอกแต่ทีแรก”

ผมผิด?

“ใส่ยาก็ดี ว่าแต่มึงมีข้าวให้กินไหม กูรีบพาเดซี่ออกจากบ้านมา ลูกงอแงอยากมาดูดอกชงโค กูเลยลืมกินข้าวเช้า”

เอ่อ...ข้าวเหรอ? อืม...ก็เหมือนจะมีนะครับ พี่กระแตคงจัดใส่จานให้อยู่

‘มีครับ งั้นเข้าไปกินข้าวก่อนก็ได้ครับ’

“เออ ขอบใจ จะว่าไปมึงพิมพ์เร็วนะเนี่ย แล้วก็โทษทีละกันเรื่องคราวก่อน สรุปกูเข้าใจผิด ซอรี่ละกันนะ” เขาพูดด้วยท่าทีสบายๆ เหมือนสภาพอากาศในเช้าวันนี้ ในขณะที่ผมตั้งรับไม่ทันและได้แต่มึนงง

“เอ้า ช้าอยู่ทำไม พากูเข้าบ้านสิ”

เอ้อ...เข้าก็เข้าครับ

ผมเดินนำผู้ชายบ้องๆ เข้ามาในบ้าน พาเขาไปยังส่วนของห้องครัวที่พี่กระแตตั้งสำรับกับข้าวไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้พี่เขาคงทำความสะอาดอยู่ที่ไหนสักที่ในบ้านล่ะครับ เข้ามาในครัวถึงไม่เห็นใคร

“เออนี่ กูชื่อทอง ชื่อจริงทองคำเอก นามสกุลไม่บอก อายุไม่บอก น้ำหนักส่วนสูงก็ไม่บอกเหมือนกัน แล้วมึงล่ะ”

ที่จริงเขาบอกแต่ชื่อก็น่าจะพอแล้วนะครับ ไอ้ที่ร่ายมายาวๆ แล้วไม่บอกนี่ไม่ต้องพูดก็ได้

‘ชงโคครับ’ ผมพิมพ์ใส่มือถือแล้วยื่นให้เขาดู ก่อนเสียงหัวเราะจากเขาจะดังขึ้นเบาๆ

“เรียกสั้นๆ ได้ป่ะวะ ชง หรือ โค เรียกอย่างไหนดี”

‘ต้องเรียกสองพยางค์สิ -*-”

“ไม่เรียก ^_^”

‘งั้นผมก็จะเรียกคุณว่าไอ้ทอง’

“เรียกอะไร มึงเป็นใบ้นี่ เรียกไม่ได้อยู่แล้ว”

‘ผมจะเรียกในใจ’

“เออๆ ก็ได้ๆ กูจะเรียกชงโค ส่วนมึงเรียกกูว่าพี่ทอง เพราะยังไงกูก็แก่กว่ามึงแน่ๆ โอเคไหม?”

‘OK ^O^’

“ตอนพิมพ์อีโมยิ้ม ให้ยิ้มด้วย มึงนี่ไม่จริงใจเลยให้ตายสิ -*-”

‘ผมไม่ถนัด’

“เรื่องของมึงเหอะ กูกินข้าวละ หิว”

เพราะฉะนั้น เช้านี้จึงเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ผมได้นั่งกินข้าวร่วมกับคนอื่น คนอื่นที่อยู่ๆ ก็ปีนรั้วเข้ามา โดนผมขว้างกิ่งไม้แสกหน้าผาก แล้วลงท้ายด้วยการเชิญเขาเข้ามาในบ้าน ไม่นับรวมเรื่องที่โดนเขาลากไปโรงพักเพื่อแจ้งจับผมในข้อหาพยายามลักพาวัวนั่นอีก แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังไม่เคยเห็นหน้าเขาเต็มๆ สักที จนเมื่อได้มานั่งกินข้าวตรงกันข้ามกันนี่แหละครับ

จินตนาการที่คิดไว้ว่าภายใต้ผ้าปิดจมูกนั้น เขาอาจจะฟันเหยิน ปากห้อย หรือแม้แต่มีไฝเม็ดเบ้อเริ่มอยู่ที่ปาก เพราะเขาปากไม่ค่อยสร้างสรรค์เลย แต่ที่ไหนได้...ก็ปกติดีครับ เป็นผู้ชายที่หน้าตาดีคนหนึ่ง มองได้เรื่อยๆ มองได้นานๆ โดยไม่รู้จักเบื่อ ตาคมกริบพราวระยับ มีประกายน่ามอง จมูกโด่งเป็นสัน รับกับริมฝีปากสีชมพูสุขภาพดีได้อย่างลงตัว รวมๆ แล้วก็เอียงไปทางคำว่าหล่อมากกว่าคำว่าธรรมดา แต่สไตล์การแต่งตัวที่ทั้งเสื้อและกางเกงรวมไปถึงผ้าขาวม้าที่มัดอยู่ที่เอว ไม่ได้ไปทางเดียวกันกับใบหน้าเลย หน้าอินเตอร์แต่แนวทางชีวิตนี่มันหนุ่มบ้านนาชัดๆ

‘ปล่อยเดซี่ไว้ที่รถจะดีเหรอ’ ผมพิมพ์ข้อความใส่มือถือแล้วยื่นให้พี่ทองดู

“วันนี้อากาศดี เดซี่ชอบอาบแดดอยู่แล้ว ไม่หนีไปไหนหรอก” พี่ทองตอบแบบชิวๆ ก่อนจะตักข้าวต้มใส่ถ้วยตัวเองเป็นรอบที่สาม

“กูชอบหมูทอดนี่อ่ะ บอกให้แม่ครัวจดสูตรให้หน่อยสิ จะเอาไปให้ม๊าทำให้กิน” พี่ทองพูดไปถึงหมูสามชั้นทอดที่ตอนนี้เกลี้ยงจานโดยที่ผมไม่มีโอกาสได้กินเลยสักชิ้น

‘ได้ครับ ถ้าพาเดซี่มาดูดอกชงโคคราวหน้า ผมจะเอาให้นะ’

“มึงนี่ใจดีว่ะ ใครขออะไรก็ให้หมดหรือไง”

‘ก็ถ้ามี ผมให้ได้ก็ให้ อะไรที่ช่วยได้ก็ช่วยกันไป’

“โถ มึงไปเปลี่ยนชื่อเป็นประเสริฐซะไป สังคมทุกวันนี้เป็นคนดีมันอยู่ยากนะเว้ย”

‘แต่ก็ไม่ใช่จะอยู่ไม่ได้นี่ครับ ^^’

“เถียง เถียง ฟังผู้ใหญ่พูดบ้าง”

‘พี่ทองไม่เหมือนผู้ใหญ่เลย’

“เห็นอย่างนี้ ปีหน้ากูก็จะเรียนจบแล้วนะเว้ย”

‘แต่เดือนหน้าผมก็จะจบแล้วนะ แสดงว่าผมจบก่อน เรียกผมว่าพี่ด้วยสิ’

“จบอะไร?”

‘มอปลาย’

“-_- งั้นมึงก็เรียกกูว่าพี่ต่อไป เพราะกูจบมอปลายมานานแล้วสลัดผัก”

ผมยิ้มให้กับหน้าบึ้งๆ ของพี่ทอง ก่อนจะนั่งฟังพี่เขาพูดเรื่องของเดซี่ให้ฟัง

พี่ทองเป็นคนแปลกๆ นะ ไม่แปลกธรรมดา เขาแปลกมากเลยทีเดียว แถมชอบทำตัวสบายๆ ชิวๆ อีกต่างหาก เขามีความคิดที่ยากจะคาดเดาถึงขอบเขตของมันว่าอยู่ตรงไหน ถ้าเขาพูดเกริ่นถึงนกที่เขาชอบ สุดท้ายเขาจะบอกคุณว่าเขาเลี้ยงไก่อยู่หนึ่งตัวและมันก็บินได้เหมือนนก และถ้าถามว่าแม่ของเดซี่ตอนนี้อยู่ที่ไหน เขาก็จะตอบกลับทันทีเลยว่าเดซี่เป็นเด็กหลอดแก้วที่ได้สเปิร์มจากเขาไปเพาะเลี้ยง ซึ่งผมก็ทำได้แค่พยักหน้าเข้าใจ ทั้งๆ ที่อยากกลับไปถามครูชีวะที่โรงเรียนว่า สเปิร์มจากมนุษย์ผู้ชายสามารถเพาะออกมาเป็นวัวได้จริงหรือ?

ถึงอย่างนั้น...เขาก็เป็นคนแรกที่ทำให้ผมกระตือรือร้นอยากคุยด้วยหรือที่จริงจะเรียกว่าพิมพ์คุยด้วยก็ได้ เพราะเขาทั้งเปิดเผยและจริงใจ อย่างที่ตลอดหลายปีในชีวิตผมหาคนแบบนี้ไม่เจอ

“มึงเป็นคนดีจริงๆ ชงโค” พี่ทองพูดพลางตบไหล่ผมเบาๆ หลังจากที่ผมบอกว่าเดซี่นั้นน่ารักน่าชังขนาดไหน ที่ผมไปยืนจ้องมองเดซี่ก็เพราะหลงใหลในรูปโฉมของมัน

“ยังไงช่วยปีนขึ้นไปเอาดอกชงโคมาให้กูด้วย เดซี่เขาชอบให้เอามาทำเป็นมงกุฏดอกไม้”

‘ไม่มีปัญหาครับ พี่ทองรีบเอาน้ำออกไปให้เดซี่เถอะ ป่านนี้คงหิวน้ำแย่แล้ว’

“เออ จริง”

พี่ทองเหมือนเพิ่งนึกได้ ก่อนจะรีบเอาถังน้ำที่ใส่น้ำไว้จนเต็มออกไปให้เดซี่ ในขณะที่ผมเตรียมวอร์มร่างกายเพื่อปีนต้นชงโคที่ไม่ได้ปีนมานานหลายปี ล่าสุดที่ปีนก็ตอนเจ็ดขวบ จำได้ว่าตอนนั้นโดนคุณแม่ดุใหญ่เลยเพราะผมพลาดตกลงมาแขนหัก แต่พอผมยื่นดอกชงโคให้แล้วบอกกับคุณแม่ว่า ‘สุขสันต์วันเกิด’ ท่านก็กอดผมไว้แล้วร้องไห้ไม่หยุดเลย

ผมเก็บดอกชงโคใส่ถุงที่เตรียมขึ้นไปด้วย พอได้เยอะจนพอใจแล้วก็รีบเอาไปทำมงกุฏให้กับเดซี่ เส้นผ่าศูนย์กลางของมงกุฏคงต้องกว้างหน่อย เพราะเดซี่วัยสามขวบนั้นหัวใหญ่กว่าผมซะอีก ทำเสร็จก็เอาไปให้พี่ทองดู ตอนแรกสะกิดยังไงก็ไม่หันเพราะเขาติดพันคุยกับเดซี่อยู่

“ทำสวยนี่หว่า แต้งกิ้ว นี่ เดซี่ สวยไหมลูก”

มอออออออออออออออ

“เดซี่บอกว่าสวยล่ะ”

ผมดีใจนะที่เดซี่ชอบ ^_^

พี่ทองขึ้นไปบนหลังรถเพื่อสวมมงกุฏให้กับเดซี่ พร้อมกับถ่ายเซลก้าคู่อีกต่างหาก

“จะอัพ IG ให้พวกไอ้โนมันอิจฉา หึหึ เออ ชงโค เอา IG มึงมาดิ กูจะแท็กชื่อมึงตรงมงกุฏดอกชงโคนี่อ่ะ”

แต่ผมไม่มี IG น่าเสียดายจัง ไม่งั้นคงได้เห็นรูปน่ารักๆ ของเดซี่ที่ใส่มงกุฏที่ผมทำให้แล้ว

“ไม่มีเหรอ? เชยว่ะมึง”

ผมไม่ได้เชยนะครับ ผมมีแอคเค้าท์เอาไว้แชทในเว็บบอร์ดเหมือนกัน แต่โซเชียลเน็ตเวิร์คอื่นๆ ผมไม่ได้เล่นก็แค่นั้น

“กูกลับละ ม๊าไลน์มาตามแล้ว”

ผมพยักหน้า ก่อนจะพิมพ์ถามเขาว่า ‘แล้วจะมาอีกไหม?’

“ต้องถามเดซี่”

ผมหันหน้าไปมองเดซี่ที่จ้องกลับมาตาแป๋ว ก่อนจะหันมาพิมพ์แล้วโชว์ให้พี่ทองดู

‘เดซี่บอกว่าอยากมาทุกวัน เดซี่ชอบชงโค’

“มึงคุยโทรจิตกับเดซี่ได้เหรอ”

‘ได้ เดซี่บอก เดซี่ชอบชงโคมาก อยากมาทุกวัน’

“งั้น...จะมาทุกวัน เห็นแก่เดซี่ที่ชอบ...ชงโค”

‘^^ ดีจัง’

“ไปละ”

พี่ทองผลักหัวผม แล้วเดินไปขึ้นรถกระบะคันเก่าของเขา ส่วนผมก็หันหลังเดินเข้าบ้าน แต่พี่ทองก็ชะโงกหัวออกมาจากหน้าต่างรถแล้วตะโกนบอกว่า

“นอกจากเดซี่แล้ว น้องจุ๊บแจงก็ชอบชงโคเหมือนกัน น้องบอกว่าว่างๆ จะพาไปเที่ยว”

ผมทำหน้างงๆ เพราะไม่รู้ว่าน้องจุ๊บแจงเป็นใคร แต่พอพี่ทองตบเข้าที่ตัวรถ ผมก็เข้าใจได้ทันทีถึงได้ทำมือเป็นสัญลักษณ์ตอบเขาไปว่า

‘OK’


....................................To be continue................................

 :กอด1: ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ

ออฟไลน์ sine_saki

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
Re: -+-สุดโต่ง-+- : ตอนที่ 1 : 11/5/2014
«ตอบ #2 เมื่อ11-05-2014 18:08:52 »

มาเจิมเรื่องใหม่
ดูท่าจะสุดโต่งทั้งสองฝ่าย อิอิ

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
Re: -+-สุดโต่ง-+- : ตอนที่ 1 : 11/5/2014
«ตอบ #3 เมื่อ11-05-2014 18:43:12 »

โคตรชอบบบบ

เชื่อเถอะเรื่องนี้ น้ำตาท่วมแน่ๆเพราะปมน้องชงโคไม่ธรรมดาทีเดียวเป็นใบ้เพราะทางใจเนี่ยย


แต่อิพี่ทอง ลูกเดซี่ วัย 3 ขวบ และน้องจุ๊บแจง จะมาเปลี่ยนแปลงชีวิตน้องชงโคได้แน่ๆๆๆ

ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
Re: -+-สุดโต่ง-+- : ตอนที่ 2 : 11/5/2014
«ตอบ #4 เมื่อ11-05-2014 19:22:58 »

ตอนที่ 2

ครึกๆๆๆๆๆๆ

เสียงเหมือนเครื่องยนต์กำลังจะพังทำให้ผมต้องหันมองหน้าคนที่กำลังตั้งอกตั้งใจขับอย่างไม่ค่อยสบายใจ แต่เจ้าของน้องจุ๊บแจงก็หาได้แคร์สายตาของผมไม่ เขายังคงฮัมเพลงเบาๆ อย่างอารมณ์ดี ทั้งๆ ที่การจราจรตอนนี้เดี้ยงสนิทมาได้สักห้านาทีแล้ว ไฟแดงห้าร้อยกว่าวินาทีนี่มันนรกชัดๆ เลย

จึกๆ

ผมจิ้มแขนพี่ทองให้หันมาก่อนจะโชว์ข้อความที่พิมพ์ใส่มือถือให้เขาอ่าน

‘ถ้ายังรออย่างนี้ผมไปสายแน่ ขอนั่งวินไปก่อนนะครับ’

“มึงจะทิ้งกูเหรอ?” พี่ทองถาม ก่อนสายตาเหยียดๆ จะมองผมราวกับมองคนที่ชอบขโมยเงินขอทานข้างถนนก็ไม่ปาน

‘ไม่อยากทิ้งนะ แต่ผมต้องรีบไป’

“ก็เดี๋ยวจะไฟเขียวแล้วไง กูอุตส่าห์มาส่งมึงนะ ทั้งๆ ที่เส้นนี้น่ะรถติดชิบหายแต่ก็ยังมา ถ้ามึงชิ่งไปก่อน แล้วกูอ่ะ? กูจะมาอยู่ตรงนี้เพื่อ?”

มันก็จริงครับที่พี่ทองอุตส่าห์ขับรถมาส่งผมทั้งๆ ที่เขากำลังอยู่ในระหว่างพาเดซี่เที่ยวรับลมชมดอกไม้ ถึงผมจะซึ้งใจมากที่เขายอมล่ามเดซี่ไว้กับต้นชงโคในสวนบ้านผมแล้วอาสามาส่งเมื่อเห็นว่าผมต้องเดินไปขึ้นรถเมล์ที่หน้าปากซอย เพราะบิ้วยืมรถไปอีกแล้ว แต่ตอนนี้ถ้ายังนั่งรอให้ไฟจราจรเปลี่ยนเป็นไฟเขียว ผมก็คงไปสอบวิชาแรกของภาคเช้าไม่ทัน วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายก่อนการจบมอปลายของผมนะครับ ผมควรไปสายอย่างนั้นเหรอ?

‘ผมต้องรีบไปสอบปลายภาค’

“เออน่า ยังไงก็ทัน มึงไม่เชื่อใจจุ๊บแจงรึไง”

ก็ไม่เชื่อใจน่ะสิครับ น้องจุ๊บแจงทำท่าจะหมดลมไปหลายรอบแล้ว แต่สิ่งที่ผมคิดก็ไม่มีวันสื่อสารให้พี่ทองได้รู้ ไม่งั้นเขาได้งับหัวผมแน่หากว่าไปสบประมาทของรักของเขา

ทั้งๆ ที่สภาพของจุ๊บแจงน่าสบประมาทน้อยเสียที่ไหน...รถกระบะคันเล็กที่เมื่อหลายสิบปีก่อนคงจะมีสีแดงสวยสง่า แต่ตอนนี้มันทั้งลอกทั้งซีด แถมยังชอบปล่อยควันดำออกจากท่อ เสียงเครื่องยนต์ก็ดังจนไม่สามารถได้ยินเสียงรอบข้างได้ ในตัวรถก็ไม่มีแอร์คอยให้ความเย็นจึงจำเป็นต้องเปิดหน้าต่างรับลมจากภายนอก เครื่องเสียงที่ติดอยู่กับรถก็คงพังไปนานแล้วเพราะลำโพงข้างเบาะที่นั่งมีรอยหนูแทะ แต่พี่ทองก็มีไอเดียดีๆ แก้เบื่อระหว่างขับรถโดยการใช้เชือกมัดวิทยุเครื่องละสามร้อยบาทติดกับตัวคอนโซล แต่ข้อเสียคือต้องคอยหมุนหาคลื่นเอาเอง แถมเบาะที่นั่งทั้งคนขับและคนที่นั่งข้างก็มีรอยขาดรอยปะเต็มไปหมด แล้วสภาพอย่างนี้จะไม่ให้ผมกังวลใจได้ยังไง ที่จริงก็ไม่ใช่เฉพาะผมหรอกครับ ทั้งคนขี่มอเตอร์ไซค์ที่จอดเทียบอยู่ข้างๆ และคนขับรถเบนซ์สีสวยที่จอดอยู่ใกล้ๆ ก็มองมาด้วยสายตาอึ้งๆ เหมือนกัน พวกเขาก็คงไม่คิดหรอกว่ารถคันนี้มันจะสามารถวิ่งได้

แต่เห็นอย่างนี้ป้ายทะเบียนอะไรก็มีครบนะครับ ตำรวจโบกให้จอดก็รอดทุกที ถึงป้ายทะเบียนที่ว่าจะถูกยึดอย่างแน่นหนาด้วยเชือกป่านอยู่ตรงท้ายกระบะก็เถอะ

แล้วหลังจากนั่งลุ้น นั่งภาวนาให้ไปถึงโรงเรียนให้ทัน น้องจุ๊บแจงของพี่ทองก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะเขามาส่งผมได้ทันเวลาพอดี แถมเขายังเอารถเข้ามาจอดที่หน้าเสาธงอีกต่างหาก ที่จริงผมก็ไม่ได้อายนะครับ แต่ตอนนี้ทั้งโรงเรียนกำลังเข้าแถวเตรียมเคารพธงชาติกันอยู่ ทุกสายตาเลยจ้องมาที่ผมกันหมด

“เห็นป่ะ กูบอกแล้วว่ายังไงก็ทัน”

ครับ ผมไม่เถียง แต่พี่เล่นฉวยโอกาสตอนพี่ยามไม่อยู่ที่ป้อมขับเข้ามาเลยนี่...ตอนนี้จะทำยังไงล่ะครับ เดี๋ยวก็ถูกดุเอาหรอก

เร็วเท่าความคิด อาจารย์ฝ่ายปกครองก็วิ่งหน้าตั้งมาที่รถ ในขณะที่ผมยกมือไหว้ขอบคุณพี่ทอง เอื้อมมือออกไปเปิดประตูจากด้านนอกเพราะเปิดจากด้านในไม่ได้ก่อนจะรีบสปีดตัวออกจากรถและวิ่งไปที่แถวของชั้นเรียนตัวเองทันที

“เฮ้ยยยย ชงโค มึงลืมกระเป๋า!”

ซะ...ซวยชิบ พี่จะตะโกนทำไมล่ะครับ T_T

“เธอ!! ไปกับครูที่ห้องปกครองเดี๋ยวนี้! ส่วนคุณ ช่วยรีบๆ กลับไปด้วยครับ ทางโรงเรียนไม่อนุญาตให้เข้ามาส่งเด็กนักเรียนในโรงเรียนนะครับ”

เฮ้อ...ทำไมผมถึงได้ซวยอย่างนี้นะ ตั้งแต่รู้จักกับผู้ชายที่กำลังหัวเราะแหะๆ ขอโทษขอโพยอาจารย์อยู่นี่... ชีวิตที่เคยสงบสุขของผมก็เหมือนจะวุ่นวายขึ้นหลายเท่าตัว เพราะเขาน่ะเป็นคนบ้าที่ทำอะไรไม่ค่อยคิดหน้าคิดหลัง แต่ที่ปฏิเสธไม่ได้เลยก็คือ เขาไม่รังเกียจที่จะทำความรู้จักกับคนพูดไม่ได้อย่างผม ถึงจะดูบ้าๆ บอๆ แต่ก็ไม่เคยดูถูกคน

เอาเถอะครับ...ถึงผมจะต้องเข้าห้องปกครองครั้งแรกในชีวิตเพราะเขา ผมก็จะไม่ถือโทษโกรธเขาหรอก

.
.
.

“ไง ไอ้ใบ้ ไม่เจอกันนาน ยังจำพวกกูได้ไหมวะ?”

วันนี้มันวันซวยไม่จบไม่สิ้นจริงๆ -_-

ผมมองผู้ชายสามคนที่หน้าตาไม่ต่างจากตาตุ่มหมาเท่าไหร่ ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างนึกเซ็ง ความซวยในวันนี้ของผมคงยังไม่จบสินะครับ ถึงได้มีปรสิตสังคมมาดักรอที่กลางซอยเข้าบ้าน

“เอาเงินมาแบ่งให้พวกกูใช้ซะดีๆ ไม่งั้นชีวิตมึงอยู่ไม่สุขแน่” ไอ้แบ็ค หัวโจกที่ตัวใหญ่และน่าเกลียดที่สุดพูดเสียงเหี้ยมก่อนจะตรงเข้ามากระชากคอเสื้อผม ที่จริงไม่ต้องทำอย่างนี้หรอกครับ แค่กลิ่นตัวของมันผมก็แทบจะรับไม่ไหวแล้ว

“คิดว่าหลบหน้าหลบตาพวกกูที่โรงเรียนได้แล้วจะรอดหรือไง! เฮ้ย ไอ้จิน ค้นตัวมัน ส่วนมึง เอากระเป๋ามันไป”

สมุนซ้ายขวาของไอ้แบ็ค ไอ้จินกับไอ้แจม ฝาแฝดนรกส่งมาเกิดก็ยังเชื่องไม่เคยเปลี่ยน ผมชินกับเรื่องพวกนี้เลยไม่ขัดขืนอะไร ส่งกระเป๋าให้ไอ้แจมและยอมให้ไอ้จินมันค้นตัวแต่โดยดี ขัดขืนไปก็เจ็บตัวเปล่าๆ ครับ อยู่เฉยๆ ให้เรื่องมันจบไปคงดีกว่า

มออออออออออออออออออออออออออออออ

หืม?

“เสียงวัวที่ไหนวะ” ไอ้แบ็คขมวดคิ้ว หน้าของมันตอนนี้เหมือนหมูกำลังทำหน้างง ใบหน้าอ้วนๆ นั่นหันมองไปมาก่อนจะหยุดสายตาอยู่ที่วัวสีขาวน่ารักตัวหนึ่ง

เดซี่!

“เสียมารยาทไอ้อ้วน! มึงเรียกลูกสาวใครว่าวัว”

ผมก็คิดไว้แล้วว่าเขาต้องอยู่ที่นี่ หากว่าเดซี่มายืนตาแป๋วมองอยู่ใกล้ๆ พี่ทองที่มีผ้าปิดจมูกปิดไว้ครึ่งหน้าในมือมีเชือกจูงเดซี่กำลังมองสำรวจผมกับพวกไอ้แบ็คทีละคน เขาเลิกคิ้วพลางยกมือขึ้นเสยผมตัวเองทำให้เห็นว่าที่ใบหูข้างขวาของเขามีดอกชงโคทัดอยู่

แพ้เกสรดอกไม้แล้วเสือกเอาดอกไม้ไปทัดหู โง่จริงๆ -_-

“ให้ตายสิ เด็กสมัยนี้ ทำตัวเป็นขยะสังคม อย่างพวกมึงนี่เอาไปรีไซเคิลก็ไม่ได้ ปล่อยให้ย่อยสลายเองก็ไม่ได้อีก สิ่งไร้ค่าที่ไม่ควรมีอยู่ในจักรวาล”

“มึงเป็นใคร!” ไอ้แบ็คที่เรียกสติตัวเองได้คนแรกก็ทำตัวข่มสมเป็นหัวโจกทันที

“ทำไมต้องบอก?”

“งั้นมึงก็ไม่ต้องเสือก นี่ไม่ใช่เรื่องของมึง” ไอ้จินพอเห็นว่าลูกพี่มันตัวใหญ่กว่าพี่ทอง ก็ปากดีบ้าง

“เออ ไม่ใช่ แต่กูอยากเสือก ใครจะทำไม”

“ไอ้เหี้ย!”

“หน้าเหี้ยกว่ากูดันมาด่ากูว่าเหี้ย เดี๋ยวมึงเจอตีนไอ้สัด ปล่อยน้องกู!”

“น้องมึง?” ไอ้แจมถามพร้อมกับหันหน้าไปมองไอ้จินอย่างไม่เข้าใจ “ไอ้ชงโคมันลูกคนเดียวไม่ใช่ไงวะ”

“ถามกูแล้วกูจะรู้ไหม เอาไงไอ้แบ็ค”

“กูไม่กลัว เฮ้ย แน่จริงตัวตัวดิวะ วัวไม่เกี่ยว”

ผมอยากจะบอกพี่ทองว่า ไม่ต้องไปมีเรื่องกับพวกมันหรอก แค่ให้เงินพวกมัน พวกมันก็จะไม่มายุ่งแล้ว แต่ดูเหมือนพี่ทองไม่ใช่ประเภทยอมคน ที่จริงเขาเดินหนี ทำไม่สนใจก็ได้ เพราะนี่ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา แต่เขาก็ยังยืนอยู่ที่นี่

“กูไม่ลดตัวไปมีเรื่องกับพวกมึงหรอก ปล่อยน้องกูซะ ไม่งั้นมึงเจอดีแน่”

“คิดว่าขู่แล้วกูจะกลัว?” ไอ้แบ็คแสยะยิ้มเห็นฟันเหลืองๆ ของมันเกือบครบทุกซี่

“กูไม่ได้ขู่” พี่ทองยักคิ้วหนึ่งที ก่อนจะชักปืนออกมาจากข้างหลัง พวกไอ้แบ็คผงะถอยหลังไปทันที “กูเอาจริง มึงอยากตายก็ลอง”

“ไอ้เหี้ย! กูจะแจ้งตำรวจ!” ไอ้แบ็คร้องเสียงหลง ในขณะที่พี่ทองก้าวยาวๆ เข้ามาใกล้

“ถึงคราวตาย คนร้ายก็ยังหวังพึ่งตำรวจ หึหึ ถ้ามึงคิดว่ามึงวิ่งเร็วกว่าลูกปืนกูก็เอาสิ”

“มึง...มึง...”

ไอ้แบ็ค ไอ้จิน ไอ้แจมหันมองหน้ากันก่อนไอ้จินจะปล่อยตัวผมและไอ้แจมโยนกระเป๋าคืนมาให้

“รีบๆ ไปให้พ้นหูพ้นตากู แล้วอย่าให้รู้ว่ามาแกล้งน้องกูอีก ไม่งั้น...” พี่ทองจบประโยคแค่นั้นก่อนจะปลดเซฟปืนแล้วทำท่าเล็งยิงใส่นักเลงฝึกหัดสามคนที่ยืนหน้าซีดเป็นไก่ต้ม แล้วพวกมันก็หันหลังใส่เกียร์หมาหนีไป

พี่ทองหัวเราะสะใจ ก่อนจะหันมายักคิ้วให้ผม

“เลี้ยงข้าวเย็นกูด้วย”

ผมพยักหน้าพร้อมกับยิ้มให้เขา ก่อนจะเดินตามพี่ทองที่จูงเดซี่นำทางไปยังบ้านของผม

.
.
.

“กับข้าวบ้านมึงนี่อร่อยจริงๆ เลยนะเนี่ย ไม่เสียแรงที่กูถ่อสังขารมา”

สรุปแล้วที่เขาบังเอิญมาเดินเล่นในซอยบ้านผมก็เพราะจะมาขอกินข้าวเย็นด้วยน่ะครับ แต่เพราะผมไม่กลับบ้านสักทีก็เลยพาเดซี่เดินไปๆ มาๆ อยู่ในซอย ชมนกชมไม้ของเขาไปเรื่อยนั่นแหละ

‘พกปืนตลอดเลยเหรอ’ ผมพิมพ์ข้อความส่งไปทางไลน์ที่เพิ่งเพิ่มเพื่อนผ่าน QR โค้ดเมื่อครู่ที่ผ่านมา

“เปล่า ก็ตั้งแต่ครั้งก่อนที่เข้าใจว่ามึงจะลักพาตัวเดซี่นั่นแหละ หลังจากนั้นกูก็เฝ้าระวัง ดูแลลูกสาวไม่ให้คลาดสายตา ก็น่ารักขนาดนี้ ใครก็คงอยากได้ แถมโจรสมัยนี้มันเก่ง มีปืนไว้ขู่บ้างมันจะได้กลัว เราก็ไม่ต้องเจ็บตัวไปสู้กับมันด้วย”

ถึงเหตุผลมันจะฟังแปลกๆ ไปสักนิด แต่ผมก็พยักหน้าเข้าใจหัวอกคนเป็นพ่ออย่างเขา

“รับโทรศัพท์แล้วกดเปิดลำโพงให้หน่อย มือกูเปื้อน”

มีสายเรียกเข้าที่โทรศัพท์ของพี่ทองจริงๆ ครับ แต่ตอนนี้สองมือของเขาถือทาร์ตไข่ไว้อยู่ ผมเลยกดรับสายให้

(ทองคำเอก!!!) เสียงแปดหลอดที่ดังมาตามสายทำเอาผมแทบผงะในขณะที่พี่ทองเกือบทำทาร์ตไข่หลุดมือ

“ม๊า จะตะโกนเสียงดังทำไมครับเนี่ย”

(อาทอง ลื้ออยู่ไหน กลับบ้านเดี๋ยวนี้เลยนะ!)

“มีเรื่องอะไรอ่ะ?”

(ยังจะมาถาม ลื้อเอาปืนของอากงไปเล่นอีกแล้วใช่ไหม!)

“ปืนไรอ่ะม๊า”

ผมว่าต้องเป็นปืนที่เขาเอามาขู่พวกไอ้แบ็คแน่ๆ -_-

(ไม่ต้องมาทำไม่รู้เรื่อง กู๋หย่วนเห็นลื้อเข้าไปในห้องทำงานอากง อย่ามาโกหกม๊านะ)

“ผมไม่รู้เรื่องงงง”

(ปากแข็งนักงั้นก็ไม่ต้องเข้าบ้าน แค่นี้นะ!)

“เฮ้ยยย ม๊า ม๊าทำแบบนี้ไม่ได้นะ!”

ตื้ด ตื้ด ตื้ด

เอ่อ...คือ...

“ก็อย่างที่ได้ยิน กูนอนบ้านมึงละกันคืนนี้” พี่ทองพูดแค่นั้นแล้วก็ตั้งอกตั้งใจกินทาร์ตไข่ต่อไป

ในโลกนี้คงไม่มีเรื่องอะไรมาทำให้ผู้ชายตรงหน้าผมกลุ้มใจได้หรอกครับ อ้อ ยกเว้นเดซี่และจุ๊บแจง

‘แล้วเดซี่ล่ะ’

“เอาเข้ามานอนในบ้านได้ไหมล่ะ”

‘ไม่ได้หรอกครับ เดซี่จะเดินขึ้นบันไดได้ยังไง’

“เออ จริง”

คืนนั้นพี่ทองก็เลยต้องลงไปจุดไฟไล่ยุงให้เดซี่ พร้อมกับยืมเต้นผ้าใบของผมไปกางที่สวนเพื่อนอนเฝ้าลูกสาวสุดรักสุดหวงของเขา

เดซี่...โชคดีจังเลยนะครับ

.
.
.

“ชงโค! ทำไมไม่บอกบิ้วสักคำว่าจะไปเรียนที่นั่น!”

ผมมองบิ้วอย่างไม่ค่อยเข้าใจ สมองกำลังคิดสงสัยว่าทำไมบิ้วถึงได้คิดว่าผมจะบอก เพราะในเมื่อชีวิตผมจะทำอะไรก็ไม่เคยต้องรายงานบิ้วเลยสักที มีแต่บิ้วที่พยายามเอาตัวเองมารับรู้เรื่องของผมอยู่เรื่อย

นี่เป็นเช้าที่อากาศแจ่มใสหลังจากที่ผลแอดมิชชั่นถูกประกาศออกมาเมื่อวาน ในที่สุดผมก็ทำสำเร็จ! ผมสามารถหนีจากบิ้วได้อย่างที่พยายามทำมาตลอด บิ้วไม่มีทางตามมามหาลัยรัฐบาลที่ผมกำลังจะไปเข้าได้แน่ๆ เพราะบิ้วเคยบอกผมว่าจะไปเข้ามหาลัยเอกชนตามกลุ่มเพื่อนของตัวเอง

“ชงโคจะทำอย่างนี้ไม่ได้นะ ถ้าชงโคไม่ไปเรียนกับบิ้ว รู้ไหมว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นกับบิ้วบ้าง”

ก็รู้นะสิผมถึงไม่ไป ใครจะยอมตามไปเป็นทาสรับใช้ให้เด็กนิสัยไม่ดีอย่างบิ้วกันล่ะ หนีได้ก็หนีสิครับ

“ชงโค ชงโคต้องไปเรียนที่เดียวกับบิ้วนะ นะชงโคนะ”

ผมแกะมือของบิ้วที่กำลังจับอยู่ที่แขนของตัวเองออกแล้วเดินไปรดน้ำต้นดอกกุหลาบอีกทาง แต่บิ้วก็ยังตามมารบเร้า

“บิ้วไม่ยอมให้ชงโคหนีบิ้วไปง่ายๆ หรอก! ไม่ยอม! ชงโคเป็นของบิ้ว ต้องอยู่กับบิ้วเท่านั้น!”

เฮ้อ...ไม่ว่าจะกี่ปี บิ้วก็ยังนิสัยไม่น่าคบไม่เปลี่ยน ทั้งๆ ที่บิ้วก็รู้อยู่แก่ใจว่าผมไม่ใช่ของๆ บิ้ว ผมก็คือผม ที่ผมยอมมาตลอดเพราะเบื่อที่จะมีปัญหากับแม่เลี้ยง แต่เรื่องนี้ผมคงไม่มีวันยอม

“ชงโคฟังบิ้วอยู่รึเปล่า! บิ้วไม่ยอมนะชงโค เราต้องอยู่ด้วยกัน ชงโคได้ยินไหม”

ได้ยินหรือไม่ได้ยิน มันก็ไม่ต่างอะไรกันเลย ในเมื่อไม่ว่ายังไงผมก็ทำตามความต้องการของบิ้วไม่ได้อยู่ดี และต่อให้บิ้วจะกอดผมไว้จากข้างหลังพร้อมทั้งร้องไห้น้ำตานองหน้า มันก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา...ผมไม่เคยมีความเห็นใจให้กับบิ้วเลยสักนิด

“บิ้วรักชงโคนะ ทำไมไม่ยอมเข้าใจกันบ้าง ทำไมต้องหนีบิ้วไปด้วย ฮือออออออ”

ผมรู้ดีว่าบิ้วรู้สึกยังไง...แต่มันก็เป็นความรักที่ผมไม่เคยต้องการ ผมต่างหากที่อยากจะถามว่าทำไมบิ้วถึงไม่ยอมเข้าใจว่าผมไม่เคยรู้สึกอะไรกับบิ้วเลย ไม่ว่าจะพยายามคบกับคนอื่นเพื่อให้ผมรู้สึกหึง หรือพยายามสร้างเรื่องเพื่อที่จะเข้ามาอยู่ใกล้ผม เพราะสำหรับผม...ความรู้สึกที่ให้กับบิ้วมีแต่ความรำคาญเท่านั้น

“ชงโค...”

ผมจำเป็นต้องวางบัวรดน้ำลง แล้วคลายแขนที่โอบรัดตัวผมออก ก่อนจะหันหน้าไปเผชิญกับบิ้ว

‘กลับไป แล้วไม่ต้องมาที่นี่อีก ที่นี่เป็นบ้านของผม และผมไม่ต้อนรับ’ ผมเคยทำภาษามือบอกกับบิ้วอย่างนี้ไปแล้วหลายครั้ง บิ้วเข้าใจทุกอย่าง แต่ก็ยังมาที่นี่ตามความต้องการของตัวเองอีกจนได้

ในครอบครัวของพ่อมีบิ้วคนเดียวเท่านั้นที่เข้าใจภาษามือของผม เพราะตอนเด็กๆ บิ้วเคยเข้าใจว่าผมหูหนวก ผมไม่เคยตอบสนองต่อเสียงเรียกของบิ้วเลย ไม่ว่าบิ้วจะพูดอะไรกับผม ผมจะทำเป็นไม่ได้ยินมัน บิ้วเลยไปเรียนภาษามือเพื่อพยายามที่จะสื่อสารกับผม แต่มันก็เท่านั้น เพราะไม่บ่อยนักที่ผมจะยอมสื่อสารด้วย ตั้งแต่นั้นมา...บิ้วก็เริ่มทำนิสัยแย่ๆ ใส่ และไม่น่าคบหาจนถึงปัจจุบัน

“ชงโคใจร้าย!”

‘ผมจะใจร้ายมากกว่านี้ ถ้าบิ้วยังพูดไม่รู้เรื่อง’

“แล้วบิ้วต้องทำยังไง ชงโคกำลังจะหนีบิ้วไป บิ้วอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีชงโค”

‘ไม่ใช่เรื่องของผม บิ้วกลับบ้านไปเถอะ’

“ไม่! บิ้วจะไม่ไปไหนทั้งนั้นจนกว่าชงโคจะยอมไปเรียนที่เดียวกับบิ้ว บิ้วรักชงโคนะ ได้ยินไหม บิ้วรักชงโค”

‘แต่ผมไม่เคยรักบิ้ว’

บิ้วจับเสื้อของผมไว้แน่นแล้วร้องไห้ออกมาเสียงดัง ความสงสารที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีให้กับคนตรงหน้าเริ่มผุดพรายออกมาทีละน้อย ...ทำไมถึงไม่เคยจำว่าต้องเจ็บเพราะผมขนาดไหน ตอนนั้นผมไม่รัก มาถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่รักอยู่ดี บิ้วสารภาพรักกับผมครั้งแรกเมื่อตอนมอต้น เป็นวันที่ผมย้ายข้าวของออกจากบ้านหลังนั้นแล้วมาอยู่ที่เรือนไทยของแม่ บิ้วมาอ้อนวอนให้ผมกลับไป ให้กลับไปอยู่ใกล้ๆ แต่ก็ไม่ได้ผล ในวันนั้นกับวันนี้ บิ้วก็ร้องไห้หนักไม่ต่างกัน

“ถ้าชงโคไม่ไปเรียนกับบิ้ว บิ้วก็จะไม่ไป”

‘เรื่องของบิ้ว ไม่เกี่ยวกับผม กลับไปได้แล้ว’

“บิ้วไม่ไป บิ้วอยากอยู่กับชงโค”

‘ถ้าบิ้วไม่ไป งั้นผมไปเอง อยากอยู่ที่นี่ก็เชิญ’

“ชงโค”

ผมดึงมือบิ้วออกจากเสื้อตัวเอง ก่อนจะรีบเดินหนีมา รู้ว่าบิ้วยังเดินตาม แต่ผมก็ไม่ได้หันไปสนใจ ขึ้นรถมาได้ก็รีบขับออกมาทันที ถึงบิ้วจะวิ่งตามมาเคาะกระจกรถได้ทันตอนที่ผมกำลังรอประตูรั้วให้เปิดออก แต่บิ้วก็ทำได้แค่นั้น ผมสงสารแต่ก็ไม่ใจอ่อนทำในสิ่งที่บิ้วต้องการหรอก

ขับรถมาเรื่อยๆ อย่างที่ไม่รู้จะไปที่ไหน เพราะไม่ได้ตั้งใจจะออกมาตั้งแต่แรก เพื่อนก็ไม่มีให้นัดออกมาเจอหรือไปเยี่ยมที่บ้าน คนเดียวที่นึกถึงตอนนี้ก็คือพี่ทองที่ไม่ได้พาเดซี่มาดูดอกชงโคได้สักพักแล้ว เขาส่งไลน์มาบอกว่าโดนม๊าลงโทษเรื่องขโมยปืนอากงเลยต้องทำงานชดใช้ความผิด ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้าง ผมอยากรู้ความเป็นไปของเขานะ แต่ก็ไม่กล้าไลน์ไปหา ...ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน

ช่วงปิดเทอมรถไม่ค่อยติดเท่าไหร่ ยังพอคืบคลานไปได้บ้างไม่ถึงกับเดี้ยงสนิทเหมือนวันที่นั่งมากับพี่ทอง ผมยังไม่มีจุดหมายปลายทางที่จะไป ไม่มีสถานที่ไหนอยู่ในความสนใจเลยตอนนี้

ตึ้ง!

หือ?

จากพี่ทอง...

‘มารับกูที่สวนสาธารณะ XXX ให้เวลาสิบนาที กูนั่งรออยู่หน้าลานน้ำพุ’

สวนสาธารณะ? เขาไปทำอะไรที่นั่นกันนะ...

โอเค ตอนนี้ผมมีที่ไปแล้วครับ ขอบคุณพี่ทองที่ไลน์มา ไม่งั้นผมคงไปจบที่การเดินไร้สาระอยู่ที่ห้างเป็นแน่

ใช้เวลาเกินสิบนาทีกว่าจะมาถึง ขนาดรีบเร่งมาแล้วก็ยังไม่ทันอยู่ดี พี่ทองหน้าบูดสนิทเลยครับ แต่สภาพของเขาเหมือนเพิ่งตื่นนอน เพราะล่อใส่ชุดนอนกับรองเท้าสวมในบ้านออกมาเลย

“ไม่ต้องสงสัยกับสภาพกู กูเพิ่งหนีม๊ามา”

ผมหัวเราะนิดๆ ก่อนจะนั่งลงข้างๆ เขา

“กูหิวข้าว” พี่ทองพูดพร้อมกับผลักหัวผม “ทำไมมึงไม่ซื้อของกินมาด้วย”

ผมส่ายหน้าอย่างเอือมระอา ก่อนจะยกมือถือออกมากดข้อความส่งให้เขา

‘ผมไม่รู้’

“-*- หิว!”

‘งั้นไปกินข้าวกันครับ’

“แต่กูไม่ได้เอากระเป๋าตังค์มา”

‘ผมเลี้ยง’

“งั้นก็ไป”

‘แล้วเดซี่ล่ะครับ’

“อยู่ที่บ้านสิ มึงคิดว่ากูจะขี่เดซี่หนีม๊ามารึไง”

-_- ก็ถ้าพี่ขี่มาได้คงทำไปแล้วไม่ใช่เหรอครับ ยอมทิ้งเดซี่ไว้ที่บ้านนี่ถือว่าม๊าของเขาน่ากลัวจริงๆ

ผมเดินนำพี่ทองมาที่รถ เขาขอกุญแจไปขับเอง ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะก็ไม่รู้ว่าพี่ทองต้องการไปกินที่ไหน ให้เขาขับแล้วเลือกร้านเองน่าจะถูกใจมากกว่า

สิบห้านาทีต่อมาผมก็มานั่งรอข้าวต้มหมูอยู่ที่โต๊ะริมทาง พี่ทองกำลังเดินไปตักน้ำในขณะที่ผมหันมองไปรอบๆ ตัว เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ออกมาทานข้าวนอกบ้านกับคนอื่น ไม่เคยจินตนาการถึงเรื่องพวกนี้ด้วยซ้ำ ในเมื่อผมใช้ชีวิตเพียงลำพังมาโดยตลอด โต๊ะใกล้ๆ กับโต๊ะผมมากันเป็นครอบครัว พ่อกำลังป้อนข้าวให้กับลูกสาวตัวเล็กที่น่าจะอายุไม่เกินสองขวบ มัดแกละแก้มยุ้ย ตาชั้นเดียวแต่กลมโต น่ารักน่าหยิกมากๆ ริมฝีปากน้อยๆ ก็ส่งเสียงเรียกว่า ป๊า เจื้อยแจ้ว

“ยิ้มอะไรอยู่คนเดียว” พี่ทองถาม พลางวางแก้วน้ำลงตรงหน้าผม ผมเลยชี้ให้ดูอาหมวยตัวน้อยโต๊ะใกล้ๆ

“มึงอยากมีลูกเหรอ”

-_- ไอ้การที่ผมมองเด็กน่ารักๆ นี่ มันก็ไม่ได้หมายความว่าผมอยากมีลูกนะครับ

“ฮ่าๆๆ ดูทำหน้า กูล้อเล่น ว่าแต่มึงเถอะ จากบ้านมารับกูนี่น่าจะใช้เวลาสักชั่วโมง แล้วทำไมมาเร็วนัก”

ถ้าพี่รู้ว่าน่าจะใช้เวลาสักชั่วโมงแล้วทำไมถึงบอกว่าให้เวลาผมสิบนาทีล่ะครับ

‘ผมอยู่ข้างนอกพอดี’ ผมหยิบกระดาษบนโต๊ะพร้อมปากกามาเขียนข้อความลงไปให้เขาอ่าน

“ลายมือทุเรศชิบ กูอ่านไม่ออก -*-”

ไม่มีจะพูดรักษาน้ำใจผมหรอก ถึงลายมือผมจะห่วยขนาดไหนก็เถอะ แต่ก็ไม่น่าพูดออกมาตรงๆ เลยนี่นา ผมเลยต้องส่งไลน์ไปให้เขาอ่านแทน

‘อยู่ข้างนอก’

“เมื่อกี้เขียนยาวกว่านี้”

-_- เรื่องมากจริงๆ เลย

“แล้วทำไมถึงอยู่ข้างนอกตอนเช้าๆ ล่ะ มึงมีธุระเหรอ”

‘ไม่มี แค่เบื่อ’

“เบื่อเพื่อ? เห็นว่าแอดมิชชั่นเพิ่งประกาศเมื่อวาน เด็กเพิ่งจบมอปลายอย่างมึงต้องสดใสร่าเริงสิ หรือว่ามึงแอดไม่ติด”

‘-*- ติดสิ’

“ทีทำหน้าบึ้งล่ะถนัดนัก พิมพ์หน้ายิ้มมาแม่งไม่เคยจะยิ้มตามหรอก”

‘แล้วจะบ่นทำไมเนี่ย’

“ทำไม บ่นไม่ได้ไง”

‘ไม่เถียงแล้ว’

“ดี แล้วมึงติดมอไหน คณะไร”

‘ถาปัตย์ ออกแบบอุตสาหกรรม มอ XXX’

“มอเดียวกับกูนี่หว่า”

‘ยังไม่รู้จะผ่านสัมภาษณ์รึเปล่า’

“ทำไมจะไม่ผ่าน”

‘ผมพูดไม่ได้’

“แต่มึงฟังรู้เรื่อง อย่าเพิ่งกังวลใจไปไอ้น้อง เดี๋ยววันสัมภาษณ์กูไปส่งเอง”

‘ไม่ไปกับจุ๊บแจงนะ’

“นี่มึงรังเกียจจุ๊บแจงเหรอ!!” หน้าของพี่ทองเหมือนยักษ์ขึ้นมาทันที ผมเลยรีบส่ายหัว

‘ไม่อยากให้จุ๊บแจงลำบาก จุ๊บแจงแก่แล้ว กลัวเหนื่อย’

“เหตุผลมึงเข้าท่า อ่ะ กินข้าวกันก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง”

ข้าวต้มมาเสิร์ฟพอดี ผมกับพี่ทองเลยหยุดคุยไปโดยปริยาย อืม...กลิ่นหอม น่ากินทีเดียวครับ ยิ่งมีกระเทียมเจียวโรยหน้ายิ่งเข้าที แต่พี่ทองนี่สิ ตักต้นหอมกับใบขึ้นฉ่ายมาใส่ถ้วยผมหมดเลย

“กูไม่ชอบอ่ะ”

เฮ้อ...เขาอายุเท่าไหร่กันแน่เนี่ย ยังจะมาเลือกกินเป็นเด็กๆ ไปได้ แต่เห็นหน้าขาวๆ ของเขาขึ้นสีเพราะไอร้อนจากข้าวต้มแล้ว ไม่รู้ทำไมถึงทำให้ผมยิ้มออกมา ก่อนจะตักหมูเด้งไปใส่ถ้วยของเขา

“ไม่กินหมูเหรอ”

ผมทำเพียงแค่ยิ้มตอบกลับไปเท่านั้น พี่ทองเลิกคิ้วนิดๆ

“มึงมันใจดีพร่ำเพรื่อ” พูดแค่นั้นก็ก้มหน้าก้มตากินไม่สนใจผมอีก

ข้าวต้มถ้วยละสามสิบแต่ทั้งเยอะทั้งอร่อย ผมกินถ้วยเดียวก็อิ่มมากแล้ว แต่พี่ทองไม่ใช่ครับ ตอนนี้เขากำลังเริ่มกินถ้วยที่สอง ผมเลยต้องลุกไปตักน้ำมาให้เขาอีกแก้วเพราะน้ำแก้วแรกเขากินหมดไปแล้ว นั่งมองเขากินก็เพลินดีครับ เห็นแล้วรู้สึกอยากกินไปด้วย แต่ตอนนี้กระเพาะของผมรับไม่ไหวแล้ว

“เดี๋ยวพาไปซื้อเสื้อผ้าหน่อย กูอยู่ชุดนี้ทั้งวันไม่ได้ เหนียวตัวด้วย อยากอาบน้ำ”

ผมพยักหน้าอย่างไม่คิดจะขัดอะไร ถ้าผมช่วยได้ก็อยากจะช่วยครับ เพราะพี่ทองเขาก็เคยช่วยเหลือผม ถึงส่วนมากจะพาแต่เรื่องวุ่นวายมาให้ก็ตามที

“อ้อ ซื้อสักสามสี่ชุดเลยนะ กูจะอยู่บ้านมึงสามสี่วัน”

คงเป็นแค่ประโยคบอกเล่าเท่านั้นล่ะครับ เพราะผมไม่ได้ยินว่ามีการขออนุญาตที่ตรงไหน แต่จะทำอะไรก็ตามใจเขาเถอะ ผมไม่อยากขัด ...ไม่อยากเห็นเขาหน้าบึ้งอารมณ์ไม่ดีอีก

“มึง...ไม่ยอมบ้างก็ได้นะ” พี่ทองพูดจริงจัง ตอนนี้เขากำลังท้าวคางมองหน้าผม

‘พี่เดือดร้อน ผมก็แค่ช่วย’ ผมพิมพ์ข้อความใส่มือถือแล้วโชว์ให้เขาดู

“กูถึงได้บอกไงว่ามึงใจดีพร่ำเพรื่อ”

‘แล้วไม่ดีเหรอครับ’

“ก็ดีสำหรับกู แต่ต่อไป ถ้ามึงยังเป็นอย่างนี้ มึงจะต้องลำบากเพราะคนอื่นเข้าสักวัน”

‘รอให้ถึงวันนั้นค่อยมาว่ากันอีกที ^^’

“ไอ้เด็กบ้านี่ กูบอกให้ยิ้มตาม ไม่ใช่ทำหน้าเฉย”

‘ผมยิ้มในใจ ผิดตรงไหน’

“เถียง เถียง เดี๋ยวพ่อปั๊ด ตบกะโหลก -*-”

ผมยกมือยอมแพ้ ก่อนจะฉีกยิ้มตามที่เขาต้องการ พี่ทองทำหน้าเซ็งๆ แล้วหันกลับไปกินข้าวต้มต่อ อืม...เวลาเขาไม่พูดนี่ก็ดูดีเหมือนกันนะ แต่พูดทีล่ะเหมือนผีเจาะปากมาพูด -_-

“ทำหน้าเหมือนด่ากูในใจ” อะไรมันจะเดาถูกปานนั้น -*-

ผมรีบโบกมือพร้อมกับส่ายหน้ายืนยันความบริสุทธิ์ใจทันที ยังไม่อยากมีปัญหากับเขาตอนนี้ครับ เพราะเกิดเขาบ้าขึ้นมา ผมคงได้สุกเพราะข้าวต้มร้อนๆ แน่

“แล้วไป -_- ไปจ่ายตังค์ได้ละ จะได้ไปทำธุระอย่างอื่นกันต่อ”

ครับท่านครับ ตามบัญชาทุกอย่างเลยครับ พ่อคอมมิวนิสท์ พ่อกุมอำนาจอธิปไตย -_-

.....................................To be Continue.....................................

ชงโค เด็กมีปม -[]- OMG
คุณ NOoTuNE และ คุณ sine_saki เจอกันอีกแล้วนะค้าาาา ^_^ หวังว่าจะยังคงสบายดีนะคะ เริ่มแรกอยากให้ไปกันเรื่อยๆ แบบไม่รีบร้อน แฮ่ๆ  :กอด1: แล้วพบกันใหม่ค่ะ  :bye2:

ออฟไลน์ ทั่วหล้า

  • ไม่ช่างพูดแต่ช่างพิมพ์
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1049
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
Re: -+-สุดโต่ง-+- : ตอนที่ 2 : 11/5/2014
«ตอบ #5 เมื่อ11-05-2014 19:59:10 »

ชงโค..น่ารัก

เหนือฟ้ายังมีจักรวาล

  • บุคคลทั่วไป
Re: -+-สุดโต่ง-+- : ตอนที่ 2 : 11/5/2014
«ตอบ #6 เมื่อ11-05-2014 20:15:46 »

55555ตลกกับเรื่องนี้อ่ะ  พี่ทองขวานผ่าซากมากบอกเลย

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: -+-สุดโต่ง-+- : ตอนที่ 2 : 11/5/2014
«ตอบ #7 เมื่อ11-05-2014 20:25:46 »

สนุกมากเลย

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
Re: -+-สุดโต่ง-+- : ตอนที่ 2 : 11/5/2014
«ตอบ #8 เมื่อ11-05-2014 20:58:54 »

สุดโต่งทั้งคู่

ชอบพี่ทองแหะ. ฮาดี แปลกและแหวกแนว5555

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: -+-สุดโต่ง-+- : ตอนที่ 2 : 11/5/2014
«ตอบ #9 เมื่อ11-05-2014 21:00:10 »

ชงโคน่ารัก แต่พี่ทองน่ารักกว่า และเดาว่าม๊าพี่ทองน่ารักที่สุด
มาตามอ่านด้วยคนค่ะ หวังว่าจะไม่ดราม่ามากนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: -+-สุดโต่ง-+- : ตอนที่ 2 : 11/5/2014
« ตอบ #9 เมื่อ: 11-05-2014 21:00:10 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
Re: -+-สุดโต่ง-+- : ตอนที่ 2 : 11/5/2014
«ตอบ #10 เมื่อ11-05-2014 21:22:09 »

พี่ทองมาแล้ววววววววววววววววววววว  :hao7:

คือเปิดมาตอนแรกแลดูดราม่ามากเลย ไอ้เราก็นึกว่าบิ้วทำนิสัยไม่ดีกับชงโคด้วยเหตุผลแบบเรื่องอื่นๆซะอีก
ที่ไหนได้บิ้วดันชอบชงโค  o22

แต่พอพี่ทองออกที  :m20: กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ความดราม่าหายมลายสูญ

รู้สึกเหมือนพี่ทองจะมีลูกกับเด็กๆในสต๊อกเยอะ สงสัยต้องจดชื่อไว้แล้วเนี่ยว่าอะไรเป็นอะไรเดี๋ยวงง ฮ่าฮ่าฮ่า  :laugh:

ออฟไลน์ phana_qbz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: -+-สุดโต่ง-+- : ตอนที่ 2 : 11/5/2014
«ตอบ #11 เมื่อ11-05-2014 21:39:34 »

ชอบพี่ทองจังเลยยย   :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ AfternoonTea

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
Re: -+-สุดโต่ง-+- : ตอนที่ 2 : 11/5/2014
«ตอบ #12 เมื่อ11-05-2014 21:53:30 »

ตามมาอีกเรื่องแล้ววววววววววววว
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

อยากให้ถึงตอนไปมหาลัยเร็วๆ อยากรู้จักพี่ทองอีกสักนิด


ออฟไลน์ Moose

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
Re: -+-สุดโต่ง-+- : ตอนที่ 2 : 11/5/2014
«ตอบ #13 เมื่อ11-05-2014 22:54:56 »

พี่ทองเป็นพี่น้องหรือญาติกับเท็นเท็นหรือเปล่า  นิสัยเหมือนกันมาก 5555555555555555555 

แอบสงสารบิ้วนิดนึงแฮะ

ชอบมากเลย รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: -+-สุดโต่ง-+- : ตอนที่ 2 : 11/5/2014
«ตอบ #14 เมื่อ12-05-2014 00:14:57 »

สนุกมากๆๆๆเลย  รอตอนต่อไปนะ

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
Re: -+-สุดโต่ง-+- : ตอนที่ 2 : 11/5/2014
«ตอบ #15 เมื่อ12-05-2014 00:21:39 »

สนุกอ่ะ น้องชงโคน่ารัก
ส่วนพี่ทองงงงงงงง
บางทีพี่รั่วไปนะ
 :hao7: :hao7:

ปล. เป็นญาติฝ่ายไหนกับสองเรื่องก่อนรึเปล่า

ออฟไลน์ บ๊ายบายโพ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
Re: -+-สุดโต่ง-+- : ตอนที่ 2 : 11/5/2014
«ตอบ #16 เมื่อ12-05-2014 01:18:34 »

โอยยย ชงโคน่ารักก น้องเป็นใบ้จริงๆหรือน้องแค่ไม่ยอมพูดอ่ะ อาจมีเรื่องกระทบจิตใจรึเปล่า
พี่ทองเป็นพระเอกที่โคตรขำเลย บ๊องมากเลย 5555555555 

ชอบๆๆๆๆ  :กอด1:

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
Re: -+-สุดโต่ง-+- : ตอนที่ 2 : 11/5/2014
«ตอบ #17 เมื่อ12-05-2014 05:33:53 »

อิพี่ทองงงงงง 5555555555555



ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
Re: -+-สุดโต่ง-+- : ตอนที่ 2 : 11/5/2014
«ตอบ #18 เมื่อ12-05-2014 05:45:51 »

พล๊อตล้ำมากเรื่องนี้
มีแต่คนสุดโต่งทั้งนั้นเลย

ออฟไลน์ PiiNaffe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: -+-สุดโต่ง-+- : ตอนที่ 2 : 11/5/2014
«ตอบ #19 เมื่อ12-05-2014 06:44:46 »

กรี๊ดดดดด! สนุกมากคะ
ชอบบบบบ
มีทองนี่บ้านต้องเปิดร้านขายทองแน่ๆเลย ลูกคนรวย 555555
แอบอยากรู้ว่าทำไมชงโคของเราถึงพูดไม่ได้
ชงโคแกล้งเป็นใบ้แน่เลย  :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: -+-สุดโต่ง-+- : ตอนที่ 2 : 11/5/2014
« ตอบ #19 เมื่อ: 12-05-2014 06:44:46 »





ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: -+-สุดโต่ง-+- : ตอนที่ 2 : 11/5/2014
«ตอบ #20 เมื่อ12-05-2014 08:00:28 »

มาตืดตามค่า :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ puppyluv

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2000/-20
Re: -+-สุดโต่ง-+- : ตอนที่ 2 : 11/5/2014
«ตอบ #21 เมื่อ12-05-2014 08:06:05 »

ชงโคพูดไม่ได้หรือไม่พูด
พี่ทองน่ารัก 555
อารมณ์เหวี่ยงไปมาเหมือนเด็ก
ม๊าพี่ทองต้องเฉิดแน่ๆ
ลูกถึงออกมาเป็นงี้
ชอบน้องวัว
บวกและเป็ดขอบคุณ
 :hao7:

ออฟไลน์ My_yunho

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1683
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
Re: -+-สุดโต่ง-+- : ตอนที่ 2 : 11/5/2014
«ตอบ #22 เมื่อ12-05-2014 10:44:16 »

รอจร้าาาาาา

ออฟไลน์ tempo_oil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
Re: -+-สุดโต่ง-+- : ตอนที่ 2 : 11/5/2014
«ตอบ #23 เมื่อ12-05-2014 11:10:56 »

มาต่อไวๆนะคะ ตลกดีๆๆๆ

เสน่ห์นางนวล

  • บุคคลทั่วไป
Re: -+-สุดโต่ง-+- : ตอนที่ 2 : 11/5/2014
«ตอบ #24 เมื่อ12-05-2014 14:07:31 »

ชงโคน่ารัก  :impress2:

ออฟไลน์ ชุน

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-1
Re: -+-สุดโต่ง-+- : ตอนที่ 2 : 11/5/2014
«ตอบ #25 เมื่อ12-05-2014 14:38:13 »

น่ารักมากกกกกกกกก
อ่านแล้วอารมณ์ดี ขำอ่ะ

ติดตามๆ  :mew1:

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
Re: -+-สุดโต่ง-+- : ตอนที่ 2 : 11/5/2014
«ตอบ #26 เมื่อ12-05-2014 15:24:21 »




สนุกดีค่ะ


บิ้วนี่ผู้หญิงหรือผู้ชายคะ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: -+-สุดโต่ง-+- : ตอนที่ 2 : 11/5/2014
«ตอบ #27 เมื่อ12-05-2014 16:02:58 »

อ่านแล้วโมเมนท์เวลาชงโคคุยกับพี่ทองนี่น่ารักดีจัง

สรุปแล้วบิ๊วคบหลายคนเพราะจะทำให้ชงโคหึงหรอกเรอะ รักชงโคด้วย แปลกๆดี

รอตอนต่อไปนะค้า ^^ น่าติดตามมั่ก


ปอลอ ดราม่าน้อยนะคะ เห็นใจคนอ่านบ้างงงงงง  :กอด1:

ปอลอลอ บิ๊วพยายามมากเลยนะ ไปเรียนภาษามือด้วย แอบสงสารเหมือนกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-05-2014 17:07:46 โดย กุ้งเชอรี่ »

ออฟไลน์ bvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
Re: -+-สุดโต่ง-+- : ตอนที่ 2 : 11/5/2014
«ตอบ #28 เมื่อ12-05-2014 16:24:32 »

เอ่อ..มาต่ออีกได้ไหมอ่ะ :mew2:

ออฟไลน์ hembetaro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
Re: -+-สุดโต่ง-+- : ตอนที่ 2 : 11/5/2014
«ตอบ #29 เมื่อ12-05-2014 16:38:20 »


ชงโคน่ารัก...แต่เดซี่น่ารักกว่า  รอติดตามฮะ มาเจอแบบฟลุคๆ  :o8:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด