ความรักของผม
รักของผมเกิดขึ้นหลายครั้ง
นิยายเรื่องนี้ผมขอบิดเบือนเนื้อเรื่องไปจากเรื่องจริงสัก1ใน3
เพื่อป้องกันไม่ให้กระทบกระเทือนถึงคนรอบข้าง และเพื่ออรรถรสในการอ่าน
บุคคลในเรื่องมีตัวตนทุกคน แต่ผมได้เปลี่ยนชื่อให้ใหม่
การเดินเรื่องจะเป็นการเล่านะครับ บทสนทนาอาจจะไม่เยอะ
ผมเกิดในครอบครัวที่พ่อค่อนข้างเจ้าชู้ แต่ความเจ้าชู้ของพ่อเกิดขึ้นหลังจากแต่งงานกับแม่ได้ประมาณปีที่13ของชีวิตคู่
ตอนที่หย่ากัน ผมอายุ10ปี เจ๊นิดอายุ12ปี ไอ้นิว 7ปี เลข13คงเป็นเลขอัปมงคลของบ้านผม
ผมชื่อหน่อยครับ เป็นคนกลาง มีพี่สาว1 น้องชาย1
ตอนที่พ่อย้ายออกจากบ้าน พวกผมเรียนอยู่รร.ใกล้บ้านมีรถโกเข่งรับส่งเป็นรายเดือน
บ้านผมเป็นร้านของชำ แม่เข้มแข็งมากก้มหน้าก้มตาขายของ เลี้ยงลูกอยู่คนเดียวไม่ยอมให้พ่อมายุ่งเกี่ยวกับลูก
แรกๆพ่อก็มาด้อมๆมองๆพวกเรา แต่พอแม่รู้ก็ยื่นคำขาดกับพ่อว่าถ้ายังไม่ออกไปจากชีวิตพวกเรา
พวกเราจะย้ายไปอยู่ที่จังหวัดอื่น พ่อเลยหายไปจากชีวิตของพวกเรา
จะว่าแม่ใจร้ายก็ไม่ได้เพราะพวกผู้หญิงของพ่อมีหลายคน
ทั้งผู้หญิงขายบริการ ช่างผม สาวรำวงงานวัด แม้กระทั่งพี่เลี้ยงลูก
ในความทรงจำของผมในตอนนั้น พ่อรูปหล่อ ตัวหอมจากน้ำมันใส่ผม พ่อขาว ตี๋ เหมือนพวกวัยรุ่นเกาหลีในปัจจุบัน
ส่วนแม่ตัวบางๆเล็กๆเหมือนเด็กสาว หน้าตาจิ้มลิ้ม น่ารักแบบอาหมวยทั่วไป
เจ๊นิดรูปร่างเหมือนผู้ชาย ตัวสูงมีกล้ามเนื้อแน่น ผิวคล้ำจากการตากแดด
จุดเด่นของแกที่ทำให้แกดูเป็นผู้หญิงอยู่ที่ตาโตหวานผิดแปลกไปจากลูกคนจีน
บางคนว่าแกเป็นทอม เจ๊ชอบเล่นกีฬาทุกอย่าง โดยเฉพาะบาส แกเป็นคนโผงผาง เฮฮาเพื่อนเยอะ
กล้าไม่กลัวใคร มีเรื่องชกต่อยกับเด็กผู้ชายบ่อยๆ จนคนเรียกแกว่านิดบู๊ เนื่องจากชื่อนิดมีหลายคน(ชื่อโหล)
แกรักน้องมาก ขนาดหนีแม่ออกไปเที่ยวยังซื้อขนมมาฝากน้องด้วย
แม่ไม่เอ็ดเจ๊ หากไม่กลับบ้านหลังร้านปิด ร้านจะปิด2ทุ่ม วันไหนแกกลับหลัง2ทุ่มแกจะไม่กล้าเคาะประตู
แต่จะเรียกพวกเราเบาๆ กลัวแม่ได้ยิน พวกเราจะป้วนเปี้ยนแถวๆประตูในวันที่แกกลับบ้านช้า
พอแม่เผลอก็จะเปิดประตูให้แกแอบเข้ามา แม่รู้ไม่ทันเพราะแม่ง่วนทำงานบ้าน นึกว่าเจ๊แกอยู่ในบ้านแล้ว
จริงๆเจ๊นิดแกไม่ได้เป็นทอมหรอก แกพยายามทำตัวเข้มแข็ง เป็นตัวแทนพ่อเพื่อดูแลแม่กับน้องๆ
แกรักพ่อมากไม่ว่าญาติพี่น้องของแม่จะคอยพูดกรอกหูพวกเราว่าพ่อเป็นคนไม่ดี แต่แกก็ไม่เชื่อ
วันๆ ไม่ทุกข์ร้อนกะใคร
ไอ้นิวเป็นเด็กผู้ชายขาวๆอวบๆ ยังๆไม่ค่อยรู้เรื่องของที่บ้าน เล่นซนพอประมาณ
ผมเป็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ ผอมๆเหมือนแม่ จุดเด่นก็ตรงความขาว ขาวจนเห็นเส้นเลือด
คนชอบล้อว่าไอ้เผือก (จริงๆแล้วเผือกมันสีม่วงไม่ใช่เหรอ งง)
ผมมันลูกแม่ เกลียดพ่อ เวลาแม่บ่นเรื่องพ่อ เจ๊นิดแกจะวิ่งจู๊ดออกไปนอกบ้านไม่อยากรับรู้
ไอ้นิวก็มองแม่งงๆ แล้วก็หันไปเล่นหุ่นยนต์ของมันต่อ เสียงบ่นของแม่ไม่เข้าหูมันเลย
ผมเลยต้องรับฟังคำบ่นของแม่แต่เพียงผู้เดียว
ข้างๆบ้านมีถนนเล็กๆกั้น ข้ามไปเป็นปั๊มน้ำมัน บ้านผมเป็นตึกแถว อยู่ตรงสามแยก
ผมอยู่ห้องริมติดถนน ห้องข้างๆในตึกเดียวกัน มีรวมกัน5ห้อง
ห้องถัดจากผมมีร้านซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ ร้านคิวรถตู้รถทัวร์ ร้านหนังสือ ร้านอาหารตามสั่ง
ปั๊มน้ำมันจะเป็นที่เล่นของเด็กๆในละแวกนั้น มีลานกว้างเอาไว้เล่นไล่จับ ขี่จักรยาน เตะบอล
เจ้าของปั๊มเป็นคนที่รวยที่สุดในตลาด ใจดีมาก แกปล่อยให้เด็กเล่นตามสบาย
แกไม่ค่อยมาที่ปั๊มเพราะบ้านแกอยู่อีกฟากของตลาด คนที่ชอบมาเล่นอยู่ที่ปั๊มคือเฮียมี่ลูกชายคนเดียวของแก
แกมีลูกสาว4คน เฮียมี่เป็นคนที่5คนสุดท้อง แกรักมาก
เฮียมี่สำหรับผมในสมัยนั้นคือฮีโร่ รวย หล่อ ใจดี แกตัวขาว สูง ผมหยักศก
หน้าตาประมาณซันนี่เพื่อนสนิทแต่ตาไม่โตขนาดนั้น
แต่งตัวดีเสื้อผ้าแกซื้อมาจากห้างกทม.ทุกตัว ลูกบ้านนี้เรียนที่กทม.กันทุกคน
ปิดเทอมถึงจะกลับบ้าน
ผมเหรอ แทบไม่ต้องซื้อ เสื้อแจกฟรีจากสินค้าในร้านมีให้เหลือเฟือ
ผมแทบจะไม่มีเสื้อผ้ามือหนึ่งเลย รอต่อจากเจ๊นิดตลอด แกไม่มีกระโปรงเลยนอกจากกระโปรงนักเรียน
ชุดประจำของผมก็คือเสื้อยืดย้วยๆตัวโตๆมีโลโก้สินค้าที่หน้าอก
กางเกงเป็นกางเกงขาสั้นผ้ายืดสีเข้ม จากตลาดนัดที่แม่ซื้อยกโหล กางเกงในไม่ใส่
จะมีใหม่ก็รองเท้าฟองน้ำที่มีสายคาดเป็นสีๆ
เจ๊แกไม่เดือดร้อนกับการแต่งตัว แต่แกจะต่างกับผมตรงแกใส่กางเกงใน
และรองเท้าพละสีขาวเยินๆไม่ใส่ถุงเท้า
ส่วนไอ้นิวมันไม่ยอมใส่เสื้อที่ไม่มีตัวฮีโร่ในการ์ตูน มันคร่ำครวญจนแม่รำคาญต้องซื้อเสื้อยืดถูกๆที่นัด
ที่มีรูปจำพวกมดแดง อุลตร้าแมนอะไรพวกนี้ให้มัน
พอผมขึ้นป.5 เจ๊นิดก็เป็นแฟนกับเฮียมี่ ผมดีใจมาก
ตอนกลางวันเสาร์-อาทิตย์ผมชอบไปขลุกอยู่ที่ปั๊ม
มันจะมีห้องกระจกเล็กๆติดแอร์ไว้ให้เฮียมี่อยู่ตอนร้อนๆ มีทีวีด้วย ผมไปก็จะอยู่แต่ห้องนี้
ผมไม่ชอบเล่นตากแดด จักรยานก็ขี่ไม่เป็น เคยหัดแล้วล้มได้แผล ผมไม่จับจักรยานอีกเลย
เฮียมี่แกดีมากเลย พอผมไปหา แกจะเปิดแอร์ เปิดวีดีโอการ์ตูนให้ผมดู มีโซฟาให้นอนดูด้วย
แต่ผมไม่ค่อยชอบดูเลยเพราะแกมีแต่การ์ตูนพวกหุ่นยนต์
ผมอยากดูพวกผึ้งน้อย สโนว์ไวท์มากกว่า แต่ไม่กล้าบอกแก ก็เลยดูๆไปแล้วก็เผลอหลับทุกที
ในห้องพักสามารถมองออกไปเห็นตรงที่คนมาเติมน้ำมัน มีพี่เด็กปั๊ม2-3คน
มองไปด้านหลังก็เห็นลานกว้างที่เด็กๆมาเล่นกัน
ปกติเฮียมี่จะนั่งอยู่ในห้องกับผม บางทีก็ออกไปยืนดูเด็กๆเล่นกัน
แกโตกว่าเด็กในละแวกนี้ แกอยู่ม.ต้น รร.ชื่อดังที่กทม. แกกลับบ้านเป็นบางอาทิตย์
แต่พอเป็นแฟนกับเจ๊นิดแกกลับทุกอาทิตย์เลย
แรกๆเฮียมี่กับเจ๊จะนั่งคุยกันในห้อง โดยมีผมอยู่ด้วย หลังๆเฮียมี่กับเจ๊จะแอบขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปตอนผมเผลอหลับ
มีอยู่ครั้งที่ผมตื่นมาแล้วไม่มีใคร มองออกไปที่ลานก็ไม่เห็นเฮียมี่กับเจ๊นิด ผมนั่งรอสักพักก็เบื่อจะกลับบ้าน
เจ๊นิดแกก็เข้ามาคนเดียว
“ เจ๊ไปไหนมา ผมไม่เห็นเลยอะ แล้วเฮียมี่หล่ะ”
เจ๊นิดแกอึกอัก หน้าตื่นๆผิดปกติ
“เฮียแกกลับบ้านไปแล้ว เตี่ยแกให้คนมาตาม เจ๊ก็อยู่แถวๆนี้แหละ แกเอาแต่นอนจะเห็นได้ไง”
“จริงอะ..ไม่ใช่แอบไปเที่ยวไม่ชวนผมหล่ะ”
“เฮ๊ย..พูดมั่ว เดี๋ยวเหอะ..แล้วแกอย่าปากโป้งไปนะ”
ตอนแรกผมไม่ได้คิดอะไร แต่ตอนนี้ชักสงสัยเจ๊นิดกะเฮียแกไปทำอะไรมา
“ทำไม ต้องโมโหผมอะ ไม่ได้ว่าอะไรซะหน่อย”
“เออ.. ใครถามอย่าบอกล่ะว่า.. เอ้อ..เจ๊ไปขี่รถเล่นมา”
เจ๊นิดแกยักไหล่แบบไม่แคร์
“วู๊....แค่ขี่รถเล่นทำไมต้องทำยังกะมีความลับ”
หลังจากวันนั้นผมรู้สึกว่าเจ๊นิดกับเฮียมี่จะเอ็นดูผมเป็นอย่างมาก
มีขนมมาให้กินไม่หวาดไม่ไหว แต่2คนไม่ยอมให้ผมไปขี่รถเล่นด้วยเลย
แถมยังบอกว่าใครมาถามหาก็บอกว่าเฮียมี่แกกลับบ้านไปแล้ว
ส่วนเจ๊นิดไม่มีใครถามหาแกหรอกเพราะแกหาตัวยากอยู่แล้ว
ช่วงปิดเทอมผมเลยมาหลบร้อนที่นี่ทุกวัน แม่ก็ไม่ว่าเพราะกลางวันที่ร้านไม่ค่อยยุ่ง
มีอยู่วันหนึ่งใกล้ๆเปิดเทอม 2คนนั้นหายไปนานมาก
ปกติจะทิ้งผมอยู่คนเดียวสักครึ่งชั่วโมง แล้วกลับมานั่งคุยกันต่อที่ห้องพัก
แต่วันนี้จะ1ชั่วโมงแล้ว ผมกลัวแกจะรถล้ม หรือไปชน กำลังจะกลับบ้านไปบอกแม่
ประตูก็ผลักเข้ามาเจ๊นิดแกเดินเร็วๆหน้าบึ้งอารมณ์ไม่ดีเข้ามา
ส่วนเฮียมี่ที่เดินตามหลังมายิ้มกริ่มอย่างอารมณ์ดี ถ้าดูไม่ผิดแกแอบผิวปากเบาๆ แถมยังยักคิ้วให้ผมด้วย
“หน่อย..แกจะกลับบ้านยัง..เจ๊กลับก่อนนะ สักพักแกค่อยตามมานะ”
แล้วเจ๊แกก็หันหลังเดินออกไปไม่มองเฮียมี่ เฮียมี่แอบจับมือเจ๊ แต่เจ๊สะบัดออก
แล้วปิดประตูอย่างแรงจนกระจกสะเทือน เฮียมี่มองตามแล้วหัวเราะหึๆ
“เจ๊นิด โกรธหน่อยเหรอครับ”
เฮียมี่เดินมานั่งที่โซฟาตัวที่ผมนั่งอยู่ แกโอบไหล่ผมดึงเข้ามาใกล้
“ไม่มีอะไรหรอก..เจ๊นิดงอนเฮียหน่ะ”
“เจ๊นิดเนี่ยนะงอน..เฮียโม้ปล่าวเนี่ย”
ผมว่าเฮียมี่แกเข้าใจอะไรผิดรึป่าว เจ๊นิดแกจะงอนเป็นเหรอ
เคยเห็นแต่โมโหแล้วด่า รึถ้ามากก็ต่อยเลย
“เฮ้อ...หน่อยรู้มั๊ย...วันนี้เฮียมีความสุขจัง...ฟอด”
เฮียมี่หอมแก้มผม ผมอึ้งไปสักพัก พอรู้ตัวก็ผลักตัวแกออก แล้วลุกขึ้นยืน
ผมไม่ได้โกรธ แต่แปลกใจ ตอนนั้นผมมันซี่อบี้อเรื่องแบบนี้
“เฮียมี่ หอมแก้มผมทำไม..เดี๋ยวฟ้าผ่าหรอก”
ผมเช็ดแก้มแรงๆ กลัวน้ำลายติดแก้ม เดี๋ยวเป็นขี้กลาก
“โทษที นึกว่าเป็นนิด แหะ แหะ”
เฮียมี่เกาหัวแบบอายๆ
“ผมกลับแล้ว เฮียท่าจะบ้า”
ผมชักกลัวแกจะทำอะไรแปลกๆ ก็เห็นผมเป็นเจ๊นิดเนี่ยนะ ไม่น่าไว้ใจ

เฮียมี่หายไปไหน

หลังจากวันนั้น เจ๊นิดแกไม่ไปที่ปั๊มอีกเลย และไม่พูดถึงเฮียมี่
เฮียมี่ก็ไม่มาที่ปั๊มเลย ผมไปนั่งๆนอนๆจนเบื่อ
พอผมถามถึงเฮียมี่ เจ๊นิดแกจะโมโห แล้วว่าผมว่า
“ ไม่ใช่เรื่องของเด็ก แกอย่ายุ่ง”
ผมเลยไม่กล้าถามเจ๊อีกเลย.. ผมกับเจ๊ห่างกัน2ปีเองนะ
ผมก็มาที่ปั๊มแค่ชะโงกดูในห้อง มองหารถเฮียมี่
ไม่เจอทั้งรถทั้งคน ผมก็เลยกลับบ้าน
เฮียมี่หายไปเกือบอาทิตย์
วันที่แกมาที่ปั๊มหน้าแกเศร้าๆ
“เฮียมี่ หายไปไหนมาตั้งหลายวัน”
เฮียมี่เดินเข้ามาหาผม แล้วลูบหัวผมเบาๆ
“ เฮียจะไปเรียนเมืองนอก”
ตอนแรกผมคิดว่าแกอำผมเล่น
“แหมๆ...เฮียอำซะผมเกือบเชื่อเลยนะเนี่ย”
เฮียมี่ฝืนยิ้มแล้วเดินออกไปที่รถมอเตอร์ไซค์ของแก
ผมเดินตามไป กะว่าอีกเดี๋ยวแกจะต้องหันมาหัวเราะแล้วบอกผมว่า
เฮียล้อเล่น
ผมรอจนเฮียแกขึ้นคร่อมรถ แกก็ยังไม่พูดอะไร
“เฮีย..เฮียพูดจริงเหรอ”
“อืม...”
แกมองหน้าผมแล้วยิ้มให้ แต่ผมว่ายิ้มแกดูฝืนๆนะ
ไม่รู้ว่าผมสงสารแกหรือผมเบลอ ผมจับแขนแกข้างนึง
“ไปเมืองนอกจริงเหรอครับ”
เฮียมี่ดึงผมเข้ามาใกล้ ผมไม่ทันรู้ตัวเลยเซเข้าไปหาแกทั้งตัว
หน้าผมซุกอยู่ตรงหน้าอกแกพอดี
แกกอดผมแบบเร็วๆแล้วผลักออก แต่มือแกยังจับต้นแขนผมอยู่
“เตี่ยเฮียให้ไปเรียนเมืองนอก”
“เมื่อไหร่ครับ”
ผมรู้สึกใจหายบอกไม่ถูก
“เปิดเทอมนี้แหละ”
ตอนหลังผมมารู้ว่าที่แกไปเป็นโครงการเอเอฟเอส ไป1ปี แล้วกลับมาซ้ำชั้นที่รร.เดิม
“เฮียไปนะ”
แล้วแกก็ขี่รถออกไป ผมได้แต่ยืนมอง
ตอนเย็นผมถามเจ๊นิดที่วันนี้กลับบ้านเร็วกว่าปกติ
“เจ๊นิด..เจ๊รู้มั๊ยว่าเฮียมี่จะไปเรียนเมืองนอก”
ตอนนั้นการไปเมืองนอกในความคิดผม
มันไกลมาก มันเหมือนคนละโลกกับที่เราอยู่
“เออ..ชั้นรู้แล้ว”
“แล้ว...งี้”
“เจ๊กับมันไม่เคยรู้จักกัน”
เจ๊หน้าบึ้งมาก ผมละกลัวโดนต่อย
แต่ความอยากรู้มีมากกว่า
“อ้าว...เจ๊กับเฮียมี่ไม่ได้...เออ”
เจ๊นิดตาเขียวปั๊ด ผมไม่กล้าพูดต่อเลยเอานิ้วชี้2ข้างมาจิ้มกัน
“คือ...แบบ..แบบว่า..เจ๊”
นิ้วผมยังจิ้มกันจึ๊กๆ
“หน่อย..แกฟังให้ดี..เจ๊กับมันเลิกกันแล้ว”
เจ๊นิดเดินออกไปหน้าร้าน ผมเดินตาม นิ้วหยุดจิ้มแล้วแต่ยังชนกันอยู่
หน้าร้านผมมีม้านั่งไว้ให้ลูกค้านั่งเล่น
บางคนก็มานั่งรอเวลารถทัวร์ออก
นั่งได้3-4คน
เจ๊นิดยืนคุยกับเด็กผู้ชายวัยเดียวกับเจ๊
เด็กคนนั้นคร่อมจักรยานแล้วเอาเท้าข้างนึงยันกับม้านั่ง
ท่าทางไม่ใช่คนที่นี่ ผมไม่เคยเห็นหน้า
การแต่งตัวก็บ่งบอกว่าต้องเป็นเด็กกทม.
ใส่เสื้อเชิ้ตสีออกฟ้าๆ กางเกงขายาวสีขาว
หน้าตาก็พอดูได้ แต่ผมไม่ชอบดูเต๊ะๆ
แล้วสายตามันดูเยิ้มๆ..บอกไม่ถูก
ผมยืนมอง แต่2คนนั้นคุยกันไม่สนใจใคร
ผมแอบฟังนิดหน่อย
“ป๋อง..กลับวันไหนอะ”
“อีกสักอาทิตย์นึงละ..ไม่อยากให้ป๋องกลับใช่มะ”
“บ้า..อยากกลับก็กลับไปสิ”
เจ๊ทุบที่ไหล่มันแบบหยอกๆ ผมเดินกลับเข้าร้าน
ไอ้นิวนั่งเล่นของเล่นมันอยู่
“นิว..ไอ้คนหน้าบ้านมันเป็นใคร”
ไอ้นิวเงยหน้ามามองผม แล้วก้มไปเล่นหุ่นยนต์ต่อ
“วะ..ไอ้นิว..เฮียถามก็ตอบสิ”
ผมร้อนใจ สังหรณ์แปลกๆ
“แฟนเจ๊นิด”
มันตอบมาแค่นั้น ที่เหลือถามอะไรมันบอกไม่รู้อย่างเดียว
ผมคิดแล้วไม่เข้าใจเจ๊นิด
แล้วเฮียมี่สุดหล่อแสนดีของผมหล่ะ
ผมคิดแผนก่อกวนได้เลยชวนไอ้นิวเป็นแนวร่วม
“ป๋อง..ป๋อง..กะป๋อง ป๋องแป๋ง”
ผมกับไอ้นิวเดินร้องออกไปหน้าบ้าน ร้องมันซ้ำไปมาเป็นสิบๆรอบ
แต่ไม่ได้เข้าไปถึงตรงม้านั่ง
เข้าไปกะให้พอได้ยิน
“ไอ้หน่อย ไอ้นิว แหกปากอะไรวะ”
เจ๊นิดหลุดเผยตัวตนห้าวๆออกมา ดี..ไอ้นั่นมันจะได้ไม่ชอบเจ๊
ผมกับไอ้นิวรีบวิ่งกลับเข้าร้าน
สักพักผมย่องไปดู เห็นไอ้นั่นมันยังคุยกับเจ๊
มันจะลงจากจักรยานก็ไม่ลง เท่ห์ตาย
ผมชวนไอ้นิวจะไปก่อกวนอีกรอบ
“ไม่เอาอะ เฮียหน่อยทำเองดิ ไม่หนุก”
มันไม่ยอม
“คราวนี้รับรองหนุก แกเชื่อเฮีย”
ครั้งนี้มีพรอบครับ ผมเอากระป๋องลูกอมเปล่าๆที่แม่เก็บไว้ขาย
แล้วเอาตะเกียบมาเคาะ
“ป๋อง..ป๋อง..กะป๋อง ป๋องแป๋ง”
ผมกับไอ้นิวเคาะกันมันส์หยดจนเกือบลืมว่าตั้งใจจะทำอะไร
“มานี่เลย แก2ตัว ชั้นคุยกันอยู่ไม่เห็นรึไง”
เจ๊นิดตรงเข้ามาบิดหูผมกับไอ้นิวคนละข้าง
โชคช่วยแม่เดินออกมาพอดี
ไอ้นั่นรีบเผ่น
“นิด..วันหลังป๋องมาคุยใหม่นะ บาย”
เจ๊ได้แต่โบกมือกลับ แล้วหันมาหาพวกผม
“แก...แกแกล้งชั้น”
แม่เดินมาถึง ไอ้นั่นขี่จักรยานหายไปแล้ว
“ทะเลาะอะไรกัน เสียงดังแบบนี้ใครจะกล้าเข้าร้าน”
“มัน2ตัวแกล้งนิดละแม่”
เจ๊นิดชิงฟ้องก่อน
“ผมปล่าว ไม่เชื่อแม่ถามไอ้นิวดิ”
ผมโยนให้ไอ้นิว ลูกรักของแม่
“นิวกะเฮียตีกลองกันคับ ไม่ได้แกล้งเจ๊นิด”
วันนั้นเจ๊นิดไม่พูดกับผมอีกเลย
วันต่อมาเจ๊แกก็กลับมาเหมือนเดิม
แกโกรธน้องได้ไม่นานหรอก
ผมเลยเลียบๆเคียงๆถามถึงไอ้นั่น
ตอนแรกแกไม่เล่าไม่บอกอะไรเลย
ผมเลยแกล้งชมว่าพี่ป๋องหล่อ พี่ป๋องเท่ห์
แกหลงกลผมเลยเล่าให้ฟัง
ไอ้พี่ป๋องเป็นลูกของอาของเฮียมี่ บ้านแกอยู่ที่กทม.
ไอ้พี่ป๋องรุ่นเดียวกับเจ๊ มีศักดิ์เป็นน้องเฮียมี่
มันมาจีบเจ๊ มันว่าเจ๊เลิกกับเฮียมี่แล้ว
มันมีสิทธิ์
ตอนหลังผมมารู้ว่ามันอิจฉาที่เฮียเก่งกว่ามัน ดีกว่ามันแทบทุกด้าน
ญาติพี่น้องมักชมแต่เฮีย มันโดนว่าประจำ
เย็นนั้นมันก็มาอีก มันมาทุกวันช่วงเย็นๆ
ทำให้ช่วงนี้เจ๊อยู่ติดบ้าน
ผมเดินออกไปดูกะจะหาวิธีก่อกวนมันอีก
“หน่อย แกมานี่แน่ะ มีคนอยากรู้จัก”
เจ๊นิดเรียกผม ผมไม่กลัวมันหรอก
เลยเดินออกไปแล้วก็ต้องชะงัก

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------