♣ ผมไม่อยากอยู่คนเดียวบนดวงจันทร์ ♣
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♣ ผมไม่อยากอยู่คนเดียวบนดวงจันทร์ ♣  (อ่าน 428762 ครั้ง)

ออฟไลน์ Lucea

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-10-2013 13:41:02 โดย Lucea »

ออฟไลน์ Lucea

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-0


รหัสประจำตัว



หนังสือพิมพ์ด้วยกระดาษถนอมสายตา ขนาด A5 จำนวน 2 เล่ม แถมที่คั่นหนังสือ และสายคาดหนังสือ
ราคา 800 บาท (รวมค่าส่งแบบลงทะเบียนแล้ว) เปิดจอง ตั้งแต่วันนี้ – 10 มิถุนายน 2556
โดยหนังสือจะจัดส่งหลังจากปิดโอนเงินแล้วประมาณ 2-3 สัปดาห์ครับ และมีของแถมพิเศษสำหรับรอบจอง
ทางสำนักพิมพ์จะแถมแก้วเซรามิกพิมพ์ลายคะน้ากับทิมมี่ให้สะสมเพิ่มนะครับ



ภาพที่เห็นเป็นอาร์ตเวิร์กสำหรับส่งโรงงานนะครับ ไม่ใช่ภาพถ่ายแก้วจริง
ของจริงอาจมีความแตกต่างของสีและตัวแก้วบ้างเล็กน้อยครับ

แต่ละชุดจองจะแถมแก้ว 1 ใบนะครับ แต่ในภาพมีสองใบเพื่อให้เห็นภาพทั้งสองด้านของแก้วครับ





ในเล่มจะมี ตอนพิเศษ 5 ตอน เพิ่มจากที่ลงในเว็บครับ

ดินแดนแห่งพระจันทร์สีเลือด
หลังจากทุกอย่างลงตัว ทิมวางแผนมัดมือชกคะน้าให้มาฮันนีมูนไกลถึงตุรกี ประเทศที่ถูกขนานนามว่าเป็นดินแดนแห่งพระจันทร์สีเลือด ทั้งคู่ได้รับคำพยากรณ์อันแปลกประหลาดจากถ้วยกาแฟตามธรรมเนียมของชาวเติร์ก และยังได้พบกับเรื่องเล่าขานที่ชวนน่าหวาดหวั่น คะน้าจะทำอย่างไรเมื่อเรื่องเล่าลี้ลับนั้นกลายเป็นความจริงขึ้นมา

ในเศษซากแห่งความรักที่คงอยู่
คะน้าและทิมยังคงเที่ยวไปตามสถานที่แห่งประวัติศาสตร์มากมายของตุรกี รวมถึงที่อัฟโฟรดิซิอัส นครแห่งความรักที่เคยรุ่งเรื่องในอดีต และที่นี่เอง คำทำนายบนถ้วยกาแฟของคะน้าก็กลับเปลี่ยนเป็นความรู้สึกที่สั่นคลอน เมื่อทิมได้พบกับ นภ อีกครั้งโดยไม่ได้นัดหมาย เทพีอโพรไดต์จะอำนวยอวยชัยให้แก่ความรักของใครเป็นเรื่องที่ยากเกินจะคาดเดา

หึง
ความรู้สึกหวาดหวั่นทำให้คะน้าตัดสินใจทำบางสิ่งบางอย่างลงไปโดยปราศจากสติยั้งคิด คำอธิษฐานแห่งวิหารเซนต์โซเฟียจะเป็นจริงขึ้นมาหรือไม่ และอะไรคือคำทำนายบนถ้วยกาแฟของทิม พบกับฉากรักที่เผ็ดร้อนที่มีฉากหลังเป็นท้องฟ้าสีมิดไนต์บลูและพรมแดนที่กั้นกลางระหว่างโลกตะวันตกและโลกตะวันออก

Remain
หลังจากศึกษาต่อที่เยอรมันมาเนิ่นนาน ในที่สุดตุลก็กลับมาไทย เป็นครั้งแรกในเวลาห้าปีที่ตุล คะน้า และทิมได้เผชิญหน้ากันอีกครั้ง บาดแผลในใจระหว่างคนทั้งสามจะทิ้งความเจ็บปวดหรือความทรงจำที่งดงามเอาไว้ในกาลเวลา สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงหมุนวนรอบตัวคนทั้งสาม หากแต่บางสิ่งที่มีความหมายกลับยังคงอยู่เช่นเดิม

Ceremony of The Moon
ผ่านเส้นทางที่แสนยาวไกลและบททดสอบมากมาย ในที่สุดบางสิ่งบางอย่างที่รอคอยมาตลอดระยะเวลาสิบปีของคะน้าและทิมก็มาถึงอันสิ้นสุด พบกับบทสรุปสุดท้ายแห่งเรื่องราวทั้งหมดที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความทรงจำอันล้ำค้าของทุกๆ คน งานเฉลิมฉลองภายใต้แสงจันทร์ที่บอกเล่าผ่านนางฟ้าตัวน้อยๆ จะทำให้ทุกคนอดไม่ได้ที่จะยิ้มไปกับความรักของคะน้าและทิมครับ

รายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการสั่งจองหนังสือ คลิ๊กที่นี่ ครับ

ฝากหนังสือเล่มแรกในชีวิตของคนแต่งไว้ด้วยแล้วกันนะครับ >//<


สารบัญ

ตอนที่ 1.1 ตอนที่ 1.2
ตอนที่ 2
ตอนที่ 3
ตอนที่ 4
ตอนที่ 5
ตอนที่ 6
ตอนที่ 7
ตอนที่ 8
ตอนที่ 9
ตอนที่ 10
ตอนที่ 11.1 ตอนที่ 11.2
ตอนที่ 12
ตอนที่ 13.1 ตอนที่ 13.2
ตอนที่ 14
ตอนที่ 15
ตอนที่ 16
ตอนที่ 17.1 ตอนที่ 17.2
ตอนที่ 18
ตอนที่ 19
ตอนที่ 20
ตอนที่ 21
ตอนที่ 22  ตอนพิเศษ / Reversal of Chapter 22
ตอนที่ 23
ตอนที่ 24
ตอนที่ 25
ตอนที่ 26
ตอนที่ 27
ตอนที่ 28
ตอนพิเศษ : สยองขวัญวันวาเลนไทน์
ตอนที่ 29
ตอนที่ 30
ตอนที่ 31
ตอนที่ 32
ตอนที่ 33
ตอนที่ 34
ตอนที่ 35
ตอนที่ 36
ตอนที่ 37
ตอนที่ 38
ตอนที่ 39
ตอนจบ
ตอนพิเศษ : จุดเริ่มต้น


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-04-2013 23:34:19 โดย Lucea »

ออฟไลน์ lovely2min

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
น่าสนใจมาก แม่หมอถ้าจะแม่นจริง.  ติดตามจ้า

ออฟไลน์ NY_JK

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 639
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :mc4:  :L2: ท่าทางจะแม่นจริง จะมีคนมาชอบทีเดียวสองคนเลยเหรอ น่าปวดหัวแทนไม่รู้จะเลือกคนไหนดี

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
บวกให้แรงๆ ค่า น่าสนใจตั้งแต่ชื่อเรื่องเลย

Panny

  • บุคคลทั่วไป
คะน้า ชื่อน่ารักจังเลย

ออฟไลน์ threetanz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
เข้ามาติดตามค่ะ มาต่อไวไวนะคะ

ออฟไลน์ rubymoona

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-5
สนุกอ่ะ คือเราชอบเรื่องไพ่ทาโร่ แล้วก็ชอบชื่อนายเอกด้วย 'คะน้า' น่ารักน่ากินจังเลยยยยยยยยย
จะรอติดตามนะคะ o13

ออฟไลน์ Lucea

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-0
บทนำ




บรรยากาศในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ชักจะตึงเครียดขึ้นมา
เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นตามไรผมของชายหนุ่มวัย 28 ปีหมาดๆ ถ้าเขาไม่ได้สวมแว่นสายตาหนาหนักนั่นไว้
ดวงตาที่ดูกลมโตนั่นคงขยายออกจนแทบหลุดจากเบ้าตา เมื่อพบว่ากระดาษสี่เหลี่ยมบนโต๊ะที่เพิ่งพลิกขึ้นมานั้น
เป็นภาพโครงกระดูกในชุดเกราะสีดำถือธงที่มีรูปดอกไม้ขาวๆ แบบในงานศพ พร้อมเลขอาถรรพณ์หมายเลข 13
และตัวหนังสือใหญ่โตด้านล่างที่ทำเอาหัวใจของชายหนุ่มถึงกับเหี่ยวฟีบบบบ... ลงทันตา “DEATH”

ฉิบหายละ ไอ้คะน้า ไพ่ยิปซีมันมีเป็นสิบๆ ใบ ไฉนตัวข้าพเจ้าต้องซวยหยิบได้ไพ่ใบนี้ด้วยโว้ย

“แหงะ มันพาดขึ้นมาใบนี้จะไหวไหมเนี่ยคุณป้า”
หนุ่มวัยยี่สิบตอนปลายถึงกับโอดครวญกับแม่หมอที่ตอนนี้คิ้วก็กำลังขมวดยุ่ง และสีหน้าแสดงความวิตกไม่แพ้กัน

“อ้าว ไหงไม่ตอบล่ะคุณป้า ซวยเลยใช่ไหมเนี่ย ว่าแล้วๆๆๆๆๆ”
แม่หมอถอนหายใจหนักๆ แล้วเอื้อมมือไปพลิกไพ่ยิปซีอีกใบที่วางอยู่ด้านล่างแล้วจับหงายขึ้น
รอยยิ้มค่อยๆ ผุดขึ้นบนใบหน้าหญิงสาววัยสี่สิบทันที

“อย่าเพิ่งตกใจ ดูนี่ก่อน” ว่าแล้วก็ค่อยๆ วางไพ่อีกใบลงตรงหน้า
คะน้าจ้องมองไปในกระดาษที่เหลี่ยมผืนผ้านั้น พระอาทิตย์ดวงโตแล้วมีเด็กชายขี่ม้าขาวอยู่ด้านล่าง
กางแขนหน้ายิ้มแป้น แถมมีดอกทานตะวันชูไสว มันก็ดูโอเคนะ
แต่มันแปลว่าอะไรเล่า สมองบื้อๆ อย่างเขามันจะแปลออกไหมเนี่ย

“แล้วมันคืออะไรล่ะครับคุณป้า” เขามองอย่างขยาด ไอ้ไพ่ Death นี่มันหลอกหลอนชะมัดเหอะ

“รอเดี๋ยวสิ ขอเปิดไพ่ให้หมดสิบใบก่อน” ว่าแล้วก็พลิกไพ่ใบอื่นๆ ขึ้น ไล่เรียงไปเรื่อยๆ
ไพ่ยิปซีหน้าตาแปลกๆ ถูกหงายขึ้นใบแล้วใบเล่า คะน้าไม่รู้ความหมาย
แต่บางใบก็อกสั่นขวัญแขวนไม่น้อยอย่างเช่นภาพชายหนุ่มกองดาบปักอกสลบตายคาที่ ฟ้าผ่าตึกถล่มอะไรก็ไม่รู้

“ใบนี้อะไรน่ะ สยองชะมัดเลย” เขายังไม่เลิกครวญครางกับดวงชะตาบนไพ่กระดาษเหล่านั้น

เรื่องแบบนี้ ไม่เกิดกับตัวเองคงไม่รู้ คนแบบเขา ยอดชายนายคะน้า ชายหนุ่มผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเกิดมาพร้อมกับความซวย
จะเรื่องงาน เรื่องเงิน เรื่องความรัก ไม่ว่าเรื่องไหนๆ เขาก็ห่วยทุกเรื่อง
เรื่องงาน ยิ่งทำก็ดูเหมือนยิ่งตกต่ำ จากพนักงงานออฟฟิศดีๆ ก็โดนเด้งเพราะพิษน้องน้ำปลายปีที่แล้วซะงั้น
ส่วนเงินทองน่ะ ก็พอหาได้ แต่พ่อเจ้าประคุณก็ดันมีโรคประจำตัวคือเอ๋อ เบลอ มึน แล้วก็ทำหายเป็นประจำ

เรื่องความรักไม่ต้องพูดถึง ถึงหน้าตาพอไปวัดไปวาตอนบ่ายสามได้ แต่สายตาเจ้ากรรมก็ดันสั้นสุดโต่ง
ไม่พ้นต้องสวมแว่นหนาเตอะ จะว่าไปคะน้าก็แต่งตัวทันสมัยอยู่หรอก
แต่ทันสมัยเมื่อสักสิบปีที่แล้วได้นะ เอาเป็นว่าเรียกว่าเกาะกระแสแฟชั่นรุ่นคุณพ่อคุณแม่ก็แล้วกัน

ไม่นับกับกับคำว่า “โชค”

โชคเหรอ... เกิดมาชายหนุ่มไม่เคยได้รู้จักเอาเสียเลย เดินอยู่ดีๆ นกก็ขี้ใส่หัว
ไม่ก็โดนน้ำกระเด็นใส่ตอนรถขับผ่านประจำ ล่าสุดเจอเหรียญสิบหล่น
พอเอื้อมมือจะเก็บ กางเกงตัวเก่งที่ทั้งรักทั้งหวงก็ดันขาดดังแควกกก!!
นอกจากจะทำให้คนใส่ต้องขายหน้าแล้ว ยังต้องเสียค่าซ่อมกางเกงอีกห้าสิบ!!!
ก็เอาเป็นว่าซวยซ้ำซวยซากซวยมาตลอดชีวิตก็แล้วกัน คราวนี้จะอะไรอีกล่ะ
คะน้าครุ่นคิดพร้อมกำลังใจที่ห่อเหี่ยวไปกว่าครึ่ง
ชายหนุ่มเงยหน้ามองแม่หมอที่ “เจ๊เป็ด” แม่ค้าขายผักแผงข้างๆ ในตลาดแนะนำให้มาดู

“คะน้า เอ็งต้องไปเลย คุณแม่อ้อยเนี่ย แม่นมาก! เจ๊เตียงร้านทองหน้าตลาด
หรือนังลำไยที่ขายปลาทูก็บอกว่าเด็ดสะระตี่เลยเอ็งเอ๋ย
คราวก่อนบอกว่าแกจะมีดวงนะ ไงล่ะ ถูกหวยรวยอื้อเลยไอ้คะน้า”

ครับ ฟังไม่ผิดหรอก ก็บอกแล้วว่าไม่ได้เด่นดูดีแบบใครๆ เขาหรอก
ถ้าคิดว่ายอดชายนายคะน้าจะหล่อเหลาเอาการแบบเดินไปไหนใครก็มองแบบเหลียวหลังเนี่ย คงไม่มีเสียล่ะ
เมื่อชายหนุ่มก็มีหน้าตาบ้านๆ แบบหาได้ตามร้านอาหารตามสั่งทั่วไปเหมือนเราๆ ท่านๆ นั่นแหละ
อันที่จริงต้องบอกว่าตามตลาดสดทั่วไปเสียมากกว่าล่ะ ส่วนงานเนี่ยเหรอ
ก็อย่าคิดว่าจะดีเด่อะไร อย่างที่เกริ่นๆ ไป เขาเป็นพ่อค้าแผงไข่ในตลาดสดเนี่ยล่ะ
ใช่! ฟังไม่ผิดหรอก ขายไข่ไก่สดๆ ที่ซื้อไปทำอาหารทานกันเนี่ยล่ะ

ไม่ใช่แค่ขายไข่หรอก มีขายมะพร้าว กับผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวน่ะแหละ
จะว่าไปมันก็ไม่ได้แย่อะไรนักหนาหรอก เพราะบ้านเขาก็พอมีฐานะอยู่บ้าง
คุณพ่อของคะน้าเป็นเจ้าของตลาดสดแห่งนี้ ประกอบกับที่บ้านเป็นเจ้าของสวนมะพร้าว กับฟาร์มไก่ไข่
ด้วยความที่ทำอะไรก็ไม่ค่อยได้เรื่องได้ราวแบบพี่คนอื่นๆ
ลูกคนเล็กแบบคะน้าเลยโดนส่งมาเฝ้าตลาดไปกลายๆ ด้วยการขายไข่ไก่กับมะพร้าว
แล้วก็เฝ้าตลาดไปในตัวอยู่กลางตลาดเนี่ย

“อืม... มันดูแปลกๆ นะ” เสียงคุณป้าหมอดูทำเอาชายหนุ่มหลุดจากภวังค์ความคิด

“ยังไงครับ เพราะไอ้ไพ่โครงกระดูกนี่หรือเปล่าครับ” หมอดูวัยกลางคนส่ายหน้า

“ไพ่เราน่ะ เป็นไพ่ที่เกี่ยวกับความรักเยอะ ที่แปลกก็คือมันไม่มีไพ่ผู้หญิงโผล่ขึ้นมาสักใบ”
คะน้าทำหน้างงๆ ”ดันมีแต่ไพ่ผู้ชายโผล่ขึ้นมาเยอะจัง”

“เฮ้ย! ป้า ผมมาดูเรื่องงานนะป้า ถามว่ามันจะขยับขยายได้ไหม ไม่อยากมานั่งทำงานแบบนี้อีกแล้ว
คือมันไม่ไหวเลยน่ะ เครียดมากจริงๆ ไอ้เรื่องอื่นเนี่ย ผมปลงไปนานแล้วครับป้า”

“คืองี้ งานเราน่ะ ไม่มีปัญหาอะไรหรอก อีกหน่อยมันจะดีขึ้น ดีมากๆ เลยล่ะ ไม่ต้องห่วง
ไพ่บอกว่าเราโชคดีมากนะ ทุกๆ เรื่องเลย The Sun ที่เป็นตำแหน่งตัวเราเนี่ย มันเป็นไพ่ที่ดีที่สุดในสำรับเลยนะ”

“เอ้ย! จริงดิ แต่นี่... โครงกระดูกอะไรเนี่ย น่ากลัวจะตาย ผมกลัวผีนะป้า!!!”

“ผีที่ไหนล่ะ Death ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้น มันแปลว่าการสิ้นสุดของสิ่งหนึ่ง
และการเริ่มต้นของสิ่งใหม่ๆ ซึ่งอาจจะดีหรืออาจจะไม่ดีก็ได้
แต่ไพ่ประจำตัวเราน่ะดี นั่นก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร”

“ใช่เรอะ?” ชายหนุ่มรำพึงแบบไม่เชื่อหูตัวเอง “แล้วนี่...”
เขาชี้ไปที่ไพ่คนตายเพราะโดนดาบเสียบ กับไพ่ฟ้าฟาดหอคอยถล่ม

“นั่นมันไพ่อดีตไง ที่ผ่านมาดวงเราไม่ดีนักน่ะ แต่นับจากนี้จะดีเลยล่ะ
โดยเฉพาะเรื่องความรัก เรามีไพ่เกี่ยวกับความรักขึ้นมาเยอะ”

“ฮ่ะๆๆ มันถึงได้เป็นไพ่ Death นี่ไง” คะน้าหัวเราะแทรกขึ้นมาอย่างปลงๆ
คุณป้าหมอดูถอนหายใจด้วยความหน่าย พูดอะไรก็ไม่ฟังให้จบเอาซะที

“นั่นแปลว่าเราจะพบรักแบบกะทันหันต่างหาก และคราวนี้ ดูเหมือนจะสละโสดด้วยซ้ำ
รักมากเลยล่ะ ประเด็นคือทำไมมันไม่มีไพ่ผู้หญิงขึ้นมาให้เลยสักใบ มีแต่ไพ่ผู้ชาย”

“นั่นไง ก็บอกแล้วว่าอาภัพ คุณป้าก็ไม่เชื่อ ฮ่าๆๆๆ ดูสารรูปผมก่อนป้า
หล่อหลบในขนาดนี้ อย่าว่าแต่สาวๆ เลย หมามันยังเมินเลย”
เขาคุ้นเคยความจริงที่แสนเจ็บปวดนี้มานานแล้ว รักใคร ชอบใคร ก็มีแต่ผิดหวัง
เรียกว่าสาวคนไหนที่เขาแอบชอบ โดนมีเวรมีกรรม เพราะจะโดนล้อหมดคณะก็แล้วกัน
ไม่ใช่ไม่อยากหล่อ ไม่อยากมีความรักนะ แต่ทำไงได้ พยายามแล้ว แต่มันได้แค่นี้จริงๆ

“ใครจะมาสนใจพ้มมม...” ลากเสียงสูงอย่างปลงๆ

 “Chariot หรือไพ่นักรบ หมายถึงคนที่มีนิสัยเป็นคนจริง พูดจาขวานผ่าซาก
หมายถึงคนทำงานประมาณพวกตำรวจ ทหาร วิศวกร มีอาชีพเกี่ยวข้องกับการเดินทางอยู่เรื่อยๆ
ส่วนนี่ราชาถ้วย เป็นคนอ่อนไหว จิตใจดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น
สายงานน่าจะเกี่ยวกับอาชีพที่ต้องช่วยเหลือคนอื่นประเภทหมออะไรแบบนี้”

“แล้วยังไงล่ะครับ” เขาเกาหัวแกรกๆ อย่างไม่เข้าใจ

“ไม่ใช่ผู้หญิงด้วยนะ เป็นผู้ชาย ไพ่ทายว่าเร็วๆ นี้ ชายหนุ่มสองคนนี้จะก้าวเข้ามาในชีวิตพ่อหนุ่มให้ปวดหัว”
คุณป้าค่อยๆ เก็บไพ่ทั้งหมดคืนสู่สำรับพร้อมกับรอยยิ้มแปลกๆ ที่ทำเอาคะน้าคิดไม่ตก

“ทำไมล่ะครับ” คุณป้าหมอดูไม่ได้ตอบอะไร เธอหยิบไพ่ใบสุดท้ายที่เป็นตำแหน่งของบทสรุปขึ้นมา
วางตรงหน้าของชายหนุ่มพร้อมรอยยิ้มที่ชายหนุ่มไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่
คะน้าเอี้ยวตัวมองอย่างสงสัย ยกมือขึ้นขยี้หัวด้วยความงงจนผมสีดำสนิทนั้นยุ่งเหยิ

...ผู้ชาย ...ผู้หญิง


The Lover คู่รักอย่างนั้นหรือ?

.

.

.

.

 o22




ตอนที่ 1.1



พจมาน@บ้านทรายทองยังต้องตีไฟเลี้ยวให้กับชีวิตของกระทาชายนายคะน้าเถอะ
บ่ายแก่ๆ แทนที่จะได้ใส่เชิ้ตผูกไทเท่ๆ หล่อๆ หน้าคอมฯ หรือไม่ก็ได้นอนพักเอนหลังยามบ่าย
ไหงกลับต้องมานั่งเรียงไข่ แยกขนาด อยู่ในตลาดสด ...ครับ ตลาดสด แล้วเมษาฯ หน้าร้อนแบบนี้
ตับม้ามแทบจะปลิ้นออกมาเอาเสียให้ได้ ไม่คุ้น ไม่ชอบ และไม่ถูกโฉลกอย่างแรงจริงๆ
ว่าแล้วก็ตักไอติมมะพร้าวมานั่งย้อมใจสักถ้วยดีกว่า ก็ไม่อยากจะคุยหรอกนะ
แต่ไอติมมะพร้าวสูตรเจ้าคุณแม่เนี่ย แหม๊.... มันช่างหอมเย็นชื่นใจจริงจริ๊งงงงงง...

“ไอติอิหนึถ้วะ รัวเปนห้าถ้วะ” สำเนียงไทยผสมพม่าดังขึ้นใกล้ๆ ตัว
คะน้าหันไปมองเขม่นต้นเสียง แต่เจ้าของแก้มตอบหาได้สนใจไม่
หญิงสาวเอื้อมมือพิเศษไปกดเร่งพัดลมขึ้นอีกเบอร์ “คุผุชายให้โจะแวะ”

“จันทู จะกดพัดลมก็กดดีๆ อย่าเอาเท้ากด” คะน้าพูดอย่างอ่อนใจ
แม่สาวพม่าคนนี้ คุณพ่อของเค้าเป็นคนส่งมาให้ช่วยเหลือดูแลแผงไข่กับมะพร้าว
แต่วันทั้งวัน คะน้าไม่เห็นสาวร่างเล็กแกร็นแต่ดันมีหน้าท้องห้อยๆ นี่ จะทำอะไรนอกจากนั่งดูทีวีอะไรไปเรื่อยเปื่อย
แล้วก็ผัดแป้งจนหน้าขาววอก สาบานได้เลยว่าครั้งแรกที่เห็นจันทู คะน้าคิดว่านี่มันผีจูออนชัดๆ
ชายหนุ่มตักไอติมกินแบบกินไปสยองไป เมื่อจูออน เอ้ย! จันทูหันมาถลนตาเหลือกๆ ใส่
ก็เล่นเอาเจ้าตัวสะดุ้งขนแขนสแตนด์อัพ ...จู่ๆ มาจ้องอะไรแบบนี้ กูกลัวนะเว้ย!

“ชะ... ช่วยเรียงไข่หน่อยสิจันทู” สาวพม่าหน้าสก๊อยซ์หันมามองแบบขัดใจ
ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบไข่ที่เรียงบนแผงเก็บเข้าไปในตะกร้าใหม่
ตาจ้องมองจอทีวีเล็กๆ ที่ฉายละครน้ำเน่าอย่างอินสุดขีด คะน้าถึงกับฉุนกึก

“ให้เอาจากตะกร้าขึ้นมาเรียง ไม่ใช่เอาไข่เก็บ แล้วจันทูจะเอาไข่ที่ไหนขาย เอ่อ... ล่ะครับ”
ปลายเสียงอ่อนลงเมื่อเจอสายตาแฝงแววอาฆาตของจันทู

“เก๊าะและทะไม คุคะน้ามะพุให้มานชะๆ” สรุปมันเป็นผู้ช่วยหรือมันนายกูกันแน่ฟะ
ที่สำคัญตัวแกเองพูดชัดมากเลยจันทู คะน้าวางถ้วยไอติมลงพื้นแล้วลุกขึ้นมาเรียงไข่เอง

“เหอะ เดี๋ยวผมเรียงเอง”

จันทูกระถดตัวหนีพร้อมกับทีวีเครื่องเล็กในมือ หญิงสาวนั่งลง อีกครั้งที่เอามือพิเศษกดปรับพัดลมให้แรงขึ้น
คะน้าหันไปมองอย่างอ่อนใจ เมื่อเจอมองแบบนั้น หญิงสาวก็สลดลงหน่อย
ขยับตัวมาใกล้ๆ เหมือนจะพยายามช่วยเหลือ แต่ก็เงอะๆ เงิ่นๆ เหลือเกิน

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมทำเอง” จันทูถลนตา สะบัดหน้ารัวๆ แกจะถลนตาทำม๊ายยยย... มันน่ากลัวนะเฟ้ย

“จันทูแคะจะเบาะว่า คุคะน้ากิไอติเสะ ให้เอาปะทิ๊ดั้วะ โสะโปะ”

ป๊าดดดดดดดดด... ดู๊... ดูมันพูด! อีจันทู! อีผีจูออน!!! คะน้าแทบจะหยิบไข่ยกแผงเขวี้ยงใส่รัวๆ
แต่ก็คงจะมีแต่เขาคนเดียวแหละที่ไม่ถูกชะตากับจันทู เพราะใครๆ ในตลาดนี้ก็เอ็นดูจันทูเสียมากมาย
ไม่เว้นแต่เจ๊เป็ด แม่ค้าขายผักแผงข้างๆ ก็คงใช่แหละ เห็นคุยเรื่องละครน้ำเน่ากันถูกปากซะขนาดนั้น

“วันก่อนเอ็งไปดูหมอมาว่าไงบ้าง” เจ๊เป็ดตะโกนถามเสียงใส
ถ้าเขาตาไม่ฝาด คะน้าคิดว่าเห็นหูของจันทูกระดิกนิดๆ นะ

“ก็ดีนะ แต่อะไรก็ไม่รู้ งงๆ”

“เอ๊า! เอ็งงงอะไรวะไอ้คะน้า” เจ๊เป็ดทำหน้าสงสัย

“ก็มันงงๆ นะ ไปถามเรื่องงาน ไหงมาดูเรื่องความรักให้ก็ไม่รู้ มีบอกด้วยนะว่าจะมีคนเข้ามาสองคนอะไรเนี่ย แล้ว...”
ยังไม่ทันสิ้นคำเจ๊เป็ดก็ตบฝ่ามือลงตักดังฉาด จันทูเองก็หันควับกลับมาจ้องอย่างไม่ปิดบังอะไรต่อไปแล้ว

“เอาละเว้ย ไอ้เป็ดจะเสียหนุ่มให้กับสาวๆ ที่ไหนวะ
นังจันทู เอ็งไปบอกคุณๆ เลยนะเว้ย ได้มีซะไพร้สะใภ้ล่ะเว้ยคราวนี้”
เจ๊เป็ดหัวเราะเสียงดัง จันทูหันมารับคำมั่นเหมา แหม... เข้ากันดีเหลือเกินนะ ยัยผีตองเหลืองนี่

“หมายถึงเซอร์ไพรซ์หรือเปล่าครับเจ๊” คะน้าส่งเสียงเบาๆ อย่างอ่อนใจ
เจ๊เป็ดหัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบใจ ชายหนุ่มวัยยี่สิบแปดหมาดๆ ทำหน้าเครียด ไม่รู้จะพูดยังไง ภาพในวันนั้นยังจำได้ดี



“มันแปลว่าอะไรน่ะครับ The Lover?”

“ก็แปลตรงตัวนั่นแหละพ่อหนุ่ม”
แม่อ้อยที่ถูกขนานนามว่าเป็นเดี่ยวมือหนึ่งในการทำนายดวงจากคนทั้งตลาดตอบกลับยิ้มๆ

.

“ระวังไว้นะ เผลอๆ เราน่ะ จะได้แฟนเป็นผู้ชายเอา”




คะน้าสะบัดหัวทำหน้าสยดสยอง เขาเอามือลูบแขนขึ้นลงไปมา
นี่สินะ คำจำกัดความของคำว่า “ขนลุกเกรียว”

“โทษนะครับๆ ไอติมขายยังไง”

เสียงเรียกจากลูกค้าฉุดร่างชายหนุ่มให้หยุดคิดอะไรไร้สาระ คะน้ารีบลุกขึ้นพร้อมกับตอบกลับไป
“สิบ สิบห้า ยี่สิบครับ เอาเท่าไหร่ดี”

“เอามาห้าสิบเลยครับ ร้อนตับจะแล่บแล้ว” ควักแบงค์ร้อยวางลงบนถังไอศกรีม
แล้วเอามือดึงเสื้อเชิ้ตสีขาวตรงอกเข้าออกไวๆ ไล่ความร้อนจากกาย
คะน้าเงยหน้าขึ้นมองอย่างพิจารณา หน้าตา รูปร่าง ท่าทาง และการแต่งตัวของเขาดูผิดที่ผิดทางไปเสียหมด
คงไม่แปลกถ้าเห็นคนแบบนี้เดินอยู่ในห้างสรรพสินค้าหรูๆ แต่ที่นี่... ตลาดสด!

“มีแต่ถ้วยยี่สิบ ห้าสิบไม่รู้จะขายยังไงน่ะสิครับ” แม้ลูกค้าหนุ่มตรงหน้าจะสวมแว่นกันแดดเข้มจัด
แต่แว่บหนึ่งคะน้าคิดว่าเห็นแววตาของความไม่สบอารมณ์ฉายผ่านออกมาอย่างชัดเจน

“ไม่ใช่ไม่อยากขายนะครับ แต่ผมไม่รู้จะขายยังไง” เขาพูดเสียงอ่อน
แต่ไหนแต่ไร เขาไม่ถนัดรับมือกับสถานการณ์แบบนี้เท่าไหร่

...เลี่ยงได้ก็เลี่ยง ยอมได้ก็ยอม ให้มันจบๆ ไป

“ก็ตักๆ มาสิ ร้อนจะตายแล้ว อยากกินอะไรเย็นๆ” ถ้ามองไม่ผิด ลูกจ้าพม่าของเขามายืนสะบัดพัดส่งตายิ้มหวานให้เนี่ยนะ
โอ้ย ตูอยากจะบ้าตาย แทนที่จะช่วยกูขายนะ ไอ้หมอนั่น ก็หันไปส่งยิ้มให้ซะงั้น

“ยี่สิบบาทครับ ทอนแปดสิบ” ส่งถ้วยไอศกรีมให้พร้อมเงินทอน หันไปเจอจันทูก็สะดุ้ง
เอ่อ... แกกะพริบตาเข้า เดี๋ยวขี้ตาแกก็ร่วงหรอก
คะน้าหันกลับมาส่งถ้อยไอศกรีมพร้อมกับส่งยิ้มแหยๆ แทนคำขอโทษ

“ไม่มีมือ กินแป๊บ” สั้นๆ กุดๆ ง่ายๆ แบบนั้น แล้วลูกค้าหนุ่มตรงหน้าก็ถอดแว่นกันแดดออก
แล้วลงมือจ้วงไอศกรีมกะทิอย่างตายอดตายอยาก
ทันทีที่คำแรกเข้าปาก รอยยิ้มเล็กๆ ก็ผุดขึ้นบนใบหน้าที่ดูถมึงทึงนั้น

...ดูดีว่ะ คะน้าอดคิดแบบนั้นในใจไม่ได้จริงๆ

“เห้ย! นี่มันอร่อยมากๆ เหอะ!” เขาอุทานขึ้นมาแล้วจ้วงไอศกรีมต่ออย่างไม่ปรานีปราศรัย
พ่อค้าหนุ่มยิ้มแป้นอย่างภูมิใจ ไงล่ะ ไอติมสูตรคุณแม่ บอกแล้วว่าเด็ด!

ไม่ถึงนาที ไอศกรีมกะทิถ้วยใหม่ก็ถูกส่งจากมือคะน้าไปให้กับลูกค้าหนุ่มที่ตอนนี้ทานไปยิ้มไปจนตาแทบจะเป็นสระอิเอา
คะน้าจ้องมองท่าทีของเขาอย่างมีความสุข รู้สึกดีที่มีคนชื่นชอบไอศกรีมของคุณแม่

จะว่าไปแล้ว คนๆ นี้จัดเป็นคนที่หน้าตาดีมากๆ คนหนึ่งเลยล่ะ
ผิวขาวถึงแม้ว่าจะไม่ขาวจัดแบบเขา แต่ก็ละเอียดและดูสุขภาพดี รูปร่างสูงใหญ่มีกล้ามเนื้อดูน่ามอง
ผมตัดสั้นดูสะอาดสะอ้านรับกับใบหน้าที่ตอนนี้ระเรื่อเป็นสีแดงฝาดด้วยแดดที่ร้อนจัด
คิ้วเข้ม ตาโต และจมูกคมเป็นสันรับกับริมฝีปากอิ่ม หล่อขนาดนี้ไปเป็นดาราก็น่าจะพอถูไถ
ดูดีกว่าพระเอกละครที่จันทูดูอยู่ทุกวันอีกนะนั่น

ไม่ๆๆ เอาใหม่ เล่นบทตัวร้ายน่าจะเวิร์กกว่า เพราะดวงตาที่ดูเจ้าเล่ห์นิดๆ นั่น
กับนิสัยเอาแต่ใจนี่น่าจะเอาเรื่องพอสมควรอยู่เลยล่ะ แต่ก็หล่อเลยล่ะ
แม้แต่ในสายตาผู้ชายด้วยกันอย่างเขา ยังต้องยอมรับเลยว่าชายหนุ่มตรงหน้านี่หล่อไม่ธรรมดา

ตายแล้วเกิดใหม่จะได้เท่าไอ้หมอนี่ไหมนะ คะน้าขยับแว่นหนาเตอะของตัวเองพลางรำพึงในใจ
มองไปที่จันทูที่ส่งตาหวานเชื่อมให้หนุ่มหล่ออย่างไม่เก็บอาการ
ถึงไม่ได้ชอบแรงงานพม่าคนนี้เอาเสียเลย แต่เขาก็อดน้อยใจไม่ได้เหมือนกัน ...ทีกูนะ ไม่เคยแลเหอะ!

“ทำเองเหรอ” คำถามจากไอ้หล่อดึงสติของคะน้ากลับมาอีกครั้ง

“สูตรคุณแม่ครับ แต่ผมทำเอง” คิดดูชีวิต อนาถจิตกลับบ้านไปก็ปั่นมะพร้าวแช่
กว่าจะได้หลับได้นอนก็ดึกดื่นหลังขดหลังแข็ง

“ชอบแฮะ” สบตายิ้มซะแพรวพราว

.

.


1...


2...


3...


4...


5...



5 วินาที! กูชะงักไป 5 วินาที!!! ไอ้หมอนี่มันไม่ธรรมดาเลยวุ้ย!!!

“พรุ่งนี้จะมาไหม”

“ขายทุกวันครับ” คะน้าขยับตัวแบบเก้ๆ กังๆ เขาพยักหน้าแล้วหยิบแว่นตาขึ้นสวม ก่อนจะเดินออกไปแบบไม่ให้ใครตั้งตัว
กว่าที่เต่าคลานแบบคะน้าจะเอะใจว่ายังไม่ได้คืนเงินทอนลูกค้าหน้าใหม่ ร่างสูงก็ทะยานไปไกลเสียแล้ว

“เดี๋ยวคุณๆๆๆ ตังค์ทอน” คะน้าโบกมือหยอยๆ วิ่งกระหืดกระหอบตามมา
จู่ๆ ร่างสูงตรงหน้าก็หยุดแล้วหันกลับมา จนคนที่วิ่งตามมายั้งไม่ทัน ปะทะกับบ่ากว้างตรงหน้าอย่างไม่เจตนา
ซ้ำไปกว่านั้นแทนที่เขาจะเป็นอะไร กลับเป็นเจ้าตัวเองที่กระดอนไปเอาซะงั้น

“เอ๊า! เป็นอะไรไหม” สองมือคว้าเข้ามายึดไม่ให้เสียจังหวะ

“ขะ..ขอโทษครับ คะ..คือ... คือคุณลืมเงินทอน”
แฮ่ก... แฮ่ก... คะน้าหอบจนตัวโยน ขาก็ไม่ได้สั้นหรอกนะ
แต่ปั่นสปีดตามนี่ก็เอาเรื่องอยู่ คนอะไร เดินเร็วชะมัด

“เอ่อ...” คะน้ายืนเก้ๆ กังๆ ใบหน้ากระอักกระอ่วนเขาทำเอาร่างสูงตรงหน้าเริ่มรู้สึก
เขายกมือทั้งสองข้างชูขึ้นระดับศีรษะแบบคนยอมแพ้ ไม่มีคำพูดใดๆ จากปากมีแต่รอยยิ้มอารมณ์ดี

“หกสิบบาท ตังค์ทอน” คะน้ากำธนบัตรยี่สิบบาทในมือยื่นกลับให้เขา “เอ่อ... ครับ” อันหลังนี่ ไม่รู้จะพูดไปทำไม

“เก็บไว้ พรุ่งนี้จะมาใหม่” เดินจากไปอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรทั้งสิ้นแหละ

“เดี๋ยวๆๆๆ ผมไม่เคยเห็นหน้าคุณ ไม่คุ้นเลย ผมเก็บไว้ไม่ได้หรอก” พ่อค้าหนุ่มแย้ง

“มาคุมงานแถวนี้ อยู่อีกนาน” หยิบแว่นกันแดดขึ้นสวม โหย... แม่งเท่นะ ยอมรับเลย

“คุมงาน?”

“เป็นวิศวะ มาคุมงานก่อสร้างคอนโดเยื้องๆ ไปเนี่ย เก็ตยัง?” คะน้าพยักหน้ารัวๆ เริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้น
มิน่าล่ะ เขาไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ไอ้เท่ทำหน้าระอาเล็กๆ เออ... มึงเท่ จุดนี้กูเก็ตละ แต่...

“แต่ผมก็ไม่รู้จักคุณอยู่ดี รับเงินไว้ไม่ได้หรอก
ถ้าพรุ่งนี้คุณมาก็ค่อยจ่ายใหม่ก็ได้นี่ รับไว้เถอะ ผมก็วิ่งมาแล้วเนี่ย”

“ชื่ออะไร”

“ห๊ะ?” คะน้าฉงนในคำถาม

“ถามว่าชื่ออะไร”

“คะน้า ถามไปทำไม”

“คะน้า? ผักคะน้าน่ะนะ” พ่อค้าหนุ่มพยักหน้างงๆ

“Chinese Kale เนี่ยนะ” เออสิวะ! เซ้าซี้จริง แล้วล่อภาษาอังกฤษเลยวุ้ย! เจ้าของชื่อพยักหน้ากลับ
ก็พ่อตั้งให้แบบนี้นี่หว่า จู่ๆ ไอ้เท่ตรงหน้าก็ระเบิดเสียงหัวเราะซะดังลั่น เชรดดดดดดดดด... ขำอะไรกับชื่อกูล่ะเนี่ย!

“ทิม”

“ห๊ะ?” ทิ่ม! ก็แล้วจู่ๆ มันนึกจะทิ่มอะไรหว่า ไม่เข้าใจแฮะ

“ชื่อ... ทิม” เออ... ก็กูงง แล้วแม่งหัวเราะอะไรหน้าดำหน้าแดง ตาเป็นสระอิอีกแล้วนะมึง

“อ้อ” คะน้าพยักหน้า

“รู้จักกันแล้ว เก็บเงินไว้ จบนะ” แล้วก็ก้าวฉับๆ ออกไปแบบไม่เห็นฝุ่นเลย

“เดี๋ยวๆ เอาเงินคืนไป” สิ้นคำก็หันมาทำหน้าหงุดหงิดทันที

“อย่าเถียงได้ไม๊! มันจะอะไรนักหนา จะไปทำงาน จบนะ!”
น้ำเสียงกึ่งตะคอกนิดๆ และสายตาแบบไม่สบอารมณ์ของคนที่วิ่งไปทำเอาคะน้าชะงัก
สุดท้ายก็ยอมถอดใจ คะน้าพยักหน้าแสดงถึงการตกลง ทันใดนั้น ไอ้เท่ก็ส่งยิ้มกลับซะงั้น
คะน้าได้แต่ยืนงงกับความแปรปรวน เขามองชายหนุ่มที่วิ่งจากไป แน่นอนว่ามันก็ยังเท่เหมือนเดิม



“เค้าเป็นดาราหรือเปล่าวะ ไอ้คะน้า” นี่คือคำถามแรกจากปากเจ๊เป็ดเมื่อเขากลับมาที่แผง
โดยมีจันทูยืนสมทบ ไม่ใช่แค่ไม่ปิดบัง แต่ออกหน้าออกตาว่าอยากรู้มาก

“เป็นวิศวกรน่ะป้า มาคุมงานก่อสร้างคอนโดใหม่ตรงเนี๊ย”

“แล้ววิศวกร วิศวกรรมมันทำอะไรวะไอ้คะน้า กูก็ไม่เข้าใจ ไม่รู้เรื่อง” เจ๊เป็ดทำหน้างงๆ จันทูก็เช่นกัน

“ก็คุมพวกคนงานก่อสร้างอะไรพวกนี้มั๊ง ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเหมือนกัน”
คะน้าพูดไปก็งงไป หยิบเงินหกสิบใส่กระป๋องแล้วนั่งเรียงไข่ต่อ



เดี๋ยวนะ! เดี๋ยวๆๆๆๆๆ อะไรนะ วิศวะเหรอ!!!!!!!!!!!!

.

.

.

 :a5:



จบตอน 1.1 นะครับ คือขอแบ่งเป็น 1.1 กับ 1.2 นะ มันยาวๆ พิกล
เปิดตัวหนุ่มวิศวะไปแล้ว ชอบกันไหมครับเนี่ย  :z1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-01-2013 00:06:28 โดย Lucea »

ออฟไลน์ Lucea

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-0
แอบแวะมาพูดคุยทักทายนะครับ ฮิฮิ


@lovely2min ต้องแม่นจริงสิครับ ขอบคุณที่แวะมาอ่านและทักทายกันนะครับ ^ ^

@NY_JK ครับ จะพยายามเขียนให้เลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว ฮ่ะๆๆ ยังไงถ้าว่างๆ ตามลุ้นต่อด้วยนะครับ

@JJHJJH ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มอบให้นะครับ อยากจะบวกให้คืนแต่ยังทำไม่ได้ครับ แหะๆ
ชื่อเรื่องนี้ ฟังแล้วอย่าเพิ่งขำนะครับ 555555 คือผมดัดแปลงมาจากเพลง I Don’t Want To Live On The Moon
ของ Sesame Street ครับ น่าจะพอบอกคาแร็กเตอร์บางอย่างของคะน้าได้อยู่ครับ
เอาลิงค์มาแปะไว้ให้ เผื่อว่าคุณอยากฟังนะครับ ^ ^

http://www.youtube.com/watch?v=oeNO56xNlZo

@Panny แอบโฆษณษว่านิสัยก็น่ารักนะครับ แหะๆ
จริงๆ แล้วผมขโมยชื่อนี้มาจากเด็กผู้ชายคนนึงแถวๆ บ้านน่ะครับ
ตัวจริงก็น่ารักมากๆ เลยล่ะครับ อยู่ประมาณป.1 ได้ครับ ตากลมแบ๊วมากเลย ^ ^

@threetanz ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ ยังไงรบกวนฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ ^ ^

@rubymoona โอย ฟังแล้วใจชื้นเลยครับ ไม่รู้ว่าจะชอบกันไหมแฮะ แหะๆ
ไพ่ทาโร่คงจะมาโผล่มาอีกล่ะครับ แต่นานๆ สักหน่อยนะ ส่วนชื่อตัวเอกเรานี่ดูเหมือนว่าจะน่ารักจริงแฮะ
แต่มันจะน่ารักไปไหมหนอ เอาครับๆ เดี๋ยวมาลองดูกัน ฝากติดตามต่อด้วยนะครับ แหะๆ

.


เดี๋ยวตอนที่ 1 ในครึ่งหลังคงอีกไม่นานนักก็จะลงนะครับ เปิดตัวละครสำคัญอีกตัวที่ถูกเอ่ยถึงในไพ่ครับ หุหุ  o18

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
กรี๊ดดดดด ชอบค่ะชอบ
ขอต่อด่วนๆ ใครไม่ชอบเราชอบนะ
อยากรู้ อยากอ่านตอนต่อไปไวๆ เป็นกำลังใจให้นะคะ

+1 บวกเป็ดให้จ้าาา

ออฟไลน์ owo llยมuมข้u

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 459
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
ที่แม่หมอว่า ไว้“ระวังไว้นะ เผลอๆ เราน่ะ จะได้แฟนเป็นผู้ชายเอา”
ไม่ต้องระวังแล้ว ผู้ชาย ใช่แล้ว อ่ะโฮะๆ

เอ๋ แต่มาที สองคน เลย จะเลือกใครล่ะนี่ อ่ะ ร วมหมดจะดีมั้ยน้า^^

วิศวะ << คนแรกโผล่มาแล้ว

UnLucky

  • บุคคลทั่วไป
ว้าวๆ ท่าทางคะน้าจะเจอเนื้อคู่คนที่หนึ่งแล้วนะเนี่ย แล้วอีกคนล่ะ

ออฟไลน์ milkshake✰

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
นั่นไงคะน้าไม่ได้อยู่คนเดียวบนดวงจันทร์แน่ๆ
อยู่กันตั้ง 3 คนเลยล่ะ 5555555555555555

ออฟไลน์ rubymoona

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-5
แอร๊ยยยยยย มาต่อแล้ว ดีใจจัง พ่อคะน้าเราโดนเล่นซะละ อ่านแล้วรู้สึกว่าทิมหล่อจัง อร๊าย แถมเร็วมาก
"ชอบแฮะ"
นี่มันอะร้ายยยยยยยย เจองี้คงอึ้งไปเหมือนคะน้าแน่นอนเลย แถมๆ ขี้เนียนอ่ะทิมมมมมม เนียนถามชื่อ เนียนบอกชื่อ เนียนบอกอาชีพเรียบร้อยยยยยย
จะรอราชาถ้วยนะคะ จะได้รู้ว่าจะเชียร์ใครดีหนอ แต่ตอนนี้พี่ทิมนี่คะแนนสูงใช้ได้เลย!

Panny

  • บุคคลทั่วไป
ว๊ายๆๆๆ เจอพ่อหนุ่มคนแรกเป็นวิศวกรแล้ว อีกคนละค๊า รออยู่ๆ

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
@JJHJJH ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มอบให้นะครับ อยากจะบวกให้คืนแต่ยังทำไม่ได้ครับ แหะๆ
ชื่อเรื่องนี้ ฟังแล้วอย่าเพิ่งขำนะครับ 555555 คือผมดัดแปลงมาจากเพลง I Don’t Want To Live On The Moon
ของ Sesame Street ครับ น่าจะพอบอกคาแร็กเตอร์บางอย่างของคะน้าได้อยู่ครับ
เอาลิงค์มาแปะไว้ให้ เผื่อว่าคุณอยากฟังนะครับ ^ ^

http://www.youtube.com/watch?v=oeNO56xNlZo
ขอบคุณสำหรับเพลงค่ะ ชอบความหมายจังเลย ความจริงขอแค่ได้อยู่กับใครที่รักเราและเรารัก ที่ไหนก็น่าอยู่ทั้งนั้นค่ะ
ชอบคาแรกเตอร์ของวิศวกรหนุ่มคนนี้จัง เปิดตัวออกมาไม่กี่นาที ขโมยคำว่าเท่ๆๆๆ จากจิตใต้สำนึกของนายคะน้าไปเกือบหมดแล้วมั้ง
คงไม่เหลือคำว่าเท่ให้กับคุณหมอ(?!) เจ้าของไพ่ใบต่อไปแล้วละมั้ง สงสัยต้องได้คำอื่นแทนซะแล้ว ^^

บวกให้ค่า รออ่านจริงๆ (รู้สึกถูกชะตากับเรื่องนี้จัง 555 ขอบคุณที่แต่งค่า)

ออฟไลน์ lovely2min

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ฮั่นแน่ หนุ่มวิศวะมาแล้ว
อีกคนไปหลบอยู่ไหนหนอ มาด่วน
อ่านแล้วอยากกินไอติม

ออฟไลน์ ToffeE_PrincE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ cocoaharry

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
    • cocoaharry_Demmy Chan_Otaku Y Girl
หนุ่มคนแรกออกมาแล้วววว
คะน้าโดนป่วนอีกนานแน่ ฮาๆๆๆ
รออ่านต่อถัดไปค่า

Running

  • บุคคลทั่วไป
เปิดตัวมาแล้วคนที่หนึ่งยังเหลืออีกหนึ่ง รอลุ้นว่าจะเป็นใคร

คะน้าจะเลือกใครล่ะ ลุ้นๆครับ

รอติดตามครับผม ^^ :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Lucea

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-0
ตอนที่ 1.2

รถกระบะสมบุกสมบันสีมอซอเลี้ยวเข้าในคอนโดสูงตระหง่านย่านสุขุมวิท
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกดยกที่กั้นตรงทางเข้า ยกมือตะเบ๊ะพร้อมเอ่ยทักทายอย่างใกล้ชิด

“สวัสดีครับ คุณคะน้า ไม่ได้เห็นตั้งนานเลยนะครับ”

“พี่เม่น สวัสดีครับ สบายดีไหมครับพี่” เอื้อมมือไปหยิบถุงมะพร้าวอ่อนข้างเบาะคนขับแล้วยื่นส่งให้
“ผมรบกวนฝากไปแบ่งกับพี่ๆ คนอื่นๆ ด้วยพอจะได้ไหมครับพี่ โว๊ะ! หนักแฮะ!!” สองมือที่พยายามแบกไว้ทรุดลงด้วยน้ำหนัก
พี่เม่น พนักงานรักษาความปลอดภัยกุลีกุจอรีบมาช่วยยก พร้อมกล่าวขอบคุณเสียมากมาย

ถึงจะไม่หล่อไม่เหลาแบบใครๆ แต่หนุ่มแว่นหนา แต่งตัวมอซอ แถมหัวกระเซอะกระเซิงอย่างคะน้า
ก็เป็นขวัญใจของทุกๆ คนที่ได้รู้จักและใกล้ชิดเสมอ ...แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่เจ้าตัวไม่เคยรับรู้เลย

ทุกๆ วันศุกร์ คะน้าจะแวะมานอนที่บ้านนี้ เพื่อมาอยู่เป็นเพื่อนกับ “ผักกาด”
พี่สาวแท้ๆ ของเขาที่ทำงานสถานฑูตแล้วหยุดพักผ่อนในทุกสุดสัปดาห์ เดิมที่เดียวที่นี่
หมายถึงที่คอนโดนี่ เป็นที่พักเดิมสมัยที่เค้ายังทำงานออฟฟิศ ก่อนจะโดนเด้งเพราะพิษน้องน้ำ
แล้วชีวิตของชายหนุ่มก็ตกต่ำลงเรื่อยๆ จนกลายไปเป็นพ่อค้าในตลาดสดอย่างที่เห็น

เมื่อไอ้แก่สี่ล้อจอดสนิท หนุ่มแว่นก็งกๆ เงิ่นๆ กับสารพัดผลิตภัณฑ์จากฟาร์มไก่ไข่และสวนมะพร้าว
คนใส่เสื้อยืดเก่าๆ หอบหิ้วข้าวของจนเกินตัว สองมือพะรุงพะรังไปด้วยของฝากที่เจ้าตัวมักหอบหิ้วมาจนชิน
ใครจะคิดว่าคะน้าจะแบกของน้ำหนักอย่างกับกระสอบข้าวสารสบายๆ



(กดเบาๆ ฟังเพื่ออรรถรสในการอ่าน ^ ^)
http://www.youtube.com/watch?v=SAxLtuctFi8

ฉันยืนอยู่คนเดียว ตรงนี้ มานานแสนนาน
ไม่เคยจะเจอและพบใคร ที่เข้าใจฉัน ไม่มีสักคน


เสียงทุ้มที่กำลังร้องเพลงและเสียงกีตาร์โปร่งแผ่วๆ ทำให้ชายหนุ่มชะงักเท้า แม้ว่าของในมือจะหนักแค่ไหนก็ตาม

อยู่คนเดียวมันช่างอ้างว้าง และว่างเปล่า มันว่างเปล่าเปลี่ยวเหงาใจ
อยากจะมีใครไว้ คอยให้ไออุ่น ให้หนุนตัก ให้พักใจ

เพราะว่ะ! คะน้าจ้องมองชายหนุ่มสูงโปร่งกำลังร้องเพลงอยู่ในสวนด้านล่างของคอนโด
แสงแดดยามเย็นสะท้อนเหลี่ยมมุมให้เห็นโครงหน้าที่คมคายของเจ้าของเสียงทุ้ม
สายลมอ่อนๆ ที่พัดหยอกล้อกับเส้นผมสีเข้มดูน่ามอง คะน้าค่อยๆ ขยับตัวเข้าไปหาต้นเสียงโดยไม่รู้ตัว

ขอ... แค่ใครสักคน ที่รักจริง ขอ... แค่เพียงที่พิง พักใจ
ไม่รู้... ต้องทนต้องรอสักเท่าไหร่ จะได้พบใครที่หัวใจนั้นตามหา

ปลายนิ้วสะบัดพริ้วลงบนสายกีต้าร์ดูคล่องแคล่ว ...นักดนตรีเหรอนั่น? คะน้าตั้งคำถามใจในตัวเองเบาๆ
ไอ้หมอนี่สาวๆ ต้องติดเพียบแหงแก๋ เสียงโค-ตะ-ระเพราะ ร้องเพลงแล้วมีเสน่ห์โพด
แต่ช้าก่อน! กูไม่เชื่อหรอกว่าพระเจ้าจะประทานพรมาให้แมร่งเพียบพร้อมไปทุกอย่าง

ขอหน่อยเหอะ... ขอดูหน้ามันหน่อยเห้ออออ...

หนุ่มแว่นเจ้าปัญหาค่อยขยับเท้าเข้าไปใกล้ขึ้น ...และใกล้ขึ้น จนคนที่ร้องเพลงอยู่รู้สึกตัวแล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตา...
เชรดดดดดดดดดด... สวรรค์กลั่นแกล้งกูชัดๆ! มะ... แม่ง.... แม่ง... กูอยากฆ่าตัวตาย!!!!

ใครคนนั้นที่ฉันเฝ้าฝันจะเจอ
เธอคนนั้นจะได้พบกันวันไหน
ช่วยปลดปล่อยความเหงา ไปจากหัวใจ
หวังเพียงจะพบใคร ให้ใจได้ลืม ความเหงาเสียที...

“ครับ?” เจ้าของเสียงทุ้มตรงหน้าเลิกคิ้วขึ้นสูง

“ค...ครับ” คะน้ารับคำอย่างตะกุกตะกัก รู้สึกเสียมารยาทชอบกล คนที่ถือกีตาร์เอียงคอมองด้วยความสงสัย
เมื่อไม่มีเสียงใดๆ ตอบกลับจากชายหนุ่มที่หอบสมบัติราวกับขายสวนทิ้งข้างหน้า
เจ้าตัวก็หัวเราะขึ้นเบาๆ เอามือขยี้หัวตัวเองไปมาด้วยความขวยเขิน

“นั่นสินะ ฮ่ะๆๆๆ” นั่นสินะอะไรของมัน ไอ้นี่ท่าจะบ้า คะน้าได้แต่จ้องมองด้วยความงงงวย
โดยไม่ทันตั้งตัว ...ทันใดนั้นเอง โว๊ะ!!! นะ..นั่น!!!



ค..ใครสั่งใครสอนให้มึงยิ้มแบบน้านนนนนนนน...

“ขอโทษครับ ผมคงร้องเสียงดังเกินไป คืนนี้คุณคงจะฝันร้ายแน่ๆ แหะๆ”

นี่... นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะเฟ้ย ทั้งหล่อ ทั้งร้องเพลงเพราะ มึงยังมารยาทดีอีกเหรอฟะ?
คนอะไรวะเนี่ย คืนนี้... คืนนี้เลยนะ กูจะไปผูกคอตายใต้ต้นผักชี!

อากัปกิริยากระฟัดกระเฟียดและสีหน้าแปลกๆ ของคะน้า ทำเอาเจ้าของกีตาร์นึกสงสัย
คิ้วเข้มขมวดขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ ...พูดอะไร ถามอะไรก็ไม่มีคำตอบ

“ครับ?”

“...ค ...ครับ” คะน้ารับคำแบบไม่รู้จะพูดอะไร

“ครับ” อีกสักทีสิน่า ว่าแล้วรอยยิ้มน้อยๆ ก็กระจ่างขึ้นบนใบหน้า

“...ครับ” เอ๊ะ... ไอ้นี่! อย่าสิฟะ

“ครับ” แววตาขี้เล่นหันมาจ้องมองชายหนุ่มอีกคนอย่างล้อเลียน
รอยยิ้มนั้นเปิดเผยถึงความสุขอย่างเต็มที่ ...แกล้งกูซะงั้นนะมึง คะน้าถลึงตาใส่ เริ่มหงุดหงิด

“อย่าครับสิครับ!”

“คุณก็อย่าครับสิครับ”

“คุณ!” คะน้าหงุดงิดคันมือยิบๆ ขึ้นมาทันที

“คร้าบบบ” และแล้วคนแปลกหน้าก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

“เอ่อ...” สนุกใหญ่นะเอ็ง พ่อเขวี้ยงมะพร้าวใส่ซะดีไหม

“ทำไมแบกอะไรมาเยอะแยะเลยล่ะครับ ไม่หนักเหรอครับ”

“อ้อ... เอามาฝากพี่ๆ ในนี้น่ะครับ เค้าช่วยดูแลเรา ก็แบ่งๆ กันไป หนักไหม ก็โอเคนะ
ผมชินแล้วครับ ไม่อะไร” คะน้าจ้อไม่หยุด เงยหน้าไปมองก็เห็นรอยยิ้มนั้นอีกแล้ว ...กูเซ็ง!!!

“แปลว่าเฉยๆ”

“ครับ ชินแล้ว”

“งั้นฝากถือนี่ด้วยได้ไหมครับ” ชายแปลกหน้ายื่นกีต้าร์มาตรงหน้า
ถ้ามือว่างๆ สาบานได้ว่าคะน้าจะรับกีต้าร์มาแล้วเอาไปฟาดหัวเจ้าของล้างแค้นให้สาแก่ใจ

“เอ่อ...” ได้แต่คิดล่ะครับ เอาเข้าจริง ก็ตอบได้แค่นี้แหละ แหะๆ

“นั่นสินะ... มือไม่ว่างนี่” พูดจบก็เอื้อมมือมาดึงถุงมะพร้าวที่แบกอยู่ในมือไปถือซะเอง
“ให้ผมช่วยนะครับ คงหนักล่ะสิ หน้าคุณดูแดงไปหมดแล้ว”

แดง? คะน้ารู้สึกชาไปทั้งหน้า ...มันใช่ที่ไหนเล่า ไอ้เปรตนี่!

“ช่วยผมถือกีตาร์แล้วกันครับ จะได้หายกัน ไม่มีติดค้าง” เป็นอันตกลง
คะน้าเอื้อมมือไปหยิบกีต้าร์มาถือแม้ติดจะแบบงงๆ ก็ตาม คนๆ นี้เป็นคนอัธยาศัยดีอะไรแบบนี้นะ

“เดินนำไปเลยครับ” อีกแล้ว... ยิ้มนั่นอีกแล้ว คะน้าตัดสินใจไม่พูดอะไร
เขาเดินนำไปข้างหน้าพร้อมกีต้าร์ในมือ สักพักก็ได้ยินเสียงฝีเท้าก้าวตามมาด้านหลัง

“เอ่อ... ขอบคุณครับ”

ประตูลิฟต์เปิดออก คะน้าเดินก้าวนำออกมา มีนักดนตรีแปลกหน้าเดินตามมาด้านหลัง
หันไปมองก็เห็นสีหน้าแปลกๆ ดูเหรอหราๆ ของเขา คะน้าไม่รู้ว่ามันจะดีไหมกับเรื่องความปลอดภัย
แต่คิดว่าคนๆ นี้ไม่น่ามีนิสัยอะไรน่ากลัว ...จะน่ากลัวก็ตรงรอยยิ้มนั่นแหละ!

“แต่งไม่เหมือนกับชั้นที่คุณอยู่เหรอครับ” คะน้าถามพร้อมเดินนำไปข้างหน้า

“อ้อ... เปล่าครับ เหมือนเด๊ะ” เขาตอบกลับพร้อมหัวเราะน้อยๆ

“ถึงแล้วครับ ขอบคุณที่ช่วยผมนะครับ นี่ครับ กีต้าร์คุณ”
ส่งกีต้าร์คืนให้ เขาเอื้อมมือมารับกลับไป พร้อมเอ่ยถาม

“จริงสิ ผมไม่เคยเห็นคุณเลยครับ พักที่นี่มานานแล้วเหรอ”

“นานแล้วครับ แต่จะมาเฉพาะวันเย็นศุกร์น่ะครับ” เขาพยักหน้าเข้าใจ

“แปลกดีนะครับ ผมไม่เคยเห็นคุณเลย”

“นั่นสิครับ ผมก็ไม่เคยเห็นคุณเลยเหมือนกัน” คะน้าหยิบคีย์การ์ดขึ้นรูดประตู ก่อนจะสะดุดหูกับคำพูดต่อมา
“...ทั้งๆ ที่ใกล้กันแค่นี้เอง” คะน้ายืนนิ่ง ชายหนุ่มแปลกหน้าส่งยิ้มให้ “ผมขอตัวก่อนล่ะครับ”

“ด...เดี๋ยว... เดี๋ยวครับ” คะน้าชะงักเก้อเขิน “เอามะพร้าวไปทานสักลูกสองลูกสิครับ”

“ไว้วันหลังก็ได้ครับ เดี๋ยวแวะมาปล้น อยู่แค่นี้เอง” เขายิ้มให้ คะน้าหัวเราะ
อดคิดในใจไม่ได้ว่าคนๆ นี้ดูแปลกๆ ตัวเขาเองก็อธิบายไม่ถูก แต่รู้สึกถูกอัธยาศัยเหลือเกิน

“เดี๋ยวสิครับๆ ว่าแต่คุณอยู่ไหนน่ะ”

“ผมเหรอ?” เจ้าของกีต้าร์หยิบคีย์การ์ดขึ้นมา แล้วเดินไปรูดประตูห้องที่อยู่ถัดไป
แล้วหันกลับมายิ้ม ...เป็นรอยยิ้มที่ทำให้คะน้ารู้สึกชาอย่างบอกไม่ถูก



“อยู่แค่นี้น่ะครับ ...ใกล้ๆ กับคุณ”

ประตูห้องเปิดออกแล้วชายแปลกหน้าที่อยู่ห้องข้างๆ ก็ผลุบตัวหายไป คะน้ายังคงยืนอึ้งๆ อยู่กับที่
แค่นี้... ข้างๆ ห้องเราเองเหรอ? ทำไมไม่เคยเห็นหน้าเลย? กำลังคิดอยู่เพลินๆ เจ้าตัวปริศนาก็โผล่หัวออกมาอีกครั้ง

“จริงสิครับ” พร้อมกับเสียงหัวเราะร่าและแววตาขี้เล่น แล้วก็ผลุบหายไปใหม่ประหนึ่งนินจา



“คืนนี้ ฝันร้ายนะครับ”




1...


2...


3...


4...


5...


5 วินาที! อึ้งไป 5 วินาที!!! อีกแล้ว!!! วันนี้มันอะไรนักหนาเนี่ย!
สะบัดหัวแล้วเดินเข้าไปในห้องตัวเองแบบงงๆ

ทันทีที่บิดประตูเข้าห้อง ร่างของชายหนุ่มก็เซด้วยแรงโถมปะทะ แว่นตากระเด็นกระดอนไปจนมองไม่เห็น

“โว๊ะ! โว๊ะ! เฮ้ย!!! อะไรเนี่ย!!!!” เสียงห้าวผิดกับลักษณะภายนอกจนน่าขำ

“ต่ายน้อยของพี่” เสียงฟอดดังขึ้นซ้ำๆ ที่ข้างแก้มของชายหนุ่ม

“เจ้!!! บอกกี่ครั้งกี่หนแล้วว่าอย่าเรียกว่ากระต่าย ใครได้ยินอายเค้าแย่ ผมยี่สิบแปดแล้วนะ เจ้ก็สามสิบแล้ว ทำ...”

โผล๊ะ!!! สิ้นเสียงคะน้าก็ยกมือขึ้นลูบหัวป้อยๆ

“ต่ายน้อย ใครสั่งใครสอนให้พูดเรื่องอายุกับผู้หญิง” ป๊าบบบบ!!  เสียงกระโหลกร้าวใช่ไหมนั่น
ใครบอกว่าโลกจะแตกปี 2012 ทายผิดแล้ว มันหัวกบาลผมนี่แหละที่จะแตกเพราะฝีมือผักกาดยักษ์นี่

“แว่นผมกระเด็นไปไหนเนี่ยเจ้ หาไม่เจอ” ควานหาทั่วพื้นแต่ก็ไม่เห็นร่องรอย

“นะๆๆๆ ไปทำเลสิคกัน นะๆ อุซากิซัง”

อย่าเพิ่งตกใจคิดว่าผมเป็นพวกพิสดาร มีชื่อแปลกประหลาดเยอะแยะนะครับ
ย้ำอีกครั้งว่าผมชื่อ “คะน้า” ชื่อจริงๆ ว่า “มัยมนัส” ครับ ส่วนคนที่นั่งคร่อมผมอยู่เนี่ยคือพี่สาวแท้ๆ ของผมเอง
ชื่อว่า “ผักกาด” ชื่อจริงก็คือ “มิณฑิตา” กระต่ายที่พี่สาวผมเรียกเนี่ย มาจากฟันกระต่ายของตอนเด็กๆ ของผมเองครับ
พอโตขึ้นก็จัดฟัน ฟันกระต่ายก็หายไปละ ส่วนอุซากิเนี่ย ก็คือคำว่ากระต่ายในภาษาญี่ปุ่นน่ะครับ
ทำไงได้ ก็พี่สาวผมเรียนจบโทด้านภาษาจากที่ญี่ปุ่น แถมยังทำงานสถานฑูตญี่ปุ่นเข้าไปอีก
วันดีคืนดีก็ไทยคำ ญี่ปุ่นคำแบบนี้แหละ ผมแปลออกซะที่ไหน

แล้วที่ผักกาดชวนผมเหย็งๆ ให้ไปทำเลสิคหรือการผ่าตัดรักษาสายตาสั้นแบบถาวร
ก็เพราะครอบครัวเราเหมือนโดนคำสาปแปลกๆ อย่างหนึ่งครับ คือสายตาสั้นมากๆ โดยกรรมพันธุ์
ทั้งผม รวมถึงผักกาดพี่สาว ต่างก็ต้องสวมแว่นหนาเตอะหนักๆ นี่ตั้งแต่เด็กๆ แล้ว

“ชั้นจะสามสิบแล้วนะแก เดี๋ยวก็ขายไม่ออกกันพอดี” นี่ล่ะมั๊งครับ เหตุผลที่แท้จริง

“แล้วมันมีโปรโมชั่นไง ทำสองคนราคาครึ่งนึงเลยนะต่ายน้อย”
เอ่อ... ขอถอนคำพูดเมื่อสักครู่ครับ! ผมมั่นใจว่านี่คือเหตุผลที่แท้จริงครับ!!!

“แพง! ใส่แว่นก็ได้” พลิกตัวแล้วดันผักกาดขึ้น นั่งทับมาได้ แบนกันพอดี แต่... กร็อบ!!!
เอ๊ะ! มันเสียงอะไรนะ รู้สึกสังหรณ์ใจพิกล ในความเลือนลาง ไม่รู้ว่าผมตาฝาดไปหรือเปล่า
ผมเห็นเจ้กำลังยิ้มน้ำตาไหลพรากๆ ฉิบหายละ! แว่นตรู!!!! “ลุกๆๆๆ ลุกเลย แว่นๆๆ”

ไหนกันล่ะที่ว่าแม่นนักแม่นหนา ไหนบอกว่าผมดวงดีแล้วไง
ดูสิ แว่นสายตาโย้ไปข้างแล้วนั่น แถมโดนบังคับไปทำเลสิคอีกนะ เอาเงินเก็บมาใช้อีกทั้งปี

“จะฟูมฟายอะไรนักหนา ทำเป็นยามาดะ ทาโร่กลับชาติมาเกิดใหม่ไปได้”

“รู้จักแต่ทาโร่ปลาเส้น อย่างอื่นไม่รู้จัก” ผลั๊วะ!!! ทำไมมันดังขึ้นบนหัวตูอีกแล้วเนี่ย

“พี่จองคิวไว้แล้ว ไว้ไปคยกับหมอกัน”

“แต่ผมไม่มีเงิน”

“พี่ให้กู้ ดอกร้อยละ 20 กันเอง!”

“งั้นมีละ เดี๋ยวเอาเงินเก็บมาใช้ก็ได้”

“ก็เท่านั้น” ว่าแล้วพี่ผักกาดก็เดินไปเอนคัวดูรายกรทีวีภาษาญี่ปุ่นที่โซฟาอย่างสบายอารมณ์
“ว่าแต่ขนมะพร้าวขึ้นมาทำไม ไม่แจกพี่ๆ ข้างล่างเค้าให้หมดล่ะ”


เออ! นั่นสิ! กูขนขึ้นมาทำไมเนี่ย!

ผักกาดส่ายหน้าอย่างเอ็นดู จะกี่ปี น้องชายเธอคนนี้ก็ไม่เคยเปลี่ยน เอ๋อๆ เบลอๆ สมาธิสั้นเป็นประจำ

“จริงสิเจ้ เจ้รู้จักคนที่อยู่ข้างห้องป่ะ”

“คนไหนล่ะ”

“ที่ชอบนั่งเล่นกีต้าร์ที่สวนด้านล่างน่ะ”

“อ้อๆๆ รู้จักสิ คนที่นี่รู้จักเค้าหมดแหละ คงมีแต่แกล่ะที่ไม่รู้จัก” เอ๊า... ไหงว่าน้องตัวเองแบบนี้

“เค้าเป็นนักร้องออกแผ่นใช่ไหม”

“ที่ไหนล่ะ เห็นแบบนั้น ตุลมันเป็นหมอนะ”

“ห๊ะ เป็นหมอเนี่ยนะ”

“เออ หมอคนเนี่ยล่ะ แกคิดว่ามันเป็นหมอหมา หมอนวดหรือไง”

คะน้าสะบัดตัวแบบมึนๆ คนๆ นั้น ดูเหมือนว่าจะชื่อ “ตุล”
ต่างกับภาพลักษณ์ของคนเป็นหมอในความรู้สึกของเขาโดยสิ้นเชิง
ท่าทางที่ดูขี้เล่น แล้วก็พรสวรรค์ทางดนตรีนั่นก็จัดว่าห่างไกลแล้ว
ไหนจะรูปร่างหน้าตาที่ดูยังไงก็น่าจะเหมาะกับการทำงานวงการบันเทิงเสียมากกว่า



...พระเอก

จริงสิ หน้าตาแบบนี้เหมาะจะเป็นพระเอกละครน้ำเน่าที่จันทูดูตอนกลางวันสุดๆ
แล้วจะให้ดีก็ให้ไอ้เท่ที่ชื่อ ทิม เป็นตัวร้าย แบบนี้แหละเหมาะดีแท้ ขาดก็แต่นางเอก หาได้อีกคน
“มัยมนัสโปรดักชั่น” ก็ผลิตละครน้ำเน่าเรตติ้งถล่มทลายได้แน่ๆ แล้วตูจะไปหานางเอกที่ไหนดีล่ะนั่น

“ต่ายซัง...”

“หึ้ม เจ้ ว่าไง” ผักกาดทำหน้าพิกล

“เปล่า เห็นแกทำหน้าตาแบบตัวร้ายอะไรสักอย่าง วางแผนทำอะไรพิเรนทร์ๆ อยู่ไหมเนี่ย”

“เปล๊า... ไม่มี๊” ผักกาดทำสีหน้าอ่อนใจ

“แกอย่าให้ชั้นจับได้นะ แกได้ตายหมกถังไอติมแน่ๆ”

“เจ้ก็พูดไป” คะน้าหัวเราะแล้วโผเข้าไปกอดพี่สาวตัวเอง

“ต่อให้แกไปให้หมอข้างห้องรักษา ตุลมันก็รักษาแกไม่ได้หรอก”

“หมอ?!?!” จู่ๆ คะน้าก็รู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก วิศวกร ...แล้วก็

...หมอ

“อะไรอีกล่ะเนี่ย” คะน้ายอมรับว่าชักจะรู้สึกขนลุกแปลกๆ ขึ้นมากับคำทำนายของไพ่ทาโร่เจ๊อ้อย
อย่างบอกไม่ถูกแล้วสิ มันบังเอิญมากไป หรือว่า.... เอาเถอะ ไม่อยากจะคิดให้ปวดหัว

“หนุนตักหน่อยดิ” ไม่พูดเปล่า คะน้าล้มตัวลงนอนบนตักพี่สาวทันที ...คิดมากก็เยี่ยวเหลืองเนอะ

“แก่ป่านนี้แล้ว ทำอะไรเป็นเด็กๆ”

“แกป่านนี้ นี่เจ้ใช่ไหม”

ผลั๊วะ!!!! ฉับพลันทันใด ไม่ต้องเสียเวลารอ
“แกคงได้รับคำตอบที่น่าพอใจแล้วใช่ไหม”

“พอใจมากคร้าบบบบ...” คะน้าเอามือกุมหัวตัวเองแล้วทำท่าสำออย

“ต่ายเอ้ย ขี้อ้อนไม่เลิกเลยจริงๆ นะเรา” ผักกาดเอามือขยำหัวคะน้าด้วยความเอ็นดู

“คิดถึงแม่เนอะเจ้” ยังไงครอบครัวก็สำคัญเสมอสำหรับคะน้า ทุกวันนี้ ไม่ใช่เพียงแต่คิดถึงผักกาด
หากแต่เขาก็อยากจะช่วยดูแลพี่สาวคนเดียวของเขาด้วย เพราะลึกๆ แล้ว
คะน้ารู้ดีว่าพี่สาวคนนี้ก็คิดถึงเขาเช่นกัน ...ที่นี่ ก็มีกันแค่สองคนนี่เนอะ

“ไว้ว่างๆ เรากลับไปบ้านโน้นกัน”

“อืม”

คะน้ารับคำแล้วนอนดูรายการทีวีที่ไม่เข้าใจสักนิดบนตักพี่สาวด้วยความสุข
ดวงตาจับจ้องไปที่ท้องฟ้าที่เริ่มมืดลง พระจันทร์ดวงกลมโตทอแสงสว่างนวลตา
ลึกๆ แล้วคะน้ารู้ดีว่าที่ผักกาดเรียกเขาว่า “กระต่าย” นั้น ไม่ใช่เพราะว่าฟันที่เหมือนกระต่ายตอนเด็กๆ เท่านั้น
แต่เพราะติดเรียกตามแม่ที่แซวเขาจากความฝันแบบเด็กๆ นั่นต่างหาก




“...อยากไปดวงจันทร์”
“คะน้าจะไปยังไงล่ะคะ?” คุณแม่ถามลูกชายตัวเองด้วยความเอ็นดู
“ขอป๊าไป”
“คะน้าจะไปทำไมคะลูก?”
“อยากเห็นป๊า เห็นแม่ เห็นพี่ผักกาดจากดวงจันทร์”
“แบบนี้ คะน้าก็ต้องอยู่คนเดียวน่ะสิ”
“ไม่... ไม่อยากอยู่คนเดียว”
“มีแต่กระต่ายที่อยู่บนดวงจันทร์นะ”
“คะน้าจะแปลงเป็นกระต่าย” เด็กน้อยพูดอย่างมุ่งมั่น






ยี่สิบปีผ่านไป เด็กชายตัวน้อยยังคงจ้องมองไปที่พระจันทร์ดวงเดิมด้วยความฝันแบบเดิมๆ
ไม่กล้าเล่าให้ใครฟังหรอก แม้แต่เจ้ บอกไปก็โดนล้อตายดิ และถึงวันนึงต่อให้ทำงานที่นาซ่าได้ไปเหยียบดวงจันทร์
เขาก็ไม่คิดจะอยู่อะไรที่นั่นหรอก รู้ดีว่าต้องคิดถึงใครต่อใครหลายๆ อีกหลายๆ คนที่อยู่ที่นี่
คิดถึงตลาด ที่บ้าน ที่คอนโด และก็คงคิดถึงอะไรต่อมิอะไรอีกตั้งมากมาย

ด้วยสาเหตุที่บอกไม่ได้ จู่ๆ ชายหนุ่มก็นึกถึงคำถามของลูกค้าที่ช่างเอาแต่ใจเมื่อตอนบ่ายขึ้นมา



“...พรุ่งนี้จะมาไหม”

สายตาเจ้าเล่ห์ที่ดูฉายแววเหมือนเด็กน้อยที่เอาแต่ใจนั่น... ฮ่ะๆๆ ดูน่าสนใจดีนะ
ไม่รู้แฮะ อืม... ไม่รู้สิ พรุ่งนี้จะมาไหมนะ แล้วถ้าไม่ไปขายจะเป็นยังไงนะ

คะน้าพลิกตัวขึ้นมา อมยิ้ม... ดวงตาจับจ้องไปที่ท้องฟ้าที่มีดวงจันทร์สว่างสดใส
บทเพลงที่ติดหูเมื่อยามเย็นถูกฮัมขึ้นโดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ตัว

ใครคนนั้นที่ฉันเฝ้าฝันจะเจอ
เธอคนนั้นจะได้พบกันวันไหน
ช่วยปลดปล่อยความเหงา ไปจากหัวใจ
หวังเพียงจะพบใคร ให้ใจได้ลืม ความเหงาเสียที...


“น้องชั้นเพี้ยนไปแล้วเหรอ จู่ๆ ก็ฮัมเพลงขึ้นมา มองพระจันทร์มากไปเหรอไงต่าย”
คะน้าหันกลับมาหัวเราะ ไม่ได้สนใจกับคำกระเซ้าของคนเป็นพี่สาวนัก

“เจ้ๆ”

“อะไร”

“เจ้เคยคิดไหม อาจไม่ได้มีกระต่ายตัวเดียวอยู่บนดวงจันทร์ก็ได้นะ”
คะน้าจ้องมองไปที่สีเหลืองนวลบนท้องฟ้า แล้วค่อยๆ เอื้อมมือขึ้นสูง
“คือหมายถึงมันก็น่าจะมีคนอื่นที่อยากไปพระจันทร์เหมือนกันรึป่าว”

“จะมีคนไหนเค้าเพี้ยนแบบแกอีกเหรอ” ผักกาดกึ่งถามกึ่งบ่นแบบระอาใจ

“คนที่บ้าๆ แบบเรา อาจจะนะ... น่าจะ...” คะน้ายิ้ม ...ยิ้มอย่างไม่มีเหตุผล



“...คิดแบบนั้นจริงๆ นะ”



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

จบตอนที่ 1 โดยสมบูรณ์แล้วครับ ชอบกันไหมเอ่ย  :o8:
ขอบคุณเพลง ใครคนนั้น ของ Jetseter ครับ (ขโมยมาใช้ ต้องขอบคุณเสียหน่อย แหะๆ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-05-2012 22:57:21 โดย Lucea »

ออฟไลน์ Lucea

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-0
คุยกันหน่อยนะครับ แหะๆ

ตัวละครหลักออกมาครบแล้วล่ะครับ ไม่รู้ว่าถึงตอนนี้ เพื่อนๆ จะชอบใครมากกว่ากันแฮะ
สำหรับคนเขียนขอสารภาพตรงๆ ว่าไม่มีการวางโครงเรื่องอะไรไว้มากนะครับ
เป็นความตั้งใจแต่แรกว่าจะฟังจากความคิดเห็นของเพื่อนทุกคนเอาน่ะครับ
เชียร์ใคร ชอบใคร อยากให้ใครเป็นพระเอกก็ลองว่ากันมานะครับ หรืออยากรีเควสอะไรยังไง
ก็ว่ากันครับ ไม่รับปากนะครับ แต่ถ้าพอเขียนได้เดี๋ยวจะเซอร์วิสให้นะครับ แหะๆ
ชอบไม่ชอบแบบไหน ก็ลองคอมเมนต์บอกกันนะครับ อ่านแล้วเผื่อจะได้ไอเดียไปเขียนตอนต่อไปนะ หุหุ
เอาเป็นว่า มาช่วยกันเขียนเรื่องนี้ให้จบด้วยกันนะครับ ผูกปิ่นโตกันนะครับ พลีสสสสส....

ปล. บวกคืนให้กับทุกกำลังใจที่แวะมาทักทายและแนะนำกันครับ ^ ^






@Rafael ขอบคุณมากๆ นะครับ ก็ถ้าว่างแล้วเขียนจบก็จะแวะมาอัพให้เรื่อยๆ น่ะครับ
ไม่มีการเก็บสต็อคครับ ไม่มีกั๊ก ฮ่ะๆๆ ขอบคุณมากนะครับ อ่านคอมเมนต์แล้วใจชื้น อยากเร่งตอนใหม่เลย

@owo IIยมuมข้u  :a5: เอ่อ... เอาจริงเหรอครับ แล้วจะเขียนยังไงล่ะนี่ ไปต่อไม่ถูกเลย -*-

@Lemon_Tea ฮ่ะๆๆ นั่นสินะ ใครดีล่ะเนี่ย อยากเข้าไปช่วยแบ่งเบาภาระคะน้าอยู่เหมือนกันนะนั่น 555

@UnLucky มาเสิร์ฟแล้วครับ หวังว่าคงรอไม่นานเกินไปนะครับ ^ ^

@ •PIKACHU•  5555 มีความนัยอะไรซ่อนอยู่ในรีพลายไหมหนอ หุหุ

@rubymoona ไม่รู้ว่าราชาถ้วยจะเข้าทำนองมาทีหลังดังกว่าหรือเปล่าหนอ
แต่ยังไงได้มีชิงดำกันแน่ๆ ครับระหว่างสองคนนี้ ระวังจะกดคะแนนใส่กันไม่ถูกนะครับ ฮิฮิ

@Panny อีกคนมาแล้วครับ จัดพร้อมเสิร์ฟให้เรียบร้อยในตอนนี้แล้ว ถูกใจไหมนะ ^ ^

@JJHJJH ขอบคุณมากๆ เช่นกันนะครับ อ่านแล้วรู้สึกมีกำลังใจขึ้นอีกกองโตเลยครับ
ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ ฮ่ะๆๆ ตอนนี้โผล่มาอีกคนแล้วครับ ไม่รู้ว่าจะหักลบกลบหนี้ตีตื้นได้ไหม
ตอนนี้คุณหมอมีบทสนทนาเยอะหน่อยนะครับ (ให้มากกว่าเพราะมาทีหลังไง ฮิฮิ)
เดี๋ยวคาแรกเตอร์ของทั้งสามตัวหลักจะค่อยๆ ชัดขึ้นเรื่อยๆ นะครับ
แอบคิดเอาเองว่าน่าจะดีขึ้นเมื่อผ่านไปสักพักครับ แหะๆ

@lovely2min มาด่วนตามคำเรียกร้องครับ แต่ไม่รู้ว่าจะชอบหรือเปล่านี่น่ะสิ ยังไงฝากคุณหมอด้วยนะครับ

@ToffeE_PrincE ขอกอดกลับก็แล้วกันนะครับ ^ ^  :กอด1:

@cocoaharry นั่นน่ะสิครับ คงจะวุ่นวายไปอีกนานเลยทีเดียว แต่คิดว่าเจ้าตัวน่าจะชอบมั๊งครับ

@Running มาแล้วครับคนที่เหลือ คิดว่าน่าจะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับทิมแน่นอนครับ
ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านนะครับ ยังไงชอบไม่ชอบอะไรก็แนะนำกันทีนะครับ แหะๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2012 20:51:17 โดย Lucea »

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
แอร๊ยยย
เลือกไม่ถูก เลือกไม่ถูกเลยจริงๆ
แต่ละคน ว๊ากกกกก
อิจฉาคะน้า เจอแต่ผู้ชายหล่อๆนิสัยดี ไม่ไหวและ ละลาย
รอตอนต่อไปนะคะ มาไวๆน้า คิดถึงคะน้า 555

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
คนหนึ่งวิศวกรเท่ห์ แอบดุ
อีกคนหมอหล่อ แอบฮา
จะเลือกใครล่ะนี่

แต่ว่าสองคนนั้น...
“...พรุ่งนี้จะมาไหม”

แล้ว...
“...พรุ่งนี้(คนแต่ง)จะมา(ลงต่อ)ไหม”

Panny

  • บุคคลทั่วไป
ชอบจังเลย ผูกปิ่นโตด้วยจ้า
เห็นสองหนุ่มแล้ว โหวตวิศวกรละกัน ตามตำราไทย หมอดูนิสัยดี แต่คนดีมักไม่มีที่อยู่ 555

อยากรู้ว่า สองหนุ่มนั้นโตกว่าคะน้ามั้ยจ๊ะ หรือ 28 ประมาณๆ กัน

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
สามพีสิคะ

แอร๊ยยยยยยยยยยย
 :m31: :m31: :m31:
พ่นไฟด้วนความอิจฉา

ออฟไลน์ bebe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 672
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-5
เสียดายถ้า ต้องทิ้งใครคนนึงขอเป็น3pได้มั้ยอิอิ

Running

  • บุคคลทั่วไป
อืมๆๆ มาครบทั้งสองคนแล้วว

คะน้าจะเลือกใคร แนะนำว่าไม่ต้องเลือกใครคนใดคนหนึ่งหรอก !!!!

รวบทั้งสองคนเลย เเอร๊ยย!!!! 55555 ว่าไงคนแต่ง จัดให้ได้มั้ย รีเควสแบบนี้ 55555

ไม่รู้ว่าจะยังไง รอลุ้นตอนต่อไปดีกว่า ฮ่าๆๆๆ บวกบวกครับ จะรออ่านครับบ  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด